เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Volvo เผยในงาน Climate Week NYC ว่าจะเปิดตัวรถที่ใช้น้ำมันคันสุดท้ายในช่วงต้นปี 2024 เพื่อมุ่งสู่อนาคตที่เป็นยุคแห่งรถยนต์ไฟฟ้า
โดย Volvo เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ดั้งเดิม (legacy) รายแรกๆ ที่ประกาศเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านเต็มตัวในกรอบเวลาที่สั้นเช่นนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นบริษัทแรกๆ ที่ประกาศว่าจะเลิกผลิตรถน้ำมันและรถไฮบริดภายในปี 2023
ในเดือนมีนาคม 2021 ทางหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของ Volvo กล่าวไว้ว่า “รถยนต์สันดาปภายในไม่มีอนาคตในระยะยาว” และอดีต CEO ของ Volvo กล่าวไว้เมื่อ 2 ปีแล้วว่า “…เราต้องการการเติบโตที่มีกำไร” และ “ดังนั้นเราเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีอนาคต – ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า”
ก่อนหน้านี้ Volvo ยอมรับว่ารถสันดาปภายในเป็นประเภทรถที่มียอดขายสูงสุดของบริษัทเมื่อปี 2019 ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ในปัจจุบัน ยอดขายรถสันดาปภายเหลือในเพียง 8.9% เท่านั้นของยอดขายทั้งหมด ในขณะที่ยอดขายส่วนใหญ่เป็นรถ EV ไฟฟ้าล้วนและรถไฮบริด
ปัจจุบัน Volvo มีรถ EV ที่วางขายแล้วได้แก่ C40 Recharge และ XC40 Recharge ที่มีราคาเริ่มต้น 2,090,000 บาท และ 1,990,000 บาท ตามลำดับ รวมทั้งมีรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นเล็กอย่าง EX30 ที่มีราคาเริ่มต้น 1,590,000 บาท
นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์สวีเดนมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง EX90 ในไทย ซึ่งมันเป็น SUV ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่งพร้อมระยะการขับขี่สูงสุด 480 กม. ในเรทราคา 3-4 ล้านบาท