Mercedes-Benz เปิดตัวรถตู้ eSprinter รุ่นใช้พลังงานไฟฟ้า ในราคาเริ่มต้นที่ 74,181 ดอลลาร์ฯ (ราว 2.6 ล้านบาท) ในสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งมอบในอเมริกาเหนือภายในครึ่งหลังของปีนี้
ตัวรถใช้แบตเตอรี่ LFP ที่มีความจุ 113 kWh ที่สามารถวิ่งได้ 400 กม. ตามมาตรฐาน WLTP (ระยะ EPA อาจน้อยกว่านี้) ซึ่งทาง Mercedes กล่าวว่าแบตเตอรี่ LFP เหมาะสำหรับรถธุรกิจขนาดเล็กเนื่องจากความทนทาน และไม่ใช้โคบอลต์และนิกเกิลเป็นส่วนประกอบ
eSprinter มาพร้อมที่ชาร์จ AC แบบออนบอร์ดที่มีพลังการชาร์จสูงสุด 9.6 kW ในขณะที่รองรับกำลังการชาร์จจากสถานี DC เป็น 50 kW มาพร้อมตัวเลือกที่อัปเกรดความเร็วการชาร์จ DC เป็น 115 kW ได้ ทำให้แบตเตอรี่ชาร์จจาก 10 ถึง 80% ในเวลาประมาณ 40 นาที
ตัวรถมาพร้อมมอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งมีขุมพลังให้เลือกสองแบบ คือ 134 แรงม้า หรือ 201 แรงม้า โดยทั้งคู่มีแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร อย่างน้อย 30 วินาที
นอกจากนั้น eSprinter คันนี้มาพร้อมกับโหมดขับขี่สามโหมด (eco, comfort และ max range) และการกู้คืนพลังงานห้าระดับ ซึ่งการเข้าเกียร์อัตโนมัติ (D Auto) ช่วยให้รถกำหนดอัตราการกู้คืนพลังงานตามสถานการจราจรโดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์เรดาร์
อีกหนึ่งไฮไลท์ eSprinter รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับการออกแบบที่คุ้นเคย และจุดเด่นคือเสนอความจุสัมภาระมากกว่า 13,800 ลิตร ความสามารถในการบรรทุกสูงสุดเกือบ 1.2 ตัน หรือก็คือสามารถบรรทุกได้จนถึงน้ำหนักรวมของตัวรถที่อนุญาต คือ 4.25 ตัน ทำให้รถตู้ไฟฟ้าคันนี้สามารถนำไปดัดแปลงเป็นห้องทำงานเคลื่อนที่หรือรถตู้ส่งของที่จุสัมภาระได้ด้วยความยาวรถมากกว่า 7 เมตร (280 นิ้ว)
นอกจากนี้ Mercedes-Benz eSprinter มาพร้อมกับคุณสมบัติอีกมากมายในฐานะออพชั่นเสริม เช่นระบบการทำงาน Mercedes-Benz User Experience (MBUX), ระบบปฏิบัติการ Navigation with “Electric Intelligence”, กระจกมองหลังดิจิตอล และอื่นๆ
