ในโลกที่คนพึ่งพาข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทรนด์ดิจิทัลของประเทศไทย ก็ไม่ต่างกันโดยเฉพาะกับกลุ่มอายุ 16 ถึง 64 ปี จำนวนถึง 99% ที่ใช้เวลาออนไลน์ไปกับการรับชมคอนเทนต์วิดีโอ เทรนด์ดังกล่าวมีความสอดคล้องไปกับรายงานของ LinkedIn ว่าอาชีพที่ต้องมีทักษะในการตัดต่อวิดีโอ เช่น Digital Content Specialist นับว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งเติบโตขึ้นไปด้วย ดังนั้นคนที่มีความตั้งใจที่จะประกอบอาชีพ หรือแค่อยากจะลองทำวิดีโอออนไลน์ควรรู้เทคนิคการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K บนสมาร์ทโฟนที่อาจเป็นประโยชน์ในอนาคตเอาไว้ ไม่ต้องกังวลถึงอุปกรณ์ราคาสูงต่างๆ เลย
1. ถ่ายยังไงให้นิ่ง
สิ่งที่คนถ่ายวิดีโอแบบ handheld เจอกันเยอะคือการถ่ายแล้วภาพสั่น มือไม่นิ่ง ถ้าใช้กล้องทั่วไปก็ต้องมีไทรพอด ต้องแบกของหลายชิ้น หรือใช้โปรแกรมใส่ Stabilization ให้ภาพที่สั่นมีความนิ่งมากขึ้น ก็ต้องเพิ่มขั้นตอนในการตัดต่อฟุตเทจ แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนตัวท็อปหลายรุ่นในยุคนี้มาพร้อมระบบกันสั่นกันแล้ว แต่บางรุ่นก็มาพร้อมระบบกันสั่นที่พัฒนาไปอีกขั้นอย่างเช่น HUAWEI P50 Pro มาพร้อมระบบกันสั่นทั้งฮาร์ดแวร์ที่เป็น OIS และซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว AIS ที่ HUAWEI P50 Pro อัปเกรดมาเป็น AIS Pro ที่ช่วยยกระดับคุณภาพด้วยการประสานงานระหว่างการถ่ายภาพและวิดีโอให้นิ่ง ลดการสั่นไหวแม้ในระยะซูมไกล ซูมแล้วไม่หลุดโฟกัสจากวัตถุที่ถ่ายอยู่
2. ใส่ลูกเล่นตั้งแต่เวลาถ่าย
สมาร์ทโฟนไม่ได้มีแค่ฟีเจอร์พื้นฐานของกล้องสำหรับการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ แต่ยังมีสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ที่เลือกใช้ระหว่างอัดวิดีโอได้เลยโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมตัดต่อ อย่างการถ่ายพระอาทิตย์ตกดินตอนจบ Vlog ก็อาจจะใช้โหมด Time-lapse ระหว่างตั้งกล้องถ่ายได้เลย หรืออยากเก็บภาพการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอย่างละเอียดก็ใช้โหมด Slow Motion ได้ทันที ในกรณีที่ต้องการคุมโทน แทนที่จะไปเกรดสีภายหลัง ลองเล่นฟิลเตอร์โทนสีต่างๆ ที่เครื่องมีมาให้เพื่อปรับอารมณ์วิดีโอให้เป็นดั่งใจก็ได้ เช่น โทนภาพขาวดำเท่ห์ๆ นอกจากนั้นสมาร์ทโฟนบางรุ่นล่าสุดอย่าง HUAWEI P50 Pro ยังมาพร้อมเทคโนโลยีที่มีความเฉพาะอย่าง HUAWEI XD Fusion HDR Video ที่ทำให้ภาพคมชัดทุกรายละเอียด ทุกสถานการณ์ ซึ่งทำให้กล้องสามารถถ่ายแบบ Dual View หรือใช้ทั้งกล้องหน้าและหลังพร้อมกันในเฟรมเดียวแบบ 4K เหมาะสำหรับ Vlog ท่องเที่ยวที่ถ่ายได้ทั้งตัวเองและสถานที่ที่ไป พร้อม Time-lapse แบบ 4K และ Slow Motion แบบ HD
3. ตัดต่อทีเดียวบนตัวเครื่อง
สายโปรดักชันคงรู้ดีว่า กว่าจะเป็นวิดีโอตัวหนึ่งได้ นอกจากการขนของออกกองแล้ว ขั้นตอน Post-production ยิ่งน่าปวดหัวขึ้นไปอีก ส่วนคนที่เพิ่งเริ่มเบนสายมาก็คงตกใจกับค่าใช้จ่ายโปรแกรมตัดต่อที่คนทั่วไปใช้กัน แต่ในยุคที่การทำคอนเทนต์บนมือถือเครื่องเดียวบูมขึ้นมานั้น รู้หรือไม่ว่าแอปพลิเคชันตัดต่อที่มากับเครื่องโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเองก็สามารถตัดต่อคลิปวิดีโอได้เกือบเท่าโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว อีกทั้งยังง่ายกว่า Export ขึ้นไปแชร์ในช่องทางต่างๆ ได้เร็วกว่าอีกด้วย ลองมาดูแอปพลิเคชันจากตลาดแอปฯ ล่ามาแรง HUAWEI AppGallery อย่าง PetalClip ก็ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย โดยจะเริ่มจากการ Import คลิปเข้ามาตัดเอง หรือเลือก Template วิดีโอที่มี Artwork ตกแต่งแบบต่างๆ พร้อมใช้ก็ได้ โดยในโหมดตัดต่อเองก็สามารถเลือกใส่ ฟิลเตอร์ กราฟิก ตัวอักษร หรือฟิลเตอร์ต่างๆ ได้เองเช่นกัน ความพิเศษของ PetalClip คือสามารถตรวจจับหน้าคนที่ติดในคลิปเรา และช่วยเบลอเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของพวกเขาได้ด้วย
วิธีที่แนะนำของการถ่ายทำ และตัดต่อวิดีโอทางสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดคือการลงมือทำ โดยทั้งหมดที่แนะนำไปนี้เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นไอเดียว่าวิดีโอของคุณควรจะออกมาเป็นแบบไหน และใช้เครื่องมืออะไรที่มีในเครื่องได้บ้าง ลองตัดคลิปง่ายๆ จากสมาร์ทโฟนรุ่นปัจจุบันที่มีก่อน
และถ้าหากสนใจจะใช้ฟีเจอร์ที่อยู่บน HUAWEI P50 Pro ก็สามารถไปสั่งจอง ได้ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2565 ถึง 11 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ราคา 33,990 บาท และพิเศษ! สำหรับลูกค้า AIS และ TrueMove H จับจองได้ในราคาเริ่มต้น 9,990 บาทเท่านั้น[4] เมื่อมีสมาร์ทโฟนราคาดีๆ มากับกล้องดีๆ ทั้งที ก็อย่าพลาดเอามาแชร์คอนเทนต์ดีๆ ลงโซเชียลกัน โดยหาดาวน์โหลดแอปฯ ได้ที่ HUAWEI AppGallery และอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ HUAWEI P50 Pro ได้ที่นี่