BLACK ADAM 1 ในตัวละครจากค่าย DC ที่เป็นเชิง Anti-Hero เป็นการเปิดยุคใหม่ของ DC ที่มี THE ROCK เป็นตัวนำแน่นอนว่าโปรเจคหนังนี้และลุยมาเต็มที่จนเกิดเป็นหนังเรื่องนี้ และ ยังคงอยู่ในจักรวาลของ DCEU และที่น่าสนใจเลยว่าในเรื่องนี้เราจะได้เห็นตัวละครใหม่ๆเยอะมาก และเป็นหลายๆตัวที่รอคอยกันอีกทั้ง ตัวหนังมาในแนวทางที่ รู้ว่าคนชมอยากดูอะไร หนังควรเน้นอะไร และ เรื่องนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ที่จัดแอคชั่นมาแบบไม่ให้พัก แต่กลับเพลิน และสนุกไม่ได้ล้นเกินไป รวมถึงบทที่ไม่ได้เน้นมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ซึ่งในปีนี้มีหลายๆเรื่องที่บทดรอปกว่านี้มาเยอะเช่นกัน ทำให้ตัวบทหนังออกไปทางกลางๆ แต่เล่าได้สนุก เพลิน และ ไม่น่าเบื่อซึ่งแค่นี้ก็สามารถตอบโจทย์หนังที่ ดูสบาย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เข้าไปเสพความมัน ภาพสวยๆ เน้นแอคชั่นเน้นๆเลยแหละ
ตัวหนังเองเราเข้าใจกันก่อนเลยว่าหนังส่วนใหญ่ของ THE ROCK เองเน้นความสนุก แอคชั่นมาก่อน บทเป็นรองซะส่วนใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ผิดคาดแบบนั้น แต่ถ้ามองว่าบทมันแย่เลยไหม ไม่ถึงขนาดนั้น แต่มันกลับมีหลายๆจุดที่งงๆว่าแบบนี้ได้หรอ หรือ ใส่เข้ามาเพื่อปูไปในแนวทางนั้นแบบตั้งใจ ซึ่งรวมๆมันเลยกลายเป็นคล้ายๆกับ หนังสูตรสำเร็จหลายๆเรื่องแต่เรื่องนี้เล่าได้เพลิน และ เน้นแอคชั่นมาชดเชยตัวนี้ได้ซึ่งในเรื่องนี้เราจะไม่เจอบทพูดอะไรเยอะแยะ เน้นซัดกันมุมภาพสวยๆเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้เยอะจนแอคชั่นน่าเบื่อนะ ซึ่งมีชั้นเชิงในการเล่าอยู่ มีการเล่าย้อนอดีต ปูตัวละครได้เล็กน้อย แต่บางจุด บางปมของตัวละคร ถ้าเน้นไปลึกได้กว่านี้น่าจะเข้าถึงตัวละครในหลายๆมุมมากกว่านี้ครับ และเป็นหนัง DC ที่บทพูดไม่เยอะ ไม่เครียด ไม่ต้องคิดอะไรมาก ดูเบาสมองสบาย
นักแสดงเองนั้นต้องบอกว่าจัดเต็มนักแสดงหลัก THE ROCK ที่เล่นเป็น BLACK ADAM คือเหมาะมาก แม้ว่าตัวละครเองจะมีความแตกต่างกับ คอมิกส์บางส่วนก็ตามแต่กลับตีความใหม่ได้ลงตัวปรับเข้ากับตัวนักแสดง และ เข้ากับโทนหนังได้ดีจุดนี้ขอชมเลย ส่วนตัวละคร JSA เองนั้นได้นักแสดงอย่าง Pierce Brosnan มาเล่นเป็น Dr.Fate สายเวทย์ ที่โคตรเท่ และ แย่งซีนในหลายๆฉาก รวมถึงแสดงพลังได้ดี ท่าทางออกแบบได้ดีมาก และ นักแสดงในทีม Aldis Hodge เล่นเป็น Hawk Man ที่บทเยอะกว่าที่คิดมาก มีเอกลักษณ์ของตัวเอง รวมถึง ตัวละคร Atom Smasher / Cyclone ที่บทแบ่งกระจาย เฉลี่ยได้ดีกว่าที่คิดมากๆ ตัวละครไม่หายไปในเรื่อง และ เด่นพอๆกัน เคมีแต่ละตัวละครก็ทำได้ลงตัวมากๆ ซึ่งตัวนักแสดงหลายๆคนนั้นไม่ติดเลย แต่ ตัวร้ายอาจจะไม่ได้เด่นเท่าไร ไม่เน้นมากนัก ซึ่งด้วยบทที่มันไม่ส่งอะไรทำให้มันเลยไม่ได้มีการแสดงที่เด่นๆเท่าไรนัก
งานภาพ เสียง DC เป็นค่ายที่ทำได้ดีมาตลอด งานภาพจะสวย แสงสีสวย มุมกล้องดี ซึ่งใน BLACK ADAM เองนั้นก็ไม่ทำให้ผิดหวังเกรดสีได้สวยโทนสีสวยมาก และ มุมกล้องในหลายๆฉากแอคชั่นมีหลายๆมุมที่แตกต่างกับเรื่องอื่นๆ และ ใช้ภาพ Slowmotion ได้กำลังดี ไม่เยอะเกินไป ไม่น้อยเกินไป และ CG เนียนในหลายๆฉากที่สำคัญ แต่บางจุดก็แอบเห็นชัดได้นิดหน่อยใน 1-2 ฉาก แต่ภาพรวมถือว่าเนียน ในตัวละคร และ ฉากสถานที่ เป็นหนังแอคชั่นที่งานภาพสวยมากๆเรื่องนึงในค่าย และ ในบรรดาหนัง ฮีโร่ทั้งหมด ส่วนงานเพลงประกอบอาจจะไม่ได้ดีเท่า Man of Steel เท่าไร ไม่อลังการมากนักยังสู้ Hans Zimmer ไม่ได้ ไม่มีซาวด์ติดหูเท่าไร แต่ช่วยเสริมอารมณ์ได้ดีในหลายๆฉาก แต่เพลงที่เอามาใช้ไม่ค่อยมีฉากไหนที่เด่นๆครับอาจจะไม่ได้เน้นในเรื่องเพลงมาก
ภาพรวมคือหนัง แอคชั่น90% ของหนัง พูดไม่เท่าไรแอคชั่นมาแบบเน้นๆทั้งสเกลเล็ก หรือ ใหญ่ แต่ก็เพลิน สนุก เอนจอยไปกับหนังกว่าที่คาดหวังไว้ รวมถึงจังหวะหนังไวลงตัว แอคชั่นโหดเดือดกว่าที่คิด โหดกว่าเรื่องก่อนๆ และเล่าเรื่องไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อยครับรวมถึงงานภาพสวยมาก เสียงดีมากในการต่อสู้ระเบิดต่างๆในโรง IMAX ถือว่าดีคุ้มค่า และมี End Credit ที่ไม่ควรพลาด 1 ตัวบอกเลยว่าว้าวแน่นอนครับ สาวก DC ไม่ควรพลาดเลย ใครที่ชอบดูหนังเพลินๆไม่คิดเยอะเรื่องนี้สามารถตอบโจทย์ได้แน่นอนครับ และเป็นหนังที่น่าจะถูกใจทั้งสาวก MARVEL DC ดูได้ง่ายไม่ต้องปูเรื่อง หรือ ดูเรื่องอื่นมาก่อนเท่าไรครับ เป็นหนังเริ่มต้นของใครที่อยากดู DC ได้ง่ายๆเลย