Samsung Galaxy S23 Ultra ท้าให้ทุกคนถ่ายลองถ่ายภาพทั้งกาแลคซี่ ตอกย้ำความพี๊คคคไม่มีที่สิ้นสุดกับฟีเจอร์ Expert RAW ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพ Astrophotography ในยามค่ำคืนได้ง่ายดายใช้อุปกรณ์เพียง 2 ชนิดและใช้เวลาเพียงแค่ นาทีเท่านั้น!

เริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ อุปกรณ์สำคัญมีเพียงแค่ Galaxy S23 Ultra  และขาตั้งกล้อง จากนั้นก็เตรียมพร้อมถ่ายดวงดาวกันได้เลย เริ่มจากการถ่ายทางช้างเผือก หากมองด้วยตาเปล่าจะเป็นเป็นเหมือนเมฆบางๆ บนท้องฟ้าที่ไม่เคลื่อนไปไหนเหมือนเมฆก้อนอื่นๆ จึงถูกเรียกว่า Milky Way โดนปกติแล้วจะอยู่บริเวณ​ข้างใต้ของกลุ่มดาวแมงป่อง (Scorpius) โดยสามารถหากลุ่มดาวแมงป่องได้ง่ายๆ ผ่านโหมด Astrophoto ที่เปิดมาปุ๊บก็ทำให้เห็นตำแหน่งของดาวต่างๆ ในท้องฟ้าทันที สามารถเล็งหากลุ่มดาวที่ตามหาได้เลย ไม่ต้องง้อแผนที่ดาวอีกต่อไป  

หลังจากได้มุมที่ต้องการแล้วก็สามารถกดถ่ายได้เลย โดยสามารถตั้งค่า Duration ได้ตามต้องการโดยจะมีตั้งแต่ 4-10 นาทีเลยทีเดียว การเปิดรูรับแสงค้างไวเป็นเวลานาน จะช่วยให้รวบรวมแสงได้มากยิ่งขึ้นทำให้เห็นภาพทางช้างเผือกชัดยิ่งขึ้น และสามารถนำไปตกแต่งต่อได้เพื่อเพิ่มความมีมิติให้กับภาพ

4 Tips & Tricks ควรรู้ก่อนถ่ายดาว

  1. ขาตั้งกล้องเป็นสิ่งของที่สำคัญมากในการถ่าย เนื่องจากระยะเวลาต่ำสุดคือ 4 นาทีที่จะต้องให้สมาร์ทโฟนอยู่นิ่งๆ และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแนะนำใช้เป็น 10 นาทีจะช่วยให้รวบรวมแสงได้มากยิ่งขึ้น
  2. ใช้ Night mode ในการเล็งมุมให้ถูกใจ ใช้เวลาเพียงนิดเดียว ทั้งยังง่ายดาย ก่อนที่จะกดถ่ายใน Expert RAW
  3. สามารใช้ S Pen ในการกดชัตเตอร์เพื่อกันการสั่นตอนกดปุ่มถ่าย โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าได้ดังนี้

1.Settings  2.Advanced features 3. S Pen Air actions 4.Expert RAW และ กดเปิด

  1. เนื่องจากต้องถ่ายในพื้นที่ที่มืดมากๆ และไม่มีไฟมารบกวน หากจำเป็นต้องใช้แสงไฟจริงๆ แนะนำเป็นแสงสีแดงเนื่องจากจะรบกวนสายตาและรูปน้อยที่สุด และควรปรับลดแสงหน้าจอจากอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อลดแสงรบกวนขณะถ่ายให้มากที่สุด

และที่สำคัญ ต้องปิดโหมด “High efficiency RAW” ถ้าจะนำไฟล์ไปแต่งต่อใน Lightroom ถ้าเปิดโหมดนี้จะไม่สามารถนำไฟล์ .DNG (file RAW) ไป Import ใน Lightroom หรือโปรแกรมแต่งภาพได้ สามารถเข้าไปปิดได้โดยเข้าแอป Expert RAW กด Setting ซ้ายบน จากนั้นกดปิด High efficiency RAW

ผู้เชียวชาญจาก NARIT ให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์ฉบับรวมรัดเข้าใจง่ายสามารถนำไปใช้ในการถ่ายภาพ Astrophotography ได้เลย โดยเริ่มจาก กาลเทศะ” หรือความเหมาะสม ในที่นี้หมายถึงเวลาและสถานที่ ที่ถือเป็นใจความสำคัญที่สุดในการถ่ายภาพดวงดาวเลยทีเดียว ตัวอย่างสถานที่ที่เราไปทดลองถ่ายภาพมาคือที่ Alcidini Winery เป็นพื้นที่อนุรักษ์ท้องฟ้ามืดที่ได้รับการรับรองจากจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งอยู่ใกล้เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ลักษณะพื้นที่เป็นทิวเขาสลับซับซ้อน แปลงองุ่นเป็นลานโล่งกว้าง ทำให้ได้วิวทั้งฉากหน้า และฉากหลังท้องฟ้าโดยที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างบดบัง สามารถมองเห็นทางช้างเผือกและดวงดาวเต็มท้องฟ้าได้ด้วยตาเปล่า นอกจากความมืดสนิทแล้วช่วงเวลาก็สำคัญไม่แพ้กัน เวลาที่เหมาะสมในการถ่ายดาวได้ดีที่สุดจะเป็นช่วง 22.00-3.00 น. ที่จะเห็นดวงดาวเต็มท้องฟ้าให้ทุกคนได้ตามล่าทางช้างเผือกกันได้ยาวๆ เลย

วันหยุดครั้งหน้า อย่ารอช้า แพ็คกระเป๋า หยิบ Galaxy S23 Ultra และขาตั้งกล้อง แล้วไปตามล่าหากาแลคซี่กัน!