กรุงเทพฯ 18 พฤศจิกายน 2567 – Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250cc-750cc) สร้างสถิติใหม่! ทำยอดขายในอินเดียเดือนตุลาคม 2567 ทะลุ 110,574 คัน ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ พุ่งขึ้นถึง 31% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขาย 84,435 คัน นอกจากนี้ การส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ก็เติบโตไม่แพ้กัน โดยเดือนตุลาคม 2567 ส่งออกมอเตอร์ไซค์ได้ถึง 8,688 คัน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อนที่มียอดส่งออก 3,477 คัน ตอกย้ำความสำเร็จระดับโลกของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน!
คุณ บี. โควินดาราจาน ซีอีโอของ Royal Enfield กล่าวว่า “เดือนตุลาคม 2567 ถือเป็นอีกก้าวที่น่าจดจำสำหรับ Royal Enfield ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่กับยอดขายในอินเดียที่ทะลุ 110,000 คันในเดือนเดียว นับเป็นยอดขายที่สูงที่สุดและเป็นประวัติการณ์ของเรา นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวในตลาดบังคลาเทศและได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากชุมชนนักขี่รถจักรยานยนต์ ความนิยมในรุ่นต่างๆ ของเรายังคงแข็งแกร่ง และด้วยการเปิดตัวโมเดลใหม่ เรามั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนการเติบโตนี้ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสู่อนาคตที่ยั่งยืน เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะช่วยกำหนดอนาคตของวงการมอเตอร์ไซค์ พร้อมกับมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แท้จริง”
ยอดขายมอเตอร์ไซค์ | ตุลาคม | สถิติปีก่อนจนถึงปัจจุบัน | ||||
ปี 2024 | ปี 2023 | เพิ่มขึ้น | 2024’25 | 2023’24 | เพิ่มขึ้น | |
ภายในประเทศอินเดีย | 101,886 | 80,958 | 26% | 512,729 | 497,845 | 3% |
ส่งออก | 8,688 | 3,477 | 150% | 52,624 | 43,576 | 21% |
รวมทั้งหมด | 110,574 | 84,435 | 31% | 565,353 | 541,421 | 4% |
เกี่ยวกับ Royal Enfield:
Royal Enfield เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยได้สร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่สง่างามมาตั้งแต่ปี 1901 จากจุดเริ่มต้นในสหราชอาณาจักร Royal Enfield ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตในเมืองมาดราส (Madras) ในปี 1955 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่นำพาแบรนด์สู่การเติบโตในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในอินเดีย รถจักรยานยนต์ของ Royal Enfield มีเอกลักษณ์ที่เรียบง่าย ขับขี่สนุก และเข้าถึงได้ง่าย เป็นพาหนะที่เหมาะสำหรับการเดินทางสำรวจโลก พร้อมกับแสดงออกถึงตัวตนของผู้ขับขี่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นำมาสู่แนวคิด ‘Pure Motorcycling’
กลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียมของ Royal Enfield ได้แก่ Bear 650, Classic 650, Guerrilla 450 modern roadster, Hunter 350, Meteor 350, Super Meteor 650, Interceptor 650, Continental GT 650 twins, Shotgun 650, All-New Himalayan 450 adventure tourer, Scram 411 ADV Crossover รวมถึงรุ่นไอคอนิกอย่าง Bullet 350 และ Classic 350 นอกจากนี้ Royal Enfield ยังส่งเสริมชุมชนผู้ขับขี่ผ่านการจัดงานและกิจกรรมมากมายในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ โดยงานใหญ่ที่โดดเด่นที่สุด ได้แก่ Motoverse (หรือที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ในชื่อ Rider Mania) ซึ่งเป็นการรวมตัวประจำปีของผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield หลายพันคนในรัฐโกอา (Goa) ประเทศอินเดีย และทริป Himalayan Odyssey การเดินทางประจำปีผ่านภูมิประเทศที่ท้าทายและเส้นทางสุดอลังการของเทือกเขาหิมาลัย
Royal Enfield ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Eicher Motors Limited มีเครือข่ายการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่ายกว่า 2,000 แห่งในเมืองหลักและเมืองรองทั่วอินเดีย รวมถึงร้านค้าอีกเกือบ 850 แห่งในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีศูนย์วิจัยและพัฒนาระดับโลก 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่เมือง Bruntingthorpe สหราชอาณาจักร และเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย พร้อมด้วยโรงงานผลิตที่ทันสมัย 2 แห่งที่ Oragadam และ Vallam Vadagal ใกล้เมืองเชนไน และยังขยายการดำเนินงานไปทั่วโลกด้วยศูนย์ประกอบรถแบบ CKD สมัยใหม่ 6 แห่งในบังกลาเทศ เนปาล บราซิล ไทย อาร์เจนตินา และโคลอมเบีย