ห่างหายกันไปนานสำหรับการรีวิวสมาร์ตโฟนเจ๋งๆ สุดโหดสุดปัง วันนี้แอดมาพร้อมกับสมาร์ตโฟนที่มีกล้องสุดเทพ ประสิทธิภาพการใช้งานสุดล้ำ กับค่าย HUAWEI ในรุ่น HUAWEI Mate 50 Pro ที่ต้องบอกเลยว่าการใช้งานดียอดเยี่ยมมากๆ มีจุดเด่นมากมายให้น่าจับตามอง ที่แอดประทับใจมากๆ คงหนีไม่พ้นในเรื่องของกล้อง ที่ทางค่ายขึ้นชื่ออยู่แล้วในด้านนี้ มาพร้อมกับกล้องที่โหดกว่าเดิม ฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาให้จุกๆ รวมไปถึงประสิทธิภาพการใช้งานที่เทพกว่าเก่า การออกแบบดีไซน์ที่สวยหรูหราน่าใช้งาน ความจุแบตเตอรี่ที่ให้มาเยอะ รองรับการใช้งานได้อย่างเพียงพอ รองรับชาร์จไว 66W อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ EMUI 13 ที่มีหน้าตาที่สวย ใช้งานง่าย อ่านง่าย สะดวกต่อผู้ใช้งาน ความพิเศษต่างๆในรุ่นนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ แอดจะพาทุกคนไปรับชมความพิเศษในรุ่นนี้พร้อมๆกัน ไปดูรีวิวได้เลยจ้า
HUAWEU Mate 50 Pro มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด 1212 x 2616 พิกเซล, 10-bit มีค่า Refresh Rate 120Hz ใช้งานระบบปฏิบัติการ EMUI 13 ที่หน้าตาสวยใช้งานง่ายมากๆ ใช้งานชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8+ 4G Gen 1 Octa Core มาพร้อม GPU Adreno 730 RAM 8GB ROM 256/512GB ในส่วนของกล้องให้กล้องหลังมาด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว โดยมีเลนส์หลักความละเอียด 50MP เลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 13MP
และเลนส์ Periscope telephoto ความละเอียด 64MP ทางด้านของกล้องหน้าให้ความละเอียด 13MP อีกทั้งยังคงให้แบตเตอรี่มาจุกๆถึง 4,700mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C ในรุ่นนี้มาด้วยกันทั้งหมด 4 สีให้เลือก ได้แก่ Black, Purple, Orange, Silver ขนาดอยู่ที่ 162.1 x 75.5 x 8.5 มม. น้ำหนักเพียง 205 กรัม ภาพรวมสเปกดีมากๆ อดใจไม่อยู่เลยบอกตรงๆ
UNBOX
- ตัวเครื่อง HUAWEI Mate 50 Pro
- Adapter + สายชาร์จ
- เคสใส
- คู่มือการใช้งานและที่จิ้มซิม
DESIGN
การออกแบบดีไซน์ของรุ่นนี้นั้นมาในแนวหรูหราดูแพงมากๆ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวมีมิติน่าหลงไหล วัสดุอุปกรณ์มีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้อย่างหายห่วง ขนาดตัวเครื่องมีความใหญ่เหมาะมือ จับถือถนัดมากเลยนะ โดยมีขนาดอยู่ที่ 162.1 x 75.5 x 8.5 มม. น้ำหนักเพียงแค่ 205 กรัม พกพาได้อย่างสะดวกสบาย ประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าได้เยอะเลย ตัวเครื่องมีความเงางาม บอกเลยว่าหากไปใช้งานในสถานที่ที่มีแสงมีไฟ ตัวเครื่องสามารถเล่นแสงเล่นไฟได้ดีวิบวับ สะดุดสายตา อีกทั้งยังมีการเล่นสีเงินตัดกับสีของตัวเครื่องให้เป็นลูกเล่นพิเศษเพิ่มความหรูหราดูแพงขึ้นไปอีกระดับเลย การจัดวางโมดูลกล้องก็เท่ไม่เหมือนใคร เป็นเอกลักษณ์สำหรับค่ายนี้เลย รวมไปถึงขอบเครื่องที่มีความโค้งมนมีมิติ สมูทเนียนตาสุดๆ ภาพรวมของการออกแบบดีไซน์ในรุ่นนี้บอกได้คำเดียวว่าปังสุดไรสุด มีความหรู ดูแพง สวยคม โฉบเฉี่ยวไปในตัว แถมยังมีมาให้เลือกใช้งานตามความชอบด้วยกันถึง 4 สี ได้แก่ Black, Purple, Orange, Silver โดยแต่ละสีนั้นสวยคมเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่แพ้กันเลย
หน้าจอในด้านหน้าของรุ่นนี้มีขอบหน้าจอที่บางเฉียบ บางมากๆแบบแอดร้องว้าว ใช้งานหน้าจอได้อย่างเต็มพื้นที่เต็มประสิทธิภาพของแท้เลยแหละ ขอบจอมีความโค้งแบบมีมิติ ดูโฉบเฉียวน่าหลงไหลไปอีกแบบ ไม่เป็นขอบเป็นมุมเหลี่ยมจนเกินไปช่วยให้ไม่ดูน่าเบื่อเลย กล้องหน้าในรุ่นนี้จะฝังอยู่บนแถบจอด้านบน แบบเป็นระเบียบสวยงามสบายตา
ขอบเครื่องด้านขวาจะเป็นในส่วนของปุ่มสั่งการเพิ่ม – ลดเสียง ตามมาด้วยปุ่ม Power ที่มีการตกแต่งขีดสีแดงเป็นลูกเล่นให้ดูสะดุดตาเบาๆ บริเวณขอบเครื่องจะแต่งเป็นสีเงินเงามันวาวสวยตัดกับสีตัวเครื่องแบบหรูๆเลย
ขอบเคร่องด้านบนจะไม่มีปุ่มสั่งการใดๆมาให้ใช้งาน จะเป็นเพียงรูไมค์ทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมทั้งการแต่งลูกเล่นขีดตัดขอบเพิ่มความพิเศษไปในตัว
ขอบเครื่องด้านล่างจะเป็นในส่วนของลำโพง ตามมาด้วยพอร์ตชาร์จ USB Type C และปิดท้ายกันด้วยที่ช่องใส่ซิมการ์ดนั้นเอง
ขอบเครื่องด้านซ้ายนั้นจะเน้นโชว์พื้นผิวสีเงินที่สวยเนียนเงาสะดุดตา มองกี่ทีก็น่าสัมผัส ยิ่งอยู่ตัดกับสีดำของตัวเครื่องแล้วนั้นแอดบอกเลยว่าปัง การดีไซน์ของรุ่นนี้มีความหรูหราโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากๆ
ทางด้านของฝาหลังในรุ่นนี้สวยปังขีดสุด ฝาหลังมันวาวมีเสน่ห์ เล่นแสงเล่นไฟได้อย่างวิบวับเลยแหละ อีกทั้งไม่ต้องห่วงเรื่องรอยนิ้วมือด้วย เพราะสามารถป้องกันรอยได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงพวกรอยขีดข่วนด้วยนะ ในส่วนของโมดูลกล้องนั้นก็มาในรูปแบบวงกลมไม่เหมือนใคร จัดวางกล้องเป็น 4 วง พร้อมไฟแฟลช ขอบของฐานรองกล้องตกแต่งด้วยขอบสีเงินเพิ่มความโดดเด่นเพิ่มไปอีก ฝาหลังเมื่อมองจะสวยสะดุดตาน่าใช้งานมาก ที่ขาดไม่ได้เลยคือการสลักชื่อค่าย HUAWEI ด้วยตัวอักษรสีขาวแบบเท่ๆไว้บริเวณด้านล่างของฝาหลัง
SPEC
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด 1212 x 2616 พิกเซล, 10-bit, Refresh Rate 120Hz
- ระบบปฏิบัติการ: EMUI 13
- หน่วยประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 8+ 4G Gen 1 Octa Core
- GPU Adreno 730
- RAM: 8GB
- ROM 256/512GB
- กล้องหลัง 3 ตัว
เลนส์หลักความละเอียด 50MP
เลนส์ Ultra-wide ความละเอียด. 13MP
เลนส์ Periscope telephoto ความละเอียด 64MP - กล้องหน้า ความละเอียด 13MP
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi, Bluetooth, NFC และพอร์ต USB Type-C
- แบตเตอรี่: 4,700mAh รองรับชาร์จเร็ว 66W
- สี : Black, Purple, Orange, Silver
- ขนาด 162.1 x 75.5 x 8.5 มม.
- น้ำหนัก 205 กรัม
STACK WIDGETS
สำหรับ Stack Widgets นี้เป็นความสามารถพิเศษของ EMUI 13 จะเข้ามาช่วยในเรื่องการเปิดซ้อนรวมหลายๆแอปไว้ร่วมกัน บนหน้าจอหลักของเรานั้นเอง เพิ่มขนาดไอคอนแอปให้ใหญ่ขึ้นได้ตามความเหมาะสม เพื่อเอื้ออำนวยต่อการใช้งานให้สะดวกสบาย ใช้งานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าจอของเราได้มากขึ้น การตั้งค่าต่างๆสามารถปรับแต่งได้ง่าย ปรับได้ตามความถนัดและความต้องการของเราเลย สามารถใส่เพิ่มหรือแก้ไขได้อย่างสะดวก เพียงกดค้างละปรับแต่งตามใจชอบ ปรับเลื่อนขึ้นลงใช้งานได้แบบชิลๆ เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญสำหรับสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ๆ แอดว่ามันยังคงจำเป็นในการเอื้อประโยชน์ในการใช้งานอย่างมากเลยนะ
SUPER HUB
มาในส่วนของฟีเจอร์ SuperHub กันบ้าง ในส่วนของฟีเจอร์นี้ก็พิเศษจำเป็นอย่างยิ่ง เป็นการปรับพัฒนาที่แอดชอบมาก เพราะจะช่วยเข้ามาถ่ายโอนไฟล์ รูปภาพ วิดีโอ หรือไฟล์งานต่างๆได้ เพียงกดค้างไว้แล้วลากไปที่หน้าต่างลอยของ SuperHub เปรียบเสมือนการคัดลอกและวางเพื่อการจัดส่งนั้นเอง สามารถเชื่อมต่อโอนไฟล์ได้ทั้งสมาร์ตโฟนด้วยกัน แท็บเล็ต หรือจะเป็นพีซี ก็สามารถถ่ายโอนได้อย่างรวดเร็วสบายๆเลย เอาใจสายไม่ชอบรอมากๆ เพราะสามารถถ่ายโอนได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาไปได้เยอะ ทันสมัยขึ้นกว่าเก่าแบบเจ๋งๆ
SCREEN
ทางด้านของหน้าจอในรุ่นนี้ใช้หน้าจอ OLED 10-bit ขนาดใหญ่จุใจอยู่ที่ 6.74 นิ้ว เป็นขนาดที่กำลังเหมาะสมพอดีมือมากๆ ใช้งานสะดวกสบายหยิบจับถนัดมือสุดๆ มีอัตราการรีเฟรชอยู่ที่ 120Hz ความละเอียด 1212 x 2616 พิกเซล เรียกได้ว่าภาพสวยคมชัด สีสันสดใสแม่นยำมาก ความละเอียดต่างๆพัฒนามาได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆอย่างเห็นได้ชัด โทนสีสวยคมชัด มองแล้วสบายตาน่าใช้งานมาก ในส่วนของการใช้งานหน้าจอทัชได้ดี ตอบสนองตามนิ้วมือแบบไม่อืดไม่ค้าง ลื่นไหลมาก ไม่ว่าเราจะทำกิจกรรมไหนๆก็ฟินโดนใจอย่างแน่นอน ไม่ว่าเราจะมองมุมข้างหรือมุมไหนๆก็ยังเห็นภาพเห็นสีที่ดูมีมิติมากๆ อีกทั้งการใช้งานก็ค่อนข้างตอบโจทย์ ภาพรวมถือว่าเยี่ยมเลยนะ
CAMERA
ทางด้านของกล้องในรุ่นนี้นั้นแน่นอนว่าหากพูดถึงค่าย HUAWEI แล้วก็เป็นที่ทราบกันดีว่าสเปกโหดไม่เคยยอมใครจริงๆ ภาพดีสีสวยคมชัดเก็บรายละเอียดได้ครบทุกจุด ได้ภาพสวยระดับมือโปรแบบไม่ต้องนำไปปรับแต่งเพิ่มให้เสียเวลาเลย โดยกล้องหลังในรุ่นนี้ให้มาด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว โดยเลนส์หลักความละเอียดสูงถึง 50MP เลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 13MP และจบปิดท้ายกันด้วยที่เลนส์ Periscope telephoto ความละเอียด 64MP ถ่ายภาพได้สวยคมชัดอย่างแน่นอนกับความละเอียดระดับนี้ เมื่อเทียบกับราคาแล้วประสิทธิภาพรูปที่ได้มา แอดบอกเลยว่าคุ้มค่าสุดๆ เก็บโมเมนต์ประทับใจได้แบบไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน ทางด้านของกล้องหน้าในรุ่นนี้ให้ความละเอียด มาอยู่ที่ 13MP เรียกได้ว่า HUAWEI Mate 50 Pro นั้นยังคงเป็นสุดยอดสมาร์ตโฟนแห่งการถ่ายภาพจริงๆ รองรับโหมดการถ่ายภาพอย่างหลากหลาย พร้อมฟีเจอร์ต่างๆอีกมากมาย มาให้เลือกใช้งานเพิ่มความสนุกสนานได้อย่างเต็มอรรถรส เอาใจสายถ่ายภาพไปเต็มๆ บอกเลยว่าถ้าได้ลองสัมผัสใช้งานแล้วทุกคนจะชอบเหมือนแอด
XMAGE TONE
กลับมาทวงความปังอีกครั้งกับเทคโนโลยีใหม่ที่ทางค่ายได้ปรับพัฒนาใส่มาให้ในรุ่นนี้แบบจุกๆ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการซูมสูงสุดถึง 200 เท่าเลยนะ เรียกได้ว่าซูมได้เยอะมากๆ แถมรายละเอียดก็ยังคงชัดเจนอยู่ด้วย สามารถซูมได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวแบบ Macro รวมไปถึงระบบปฏิบัติการ EMUI 13 เข้ามาช่วยให้การทำงานสามารถทำได้อย่างราบรื่นขึ้นกว่าเก่า มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่เอาใจสายถ่ายภาพได้เป็นอย่างดีเลย ยังคงทำการตลาดในด้านของกล้องได้แบบยอดเยี่ยม ราคาคุ้มค่ากับประสิทธิภาพที่เหนือขั้นจริงๆ
XMAGE ULTRA APERTURE
ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะว่าเจ้าตัวนี้มาพร้อมกับ XMAGE ULTRA APERTURE ที่เป็นเลนส์รูรับแสงทางกายภาพขนาดใหญ่ ที่ยังสามารถปรับได้ถึง 10 ระดับ แบบ Optical ได้แก่ 1.4/1.6/1.8/2.0/2.2/2.5/2.8/3.2/3.5/4.0 เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะมามอบภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ตามความต้องการของเราเลยนะ ว่าจะให้เบลอมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งความเบลอยังเป็นธรรมชาติสุดๆด้วย ฟีเจอร์นี้จะทำงานร่วมกับ XD Fusion Pro ที่จะช่วยให้เราสามารถกำหนดความสว่างของภาพ รวมไปถึงในด้านของรายละเอียดแสงเงา โทนสีต่างๆ ภาพรวมที่ออกมาแน่นอนว่าจะได้ภาพที่สวยโดนใจเราอย่างแน่นอน ปรับได้ตามความชอบความเหมาะสมขณะใช้งานได้อย่างอิสระเลย
ปรับรูรับแสงจริง F1.4-F4.0
อย่างที่แอดได้บอกไปก่อนหน้าแล้วว่าเจ้าตัวนี้สามารถปรับรูรับแสงได้มากถึง 10 ระดับ เป็นความสามารถพิเศษที่โดดเด่นมากๆ เชื่อเลยว่าสามารถตอบโจทย์สาวกสายถ่ายภาพอย่างแน่นอนเลย อีกทั้งสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นๆก็ยังคงทำออกมาได้ไม่เทียบเท่า HUAWEI Mate 50 Pro โดยการปรับรูรับแสงก็สามารถปรับได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดเลื่อนขึ้นลงตามความเหมาะสม เราจะสามารถเห็นภาพจริงและตัดสินใจใช้รูรับแสงระดับไหนให้เหมาะกับภาพที่เราจะถ่ายได้มากยิ่งขึ้น
PORTRAIT
ทางด้านของโหมด Portrait ที่เป็นโหมดประจำของใครหลายๆคน แน่นอนว่าภาพที่ถ่ายออกมาในโหมนี้ยังคงทำให้ใครหลายๆคนพึ่งพอใจเป็นอย่างมากเช่นเดิม ภาพสวยละลายหลัง ลบความวุ่นวายของฉากหลังได้ดี เนียนสวยเป็นธรรมชาติมากๆ
NIGHTMODE
ในส่วนของ Night Mode นั้นเจ้าตัวนี้ก็ไม่น้อยหน้าใคร สามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือแม้จะในสถานที่ที่มีแสงน้อยได้สบายๆ ภาพที่ออกมาก็ยังคงสวย คมชัด ไม่มี noise มารบกวนเลย เสมือนกับถ่ายภาพในที่แสงปกติเลยแหละ ทางค่ายค่อนข้างปรับพัฒนาในเรื่องของกล้องได้อย่างตอบโจทย์ แอดประทับใจสุดไรสุดเลย อยากจับจองเป็นเจ้าของมาก
TELEZOOM
มาที่โหมด Telezoom กันบ้าง โหมดนี้ก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสุดๆ สามารถซูมได้ในระยะไกล ที่สำคัญภาพที่ออกมานั้นบอกเลยว่ายังคงสามารถเก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะไม่ชัดเท่าการถ่ายปกติแต่โดยรวมแล้วเราก็จะยังคงเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่มองด้วยตาเปล่าจะไม่สามารถเห็นได้ โทนสียังคงครอบคลุม เหมาะมากๆสำหรับการใช้งานที่ภาพที่จำเป็นต้องซูมบ่อยๆ ไม่ว่าจะวิว ถ่ายบุคคล ถ่ายสัตว์ หรือสิ่งของ ก็สวยครบปังจบหลังกล้องได้อย่างแน่นอน
CHARGING 66W
ทางด้านของแบตเตอรี่ในรุ่นนี้นั้นให้ความจุมาเยอะกว่ารุ่นก่อนหน้าสูงถึง 4,700mAh เป็นความจุที่รองรับการใช้งานตลอดทั้งวันได้อย่างเพียงพอมากๆ อีกทั้งยังมาพร้อมกับการชาร์จไว 66W และระบบการชาร์จไร้สายความเร็วสูง 50W ในด้านของการชาร์จไวอาจจะไม่สูงมากนัก แต่ต้องบอกเลยว่าก็ยังคงช่วยประหยัดเวลาการชาร์จได้เป็นอย่างดีเช่นเดิม การใช้งานจริงนั้นแบตอึดมาก ใช้งานหนักหน่วงแบตก็ยังคงลดช้า สำหรับสายงานใช้เบาๆต้องบอกเลยว่าเหลือกลับบ้านเยอะแน่นอน ตอบโจทย์มากเลยนะสำหรับในยุคปัจจุบัน ที่คนส่วนใหญ่นั้นใช้งานสมาร์ตโฟนเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะในด้านของการทำงาน การถ่ายภาพ หรือใช้ทำกิจกรรมต่างๆ โดยทางค่ายให้ความจุมาขนาดนี้ เพียงพอต่อการใช้งานยาวๆตลอดทั้งวันแน่นอน ไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงค์ให้หนักกระเป๋าเพิ่มเลย
HUAWEI MATE 50 PRO
” นวัตกรรมของจริง กล้องยังคงเทพ บอดี้สวย ถ้าไม่เน้น 5G ถือว่าลงตัวเลยแหละ ! “
ภาพรวมของ HUAWEI Mate 50 Pro เปิดตัวออกมากับสเปกที่เป็นที่พึงพอใจมากๆ โดยเฉพาะในส่วนของกล้องที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆใส่เข้ามาให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น แถมยังเอาใจสายถ่ายภาพได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอดจากนี้ในการใช้งานด้านอื่นๆก็เจ๋งไม่แพ้กัน ประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคาที่สบายๆ แบตเตอรี่ให้มาใหญ่จุใจถึง 4,700mAh รองรับชาร์จไว 66W เพียงพอต่อการใช้งานยาวๆ อีกทั้งการออกแบบดีไซน์ก็เรียบหรูดูแพงมากๆ มีความพรีเมียมแบบน่าใช้งาน การตกแต่งเล่นสีเล่นลายช่วยเพิ่มความน่าค้นหา วัสดุอุปกรณ์ก็แข็งแรงทนทาน แอดบอกเลยว่าเป็นสมาร์ตโฟนอีกรุ่นที่ดีมากๆ น่าจับจองเป็นเจ้าของ ในราคาระดับนี้เมื่อเทียบกับสเปกที่ให้มามันคุ้มมากจริงๆ แค่ในเรื่องกล้องก็เกินคุ้มแล้วทุกคน แต่แอบเสียดายในเรื่องของ 5G ในรุ่นนี้อยู่นะ สำหรับใครที่ไม่เน้นในเรื่องนี้มากแอดคิดว่ามันโอเคเลย ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งานขนาดนั้น ภาพรวมแอดถือว่ายังคงตอบโจทย์ในทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว
ข้อดี
- กล้องปรับรูรับแสงอิสระได้ตัวแรกของโลก !
- งานออกแบบสวย และ เป็นเอกลักษณ์เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า
- วัสดุงานประกอบ แน่นแข็งแรง ดูดี
- กล้องคุณภาพทำได้ดี ทั้งกลางคืน กลางวัน และ ระยะซูม
- กล้องหน้ามุมกว้างมาก ถ่ายสวย
- โทนภาพสวยเช่นเดิม
- หน้าจอสู้แสงได้ดี คมชัด และ ตอบสนองได้ไว
- ชาร์จไวแบบสาย Huawei SuperChare 66W และ ไร้สาย 50W
ข้อสังเกต
- ความร้อนขึ้นไวเมื่อถ่ายรูปใช้งาน Effect ไปซักพัก เมื่ออยู่กลางแจ้ง
- ไม่รองรับ 5G
- ใช้งาน Huawei App Gallery เช่นเดิม
สำหรับรีวิวนี้พวกเราก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะคะ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เพื่อนๆสนใจอยากให้เรารีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกได้เลยนะคะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะคะ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review By Ning