Riot Games ผู้พัฒนาเกม FPS ชื่อดังกล่าว Valorant จะเริ่มบันทึกสอดส่องเสียงที่ผู้เล่นสื่อสารกันในเกมตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป โดยทางบริษัทระบุว่าการกระทำดังกล่าวจะช่วยพัฒนาระบบภาษาที่จะทำให้ระบบการรายงานผู้เล่น (report) ทำงานได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ Riot ได้ประกาศแนวคิดดังกล่าวตั้งแต่เดือนเมษายนเมื่อปีที่แล้วหลังจากที่ได้แก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัว ทำให้ Riot ได้รับอนุญาตให้ “อัดเสียงและอาจประเมินข้อมูลเสียงของผู้เล่นที่ใช้ช่องการสื่อสารเสียงของ Riot ได้” โดยทางบริษัทมีจุดประสงค์ที่จะป้องกัน hate speech และการคุกคามโดยใช้ระบบแชทเสียงในเกม
ทาง Riot ระบุว่าจะทำการวิเคราะห์เสียงของผู้เล่นเมื่อมีการรายงานผู้เล่นข้อหาก้าวร้าวทางวาจาเกิดขึ้น เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงว่าผู้เล่นมีการก้าวร้าวทางวาจาจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม Riot จะไม่ประเมินการรายงานของผู้เล่นโดยใช้ข้อมูลเสียงที่เก็บไว้ในช่วงแรก เพราะทางบริษัทจะเริ่มเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบที่ยังไม่ถูกเปิดเผยรายละเอียดเวอร์ชั่น beta ที่จะถูกเปิดตัวในปีนี้ ทั้งนี้ในปัจจุบัน Riot มีความตั้งใจเก็บข้อมูลเสียงจากผู้เล่นที่พูดภาษาอังกฤษในภูมิภาคอเมริกาเหนือเท่านั้น
หนทางเดียวที่จะหลีกเลี่ยงระบบนี้ได้คือการปิด voice chat ไปเลย หรือไม่ก็ไปใช้แอพสื่อสารด้วยเสียงแอพอื่น เช่น Discord แทน
นอกจากนั้นทาง Riot ยังระบุว่าเมื่อระบบข้างต้นถูกนำมาใช้จริง มันจะไม่เก็บข้อมูลเสียงผู้เล่นตลอดเวลา แต่อาจฟังและรีวิวข้อความเสียงเมื่อมีการรายงานผู้เล่นด้วยสาเหตุพฤติกรรมไม่เหมาะสม รวมทั้งทางบริษัทจะลบข้อมูลออกไปเมื่อมีการสะสางปัญหาที่เกิดขึ้นในกรณีหนึ่ง ๆ เสร็จแล้ว คล้ายกับที่บริษัททำกับการรายงานผลที่มีสาเหตุจากระบบแชทด้วยตัวอักษรภายในเกม
การเก็บข้อมูลเสียงผู้เล่นในลักษณะนี้สร้างความกังวลต่อผู้เล่นบางกลุ่มไม่น้อยในด้านความเป็นส่วนตัว เพราะ ปัจจุบัน Riot มีระบบ Vanguard แบบ always-on เพื่อป้องกันการโกง ซึ่งระบบดังกล่าวมีการสอดส่องพฤติกรรมของผู้เล่นทั้งในและนอกเกม Valorant
