เมื่อคืนที่ผ่านมาบริษัททวิตเตอร์ได้ออกมาตอบรับดีลการซื้อบริษัทของ Elon Musk ด้วยเงิน 4.4 หมื่นล้าน$ (ประมาณ1.5ล้านล้านบาท) ทำให้ในตอนนี้ Elon Musk เป็นเจ้าของทวิตเตอร์แบบ 100% แล้ว

สำหรับแผนทางการเงินในเข้าซื้อทวิตเตอร์เขาได้เปิดเผยต่อกลต.ของสหรัฐฯ ว่าจะใช้เงินกู้ยืม 2.55 หมื่นล้าน (8.7แสนล้านบาท) และใช้สินทรัพย์ส่วนตัว 2.1 หมื่นล้าน (ประมาณ7.16แสนล้านบาท) ซึ่งเขาตั้งใจจะทำให้บริษัททวิตเตอร์กลายเป็นบริษัทส่วนตัว (นำออกจากตลาดหลักทรัพย์)

โดย Elon Musk มีความตั้งใจให้ทวิตเตอร์เป็นแพลตฟอร์มแห่งประชาธิปไตยที่มีเสรีภาพในการแสดงออก รวมทั้งเขายังมีความต้องการที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่ ๆ เปิดเผยอัลกอริทึ่มให้เป็น open source เพื่อเพิ่มความโปร่งใส กำจัดบอทสแปมข้อความ และยืนยันตัวตนคนที่ใช้งานแพลตฟอร์ม

อย่างไรก็ตามชายที่รวยที่สุดในโลกอย่าง Jeff Bezos ก็ได้ออกมาทดสอบความตั้งใจของ Elon Musk ที่จะให้ทวิตเตอร์เป็นแพลตฟอร์มแห่งเสรีภาพการแสดงออก โดยการโพสต์ข้อความที่เป็นการวิจารณ์ Elon Musk

โดย Bezos ได้ตอบกลับข้อความที่โพสต์โดยนักข่าว New York Times ที่วิจารณ์ความสัมพันธ์ของระหว่าง Tesla และรัฐบาลจีนว่าการที่บริษัท Tesla ของ Elon Musk ทำธุรกิจในจีนจะทำให้รัฐบาลจีนได้ประโยชน์จากดีลการซื้อทวิตเตอร์ที่กล่าวไปข้างต้นหรือไม่ แต่หลังจากนั้น Bezos ก็ออกมาตอบกลับข้อความของตัวเองด้วยข้อความในลักษณะที่เป็นการปฏิเสธ พร้อมทั้งระบุว่า Musk นั้นเก่งมาก ๆ ในเรื่องการนำทางในสถานการณ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้

นอกจากนั้น Jeff Bezos ไม่ใช่คนเดียวที่แสดงด้วยท่าทีที่ตั้งคำถามกับการซื้อทวิตเตอร์ของ Elon Musk เพราะพนักงานบางส่วนภายในบริษัททวิตเตอร์ก็แสดงท่าทีที่ไม่พอใจต่อดีลดังกล่าว

เนื่องจากพนักงานบางส่วนไม่อยากทำงานภายใต้บังเหียนของ Elon Musk รวมทั้งยังมีความกังวลต่อการชดเชยค่าตอบแทนที่เคยได้เป็นหุ้นว่าจะเป็นอย่างไรในอนาคต พนักงานจะได้ผลตอบแทนที่ยุติธรรมหรือไม่ (เพราะการที่ทวิตเตอร์กลายเป็นบริษัทส่วนตัวของ Elon Musk หมายความว่าเขาถือหุ้นทั้งหมดของบริษัทแบบ 100%)

อย่างไรก็ตามดีลการเข้าซื้อทวิตเตอร์จะเสร็จสิ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า และมีความเป็นไปได้ว่า CEO ของบริษัทคือ Parag Agrawal จะลาออกในเร็ว ๆ นี้ นอกจากนั้นเขาได้เผยว่าทางบริษัทจะยังไม่มีการ layoff พนักงานในเร็ว ๆ นี้ และเขาก็ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ lockdown การอัพเดทฟีเจอร์บนตัวแพลตฟอร์ม

ที่มา: https://www.theverge.com/2022/4/25/23028323/elon-musk-twitter-offer-buyout-hostile-takeover-ownership

https://www.theverge.com/2022/4/25/23041965/jeff-bezos-twitter-troll-elon-musk-china-spacex-blue-origin

https://www.theverge.com/23042020/twitter-employees-elon-musk-buyout-slack