ไม่กี่วันหลังจากการเปิดตัวในจีน Xiaomi 15 Ultra ก็กำลังเข้าสู่ตลาดโลก โดยรุ่นในตลาดสากลมีสเปกแตกต่างจากรุ่นในจีนเล็กน้อย

แบตเตอรี่มีขนาดเล็กลงเหลือ 5,410mAh จากรุ่นจีนที่ 6,000mAh แต่ยังคงรองรับ HyperCharge แบบมีสาย 90W และไร้สาย 80W

ความแตกต่างอีกอย่างคือตัวเลือกสี ในยุโรป มีแค่สีขาว สีดำ และรุ่นพิเศษสีเงินโครเมียม ทำให้รุ่นพิเศษสีเขียวสนยังคงมีเฉพาะในประเทศจีน

Xiaomi 15 Ultra มาพร้อม Snapdragon 8 Elite พร้อม RAM สูงสุด 16GB กรอบตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียม บอดี้ด้านหลังเป็นใยแก้วพิเศษ รุ่นสีดำมีพื้นผิวปกติ ในขณะที่รุ่นสีขาวมีลายแกะสลักโค้งจากบนลงล่าง

หน้าจอใช้เป็นจอ AMOLED ขนาด 6.73 นิ้ว 3200x1440px รีเฟรชเรท 1-120Hz และความสว่างสูงสุด 3,200 nits ใช้กระจก Xiaomi’s Shield Glass 2.0 ซึ่งแข็งกว่าเดิม 16 เท่าในการแตกจากการตกหล่น

กล้อง (ที่ยังคงร่วมพัฒนากับ Leica) ประกอบด้วย

  • ตัวหลักมีเซ็นเซอร์ LYT-900 1 นิ้ว 50MP เหมือนกับรุ่นในจีน แต่เลนส์ไม่มีรูรับแสงแบบปรับได้ เหลือแค่ f/1.63 แบบคงที่
  • กล้องซูมสองตัว – 70 มม. f/1.8 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX858 ขนาด 1/1.251 นิ้ว และเลนส์เทเลโฟโต้ 100 มม. f/2.6 ใหม่ พร้อมเซ็นเซอร์ Samsung HP9 200MP ขนาด 1/1.4 นิ้ว
  • กล้องอัลตร้าไวด์ได้เปลี่ยนเป็นเลนส์ 14 มม. f/2.2 พร้อมเซ็นเซอร์ Samsung JN5 ขนาด 1/1.251 นิ้ว
  • กล้องหน้า 21 มม. f/2.0 พร้อมเซ็นเซอร์ 32MP

Xiaomi 15 ก็เปิดตัวทั่วโลกในวันนี้เช่นกัน มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,240mAh (รุ่นจีนมีแบตเตอรี่ 5,400mAh)

เจ้า Xiaomi 15 มีหน้าจอ LTPO AMOLED ขนาด 6.36 นิ้ว 1200x2670px รีเฟรชเรท 120Hz และ กระจกกันแตกเดียวกันกับ Ultra 15 ภายในตัวเครื่องใช้ชิป Snapdragon 8 Elite พร้อม RAM สูงสุด 16GB

Xiaomi 15 มีกล้องหลัก 23 มม. f/1.6 พร้อมอิมเมจเจอร์ 50MP 1/1.31 นิ้ว + เลนส์ซูม 60 มม. f/2.0 ที่ใช้เซ็นเซอร์ Samsung JN5 ขนาด 1/2.51 นิ้ว + กล้องอัลตร้าไวด์ 14 มม. f/2.2 และกล้องหน้า 22 มม. f/2.0 ที่ใช้เซ็นเซอร์ 32MP

Xiaomi 15 มีจำหน่ายในสีดำ สีขาว และสีมิ้นต์ และเริ่มต้นที่ 26,990 บาท ในรุ่น 12/256GB ส่วนรุ่น Xiaomi 15 Ultra ในรุ่น 16/512GB ราคา 42,990 บาท

SOURCE