BMW เปิดตัว i5 ไฟฟ้าล้วนจำนวนสองรุ่นมาแล้วในตลาดสากล ประกอบด้วย M60 XDrive และ eDrive40 โดยในครั้งนี้ BMW เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพร้อมกับรถซีรีส์ดังกล่าว ทั้งระบบเล่นเกมในรถ (in-car gaming), ระบบเพิ่มระยะทางขับขี่ที่ลดแรงขับและจำกัดความเร็วสูงสุดเพื่อประหยัดแบต และระบบเปลี่ยนเลนโดยใช้สายตา
โดย i5 eDrive40 จะเป็นรุ่นเริ่มต้นมอเตอร์เดี่ยว RWD ส่วน M60 xDrive มอเตอร์คู่เป็นรุ่นทรงพลังตัวท็อป
สเปกของ i5 รุ่นใหม่ทั้ง M60 xDrive และ eDrive40 มาพร้อมออปชั่น M Sport ให้เลือกที่มาพร้อมคันเหยียบด้านซ้ายอีกหนึ่งอันที่มีคำว่า “Boost” เขียนอยู่ที่เมื่อเหยียบแล้วเปิดใช้งานแรงขับที่ทรงพลังและใช้อัตราเร่งสูงสุด ซึ่งระบบเสียงจะเปลี่ยนเป็นโหมด sport โดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสบการณ์ขับขี่
ในรุ่น i5 eDrive40 มาพร้อมกำลังสูงสุด 335 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ซึ่งเพิ่มเป็น 430 นิวตันเมตรเมื่อใช้งาน Sport Boost หรือเปิดในแผงควบคุม ตัวรถสามารถเร่ง 0-100 km/h ได้ในเวลาราว 5.7 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ราว 190 km/h วิ่งได้ระยะทาง 474 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (โดยประมาณจากทาง BMW)
ส่วนรุ่น i5 M60 มาพร้อมกำลังสูงสุดในมอเตอร์ด้านหลัง 335 แรงม้า มอเตอร์หน้า 257 แรงม้า และมีแรงบิด 744 นิวตันเมตรที่เพิ่มได้ถึง 820 นิวตันเมตรเมื่อเปิด M Sport Boost หรือเปิดในแผงควบคุม ตัวรถเร่ง 0-100 km/h ได้ในเวลาราว 3.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 230 km/h วิ่งได้ระยะทาง 411 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (โดยประมาณจากทาง BMW)
แบตเตอรี่ของ i5 มีความจุ 84.3 kWh และมีระบบ Combined Charging Unit ทำให้ชาร์จแบบ AC Level 2 ได้สูงสุด 11 kW ส่วนการชาร์จแบบ DC รองรับสูงสุด 205kW ที่สามารถชาร์จแบตจาก 10% – 80% ได้ในเวลาราว 30 นาที
สำหรับราคาของทั้งสองรุ่นในสหรัฐฯ รวมค่าส่งมอบอยู่ที่
- i5 eDrive40 – $66,800 (ราว2.3ล้านบาท)
- i5 M60 xDrive – $84,100 (ราว2.9ล้านบาท)
i5 ตัวใหม่มาพร้อมขนาดโดยรวมที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้าโดยมีความยาวรถ 5.05 เมตร กว้าง 1.89 เมตร และสูง 1.51 นิ้ว ทำให้ฐานล้อมีระยะเพิ่มขึ้นเป็น 2.99 เมตร จึงมีพื้นที่โดยสารโดยเฉพาะบริเวณที่นั่งเบาะหลังเพิ่มขึ้น
ในรุ่น M60 มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกแบบใหม่ ทั้งช่องรับลมสีดำด้านหน้าที่รับลมได้มาก กระจังหน้าที่มีโลโก้ M performance สเกิร์ตข้างและกระจกข้างดำเงา รวมทั้งล้อ M อัลลอยเบา 19 นิ้ว
ในแพ็คเกจ M Sport Package สำหรับรถทุกรุ่นใน Series 5 ตัวใหม่ยังทำให้กรอบกระจังหน้าเรืองแสงได้ ไฟหน้า M Shadowline และสปอยเลอร์ด้านหลัง รวมทั้งผู้ใช้สามารถเลือกติดเบรคสีแดงได้เช่นกัน
ภายในตัวรถ BMW ได้เพิ่มหน้าจอดิจิทัลโค้งที่พลังพวงมาลัยที่ยาวไปจนถึงตรงกลางคอนโซลด้านหน้า และแถบ Interaction Bar แบบใหม่ที่มาพร้อมแสง ambient lighting บริเวณแผงหน้าปัดและประตูรถ
หน้าจอโค้งดังกล่าวจะเป็นแบบไร้ขอบที่มีหน้าจอแสดงผลหน้าปัดขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอควบคุม 14.9 นิ้วรวมอยู่ในจอเดียว สำหรับซอฟต์แวร์ใช้เป็น OS 8.5 มาพร้อมกราฟฟิก และหน้าจอเริ่มต้นใหม่ รวมทั้ง QuickSelect
OS 8.5 มาพร้อมโปรแกรมสตรีมมิ่ง และสามารถเล่นเกมด้วยหน้าจอโค้งในตัวรถระหว่างรอชาร์จได้ ด้วยแพลตฟอร์ม AirConsole โดยขณะที่รถจอดนิ่งอยู่ทั้งคนขับและผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อหน้าจอตัวรถกับสมาร์ตโฟนได้ผ่าน QR Code ทำให้หน้าจอแสดงผลเกม และใช้สมาร์ตโฟนเป็นจอยสติ๊กสำหรับเล่นเกมได้
ในขณะนี้ BMW เผยว่า AirConsole รองรับเกมประมาณ 20 เกมในตอนนี้ เช่น Go Kart Go ที่เป็นเกมแข่งรถคล้ายคลึงกับ MarioKart
นอกจากนั้น BMW ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่มาใน i5 อย่าง Driving Assistance Professional ที่มีระบบช่วยเหลือการขับขี่บนทางด่วน โดยผู้ขับขี่ i5 สามารถปล่อยมือได้บนทางด่วนเมื่อขับความเร็วไม่เกิน 136 km/h ในเงื่อนไขและข้อจำกัดบนถนนที่รองรับ ตราบใดที่ผู้ขับขี่ยังลืมตาอยู่ ทำให้ BMW i5 สามารถขับเคลื่อนอัตโนมัติได้ Level 2 แล้ว
ในฟีเจอร์ช่วยขับขี่ยังมาพร้อมกล้องภายในที่ตรวจจับสายตาของผู้ขับขี่ ทำให้ขณะเปิดใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอยู่รถจะเปลี่ยนเลนตามสายตาของผู้ขับขี่ได้ เพียงแค่มองไปที่กระจกข้างฝั่งที่ต้องการเปลี่ยนเลนเท่านั้น