ปัจจุบันระบบปฏิบัติการบนสมาร์ตโฟนแทบจะผูกขาดอยู่สองเจ้าคือ iOS และ Android ซึ่งจากโพลของ AddictiveTips ที่เก็บข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถามในสหรัฐฯ มากกว่า 1000 ราย เผยข้อมูลภาพรวมของทั้งสองเจ้า และข้อมูลเกี่ยวกับความภักดีต่อแบรนด์ของผู้ใช้บริการทั้งสองระบบปฏิบัติการ
สมาร์ตโฟน Android กินส่วนแบ่งตลาดทั่วโลก 72% แต่ในกลุ่มตัวอย่างจำนวนข้างต้นมีผู้ใช้ iOS ถึง 50% ซึ่งในจำนวนนั้น 94% บอกว่าตัวเองมีความภักดีต่อ Apple และผู้ใช้ Android ในกลุ่มตัวอย่าง 80% บอกว่าตัวเองมีความภักดีต่อแบรนด์สมาร์ตโฟนของตัวเอง
อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ หากนำข้อมูลเกี่ยวกับ Elon Musk มาประกอบการถามเกี่ยวกับความภักดีต่อระบบปฏิบัติการสมาร์ตโฟนที่ตัวเองใช้อยู่ จะพบว่าผู้ใช้ iPhone กว่า 60% พร้อมเปลี่ยนไปใช้ Android หากว่า Apple แบนแอป Twitter ของ Elon Musk ออกจาก App Store
นอกจากนั้นผู้ใช้ Android และ iOS มากกว่า 80% เผยว่าจะเปลี่ยนไปใช้มือถือที่ถูกผลิตโดย Elon Musk หากว่าเขาผลิตมือถือของตัวเองออกมาจริงๆ
อย่างไรก็ตามในโพลยังเผยข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพและรายได้ของผู้ใช้สมาร์ตโฟนในแต่ละระบบปฏิบัติการในสหรัฐฯ ว่า อาชีพผู้จัดการส่วนใหญ่ใช้ iPhone แต่ว่าผู้ใช้ iOS ส่วนใหญ่ไม่มีความมั่นคงในอาชีพของตัวเอง
ผู้ใช้ iPhone ยังมีรายได้ต่อปีมากกว่าผู้ใช้ Android ซึ่งรายได้ผู้ใช้ iPhone มากกว่าผู้ใช้ Android ราว 5,000$ (1.7แสนบาท) ต่อปี
ด้านการทำงานผู้จัดการเกือบ 60% จากทั้งสองค่ายบอกว่าตัวเองเข้ากับพนักงานที่ใช้มือถือระบบปฏิบัติการเดียวกันได้ดีกว่า และทั้งผู้ใช้ Android และ iPhone ใช้เวลา 38% ของวันทำงานไปกับสมาร์ตโฟนของตัวเอง โดยผู้ใช้ iPhone ใช้งานสมาร์ตโฟนรวมเวลาต่อปีแล้วจะมากกว่าผู้ใช้ Android ราว 15 วัน
แต่ทว่าผู้ใช้ iPhone มากกว่า 47% บอกว่าตัวเองเคยถูกปลดออกจากงานในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ผู้ใช้สมาร์ตโฟนในสหรัฐฯ มีจำนวนมากถึง 307 ล้านราย การเก็บตัวอย่างเพียง 1,000 รายนั้นอาจเล็กเกินกว่าจะหาข้อสรุปที่เชื่อถือได้ แต่ทว่าจำนวนดังกล่าวก็ใหญ่เกินกว่าจะมองข้ามได้ เรียกได้ว่าฟังหูไว้หูดีกว่า
