รายงานจาก The Information เผยว่า Apple มีแผนเปิดตัวอุปกรณ์ VR แบบ standalone มากกว่าแบบที่ต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่น หลังจากที่ทางบริษัทเคยลังเลว่าจะเปิดตัวอุปกรณ์ VR ที่ทรงพลังแบบ base station (ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น) หรือแบบ standalone
เพราะก่อนหน้านี้หัวหน้าฝ่าย AR / VR ของ Apple สนับสนุนให้ผลิตอุปกรณ์ VR แบบ base station ที่ใช้ชิบประมวลผลทรงพลังอย่าง M1 Ultra แต่ท้ายที่สุดแล้วเหมือนผู้บริหารของ Apple มีแผนจะผลิตอุปกรณ์ VR แบบ standalone
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลต่อนาคตของ Apple เพราะช่วงเวลาที่การตัดสินใจเกิดขึ้นแล้ว การพัฒนาชิ้นส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะชิบประมวลผลก็อาจดำเนินการมาแล้วเป็นเวลาหลายปี ทำการเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะชิบที่ถูกพัฒนามาแล้วถูกออกแบบมาเพื่อจัดการทุก ๆ อย่างในการทำงานของอุปกรณ์ VR
นอกจากนั้นอีกหนึ่งความท้าทายของการผลิตอุปกรณ์ VR คือการติดกล้องจำนวน 14 ตัวเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนานั้นเป็นความท้าทายที่ค่อนข้างยากของทั้งวิศวกรฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์
ตัวรายงานยังเผยว่ามีความเป็นไปได้ว่า Apple จะทำคอนเซปต์แบตเตอรี่แบบสวมใส่ภายในอุปกรณ์ VR ที่เคยเสนอความคิดโดยอดีตที่ปรึกษาโปรเจคของ Apple มาใช้ด้วย ซึ่งจะทำให้น้ำหนักของตัวอุปกรณ์สวมใส่เพิ่มขึ้นได้
อย่างไรก็ดีมีข่าวลือว่า Apple ได้นำเสนอตัวอุปกรณ์สวมใส่ดังกล่าวแก่บอร์ดบริหารแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงมีความเป็นไปได้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจะถูกเปิดตัวต่อสาธารณะในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเร็ว ๆ นี้ที่ว่าก็คือภายในปีนี้ และตัวอุปกรณ์จะถูกวางขายจริงในปีหน้า นอกจากนั้น Apple ยังอาจกำลังพัฒนาแว่นตา AR ที่มีลักษณะคล้ายกับแว่นตา Ray-Ban wayfarer แต่อุปกรณ์ดังกล่าวอาจต้องรออีกหลายปีกว่าจะถูกเปิดตัวจริง