หลังจากที่เปิดตัวที่ประเทศจีนไปเมื่อเดือนที่แล้ว ในตอนนี้ vivo X80 และ X80 Pro ได้เปิดตัวแล้วในตลาดสากล โดยรุ่นที่วางขายในตลาดสากลมาพร้อม RAM และความจุน้อยกว่ารุ่นที่วางขายในประเทศจีน และไม่วางขายรุ่นที่ตัวเครื่องทำจากหนังเทียมและเซรามิก
แต่สเปคโดยรวมของทั้งสองรุ่นนั้นไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นที่วางขายในจีนเท่าไร โดยมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว กล้องตัวหลัก 50MP และแบต 80W ทั้งนี้ตัวเครื่องจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 12 แทนที่จะเป็น OriginOS
ในรุ่น X80 Pro ใช้ชิบประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 และมีหน้าจอ LTPO2 AMOLED ความละเอียด QHD+ ที่มีรีเฟรชเรทปรับได้อัตโนมัติ 1-120Hz ส่วนกล้องหลังตัวหลักมีความละเอียด 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ GNV + กล้อง ultrawide 48MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX598 + กล้อง portrait 12MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX663 ที่ซูมได้ 2x + กล้อง periscope 8MP ที่ซูมแบบ optical ได้ 5x
ตัวกล้องทั้งในรุ่นธรรมดาและรุ่น Pro จะเคลือบ Zeiss T* และมาพร้อมชิบ V1 ของ vivo และชิบ ISP ที่เพิ่มคุณภาพการถ่ายรูปในสภาพแสงน้อย
ในรุ่น vivo X80 ที่ใช้ชิบประมวลผล Dimensity 9000 และหน้าจอ Samsung E5 AMOLED ความละเอียด FHD+ ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz กล้องหลังตัวหลักมีความละเอียด 50MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX866 + กล้อง portrait 12MP ซูมได้ 2x + กล้อง ultrawide 12MP ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX663
อย่างไรก็ตาม vivo สัญญาว่าจะอัพเกรดระบบปฏิบัติการ OS ครั้งใหญ่จำนวน 3 ครั้งและอัพเดทแพทช์รักษาความปลอดภัยเป็นเวลา 3 ปี
สเปคของ vivo X80
- หน้าจอ AMOLED E5 ขนาด 6.78 นิ้ว FHD+, HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz, ความถี่การตอบสนอง 240Hz, ความสว่างสูงสุด 1000 nits, MEMC
- ชิบ Dimensity 9000 4nm ที่ใช้การ์ดจอ Mali-G710
- RAM LPDDR5 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB, RAM LPDDR5 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB
- Android 12 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 12
- ซิมคู่
- กล้องหลัง
- กล้องตัวหลัก 50MP (f/1.75) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX866 RGBW ขนาด 1/1.49 นิ้ว, OIS
- กล้อง ultra-wide 12MP (f/2.0) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX663
- กล้อง portrait 50mm 2X 12MP (f/1.98) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX663, super zoom 20x, เคลือบ Zeiss T*, ZEISS optics, ชิบ V1+
- แฟลช LED
- กล้องหน้า 32MP (f/2.45)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ลำโพง stereo
- ขนาดตัวเครื่อง: 164.95×75.23×8.30มม.; น้ำหนัก: 206 กรัม
- รองรับเครือข่าย 5G SA/ NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.3, GPS (L1+L5 Dual Band) + GLONASS
- USB Type-C 3.2 Gen 1
- แบตเตอรี่ 4500mAh ชาร์จเร็ว 80W
สเปคของ vivo X80 Pro
- หน้าจอ E5 AMOLED LTPO ขนาด 6.78 นิ้ว Quad HD+, 10-bit, ที่มีรีเฟรชเรทปรับได้ 1-120Hz, ความถี่การตอบสนอง 300Hz, ความถี่ตอบสนอง instant touch 1000Hz, MEMC
- ชิบประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 4nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 730
- RAM LPDDR5 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB
- Android 12 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 12
- ซิมคู่
- กล้องหลัง
- กล้องตัวหลัก 50MP (f/1.57) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Samsung GNV ขนาด 1/1.3 นิ้ว, OIS
- กล้อง ultra-wide 48MP (f/2.2) ที่ใช้เซ็นเซอร์ IMX598
- กล้อง portrait 50mm 2X 12MP (f/1.85) ที่ใช้เซ็นเซอร์ IMX663, gimbal
- กล้อง periscope 8MP (f/3.4), OIS, optical zoom x5 , super zoom 60x, Laser autofocus, เคลือบ Zeiss T*, ZEISS optics, ชิบ V1+
- แฟลช LED
- กล้องหน้า 32MP (f/2.45)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ ultrasonic
- แอมป์ CS43131 Hi-Fi, ลำโพง stereo
- ขนาดตัวเครื่อง: 164.57×75.3×9.10มม.; น้ำหนัก: 215 กรัม
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น IP68
- รองรับเครือข่าย 5G SA/ NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.2, GPS (L1+L5 Dual Band) + GLONASS
- USB Type-C 3.2 Gen 1
- แบตเตอรี่ 4700mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 80W, รองรับชาร์จไร้สาย 50W, ชาร์จไร้สาย reverse charging 10W
เจ้า X80 และ X80 Pro มีให้เลือกในตัวเครื่องสีดำ (Cosmic Black) และในรุ่น X80 มีสีฟ้า (Urban Blue) เพิ่มเติม โดยจะถูกวางขายที่ประเทศอินเดียในราคา 54,999 รูปี (ประมาณ24,500บาท) ในรุ่นธรรมดาความจุ 8GB + 128GB และราคา 59,999 รูปี (ประมาณ26,700บาท) ในรุ่นธรรมดาความจุ 12GB + 256GB
ส่วนในรุ่น Pro จะถูกวางขายในราคา 79,999 รูปี (ประมาณ35,000บาท) ในรุ่นความจุ 12GB + 256GB ซึ่งทั้งสองรุ่นจะถูกวางขายในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้