วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ การเดินทางยาว 47 ปีสำหรับ Ford Fiesta จะสิ้นสุดลง หลังจากที่สร้างชื่อเสียงจากการผลิตมาหลายรุ่นจนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของแบรนด์ไปแล้ว
ทาง Ford ตัดสินใจหยุดการผลิตหนึ่งในรถยนต์ขนาดเล็กที่เป็นที่รักของใครหลายคน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ถึงแม้จะทำให้คนรัก Fiesta เสียใจ แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ Ford เปลี่ยนทางไปสู่อนาคตในยุคแห่งรถ EV
นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 1976 Ford Fiesta กลายเป็นชื่อที่คนรู้จักทั่วไปในวงการยานยนต์ เพราะแม้จะมีขนาดเล็กแต่มันไม่ได้กีดขวางความนิยมเลย แต่กลับมีความน่าเชื่อถือ ประหยัด และมีความสนุก ทำให้มันเป็นที่ชื่นชอบตลอดกาลในตลาดรถยนต์ใหม่และใช้แล้วทั้งหมด
แม้จะประสบความสำเร็จ แต่ Fiesta กำลังจะถูกเลิกผลิต โดย Ford อธิบายว่าเป็นการเสียสละที่จำเป็นเพื่อเปิดทางสู่รถ EV ที่มีปริมาณสูงรุ่นแรก ๆ ของพวกเขา คือ Ford Explorer electric SUV
ก่อนหน้านี้ Fiesta ต้องเผชิญกับความท้าทายในช่วงการระบาดของโรค Covid-19 ทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกระดับโลกหยุดชะงักจนต้องหยุดการผลิตชั่วคราว ประกอบกับในระยะหลังลูกค้าหันไปใช้รถทรง crossover และ SUV มากขึ้น เป็นเหตุผลทำให้ Ford ตัดสินใจบอกลา Fiesta ได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับสาวก Fiesta ยังไม่ใช่เรื่องเศร้าทั้งหมด เพราะ Ford Puma crossover (และรุ่น EV ที่ใกล้จะเปิดตัว) ดูเหมือนจะเป็นผู้สืบทอดที่เหมาะสม เพราะเป็นรถที่ขายดีในหลายประเทศ
Fiesta ไม่ใช่รุ่นเดียวที่ Ford ตัดสินใจเลิกการผลิต เพราะก่อนหน้านี้ทางบริษัทประกาศเลิกผลิต S-Max และ Galaxy MPVs ไปในเดือนเมษายน 2023 รวมทั้ง Ford Focus กำลังจะเลิกผลิตในปี 2025
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนใหญ่ของ Ford เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในปี 2030 และภายในปี 2026 Ford Model E (แผนก EV ของ Ford) มีเป้าหมายที่จะขายรถ EV 600,000 คันต่อปี