แม้ในไตรมาสที่ผ่านมา Apple จะมีรายได้ไม่ตรงตามเป้าที่คาดไว้ แต่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นบริการของ Apple ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รายได้ของทางบริษัทดูดีอยู่ โดยทาง Apple เผยว่ามีการสมัคร subscription ของบริการต่างๆ มากกว่า 935 ล้านครั้ง
บริการเหล่านั้นได้แก่ iCloud, Apple Music, Apple TV+, Apple Arcade, Apple News+, Apple Fitness+, Apple One และ Apple Pay ซึ่งทั้งหมดทำรายได้รวมกันมากถึง 2.08 หมื่นล้าน$ (ราว 690 แสนล้านบาท) ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 6%
นอกจากนี้ Apple ยังมีบริการอื่นๆ ที่เป็นแบบ B2B เช่น Business Essentials, AppleCare, Tap to Pay, และ Apple Financial Services ซึ่งบริการอย่าง Tap to Pay และ Cloud ถือเป็นหนึ่งในบริการของ Apple ที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทมากที่สุด
Apple เผยว่ารายได้จากการ subscription บน App Store เติบโตขึ้นแบบ 2 หลักในช่วงที่ผ่านมา แต่ทว่าทางบริษัทกำลังถูกจับตามองในด้านของการผูกขาด App Store จนทำให้ทางบริษัททดลองให้แอปสามารถรับเงินแบบ 3rd party โดยไม่ผ่าน App Store ได้แล้วในบางประเทศอย่างเกาหลีใต้ เนเธอแลนด์
นอกจากนั้นในการอัปเดท iOS 17 ทาง Apple อาจอัปเดตให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอปนอก App Store ได้
