รถ SUV มีความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆถ้ามองเทียบกันในราคาเดียวกันหลายๆคนมักจะไป SUV และแน่นอนว่าด้วยความที่ใช้งานได้หลากหลายกว่า ขับง่ายกว่า ขนของต่างได้ง่ายกว่าและในตระกูล X3 ที่ทางค่าย BMW เรียกว่า SAV ก็ถือว่าเป็นตระกูลที่ได้รับความนิยมสูงมากๆทั้งด้วยราคาไม่แรงมากเกินไป ขนาดตัวรถกำลังขับได้ง่าย และ ดีไซน์ความทันสมัยเป็นวัยรุ่น โดยที่ไม่เป็นรถครอบครัวมากเกินไป และ ยิ่งในยุคที่เข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าทำให้การขับขี่มันสนุกมากขึ้น และ ปรับตัวได้ง่ายขึ้นก่อนที่จะไปไฟฟ้าล้วนนั้นเอง เพราะว่าในรหัส 30e แบบนี้จะยังมีเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ ได้ทั้ง 2 อย่างก็ช่วยให้การเดินทางหรือคนที่ไม่สะดวกชาร์จไฟมาเล่นตัวนี้ได้เช่นกัน แต่ถ้าไม่ติดเรื่องที่ชาร์จอะไรก็มีตัวเลือกแบบ iX3 ที่เราเคยรีวิวกันไปให้เลือกซื้อกันแบบครบๆเลยครับ แต่ถ้าไม่ชอบไฟฟ้าเลยนั้น ทาง BMW เค้าก็มี ดีเซลในรหัส 20d มาให้เลือกบอกเลยว่าครบทุกความต้องการจริงๆ
BMW X3 xDrive30e M Sport มาพร้อมกับ BMW TwinPower Turbo 2,000cc 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร และ ทำงานร่วมกับกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 109 แรงม้า และ แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 265 นิวตันเมตร ทำให้ กำลังรวม 292 แรงม้า และ แรงบิด รวม420 นิวตันเมตร สามารถทำ 0-100 ภายใน 6.1 วินาทีเมื่อแบตเพียงพอ รวมถึง การใช้งานไฟฟ้านั้นจะวิ่งได้ตามสเปก 47 กิโลเมตร NEDC รวมถึงใช้งานแบต 12kWh รองรับการชาร์จ AC 3.6kW รวมถึงทางด้านสเปกออฟชันให้มาแน่นๆทั้งหมด ระบบควบคุมความเร็วคงที่ พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว และ (Cruise Control with braking function) ระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) รวมถึง ระบบช่วยนํารถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant) อีกทั้งในแง่ของการใช้งานหลังคากระจก Panorama เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon รวมถึง iDrive ที่รองรับ BMW Gesture Control) สั่งงานด้วยท่าทาง และ ภายในตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุ Carbon Fibre รวมถึงการตกแต่งแบบ M ทั้งหลากหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นเข็มขัด หรือ ตามขอบประตู ถือว่าภาพรวมค่อนข้างใส่มาแน่น
- X3 xDrive30e M Sport 3,859,000 บาท
EXTERIOR
งานออกแบบ LCI ตัวนี้มีการเปลี่ยนกันชนหน้า ไฟหน้า ล้อ และ ท้ายรถ รวมถึงภายในแต่เราจะมองด้านภายนอกตัวรถก่อนครับมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆ เส้นสายเยอะขึ้น คมชัด ดุดันกว่าเดิมแถมยังมีความปอร์ตมากกว่าเดิม ในรุ่น X3 30e เราจะได้การตกแต่งแบบสีดำทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า กรอบต่างๆหรือตามขอบประตูรวมถึงสีเขาตัดกับดำแบบนี้ดูดุดันสวยลงตัวแบบไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลยแม้แต่น้อยครับ ตัวรถมาในขนาด ยาว 4,716 มิลลิเมตร กว้าง 1,897 มิลลิเมตร สูง 1,676 มิลลิเมตร ถือว่าเป็น SUV ขนาดกลางที่เหมาะสำหรับขับคนเดียวได้ ไปกับครอบครัวได้ และ ขนของได้โดยที่ขับในเมืองก็ไม่ได้ใหญ่โตมากเกินไปครับแถมดีไซน์วัยรุ่นทันสมัยกว่าเดิม
ดีไซน์ภาพรวมตัวรถแม้จะเป็นทรงเดิมแต่การที่ได้ล้อลายใหม่ กันชนหน้าหลังใหม่รู้สึกว่าลงตัวและทันสมัยขึ้นทันที ขนาดตัวรถในตระกูล X3 เองนั้นจะไม่ได้ใหญ่มาก เหมาะกับการขับในเมืองได้ ลุยต่างจังหวัดก็สบายนั่งข้างหลังต่างๆกำลังดีเป็นรถครอบครัว ถ้ามองเทียบกับรุ่นก่อนหน้าส่วนที่โดดเด่นที่สุดคงจะเป็นด้านท้ายที่เส้นสายไฟท้ายและการออกแบบดูแปลี่ยนแปลงเยอะที่สุด และ แปลกตากว่ารุ่นอื่นๆและทางด้าน PHEV แบบนี้เราจะได้ท่อกันชนต่างๆที่ดูดุดันขึ้น รวมถึงล้อลายสปอร์ตกว่าตัว IX3 นั้นเองครับและในภาพเราจะเป็นสีเทา Brooklyn Grey สวยมากๆ
ด้านหน้าตรงเราจะเห็นเลยว่ากระจังหน้าคันนี้ใหญ่โตขึ้นมาก แต่ยังอยู่ในสัดส่วนที่ลงตัวไม่ได้แปลกหรือเยอะไปครับเสริมด้วยการใช้งานสีดำทั้งหมด ไม่มีระบบเปิดปิดกระจังอะไรในตัวนี้ พร้อมกล้องรอบคัน เซนเซอร์รอบคันใส่มาครบทั้งหมด รวมถึง Radar ACC ให้มาพร้อมใช้งานแน่นอนว่ากันชนคันนี้ได้แบบ M Sport สวยงามดุดันช่องดักลมของจริงทั้งหมด อีกทั้งในด้านหลังจุดที่โดดเด่นและเปลี่ยนแปลงชัดเจนคงหนีไม่พ้นไฟท้ายที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดเส้นสายดุขึ้น แปลกตาขึ้น Full LED ทั้งหมด รวมถึงชุดกันชนหลังแบบ M Sport พร้อมปลายท่อสีดำของจริงขนาดใหญ่ดูลงตัวและแน่นอนว่ามีฝาท้ายไฟฟ้าให้มาครบพร้อมกับการตกแต่งช่องระบายอากาศเสริมเข้ามาข้างซ้ายและขวาในด้านหลัง ส่วนทางด้านล้อเองนั้นให้มาในขนาดขอบ 20 นิ้ว ลาย Double-spoke มีการเล่นสีเทาเข้า และ ปัดเงาเข้ามา พร้อมกับเบรก M Sport สีน้ำเงินดูตัดกับตัวล้อ และ ตัวรถได้ดีเช่นกัน แต่ช่องรีดอากาศข้างหลังล้อนั้นจะเป็นช่องหลอกทั้งหมด และ มีสัญลักษณ์ i เข้ามาเมื่อเป็นรถ PHEV ส่วนตัวแอบไม่ชอบเท่าไรครับอยากได้ตัว M แบบเดิมดูสวยกว่าเยอะ แต่ที่เราเห็นขอบล่างตัวรถที่เว้าเข้าไปนั้นจะเป็นไฟ Welcome Light Angel Wing ส่องลงพื้น
ไฟหน้ามาพร้อมกับ Adaptive LED ส่องไกล 600 เมตรพร้อมกับไฟแหวก หลบหลีกคันข้างหน้าได้สบายๆและมี DRL อะไรจัดเต็มครับแน่นอนว่าเรามักจะไม่เห็นไฟตัดหมอกกับรถยนต์ยุคหลังๆแล้วเพราะไฟเดิมๆมันสามารถพุ่งและเข้มเพียงพอนั้นเองรวมถึงกระจกมองข้างนั้นแบบ 2 สี มีกล้องรอบคัน BSM ให้มาครบพร้อมกับที่ชาร์จจะอยู่ด้านซ้ายหน้ารถ จะแตกต่างกับ IX3 ที่จะอยู่หลังขวานั้นเองครับ สเปกคันนี้สามารถวิ่งได้จริง 30กม. ต่อการชาร์จ และ AC Type 2 รับกระแสไฟฟ้าได้สูงสุด 3.6 kW 0-100% ได้ภายใน 4 ชั่วโมง กับความจุแบต Lithium-ion 12.0 kWh ถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่แบตใหญ่ และ วิ่งได้ไกลกว่าพอสมควร
INTERIOR
ภายใน BMW ยังคงเป็นจุดที่ว่าไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนๆเราก็จะได้การออกแบบที่เป็นเหมือนกันไม่ว่าจะตัวหน้าจอ เรือนไมล์ พวงมาลัย ช่องแอร์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนเราก็จะได้หน้าตาดีไซน์เหมือนกันซึ่งอาจจะเป็นจุดที่หลายๆคนชอบ หรือ หลายๆคนอาจจะไม่ชอบกันเพราะว่ามันอาจจะดูซ้ำและน่าเบื่อก็มองได้อีกมุม ส่วนในแง่ของความโปร่งก็จะได้หลังคากระจกเต็มๆบาน และยิ่งมองเทียบกับรุ่นก่อนเปลี่ยนหน้าตา เราจะได้ทั้ง พวงมาลัยใหม่ หน้าจอกลางใหญ่ขึ้น ช่องแอร์แบบใหม่ และการควบคุมที่ดีขึ้น อีกทั้งแสงสีก็จะเยอะมากขึ้นตามคอนโซล และ ประตูทั้งหมดในตัวรถอันนี้ถือว่าดีกว่าเดิมเยอะมาก แม้จะยังไม่ได้หน้าจอยาวแบบ I4 ก็ตามแต่ก็เป็นจุดที่ทำได้ดีถ้ามองในแง่ของการอัปเกรด
หน้าจอกลางได้รับการอัปเกรดมากขึ้นใหญ่มากขึ้นรองรับระบบสัมผัส และ รองรับการควบคุมแบบท่าทาง และใช้งานได้ทั้ง Apple Carplay ไร้สายได้สบาย หน้าจอเรือนไมล์ BMW Live Cockpit Professional แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว แม้ว่าจะเป็นพวงมาลัยทรงๆเดิมจากรุ่นอื่นๆก็ตาม ที่ไม่มีการปาดขอบ หรือ เปลี่ยนงานออกแบบ อันนี้จริงๆอยากให้เปลี่ยนให้สวยและทันสมัยมากขึ้นกว่านี้แต่ถ้ามองในแง่ของการใช้งานรู้สึกว่าโอเค แค่การออกแบบยังจำเจไปนิดหน่อย คอนโซลกลาง และ มีรองรับการชาร์จไร้สาย และ พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ทั้งหมดในตัวรถ ถือว่าทันสมัยพอสมควรเลยครับในการเสียบชาร์จต่างๆ
และทางด้านคอนโซลเกียร์เองก็มีปุ่มปรับโหมดการขับขี่ว่าจะเป็นแบบไหนอีกทั้งหัวเกียร์แบบที่เราคุ้นเคยกันยังใส่เข้ามายังไม่ปรับไปเป็นแบบ SERIES 3 ตัวใหม่ครับ รวมถึงทางด้านแอร์หลังแยกโซนพร้อมกับ USB-C ใส่เข้ามาครบรวมถึงหน้าจอการแสดงผลการขับขี่สวยงามเปลี่ยนโหมดการขับขี่ต่างๆแต่จะไม่มีแสดงสถานะเลนแบบ IX3 เข้ามา
TECHNOLOGY
กล้องรอบคันมีมาให้ใช้งานและแน่นอนว่าดูแบบ 3 มิติได้ รวมถึงมีระบบช่วยจอดต่างๆแต่จุดเด่นนึงที่แตกต่างคือเราสามารถสั่งงานแบบไม่ต้องสัมผัสหน้าจอได้ ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มลดเสียง หรือ เปลี่ยนเพลง หรือแม้แต่ Muted นั้นเองอีกทั้งถ้าเราเข้ามุมมองแบบ 3 มิติ เราสามารถใช้ท่าทางนิ้วมือจีบและทำการหมุนรอบๆตัวรถได้ทันที โดยไม่ต้องกดปุ่มบนหน้าจอ สัมผัสหน้าจออะไรเลยครับ เพียงแค่ทำท่าทางและเลื่อนซ้ายขวา ตัวรถเองก็จะหมุนตามทิศทางที่เราเลือก
DRIVING
การขับขี่แน่นอนว่า BMW ยังคงความโดดเด่นของรถยนต์ตัวเองได้ดีเป็นรถที่ขับสนุกและมั่นใจในหลากหลายความเร็วหรือเส้นทางจริงๆแน่นอนว่าตัวนี้ช่วงล่างเซตมาได้สนุกแต่ก็ยังมีความนุ่มในระดับที่รับได้ใช้งานได้ดีในสภาพถนนเมืองไทย อีกทั้งเรื่องของอัตราเร่งก็ทันใจกำลังดีแม้ว่าระยะทางไฟฟ้าล้วนจะค่อนข้างน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในหลายๆตัว แต่การที่ระบบใช้งานเสริมในหลายๆจังหวะเร่งแซงก็ถือว่าไม่ธรรดา คันที่อยากได้รถครอบครัวแต่ก็ยังชอบการขับขี่ตัวนี้ถือว่าดีอันดับต้นๆ รวมถึงทางด้านอัตราเร่งทำได้ 0-100 ทดสอบจริง 6.6 วินาที และ 80-120 ทำได้ภายใน 4.5 วินาที รวมถึงทางด้านอัตราสิ้นเปลืองนั้นทำได้ ในเมือง และ ต่างจังหวัด ส่วนคุณภาพการเก็บเสียงทำได้ดีกลางๆ มีตัวที่ดีกว่านี้อยู่เช่น Q5 PHEV นั้นเอง แต่อยู่ในระดับที่รับได้ อีกทั้ง พวงมาลัยสามารถเซตปรับได้ น้ำหนักเวลาใช้งานความเร็วสูงทำได้หนักและคมกำลังดีครับ รวมถึงถ้า Comfort ก็จะใช้งานในเมืองได้ดี
BMW X3 30e M Sport
” เสียบปลั๊กไฟฟ้า ระยะน้อยไปนิด แต่ แรง ดีไซน์วัยรุ่น แถม ขับขี่สนุกตามสไตล์ BMW “
SUV ขนาดกลางที่เรื่องของการขับขี่นั้นไม่ธรรมดายังคงเอกลักษณ์ BMW ได้ดีไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง อัตราเร่ง และ ความหนึบของตัวรถ แต่ก็ยังมีความนุ่มที่รับได้ไม่กระด้างเกินไปแตกต่างกับ X1 พวกนั้นพอสมควรครับทำให้มันเป็นรถที่ใช้งานได้ดีไม่ว่าจะ ขนของ ขับเที่ยว ซิ่งหน่อยๆก็สามารถตอบโจทย์ได้ดีเช่นกัน รวมถึงงานออกแบบที่ไปในทางวัยรุ่น สปอร์ตขึ้นกว่าเดิม รวมถึงบรรดาออฟชันการขับขี่ ระบบช่วยเหลือ และ คุณภาพของตัวรถภาพรวมทำได้ดีเมื่อเทียบกับราคาตัวรถ แม้ว่าจะน่าเสียดายเรื่องระยะทางไฟฟ้าล้วนนั้นถือว่าน้อยกว่าคู่แข่งบางตัว แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสในเรื่องนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ เอาไฟฟ้ามาเสริมในบางช่วงความเร็ว หรือ ขับสั้นๆก็พอไหวในเมืองนั้นเองครับ แต่ข้อดีมากๆของค่ายนี้คือเค้ามีทั้ง ดีเซล ไฟฟ้าล้วน และ ไฟฟ้า น้ำมัน แบบคันที่เรารีวิวให้เลือกซื้อในบอดี้การออกแบบแบบเดียวกันนั้นแหละ เรียกได้ว่ามีทางเลือกให้หลากหลายกลุ่มลูกค้า แต่ฟีลลิ่ง การขับขี่นั้นไม่ได้หนีกันแบบชัดเจนนัก