SUBARU นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่หลายๆคนนั้นน่าจะรู้จักกันดีในแบรนด์ที่ทำระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในทุกคันของค่ายตัวเอง ยกเว้นตัวสปอร์ตที่เป็นขับหลัง และเป็นค่ายรถยนต์ที่โดดเด่นในเรื่องนี้อย่างมาก ระบบช่วงล่าง และ ขับเคลื่อนค่ายนี้หลายๆคนได้ลองก็น่าจะติดใจกัน สำหรับ SUBARU เองในไทยก็มียอดขายได้เรื่อยๆ รวมถึงก็ยังคงลุยตลาดอย่างต่อเนื่องจะเน้นไปทางรถ SUV มากกว่าทั้ง FORESTER – XV – OUTBACK และยังเอาตัวสปอร์ต BRZ ของค่ายมาขายในไทยด้วยนะ และ ในรุ่น XV จริงๆนั้นถือว่าประสบความสำเร็จมากๆในเจนที่แล้ว เป็นรถยนต์ SUV ขนาดเล็ก ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำราคาได้ดีและดีไซน์ที่มีความดุดัน สายลุย จึงไม่แปลกที่จะเห็นบนถนน เยอะมากๆ และในรุ่นนี้เป็นการต่อยอด XV ให้ออฟชัน และ สเปกแน่นขึ้นในรุ่น MinorChange เพิ่มระบบใหม่ๆเข้ามาทั้ง EYESIGHT และ กล้องรอบคันต่างๆให้มาครบไม่ต้อง GT และ  X-Mode ที่หลากหลายขึ้นรวมถึงการปรับค่าช่วงล่างให้นุ่มขึ้น และ หน้าตาเล็กๆน้อยทั้งด้านหน้าและด้านหลังไฟท้าย รวมถึง Memmory Seat นั้นเองทำให้อาจจะเข้าไปสู้กับรถยนต์ ตลาดได้สบายขึ้นและการขับขี่ช่วงล่างที่โดดเด่นแบบไม่มีตัวไหนสู้ได้กับราคาประมาณ ล้านต้นๆ

SUBARU XV EYESIGHT ตัวนี้จะยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน  BOXER DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร  156 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด  196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive ก็ยังคงใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาเช่นเดิมสำหรับค่ายนี้ ส่วนออฟชันอื่นๆก็ยังคงให้มาครบครับ ทั้ง ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED พร้อมระบบปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ และ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ รวมถึง ปรับตามวงเลี้ยวได้ด้วย ส่วนทางด้านภายในก็มีทั้ง หน้าจอ ขนาด 8.0 นิ้ว ระบบสัมผัส Touchscreen รองรับ Android Auto – Apple Carplay รวมถึง จอ MID ตรงกลาง และ บนหน้าปัดสำหรับแสดงข้อมูลตัวรถ และ การใช้งานทั้งหมด อีกทั้งยังใส่ใช้งาน X-Mode เข้ามาให้ที่ปรับได้ 2 โหมดมากกว่าเดิม พร้อมกับ Paddle Shift นั้นเอง เรียกได้ว่าระบบ X-Mode เนี่ยแหละทำให้การลุยมันโดดเด่นกว่าคู่แข่งทันที และ ระบบช่วงล่าง ตัวรถที่สร้างบนพื้นฐาน SGP ที่เป็น Platform ใหม่ทั้งหมดของตัวรถ รวมถึงในอนาคตของค่ายนี้ ทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และขับขี่ดีมากขึ้น การกระจายน้ำหนักหน้าหลังดีขึ้นด้วย ทำงานคู่กับระบบขับ 4 แบบ สมมาตรบอกเลยว่าลงตัวมากๆคันนึง และ ช่วงล่างมีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้นุ่มขึ้น และ ดีไซน์รอบๆคันเปลี่ยนใหม่เล็กน้อย ไฟท้ายแบบรมดำ และ กันชนหน้ากระจังหน้าแบบใหม่ และออฟชันที่น่าสนใจคือเพิ่มระบบช่วยเหลือการขับขี่ Eyesight ทั้ง ระบบรักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้า Adaptive Cruise Control และ ระบบเตือนการชนพร้อมเบรกอัตโนมัติ Pre-Collision Braking ระบบเตือนรถออกนอกเลน Lane Departure Warning ระบบเตือนขณะขับรถส่าย Lane Sway Warning ระบบเตือนเมื่อรถข้างหน้าเคลื่อนที่ Lead Vehicle Start Alert รวมถึงออฟชันความสบาย หน่วยความจำบริเวณเบาะไฟฟ้าฝั่งคนขับ เพิ่มระบบล็อกประตูอัตโนมัติ ทั้งหมดทำให้มันลงตัวขึ้นโดยที่ไม่ต้องเล่นรุ่น GT แบบตัวก่อนๆแล้วนั้นเองครับ

  • SUBARU XV 2.0 I-P EYESIGHT : 1,299,000 ล้านบาท 

EXTERIOR

งานออกแบบภายนอกนั้นจริงๆ SUBARU เองก็ถือว่าเป็นค่ายที่อาจจะออกแบบรถไม่ได้มีความล้ำหวือหวามากนัก แต่ก็ยังคงมีความอนุรักษ์นิยมชัดอยู่เหมือนกัน ซึ่งในรุ่นปรับหน้าตาใหม่ Minorchange นั้นได้เปลี่ยนหลายๆจุดทั้งหมดเหมือนกัน ทั้งรูปทรงกระจังหน้า หรือ  กันชนหน้า มีส่วนสีดำใหญ่ขึ้นมามากกว่าเดิม แลกมากับความโค้งมน ทันสมัยและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นแต่ทั้งเรื่องของขนาด หรือ การยกสูงของตัวรถต่างๆนั้นต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีเช่นเดิม การลุย การคล่องตัวต่างๆนั้นยังคงเป็นจุดเด่นของรถยนต์ขนาดนี้ และเป็นตัวเดียวในบรรดาคู่แข่งที่ ขับ 4 และ สามารถลุยได้จริงๆถือว่าดีครับ และได้ลายล้อใหม่รวมถึงในด้านท้ายก็ปรับเล็กๆน้อยเมื่อมองเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ตัวรถเองยาว  4.4 เมตร และ กว้าง 1.8 เมตร และ ฐานล้อยาว 2.6 เมตร รวมถึงความสูงใต้ท้อง 22 เซนติเมตร

จะเห็นการ Minorchange ครั้งนี้เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเน้นไปที่ กระจังหน้า กันชนทั้งหน้า รวมถึงไฟท้ายแบบรมดำ อาจจะไม่ได้เปลี่ยนชัดเจนอะไรมากถ้าไม่ได้มองสังเกตดีๆครับ ในด้านหลังเราจะได้รูปทรงอะไรที่เหมือนเดิมแต่ไฟท้ายรมดำสวย ดุดันมากกว่าเดิม รวมถึงด้านข้างเองก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนักยกเว้นล้อลายใหม่และยังคงได้มือจับประตูสีเงิน และ ราวหลังคาเช่นเดิมตามสไตล์  SUBARU  แต่เมื่อมองด้านหน้าส่วนที่แตกต่างกันจริงๆคือกันชนหน้าแบบใหม่ เส้นสายสีดำกินพื้นที่ขึ้นมากกว่าเดิม และ กันชนหน้าแบบใหม่ ถือว่าดูสปอร์ตมากกว่าเดิมเล็กน้อยครับ ซึ่งภายนอกจะมองยากมากๆถ้าไม่ได้เห็นล้อ หรือ กันชนหน้า แต่ออฟชันการใช้งานคือจุดเปลี่ยนหลักๆ

ในด้านหน้าเราจะเห็นว่าเส้นสายดุดันเอาเรื่องเลยบนกระโปรงหน้า เล่นกับแสงสีได้สวยงามมีความสันคมแบบรุ่นก่อนเข้ามาชัดเจน แต่เสริมด้วยไฟหน้าแบบเพรียวมากขึ้น และกระจังหน้าที่กระชับมากกว่าเดิม กว้างยาวมากขึ้นทำให้ตัวรถดูเตี้ยแบนกว่าเดิม แม้ความสูงจะเท่าเดิมครับจุดนี้ถือว่าดีให้กันชนล่างนั้นดูเป็นสีดำทั้งหมด และ กระจังหน้ามีลูกเล่นมากกว่าเดิม ส่วนในด้านท้ายนั้นยังคงสวยงามเสริมกันชนล่างเข้ามาสปอยเลอร์หลังสีดำทำให้ลงตัวขึ้น จริงๆด้านท้ายรถนั้นออกแบบดีในหลายๆรุ่นนะ ไฟท้ายแบบใหม่ทรงเดิม แต่รมดำเข้ามา และกันชนล่าง มีสีดำขนาดใหญ่เป็นการตกแต่งมาตรฐานพร้อมกับ ไฟตัดหมอกด้านหลังในฝั่งขวาล่างครับ ส่วนอีกข้างก็เป็นไฟทับทิมปกติ แต่ด้านท้ายการที่เสริมสีดำเข้ามาเยอะทำให้ตัวรถดูไม่อ้วนมากเกินไปอันนี้ถือว่าออกแบบได้ดีนะ แม้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก

รายละเอียดกระจังหน้าเปลี่ยนแปลงใหม่หมดจากตาข่ายแบบเดิมเป็นตัว U ใหญ่ซ้อนกันดูดีเทลดีขึ้น และมีการเล่นสีเทาเข้มเสริมโครเมียมเล็กๆครับ จริงๆเมื่อมองแต่ละส่วนๆตัวรถดูสวยนะ ทั้งกระจังหน้าทรงเอกลักษณ์ พร้อมกับ ตราดาวลูกไก่ ถือว่าสวยและเป็นกระจังหน้าที่ดีกว่ารุ่นพี่เค้าซะอีกอันนี้ถือว่าดีและเมื่อมองลงมาตรงไฟตัดหมอกก็ทำได้สวย ชายล่างเป็นลิ้นหน้าแบบสปอร์ตแต่ก็ไม่ทำให้ตัวรถเตี้ยเกินไปครับยังคงลุยได้สบายๆ ส่งผลให้รีดอากาศได้ดีด้วย และ กระจกมองข้างนั้นจะเห็นกล้องรอบคันมาให้ใต้กระจกมองข้างครับทำให้ มองซ้ายขวาได้ และมีกล้องรอบคันและ งานออกแบบยังคงเป็น 2 สีทำให้ไม่ได้ดูหนาเกินไปครับ เป็นการออกแบบแบบยื่นจากประตูเหมือนเดิม และประตูหน้ายังคงมีเส้นแบ่งเช่นเดิม จริงๆในหลายๆส่วนมันยังคงเป็นการออกแบบที่คุ้นตาครับจากรุ่นก่อนทั้งหมด

แน่นอนว่าตัวล้อได้ลายใหม่ในขนาด 17 นิ้วดุดันสวยขึ้น พร้อมกับล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/60 R17 ลวดลายถือว่าสวยมากและดูลงตัวมากกว่ารุ่น GT ซะอีกนะซึ่งส่วนตัวผมว่ามันดุดันและลุยเข้ากับตัวรถได้ดีมากไฟท้ายนั้นรูปทรงดูเรียวยาวลงตัว ไฟเบรก LED ตรงโซนสีขาวข้างใน รุ่นนี้มีรมดำเข้ามาให้ แต่ทั้งนี้ ไฟถอย ไฟหรี่ หรือ ไฟเลี้ยวยังคงเป็นหลอดไส้ชัดๆ อันนี้น่าเสียดายมากๆ น่าจะเป็น LED แบบใหม่ทั้งหมดหรือเป็นไฟเส้นได้แล้วนะ แต่ถ้ามองเทียบกับรุ่นก่อน MinorChange เองนั้นสเปกไม่มีเปลี่ยนแปลงรวมถึงงานออกแบบทั้งหมด ไฟหน้านั้นรูปทรงสปอร์ตมากกว่าเดิม เพรียวบางมากขึ้นพร้อมกับไฟหน้าสีขาว LED Projector ที่รองรับการปรับสูงต่ำ อัตโนมัติ และ เลี้ยวตามพวงมาลัย พร้อมกับไฟสูงต่ำปกติ และไฟเลี้ยวแบบหลอดไส้ พร้อมกับไฟ DRL LED ใส่เข้ามาให้เป็นเส้นสายสวยงามรวมถึงใส่ที่ล้างไฟหน้าเข้ามาให้เหมือนเดิมแม้จะเป็นรุ่นที่ขายในไทยก็ตามครับจุดนี้

INTERIOR

ภายในเองถ้ามองเทียบกับรุ่นก่อนปรับออฟชันแน่นอนว่างานออกแบบการจัดวางยังคงไม่ต่างจากเดิม มีหน้าจอตัวบน การปรับแอร์พวกนี้ตำแหน่งที่เเราคุ้นเคยกันดี รองรับ Apple Android ได้สบาย และในรุ่น XV จะมีการตกแต่งเดินด้านสีส้มเข้ามาซึ่งรอบนี้ได้หนังผสมกับผ้ารูปทรงเท่ๆมาใช้งาน และการตกแต่งเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตามประตูถ้ามองเทียบกับรุ่น GT ก่อนหน้านี้นั้นเองครับ บรรยากาศภายในห้องโดยสารนั้นโปร่งโล่งอย่างมาก ทั้งมุมมองของผู้ขับขี่รถหรือนั่งหลังก็ตามด้วยกระจกที่สูงกว้างมากและขอบประตูที่ต่ำทำให้เราเห็นทุกอย่างจริงๆ ข้อดีคือทัศนวิสัยดีมากๆในการขับขี่ มองต่างๆนั้นทำได้ดีเลยแหละ รวมถึงขอบประตูก็มองได้ชัดเจน แต่ก็จะทำให้คนข้างนอกมองเข้ามาได้ง่าย แสงแดดเข้ามาได้เยอะมากกว่าทั่วไปนั้นเอง แต่ถ้าถามความเห็นหลายๆท่านที่นั่งต้องบอกเลยว่า มุมมองแบบนี้ส่งผลดีมากกว่านั่งสบาย ไม่อึดอัด ดูโปร่งโล่งคนนั่งจะชอบมากๆ ในการออกแบบที่โปร่งแบบนี้ และ มุมมอง มุมบอดอะไรพวกนี้ก็จะลดน้อยลงไปได้เยอะพอสมควรเลยครับ จริงๆทั้ง FORESTER XV นั้นจะให้อารมณ์เดียวกันจริงๆเลยนะ

การออกแบบคอนโซลกลางเมื่อมาดูชัดๆจะเห็นว่าออกแบบมาสมมาตร ซ้ายขวาได้ดี และตำแหน่งหน้าจออยู่ในระยะที่ใช้งานสัมผัสได้ กดใช้งานได้รวมถึงมองได้ไม่ต่ำหรือสูงมากเกินไป มีจอแสดงข้อมูลต่างๆส่วนบนสุดเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ในการแสดงสถานะการขับขี่ และ ที่ชอบคือการใส่ใจเวลาเปิดไฟ ไฟเลี้ยว เบรก พวกนี้จะติดในกราฟิกทั้งหมดเลยครับ รวมถึงเวลาเข้า X MODE จะปรับให้เห็นองศาเวลาขับลุย หรือ ระดับน้ำของตัวรถว่าเอียงแค่ไหน จอหลักตรงกลางนั้นรองรับ Android Auto – Apple Carplay ทั้งหมด สัมผัสเต็มรูปแบบ ขนาด 8.0 นิ้ว ใช้งานได้ดี รองรับกล้อง 360 องศาได้ มีเมนูภาษาไทย และสัมผัสใช้งานได้ดีไม่หน่วงหรือเอ๋ออะไรครับ ตรงนี้ค่อนข้างโอเคเลย ทางด้านพวงมาลัยนั้นจะเป็นตัวเดียวกับ เลยนั้นเองรูปทรงอะไรเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงปุ่มต่างๆในการควบคุมถือว่าจัดเต็มทั้งการควบคุมเครื่องเสียงต่างๆ การตั้งค่าระบบ Cruise Control การตั้งค่าหน้าจอหลัก หน้าจอเรือนไมล์ทั้งหมด และ ใช้งานอาจจะปรับตัวกันนิดนึงนะ รูปทรงของพวงมาลัยอะไรนั้นจับได้ถนัดกำลังดีและใช้งานโอเคอย่างมากไม่มีปัญหาอะไร เซ็ตพวงมาลัย คมขับขี่ค่อนข้างไว้ใจได้ไม่เบาไม่หนักถือว่าเป็นพวงมาลัยที่เซ็ตมาแบบลงตัวไม่ต้องไปทำอะไรกับมันอีกแล้ว

คอนโซลกลางต่างๆนั้นมีการเล่นโทนสีดำเงาตัดกับสีเงินด้านสวยงามพอสมควร และในตัวการควบคุมแอร์นั้นจะเป็นแยกซ้าย ขวา กันและสามารถซิงค์ได้รวมถึงรองรับ AUTO อะไรได้ปกติใช้งานได้ง่าย ซึ่งการปรับเปลี่ยนจะโชว์มาบนหน้าจอกลางนั้นเองทั้งความร้อนเย็นทิศทางแอร์ต่างๆส่วนเรือนไมล์นั้นเป็นแบบเข็มปกติครับดีไซน์กลางๆธรรมดาไม่ได้หวือหวาอะไรมาก จอกลางมีแอนิเมชันเวลาตั้งค่าระยะรถต่างๆ รวมถึงแจ้งเตือนทั้งหมด และ มีข้อมูลการขับ ระยะทาง รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองทั้งหมดจอแสดงผลได้ทั้งหมดเลย ก็ถือว่าน่าเสียดายยังไม่ได้ไป Digital ล้วนแต่ก็มีจอกลางเข้ามาเสริมได้ใช้งานจริงได้ไม่ต่างกันครับ แต่แค่ความหวือหวาสวยงามอาจจะสู้คู่แข่งบางคันได้ยากเหมือนกันนะ

แน่นอนว่ารุ่นนี้จะมีปุ่ม X-Mode และฐานเกียร์นั้นเป็นแบบปกติทั่วไปครับมี โหมด M มาให้ในการขึ้นลงเขาหรือจะเล่นเกียร์สนุกๆก็ได้ แม้เครื่องจะไม่ได้หวือหวาก็ตาม เล่น + – ที่ Paddle Shift ได้เลยตรงพวงมาลัยเส้นด้ายในรุ่น XV นั้นเราจะได้การเดินด้านสีส้มเข้ามาทั้งหมด และมีการตกแต่งสลับกับลาย คาร์บอนในหลายๆส่วนของตัวรถ ก็ถือว่าทำให้ดูมีอะไรมากกว่าเดิมครับ แต่พวกไฟ Ambient Light อะไรนั้นถือว่าไม่มีใส่เข้ามาให้เลย แต่รุ่นนี้มี Memory Seat ใส่เข้ามาให้แล้วนะครับในฝั่งคนขับ แต่คนนั่งยังคงเป็นแบบเบาะมือเช่นเดิม และยังไม่มีแอร์หลังหรือที่ชาร์จแบตไฟอะไรเข้ามาให้เลยแอบเสียดายในเรื่องที่ชาร์จไฟ แต่แอร์ทั้งคันเย็นมากๆอยู่แล้วอาจจะพอรับได้

การขนจักรยานคันนี้เหลือๆครับสามารถวางแบบไม่ต้องถอดล้อหน้าได้สบายๆและมีความสูงรองรับได้ดีมากๆรวมถึงการพับเบาะเองได้เรียบและยาวไปถึงข้างหน้าในการขนคันนี้เราสามารถวางได้ในแนวนอนตามภาพไม่มีปัญหาเลยนั้นเอง

TECHNOLOGY 

แน่นอนว่าจุดที่แตกต่างกันกับรุ่นก่อนหน้าหลักๆคือ EYESIGHT นั้นเองครับเป็นระบบที่จะคอยช่วยเหลือและดูมองให้เราเพิ่มอีกเหมือนมีตาเพิ่มอีกคู่รองรับฟีเจอร์ควบคุมการขับขี่รถข้างหน้า เปลี่ยนเลนต่างๆ หรือ ออกนอกเลนก็จะเตือนทั้งหมด จับระยะได้ละเอียดอย่างมากในการขับขี่จริงๆ ซึ่งจะติดตั้งไว้บนกระจกหน้าทั้งหมดซึ่งค่ายนี้จะไม่มีการใช้งาน เรดาร์นะครับ เป็นกล้องเท่านั้นแต่ทำงานได้เทพไม่ต่างกัน กล้องมองภาพมุมมองด้านข้าง บริเวณล้อหน้าซ้าย Side View Monitor ระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน Pre-Collision Braking ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control พร้อมฟังก์ชัน Stop & Go ระบบเตือนเมื่อออกจากเลน Lane Departure Warning ระบบเตือนเมื่อขับรถส่าย Lane Sway Warning ระบบเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ Lead Vehicle Start Alert เรียกได้ว่ามาครบขาดแค่พวกเตือนมุมบอดเท่านั้น และถ้ามองเทียบกับรุ่นก่อนหน้าถือว่าดีขึ้นชัดเจนเลยครับ

Adaptive Cruise Control สามารถทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 0-180 กม./ชม. สามารถทำงานได้ตั้งแต่รถออกตัวหรือจอดรวมถึงทำงานได้เนียนตา และ สามารถตั้งได้ด้วยว่าจะให้เร่งแบบระดับผู้ดี หรือ แบบสายซิ่งสามารถปรับความเร่งได้ 4 ระดับแล้วแต่ชอบ ว่าจะเบรกเร่งเนียนๆหรือแบบวัยรุ่นขับ ถือว่าดีกว่าตัวอื่นเยอะมาก ความเร็วนั้น คู่แข่งต้องใช้ความเร็วมากกว่า 25-40 กม./ชม. ขึ้นไป ระบบจึงจะเริ่มทำงานได้ ถือว่าล้ำมากและจับได้แม่นยำแม้จะฝนตกหรือมืดๆก็ตามครับ รวมถึงมีกล้องมุมเวลาเปิดไฟเลี้ยวจะแสดงผลให้เห็นด้วยว่ารอบๆนั้นมีอะไรในฝั่งที่เลี้ยว

และรุ่นนี้มี X-MODE เข้ามาให้มากกว่าเดิมคือมีให้เลือก 2 แบบทั้ง SNOW-DIRT และ DEEP SNOW DIRT นั้นเองมีหน้าตาแบบใหม่และปรับตั้งได้ 2 แบบถือว่าดีเวลาใช้งานลุยและทำให้ค่ายนี้โดดเด่นใช้จริงได้เวลาลุนดินเละๆจะไปได้มากกว่าคันอื่นในราคาแบบนี้ รวมถึงสามารถตะกุยดิน ทราย โคลนได้สบายมากๆ แต่ถ้าเละมากๆเปลี่ยนยางเป็นแบบ ATก่อนนะครับไม่งั้นก็ไม่รอดเหมือนกัน แต่เรื่องกระจายแรงส่ง น้ำหนักค่ายนี้บอกเลยว่าเทพและไว้ใจได้

DRIVING

SUBARU เป็นรถยนต์ที่สำหรับคน รักการขับขี่อย่างแท้จริง ถ้ามองแค่สเปก ออฟชัน มันไม่ได้มีความน่าดึงดูดอะไรจากคนที่กำลังซื้อ แต่ถ้ามองเรื่องการขับขี่ เป็นตัวเดียวในตลาดที่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และได้ช่วงล่างเทพๆ พร้อมกับ X-Mode จุดนี้แหละ ที่จะทำให้ XV เริ่มโดดเด่นขึ้นมา แต่มันจะส่งผลต่อการขับขี่ ต่างจังหวัด การเข้าโค้งแบบหนักๆ จะเริ่มรู้เลยว่า ช่วงล่างเขาเหนือกว่าคันอื่นอย่างแท้จริงครับ ในรุ่นนี้เป็นการขับ 4 แบบเท่ากันทำให้เรื่องของช่วงล่างการขับเคลื่อนเป็นรถญี่ปุ่นที่ทางผมเองนั้นไว้ใจมากที่สุดในการที่จะหยิบกุญแจไปลุยหน้าฝนในการขับขี่ทางไกล มันมีความมั่นใจแบบบอกไม่ถูกเวลาขับลุยฝนซึ่งค่ายนี้ทำออกมาได้เกินหน้าเกินตาค่ายอื่นในเรทราคานี้อย่างมาก อันนี้คือประทับใจที่สุดครับ รวมถึงช่วงล่างในการขับขี่ทางไกลมีอาการโยนน้อยถึงน้อยมากแม้ตัวรถจะสูงกว่าเพื่อน ขับจริงช่วงล่างมันคือที่สุดในแง่ของรถญี่ปุ่นในเรทราคาที่สามารถให้ความมั่นใจได้ดีเมื่อทำงานร่วมกันกับการขับ4ของค่ายนี้ทำให้ประทับใจจริงและปรับให้นุ่มขึ้นทำให้เวลานั่งข้างหลัง หรือแม้แต่การขับเองมันมีความนุ่มและแน่นหนักแบบรถยุโรปได้ดี นั่งยังสบายแต่ยังคงเข้าโค้งเกาะได้ดีเช่นเดียวกันครับในส่วนของช่วงล่าง ถ้ามองเทียบกับบรรดาคู่แข่งทำให้กล้าพูดว่า ช่วงล่างเวลาเข้าโค้งตัวนี้ทำได้ดีที่สุด อัตราสิ้นเปลืองในการใช้งานในเมืองนั้นจะทำได้ 9-10 กิโลต่อลิตร ในการขับรถติดๆทั่วไปใช้งานทั่วไปไม่ได้ขับทางไกล แต่ถ้าหากเราขับขี่ทางไกล ซัดแรงๆบ้างความเร็ว 120+ ประมาณนี้ถือว่าทำได้ดีพอสมควรเมื่อเทียบกันจะได้ประมาณ 11 กิโลต่อลิตร แต่ถ้าขับแบบทั่วไปโหมดปกตินั้นจะทำได้ประมาณ 14 กิโลลิตรในความเร็วไม่เกิน 110 ประมาณนี้  ส่วนอัตราเร่งอาจจะไม่ได้โหดครับถือว่าแอบอืดๆในช่วงแรก 0-100 ทำไปได้ 12.4 วินาที และ 80-120 ทำได้ประมาณ 8.5-7.9 วินาทีซึ่งไปแบบไหลๆ

SUBARU XV 2.0 I-P EYESIGHT

” ช่วงล่าง ระบบขับเคลื่อน คือที่สุด ออฟชันครบขึ้นแล้วพร้อม EYESIGHT ! “

SUV ขนาดเล็กมาพร้อมกับช่วงล่าง การขับเคลื่อนที่ดีที่สุด แต่ด้วยสเปกกระดาษมันไม่โดดเด่นทำให้หลายๆคนอาจจะพลาดของดีไป แน่นอนว่าถ้าขับในเมืองอาจจะไม่ได้ใช้งานขับ 4 เท่าที่ควรแต่ถ้าเมื่อไรไปต่างจังหวัด เข้าโค้ง หรือลุยๆนิดหน่อยจะบอกเลยว่า มีขับ 4 ดีกว่าไม่มี และยิ่งได้ช่วงล่าง การกระจายน้ำหนัก ทำให้มั่นใจมากขึ้นทั้งเรื่องของการเข้าโค้ง การควบคุมความปลอดภัยในการขับขี่ครับ แต่ส่วนที่น่าเสียดายอาจจะเป็นพละกำลัง 0-100 หรืออัตราเร่งมันไม่ได้หวือหวาเท่าไรนัก แต่ถ้าได้สัมผัส ลองขับเข้าโค้ง SUBARU ไม่ทำให้ผิดหวังในเรื่องของช่วงล่างการควบคุม รวมถึงเวลาฝนตกเอาอยู่และมั่นใจกว่าทุกค่ายแน่นอนครับและในรุ่นนี้มีการเพิ่มออฟชันมาให้ ทั้ง Memory Seat หรือแม้แต่  X Mode ที่ดีขึ้น และ กล้องรอบคัน กล้อง EYESIGHT ที่มาพร้อมกับระบบช่วยเตือนป้องกันการชน หรือ แม้แต่ ควบคุมความเร็วแบบแปรผัน อีกทั้ง ช่วยเตือนออกนอกเลนต่างๆมันครบมากว่าเดิมและลงตัวขึ้น อีกทั้งช่วงล่างที่ปรับมานุ่มขึ้นทำให้นั่งในเมืองสบายและนุ่มหนึบมากกว่าเดิมถือว่าภาพรวมมันลงตัวขึ้นหลายส่วนทันที

สำหรับรีวิวนี้เป็นการทำบทความเกี่ยวกับรถยนต์ หรือ สายยานยนต์ของเรา และถ้าหาก มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มีข้อเสนอแนะ หรือข้อนำแนะอะไร ยังไงสามารถแจ้งเราได้เสมอเพื่อการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรถรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ จะพยายามจัดหามาให้อ่านกันเยอะๆ ขึ้นเรื่อยๆ ครับ … สำหรับ Techhangout Auto !

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

By Nineztr