แม้ว่า 3G จะเป็นเครือข่ายที่ถูกใช้ในยุคบุกเบิกสมาร์ตโฟน แต่ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Verizon ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือเจ้าใหญ่ในสหรัฐฯ ได้ตัดการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ที่ยังคงใช้ 3G อยู่ ให้ไม่สามารถใช้เน็ต โทร หรือแม้กระทั่งส่งข้อความได้
หลังจากที่ผู้ให้บริการค่ายใหญ่เจ้าอื่นในสหรัฐฯ ได้ตัด 3G ออกจากระบบของตัวเองแล้ว ดังที่ AT&T ได้ตัดสัญญาณ 3G ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว ส่วน T-Mobile เริ่มตัดสัญญาณดังกล่าวหนึ่งเดือนหลังจากนั้น
โดยผู้ที่ยังใช้ 3G ของ Verizon อยู่จะสามารถใช้งานได้เพียงการโทรหา 911 และศูนย์บริการลูกค้าของ Verizon จนถึงวันครบกำหนดรอบบิลเดือนกุมภาพันธ์ นอกจากนั้น Verizon จะส่งมือถือที่รองรับเครือข่าย LTE ไปให้ผู้ที่ใช้งานเครือข่าย 3G แทน
อย่างไรก็ตามเครือข่าย 3G จะยังคงให้บริการในอีกหลายๆ ประเทศไปอีกหลายปี แต่กรณีของสหรัฐฯ เครือข่าย 3G น่าจะเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เพื่อเปิดทางพัฒนาเครือข่ายใหม่ๆ เช่น AT&T ได้ยกเลิกเครือข่าย 3G ไปเพื่อนำความถี่ไปใช้สำหรับเครือข่าย 5G แทน
เหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องปกติของเทคโนโลยีที่กำจัดของเก่าทิ้งเพื่อเปิดทางให้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่า ใช้งานได้ดีกว่าเข้ามาแทนที่ สำหรับผู้ใช้งาน 4G/5G ที่อยู่ในพื้นที่อับสัญญาณจนถูกบังคับใช้ 3G จะพบว่า 3G ไม่สามารถมอบประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ใกล้เคียงกับ 4G/5G ได้เลย
หากจะพูดถึงคุณูปการของเครือข่าย 3G ในอดีต ถือว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่เข้าปฏิวัติวงการเครือข่ายมือถือ ทำให้การค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ หรือเข้าถึงสื่อต่างๆ ในรูปแบบของรูปภาพและเพลง โดยใช้มือถือเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายเป็นวงกว้าง ไม่จำกัดแค่เพียงนักธุรกิจหรือคนร่ำรวยกลุ่มเล็กๆ อีกต่อไป
