หลังจากที่มีข่าวลือมานาน ในตอนนี้ realme 3 Pro ได้ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยสเปคที่จัดว่าแรงเลยทีเดียวสำหรับมือถือราคานี้ โดยมันจะมีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว Full HD+ และชิปเซต Snapdragon 710 อีกทั้งกล้องและอะไรหลายๆอย่างที่ดีกว่า realme 3 ตัวธรรมดา
ทั้งในเรื่องของการใส่ฟีเจอร์ HyperBoost 2.0 ที่มาพร้อมทำงานให้ตัวเครื่องมีประสิทภาพในด้านต่างๆดีมากยิ่งขึ้นจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งานต่างๆหรือในเรื่องของการเล่นเกม
ในส่วนของกล้องนั้น realme 3 Pro นั้นจะมีกล้องหลัง 2 ตัวที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล โดยใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX519 ซึ่งเหมือนกับที่ใช้ใน OnePlus 6T และกล้องหน้าจะมีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล (เลนส์ f/2.0) ซึ่งมากกว่า realme 3 ที่มีกล้องหน้าเพียง 13 ล้านพิกเซล อยู่เกือบเท่าตัว และมีปุ่มสแกนนิ้วอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง
เจ้า realme 3 Pro จะใช้ Snapdragon 710 ซึ่งในเรื่องของความจำนั้นจะมีให้เลือกถึง 3 แบบ คือ Ram/Rom 4/64 GB, 6/64GB และ 6/128 GB และทุกแบบสามารถใส่ microSD card ได้ถึง 256 GB โดยถาดใส่ซิมจะเป็นดีไซน์ของ realme ที่สามารถใส่ 2 ซิมพร้อมกับ SD card ได้ในเวลาเดียวกันได้
ตัวอย่างภาพถ่าย
ในด้านของ software นั้น จะใช้ Android Pie ที่ครอบด้วย Color OS 6.0 ซึ่งทำให้มีฟีเจอร์เพิ่มมาหลายๆอย่าง เช่น Chroma Boost
สำหรับเพิ่มคุณภาพสีของรูป หรือ Nightscape ที่ช่วยให้ถ่ายรูปในที่มืดได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มการถ่ายวิดิโอแบบ Slow-mo แบบ HD ได้ถึง 960 fps อีกด้วย ทั้งยังมี Ultra HD ที่สามารถเพิ่มรายละเอียดภาพถ่ายได้สูงสุด 64 ล้านพิกเซล โดยการรวมพิกเซลให้เป็นแบบ 4-in-1 นั่นเอง
ตัวอย่างภาพถ่าย 64 MP
สำหรับแบตเตอรี่จะมีมาให้ถึง 4,045 mAh ซึ่งในตอนนี้เจ้า realme 3 Pro ได้มีเทคโนโลยีชาร์จเร็วเหมือน Oppo แล้ว โดยมันจะได้หัวชาร์จ VOOC 3.0 20W แถมมากับตัวเครื่องด้วย แต่น่าเสียดายที่มันยังใช้รูชาร์จแบบ micro USB อยู่
รายละเอียด realme 3 Pro
- 6.3-inch (2340 × 1080 pixels) Full HD+ display, Corning Gorilla Glass 5 protection
- Octa Core Snapdragon 710 10nm Mobile Platform (Dual 2.2GHz Kryo 360 + Hexa 1.7GHz Kryo 360 CPUs) with Adreno 616 GPU
- 4GB (LPPDDR4x) RAM with 64GB storage / 6GB (LPPDDR4x) RAM with 128GB storage, expandable memory up to 256GB with microSD
- Dual SIM
- ColorOS 6.0 based on Android 9.0 (Pie)
- 16MP rear camera with LED flash, 1/2.6″ Sony IMX519 1.22μm sensor, f/1.7 aperture, EIS, 5MP secondary rear camera with f/2.4 aperture, 960fps super slo-mo
- 25MP front-facing camera with f/2.0 aperture, 1/2.8″ sensor
- Fingerprint sensor
- Dimensions: 156.8 x 74.2×8.3mm; Weight: 172g
- 3.5mm audio jack, FM Radio
- Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, GPS + GLONASS, Micro USB
- 4045mAh battery (typical) / 3960mAh (minimum) with VOOC 3.0 fast charging
realme 3 Pro จะมีให้เลือก 3 สี คือ Carbon Gray, Nitro Blue และ Lightning Purple ซึ่งราคานั้นได้เปิดตัวมาที่ 13,999 รูปี (ประมาณ 6,500 บาท) สำหรับรุ่น 6/64 GB และ 16,999 รูปี (ประมาณ 7,800 บาท) สำหรับรุ่น 6/128 GB นั้นจะวางขายในวันจันทร์หน้า ทั้งในเว็ปของ realme เอง และตามร้าน shop ทั่วไป
อีกหนึ่งรุ่นที่ดูน่าสนใจไม่เเพ้กันกับในรุ่น realme 3 Pro ก็คือ realme C2 สำหรับในรุ่นนี้จะมาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด HD+ มีรอยบากรูปหยดน้ำ
ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตซีพียู MediaTek Helio P22 มาพร้อม RAM 3 GB + ROM 32GB รันบนระบบปฏิบัติการ Android 9 ( Pie ) ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
ระบบ Ai Face unlock แบตเตอรี่ 4,000 mAh มาพร้อมกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล , กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมระบบ AI
รายละเอียด realme C2
- 6.1-inch (1560 x 720 pixels) 19.5:9 Dewdrop 2.5D curved glass display
- 2GHz Octa Core MediaTek Helio P22 (MT6762) 12nm processor with 650MHz IMG PowerVR GE8320 GPU
- 2GB RAM with 16GB storage / 3GB RAM with 32GB storage, expandable memory up to 256GB with microSD
- Color OS 6.0 based on Android 9.0 (Pie)
- Dual SIM
- 13MP rear camera with LED flash, f/2.2 aperture, PDAF, secondary 2MP camera
- 5MP front-facing camera with 1.12μm pixel size
- Face unlock
- Dimensions: 154.3×73.7×8.5mm; Weight: 166g
- Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 a/b/g/n, Bluetooth 4.2, GPS, micro USB with OTG
- 4,000mAh (typical) built-in battery
realme C2 จะมีจำหน่ายทั้งหมด 2 สีได้แก่ Diamond Blue , Diamond Black มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 5,999 รูปี หรือประมาณ 3,000 บาท สำหรับในรุ่น RAM 2GB + ROM 16GB
และ รุ่น RAM 3 GB + ROM 32GB จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,999 รูปี หรือประมาณ 4,000 บาท