Samsung เพิ่งจะเปิดตัว Galaxy Z Fold Special Edition ในเกาหลีใต้ โดยมันแก้ปัญหาหลายจุดใน Z Fold6 ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ตัวเครื่องที่บางลง และกล้องหลัก 200MP

หน้าจอด้านนอกมีขนาด 6.5 นิ้ว LTPO AMOLED 2X เพิ่มขึ้นจาก 6.3 นิ้วบน Z Fold6 พร้อมอัตราส่วนภาพ 21:9 ส่วนหน้าจอหลักขยายเป็น 8 นิ้วและมีอัตราส่วนภาพ 10:9 

หน้าจอทั้งสองมีอัตราการรีเฟรช 120 Hz และจอด้านนอกใช้กระจก Gorilla Glass Victus 2 ด้านบน อย่างไรก็ดี เหมือนว่าข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปใช้ Ultra Flexible Glass (UFG) หรือเวอร์ชันที่อัปเดตของ Ultra-Thin Glass (UTG) สำหรับหน้าจอหลักนั้นยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจาก Samsung ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้

Z Fold Special Edition มีความบาง 4.9 มม. เมื่อกางออก และ 10.6 มม. ขณะพับ น้ำหนักลดลงเหลือ 236 กรัม – น้อยกว่า Z Fold6 ราว 3 กรัม แต่ความบางเฉียบก็แลกมาด้วยการที่ Special Edition ไม่รองรับปากกา S Pen

ทางด้านของกล้องได้รับการอัปเกรดเช่นกัน โดยมีกล้องตัวหลัก 200MP พร้อม OIS ซึ่งปรับปรุงขึ้นจากกล้องหลัก 50MP บน Z Fold6 + เลนส์อัลตร้าไวด์ 12 MP ที่ตอนนี้ได้รับ autofocus แล้ว + เลนส์เทเลโฟโต้ 10MP พร้อมซูมแบบออปติคัล 3x ส่วนกล้องหน้ามีสองตัวคือ 10MP บนจอด้านนอก + กล้องใต้หน้าจอ 4MP ที่หน้าจอหลัก

Fold Special Edition มาพร้อมกับ Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy ของ Qualcomm และมีให้เลือกในรุ่น RAM 16GB และความจุ 512GB เพียงรุ่นเดียว 

ด้านซอฟต์แวร์มาพร้อม One UI 6.1.1 ซึ่งครอบอยู่ด้วย Android 14 พร้อม Galaxy AI และ Samsung การันตีการอัปเดตซอฟต์แวร์มา 7 ปี นอกจากนี้ยังได้รับการเชื่อมต่อที่ปรับปรุงด้วยการเพิ่ม Wi-Fi 7 ซึ่ง Z Fold6 ยังไม่ได้ใช้งาน

แบตเตอรี่มีความจุ 4,400mAh แบบเดียวกันกับที่ใช้ใน Z Fold6 พร้อมรองรับการชาร์จแบบมีสาย 25W และไร้สาย 15W

Samsung เสนอ Z Fold Special Edition ในสี Black Shadow เพียงสีเดียว ราคาในเกาหลีใต้กำหนดไว้ที่ KRW 2,789,600 (ประมาณ 67,000 บาท)

น่าเสียดายที่อุปกรณ์นี้มีจำหน่ายเฉพาะในเกาหลีใต้และมีข่าวลือว่าจะเข้ามาในจีนเท่านั้น (อาจเป็น Galaxy W25) โดยจะไม่วางขายนอกสองประเทศนี้เลย

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพความแตกต่างระหว่าง Z Fold 6 กับ Z Fold Special Edition ทาง Ice Universe นักปล่อยข้อมูลชื่อดังได้เผยภาพเปรียบเทียบของทั้งสองรุ่นดังนี้

SOURCE1, SOURCE2