FCC (กสทช. สหรัฐฯ) ประกาศว่าต่อไปนี้ โทรศัพท์มือถือและสมาร์ตโฟนทั้งหมดในสหรัฐฯ จะต้องใช้งานร่วมกับเครื่องช่วยฟังได้ นอกจากนี้ยังได้กำหนดกฎใหม่เกี่ยวกับการควบคุมระดับเสียงและการติดฉลากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุง เพื่อให้ผู้ที่มีเครื่องช่วยฟังสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างถูกต้อง
สาระสำคัญคือ FCC กำลังจัดตั้งข้อกำหนดการจับคู่ Bluetooth เพื่อไม่ให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนใช้เวอร์ชันที่อาจจำกัดความเข้ากันได้ โดยข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่าการทำเช่นนี้จะช่วยให้มั่นใจว่ามีความเชื่อมต่อสากลระหว่างโทรศัพท์มือถือ เครื่องช่วยฟัง และเครื่องช่วยฟังแบบวางขายทั่วไป ขณะที่รายงานของ Hearing Aid Compatibility Task Force พบว่าแม้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะรองรับการใช้งานร่วมกับเครื่องช่วยฟัง สิ่งนี้จะช่วยปิดช่องว่างที่เหลืออยู่
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การควบคุมระดับเสียงใหม่ที่อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มระดับเสียงโดยไม่ทำให้เกิดการบิดเบือน (distortion) เป้าหมายคือเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคน ไม่ใช่แค่ผู้ที่มีการสูญเสียการได้ยินอย่างรุนแรงเท่านั้น สามารถได้ยินเสียงชัดเจนขึ้น
สุดท้าย บริษัทจะต้องแก้ไขการติดฉลากผลิตภัณฑ์เพื่อรวมข้อมูลเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของเครื่องช่วยฟัง ข้อกำหนดการเชื่อมต่อเทเลคอยล์หรือบลูทูธ และการเพิ่มความดังของเสียงขาเข้า (gain) และระดับเสียงสูงสุดที่โทรศัพท์สามารถได้ขณะที่ยังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดการควบคุมระดับเสียง
กว่าที่กฎใหม่จะบังคับใช้ได้อย่างเต็มที่ต้องใช้เวลาสักพัก โดยระยะเวลาการเปลี่ยนผ่าน ตั้งแต่ 24 เดือนสำหรับผู้ผลิตสมาร์ตโฟน 30 เดือนสำหรับผู้ให้บริการทั่วประเทศ และ 42 เดือนสำหรับผู้ให้บริการแบบไม่ทั่วประเทศ
สิ่งนี้ก็สอดคล้องกับความพยายามด้านสาธารณสุขในการปรับปรุงการเข้าถึงเครื่องช่วยฟังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สองปีที่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ ได้เปิดตัว เครื่องช่วยฟังแบบวางขายทั่วไป เพื่อให้มีทางเลือกที่ถูกกว่าสำหรับผู้ที่มีการสูญเสียการได้ยินเล็กน้อยถึงปานกลาง