หลายคนคงตั้งข้อสงสัยกันแบบ งงๆ ว่า eSim เนี่ย… มันคืออะไรกัน ? ทำไมทั้ง Google และ Apple ต่างเลือกที่จะนำ eSim เข้ามาใช้งานในอุปกร์ของตัวเอง วันนี้ทางผม iTechHangOut จะขอมาอธิบายถึงเจ้า ซิมตัวใหม่นี้กันว่ามันดียังไง…..
ความสามารของ eSim ที่ซิมโดยทั่วไปนั้นไม่มีก็คือ
- ความปลอดภัยของอุปกรณ์ ที่จะช่วยในการแก้ปัญหาของการสูญหายได้มากเลยทีเดียว เนื่องจากว่าซิมนั้นถอดออกไม่ได้.
- รูปแบบใหม่ของการใช้งานอุปกรณ์ที่จะทำให้การเชื่อมต่อต่างๆนั้นเชื่อมโยงและเข้าถึงกันอย่างรวดเร็ว และยังช่วยลดมลพิษ และขยะของการผลิตซิม.
Sim (Subscriber Identity Module) คือ การ์ดข้อมูลในรูปแบบของเครือข่าย ที่มีการพัฒนากันมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 27 ปีเลยก็ว่าได้นั้น มีทั้งการออกแบบในรูปแบบของ การ์ดซิม และแบบชิพฝังที่ใช้กันในปัจจุบัน โดยการพัฒนาของซิมนั้นคือการลดขนาดของซิมให้มีขนาดเล็กและการดีไซน์ที่ง่ายต่อการพัฒนาอุปกรณ์ให้มีขนาดที่เล็กลงยิ่งขึ้น ดูได้จากกราฟ ขนาดซิม/ปีการพัฒนา จะเห็นถึงความต่างของซิมได้เช่นเจนยิ่งขึ้น
โดยทั่วไปแล้วการพัฒนาซิมมาจนถึงระดับ Nano Sim นั้นก็ถือได้ว่ามีขนาดที่เล็กมากแล้วก็ตามที(12.3 x 8.8 mm) แต่ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่มากของการออกแบบพื้นที่ในการรองรับช่องใส่ซิมเช่นกัน. จึงเป็นสาเหตุให้เหล่านักพัฒนาและผู้ออกแบบต้องคำนึงถึงการนำไปใช้ที่จะทำให้พื้นที่ของอุปกรณ์นั้นมีพื้นที่มากขึ้นในการนำไปเพิ่มหรือออกแบบต่างๆให้มีความคุ้มค่ามากขึ้นนั่นเอง.
eSim (Emdedded Sim) หรือก็คือ eUICC (embedded Universal Integrated Circuit Card) ที่มีขนาดเล็กถึง 5 x 5 mm ถูกฝังรวมกับบอร์ดของอุปกรณ์นั้นๆ ซึ่ง eSim นั้นมีคำสั่งในการเลือกโอเปอเรเตอร์ และสามารถตั้งค่าต่างๆให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้งานได้เลย เรียกได้ว่าสะดวกกันเลยทีเดียว.
และความสามารถที่แอบแฝงของซิมตัวนี้นั้นก็คือ เมื่อเราเดินทางไปยังสถานที่อื่น ตัวซิมจะทราบได้ทีนทีว่า ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนและจะทำการค้นหาเครือข่ายโอเปอเรเตอร์ที่สถานที่นั้นมีให้เราได้ทราบและไปเปิดบริการได้เลยเช่นกัน ซึ่งช่วยในการไม่ต้องถอดซิมเข้า-ออกแบบเดิมแล้วนั้นเองทำให้สะดวกขึ้นมากจริงๆ
นี่คือยุคของ IOT(Internet of Things) ในปัจจุบันนี้ถ้ามนุษย์ขาดอินเตอร์เน็ตถือได้ว่า เป็นการขาดปัจจัยการดำเนินชีวิตหลักไปเลยทีเดียวก็ว่าได้ เพราะในปัจจุบันทุกอย่างของโลกในตอนนี้ล้วนเกิดจากการเชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายแทบทุกอย่าง ยิ่งเป็นผลดีต่อเทคโนโลยี eSim เลยก็ว่าได้.
ซึ่งในอนาคต eSim นั้นอาจจะเข้ามาในอุปกรณ์แทบทุกชนิด เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อและเข้าถึงกันและกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเอง. ก็ต้องมาดูว่า ไทย เรานั้นจะนำเทคโนโลยีระดับนี้เข้ามาให้คนไทยได้ใช้กันหรือไม่ ?
Written icrEAm
-ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลเพิ่มเติมจาก GSMARENA-
อ่านเสร็จแล้วก็ฝากกดไลค์ติดตามเพจเราด้วยนะครับ —- TECHHANGOUT
