Samsung เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นของรูรับแสงที่สามารถปรับได้ที่ไม่มีค่ายไหนทำได้มาก่อนและเป็นการสานต่อ Galaxy S ได้อย่างดี Samsung ได้เปิดตัว Galaxy S9 / S9+ มาด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจในหลายๆอย่างที่เป็นครั้งแรกของตระกุล S ทั้ง ลำโพงคู่ กล้องคู่ รูรับแสงปรับได้ Slowmotion 960fps และอีกมากมาย เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจอย่างมากทั้งด้านการพัฒนา และ ฟีเจอร์ใหม่ๆ โดยรุ่นนี้แม้ภายนอกการดีไซน์อาจจะไม่ได้แตกต่างมากนัก แต่ก็เรียกได้ว่า เป็นการพัฒนาต่อยอดได้ดี และมันจะดีจริง โหดจริงไหม ติดตามชมกันได้ในรีวิวนี้เลย !

GALAXY S9+ เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นมากมาย ที่เด่นๆที่เราสนใจกันมากที่สุดคือเรื่องกล้องหลัง สามารถปรับค่ารูรับแสง F1.5 / F2.4 ได้ 2 ค่านะครับซึ่งจุดนี้ดีงามมากจริงๆ ค่ายอื่นยังทำไม่ได้ และ ทำให้ภาพที่ได้นั้นโหดมากอีกทั้งถ่ายแบบ SLOW 960FPS ที่ใส่มาแล้วหลังจากที่ปล่อย Sony ใช้มา 1 ปีเต็มๆ ครับ และ จัดเต็มลำโพงคู่ Atmos  อีกด้วยในครั้งนี้ ดูครบเครื่องจริงๆครับ เรามาดูรีวิวจาก Techhangout กันเจาะลึก พูดตรงๆว่าจะเป็นยังไง !

สำหรับเครื่องที่เราได้มานั้น เป็นรุ่น 64GB สีดำ Midnight Black ซึ่งตัวนี้จะมี 3 สีคือ ดำ น้ำเงิน ม่วง ครับ ราคาอยู่ที่ 31900 บาทครับผม

UNBOXING SAMSUNG GALAXY S9+

ครั้งนี้กล่องยังคงมา สไตล์เดิม โทนเดิม สีดำโลโก้ สีฟ้าเด่นๆครับ ครั้งนี้ทาง Samsung ให้มาทั้งกล่องเลยทีเดียวจะมีบอก ความจุ และ สีบนตัวกล่องเลยนะครับ ตัวีท่แอดมินได้คือ S9+ 64GB Midnight Black

  •  คู่มือ ที่จิ้มซิม
  • Adaptor Fast charge
  • สายชารจ์ Type-C
  • ตัว แปลง เสียบ USB OTG
  • หูฟัง Samsung Tuned By AKG
  • จุกหูฟัง 2 ขนาดสำรอง
  • ตัวเครื่อง S9+

DESIGN

การออกแบบตัวเครื่องของ S9+ นั้นรวมๆยังคงเหมือนเอาดีไซน์ S8 มาพัฒนาต่อนิดหน่อยด้านหน้านั้นเรียกได้ว่ายังคงคล้ายแบบเดิมอย่างมาก แต่ความโค้งจะน้อยลงกว่าตัวก่อน จับกระชับขึ้นครับ วัสดุกระจก หน้าหลังเหมือนเดิม และเฟรมเป็นอลูมิเนียม แต่เป็นแบบด้าน แทนขัดเงาแบบ S8 แล้วครับ หน้าจอขอบบนล่างแทบจะเท่าเดิมเลยครับด้านหน้า Galaxy S9+ มาพร้อมกับดีไซน์จอ 18.5:9 เหมือนเดิมขอบจอโค้งทั้ง 2 ฝั่ง ขอบบนล่างหนาพอๆกับของเดิม และ มีการออกแบบที่คล้ายเดิมอย่างมาก หน้าจอ 6.2 ขนาดรวมๆบางลง เล็กลงประมาณ 0.4 มิล พร้อมทั้งใช้วัสดุกระจก Gorilla Glass 5 ทั้งหน้าและหลัง ครับ

ด้านหน้าส่วนบน จะเห็นไฟ สแกนม่านตา และ ไฟแจ้งเตือน ลำโพงตัวที่ 2 และ เซนเซอร์ กล้องหน้าต่างๆครับ  ในส่วนของขอบล่างบางลงนิดนึง มาพร้อมกับปุ่ม อยู่บนจอทั้งหมด และรองรับ Force Tocuh ครับ กดลงน้ำหนักได้ ส่วนขอบด้านล่างของเครื่อง นั้น มีรูหูฟัง 3.5 มม. อยู่ ดีงามมาก และ ชอง Type c และไมค์ และลำโพงตัวล่างครับ ด้านขอบขวามีปุ่ม เพิ่มเสียง ลดเสียง และ ปุ่มที่ใช้เรียก Bixby นั้นเองจะเห็นวัสดุมันขัดด้าน ต่างกับตัว S8 ที่จะเงา ด้านขอบบน นั้นจะเห็นว่า มีรูไมค์ และ ช่องถาดใส่ซิม และ เม็ม ครับเป็นแบบ Hybrid ซึ่งต้องเลือกเอาว่าจะเม็มหรือซิม ในช่องที่ 2 ด้านขวา นั้นไม่มีอะไรเรียบๆเป็นปุ่ม Power ครับผม จะเห็นความบางที่บางกว่าตัวเดิมแค่ 0.4 ครับผม ด้านหลังเครื่องมาพร้อมกับวัสดุกระจกสีดำเงา งามเรียบหรู สแกนนิ้วด้านหลังยังมีอยู่ แต่เปลีย่นตำแหน่งสแกนง่ายขึ้นและ มาพร้อมกล้องคู่ บนล่าง และ แฟลช วัดหัวใจอยู่ด้านขวาครับ
อีก 1 จุดเด่นที่เราไม่ควรพลาดที่จะพูดถึงคือ การที่กล้องสามารถปรับรูรับแสงได้ แบบจริงๆไม่ใช่ Software จะเห็นม่านรูรับแสง 2 ภาพนั้นแตกต่างกันในกล้องตัวบนครับ F2.4 นั้นไว้ถ่ายกลางวัน และ F1.5 มันจะไว้ถ่ายกลางคืน แต่เราก็สามารถปรับได้เองเช่นกันในโหมดโปรครับ เผื่อใช้ F2.4 ถ่ายกลางคืนเวลาเล่นกับ Speed S้utter นั้นเอง

SPEC

  • หน้าจอแสดงผลขนาด 6.2 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 1440 x 2960 พิกเซล (531 ppi) บนอัตราส่วน 18.5:9+ กระจกหน้าจอแบบ Corning Gorilla Glass 5
  • ชิปเซ็ต Exynos 9810 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.9 GHz + Mali-G72 MP18
  •  RAM ขนาด 6 GB / ROM ขนาด 64 GB
  • กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.7
  • กล้องคู่ด้านหลัง (Dual-Camera) แบบ Super Speed Dual Pixel ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล โดยกล้องหลัก ขนาดของรูรับแสงกว้าง F/1.5 และ F/2.4 ส่วนกล้องตัวที่สอง ขนาดรูรับแสงกว้าง F/2.4, ระบบกันภาพสั่นแบบ Dual-OIS, ไฟแฟลชแบบ LED และโหมดการถ่ายภาพแบบ Super Slow Motion 960 fps พร้อมฟีเจอร์ Auto Motion Detection
  • คุณสมบัติด้านการกันน้ำและฝุ่น ตามมาตรฐาน IP68 สามารถอยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที
  • แบตเตอรี่ขนาด 3500 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว และการชาร์จแบบไร้สาย (Wireles Charging)
  • รองรับเซ็นเซอร์สแกนม่านตา (Iris Scanner)
  • ฟีเจอร์ Always-On Display
  • รองรับ Samsung Dex และ Bixby
  • ลำโพงเสียงสเตอริโอจาก AKG
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (Oreo)

PERFORMANCE

ประสิทธิภาพในการใช้งานบอกเลยว่า คะแนนมาแรงแซงทุก Android เลยทีเดียว 240000 กว่าคะแนน และ ทำคะแนนได้ดี ในทั้ง Single / Multi Core ครับ ส่วนหน่วยความจำนั้นเป็น UFS 2.1 เลยทีเดียว จัดเต็มจริงๆ คะแนนแรงๆแบบนี้เราต้องมาดูว่า จะใช้งานได้ลื่นไหล โหดกันขนาดไหนครับผม เล่นเกมส์จะดีจริงๆ

SOFTWARE AND UI

ในด้าน Software มาพร้อมกับ ตัว Android 8.0 และ ครอบทับด้วย Samsung Experience 9.0 ใช้งานได้ค่อนข้างดีระบบลื่นกว่าแต่ก่อนมากแล้วแอพขยะน้อยลงมากครับ ฟีเจอร์ก็ยังมาครบ มีเลขแอพ App Drawer มาอยู่ครับ ส่วหน้าล็อคก็ตามแบบ Android ทั่วไป มี Widgets นาฬิกาปรับเปลี่ยนได้ App Drawer ปัดขึ้นมาสะดวกดี

Quicksetting นั้นลากลงมา 1 ครั้ง มีให้เลือกสั้นๆ แต่ถ้าลงอีกรอบจัดเต็มทุกอย่างเยอะจริงๆแล้วก็สามารถปรับความสว่างหน้าจอได้เลยครับ ส่วน MultiWindows นั้นบอกเลยว่า ทำได้เยอะกว่าในภาพอีกนะ ถ้าเล่นไหว 55

หน่วยความจำตัวนี้มาพร้อม RAM 6GB เหลือ 3 GB และ มีคีย์อบร์ดไทยมาพร้อม ของ Samsung อีกทั้งความจำ 64 GB เหลือ 36.7 ถือว่าใช้ทั่วไปสบายครับ เพิ่ม Micro-sd ได้อีกถึง 400 GB เลยทีเดียว แต่ 128/256 ก็มีนะ

GESTURE นั้นจัดว่าเยอะมากเลย ทั้งการพักหน้าจอ คอยจับสายตาเรา แตะสแกนนิ้ว เลื่อนได้ กด เข้ากล้องอย่างไว ฝ่ามือจับหน้าจอ และอีกมากมายย การเตือนแบบใหม่ต่างๆ เวลาคว่ำหน้าจอ ยกมือถือจะสั่นเองและอีกมากมาย มีโหมดเกมอะไรมาด้วย คอยดึงประสิทธิภาพมากมาย ทั้งเวลาเล่นเกม หรือ ดูหนัง ปรับสีจอวีดีโอต่างๆครับ และ สามารถปรับจอแบบ HD – FHD อะไรได้ด้วยให้มันประหยัดแบตกว่าเดิม

THEME

สำหรับธีมในระบบนั้นก็ปรับเปลี่ยนได้ค่อนข้างเยอะครับ ทั้งหน้าตา แอพ โทนสีในตัวหน้าตาทั้งหมด และ Wallpaper ใน่สวนของการโทรเข้าออก ธีมต้องบอกว่ามีให้เลือกเยอะ แต่ที่สวยๆนั้นส่วนใหญ่ต้องเสียตังเอาครับเท่าที่ลองดูก็ถือว่าเยอะเลยทีเดียวและมีผลต่อหน้าตาในหลายๆส่วนเลยครับ ไม่ใช่แค่เปลี่ยน ICON แบบบางแบรนด์

จะเห็นได้ว่าธีม นั้นมีผลอย่างมาก เช่นหน้าตาตอนโทร ก็มีการเปลี่ยนแป้นพิมพ์ หน้ารายชื่อ หน้า Always On หน้า Message และ หน้าตาของ Quicksetting ก็มีผลค่อนข้างเยอะในจุดนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีครับสวยน่ารักไปเลย

AR EMOJI

เป็นอีกจุดเด่นสำหรับ S9 / S9+ เลยก็ว่าได้สำหรับฟีเจอร์นี้ มันก็คือการทำหน้าเราเป็นตัวการ์ตูนแบบ 3 มิติ หรือจะเป็นหน้า มิิกกี้ เมาส์ ต่างๆก็มีให้เลือกครับ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจและมีแค่รุ่นนี้ด้วย หลังจากเราทำก็จะได้เป็นหน้าเราแบบ การ์ตูน สามมิติ ที่มันจะขยับตามเราพูด หันหน้า มองต่างๆได้เลย หรือเป็นสติกเกอร์ GIF ก็สามารถทำได้

ซึ่งสติกเกอร์ก็มีมากมายเราสามารถเลือกและกดใช้ได้เลยกล้องหน้าหลัง แต่ถ้าอยากทำหน้าเราก็เลือก Create Emoji ได้เลยครับ เราก็ต้องทำการถ่ายหน้าตัวเองแบบตรงๆ ถอดแว่นออกครับเห็นทั้งหน้า จากนั้นเลือกเพศของเรา และรอมันจำทำออกมาให้เองเลย ง่ายมาก !! และเมื่อทำออกมาแล้วสามารถเลือก ทรงผม สีผม เสื้อ แว่น หน้าตาได้อีกด้วยครับ หลายๆคนจากที่ลองมาค่อนข้างเหมือนเลยและเลือกสีผิวได้ด้วยนะ เข้ม อ่อน ยังไงเนียนๆกันไปสนุกดี

และตัวหน้าตาของเราเมื่อทำออกมาแล้วนั้นสามารถเป็นสติกเกอร์ได้ด้วย 18 แบบ มันจะทำออกมาให้เองเลยครับและด้านล่างก็เป็นตัวอย่าง AR Emoji หลากหลายแบบที่จำลองหน้าหลายๆคนดูนะครับ หรือ แม้แต่ตัวการ์ตูนก็มีนะ

EDGE LIGHTING

ไฟแจ้งเตือน ขอบๆ ที่เป็นจุดเด่นของตระกูลนี้ที่เริ่มมาใช้กันหลังจาก S8 นั้นถือว่าทำได้ดีมากและมันสวยงามมากเลยนะ มันคือไฟแจ้งเตือนเวลามี ข้อความหรือ Line Facebook ต่างๆครับ ซึ่งไฟนี้จะวิ่งรอบขอบ ไล่เป็นเส้นสวยงาม

ไฟขอบรุ่นนี้สามารถปรับได้เยอะมากๆครับทั้ง สี หรือ จังหวะของแสงว่าจะเป็นสีเดียว หรือ หลากหลายสี หรือจะ Glow ดูเรืองแสงๆ แม้กระทั่งแบบสีรุ้งที่แอดมินใช้อยู่ ตั้งได้ว่าให้มันเปิดตลอด หรือ แค่ตอนจอเปิด หรือ จอปิดครับ อีกทั้ง  แอพ Edge ก็ยังคงมีอยู่สำหรับเข้าใช้งานจากขอบจอ เราสามารถปัดขึ้นมาจากขอบได้เลยนั้นเอง

และอีกจุดที่แอดมินชอบมาก นั้นก็คือตัวไฟรอบๆขอบ เวลาเราคว่ำหน้าจอ และ มีคนโทรเข้าจะเห็นแสงสีเขียววิ่งรอบเครื่องแบบสว่างๆมากทำให้เรารู้ว่ามีคนโทรเข้ามาครับอันนี้เป็นจุดเด่นที่มือถือรุ่นอื่นไม่มีเลยเวลาประชุม ปิดสั่นคว่ำหน้าไว้ก็สามารถรับรู้ได้ว่ามีคนโทรมานั้นเอง ต้องบอกว่าใช้ประโยชน์จากจอโค้งได้เต็มที่จริงๆครับสำหรับ SS

ALWAYS ON DISPLAY

หน้าจอ AOD นั้นเป็นอีกอย่างที่ ทาง SS ได้เริ่มมาในยุคแรกๆที่หน้าจะจะติดตลอดเวลาไม่ใช้งาน จะแสดงให้เห็นพวกเวลา วันที่ การแจ้งเตือนต่างๆโดยที่เราไม่ต้องกดดูจากมือถือ และ มันพัฒนาขึ้นให้มีหน้าตาสวย ใส่รูปอะไรได้

นี่ก็เป็นหน้าตาการตั้งค่าว่าเราสามารถรปรับอะไรได้ค่อนข้างเยอะ แสดงอะไรบ้าง เปลี่ยนสีนาฬิกา หรือ รูปแบบได้ซึ่งมีความหลากหลายเยอะขึ้นครับ หน้าตาสวยงามกว่าเดิม และ มีพื้นหลังสวยๆอีกด้วยสำหรับหน้าจอ AOD ครั้งนี้และอัพเดทล่าสุดทำให้มันใช้งาน หน้านี้โดนเราใส่ ไฟล์ GIF มาไว้บนนี้ได้ด้วยจะขยับๆหน่อย เช่นเอา AR EMOJI มา

FACE / IRIS SCAN 

ระบบสแกนหน้าได้เพิ่มเข้ามาเป็นอีก 1 ตัวเลือกของระบบปลดล็อคจากทาง Samsung ครับ ซึ่ง จะมีการใช้งาร่วมกับสแกนม่านตาได้ด้วยคือ ระบบเรียกว่า INTELLIGENT SCAN เพราะมันจะทำงานสลับระหว่างสแกนม่านตาและสแกนหน้า 2 อย่างนี้ตลอดครับทำให้มันไวขึ้นและสะดวกขึ้นมากที่มืดๆ ก็จะทำให้สแกนม่านตาติด ที่สว่างๆก็สามารถใช้หน้าปลดล็อคได้ไวมาก หรือจะสแกน ม่านตาได้ด้วยเรียกได้ว่าแม่นยำและไวครับ หรือถ้าไม่ได้จริงๆก็ยังใช้สแกนนิ้วในด้านหลังของตัวเครื่องสแกนได้ จะเห็นบนหน้าจอนั้นจะเป็นรูปหน้าและสลับกับรูปดวงตาครับผม
ด้านซ้ายสุดคือตั้งค่าต่างๆว่าเราจะเลือกสแกนแบบไหนครับ จะให้ปัดหน้าจอต่างๆไหม และ สแกนหน้าตา สแกนม่านตาครับผม  ระบบนี้คือดีมากเพราะ มันไวสะดวก ใช้ได้เต็มที่มากทั้งหน้าและม่านตา อันนี้ถือว่าทำได้ดีครับ

SCREEN

สำหรับหน้าจอตัวนี้ แน่นอนว่ายังคงใช้ Super AMOLED ความละเอียด 1440 x 2960 พิกเซล (531 ppi) บนอัตราส่วน 18.5:9 ซึ่งต้องบอกว่าหน้าจอไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทั้งความสว่าง สีสดใสมาก และ เอกลักษณ์ของ Samsung เลยทีเดียวคือหน้าจอเนี่ยแหละจะสีสดใส สวยงามมากๆจนบางคนไม่ชอบก็มี และการสู้แสงแดด ได้ดีมาก อีกทั้งยังหรี่แสงได้ต่ำมากๆเลยทีเดียว แน่นอนรองรับ HDR10  อีกด้วยครับ และกระจกเป็น Gorilla 5

SOUND MUSIC

สำหรับเรื่องของเสียงเพลง ผ่านหูฟังที่ยังมีรู 3.5 มม.อยู่นั้นทำออกมาคล้ายตัวก่อนหน้านี้ครับ ทั้งกำลังขับและเสียงเพลง รายละเอียดอยู่ในระดับกลางๆไม่ได้เด่นในเรื่องนี้เท่าไรนัก แต่เสียงที่ได้ไม่ถือว่าเลวร้ายซึ่งมีความนุ่มและ ไม่จัดเท่าไรนัก ตัวเครื่องยังมี รู 3.5มม.อยู่ซึ่งถือว่าค่อนข้างสะดวกในการฟังเพลงแต่ก็สามารถใช้ตัวแปลง ได้ถ้าต้องการเพิ่มแรงขับให้มันมากขึ้น โดยที่ตัวหูฟังที่แถมมานั้นคือตัวเดียวกับ Galaxy S8 นั้นเองซึ่งปรับเสียงโดยทาง AKG

ตัว Software จัดการเสียงก็มีให้ปรับมาหมาย ทั้งสูงต่ำ เบส เน้นเสียงดนตรี UHQ ต่างๆ จำลอง แอมป์ หรือแม้กระทั่ง Atmos ครับ ซึ่งก็มี ระบบจูนเสียงหูของเรา ซ้ายขวาด้วยว่าตั้งค่าแบบไหนถึงจะเหมาะ มันจะให้ฟังเสียงย่านความถี่ต่างๆและจำนำมาวิเคราห์ะให้เองครับ ถือว่าเป็นระบบที่ดีจะคล้ายๆ U-Sonic แต่อันนี้น่าจะไม่ละเอียดเท่าครับ

ตัวหูฟังนั้นเป็นแบบเดิมที่คุ้นเคยกัน ปรับเสียงจาก AKG นะครับ มาแบบ INEAR และ เป็นสายถักครึ่งเส้น ส่วนปลายทั้ง 2 ข้างมาหูฟังเป็นสายปกติ มีปุ่มควบคุมมาให้ และ ตัวจุกใส่ค่อนข้างสบายครับ เสียงที่ให้สำหรับตัวนี้อยู่ในระดับดีกว่าทั่วไป แต่เมื่อเทียบหูแถมแล้วยังเป็นรอง LG / HTC ครับผม ตัวนี้เสียงจะออกกลางๆ ไม่เน้นเบสมากนักรายละเอียดมากำลังดี ไม่แหลม ไม่จัด และทำออกมาได้นุ่ม เสียงเกือบจะเป็นแนวของ AKG ก็ถือว่าเป็นหูแถมที่น่าสนใจ

SPEAKER

สำหรับลำโพงตัวนี้เป็นครั้งแรกของทาง Samsung ที่ใส่ลำโพงคู่มาและยังรองรับ Dolby Atmos และ ยังมีการปรับเสียงโดย AKG อีกด้วยเรียกได้ว่าจัดเต็มเลย ลำโพง บนล่างตำแหน่งแบบเดียวกับ iPhone 7-8  Huawei P20  และ HTC นะครับคืออกตัวล่างเป็นหลักดังๆ และ ตัวบนที่ไว้คุยออกค่อยกว่านิดหน่อยครับ เป็น 2 ตัวบนล่าง เรื่องเสียงความดังมิติอะไรยังไงก็ไปฟังกันได้ ต้องบอกว่าดังขึ้นกว่ารุ่นเดิมอย่างมากครับ และไม่แหลมแสบหูเกินไปแล้ว

GAMING

สำหรับสายเกมส์นั้นก็ถือว่าไว้ใจได้พอสมควรสำหรับการเล่นเกมส์ซึ่งตัว Exynos นั้นหลายๆคนคงจะรู้ว่าสายเกมส์คงไม่เหมาะเท่าไรไม่นิ่ง ไม่ลื่น เราจึงลองในหลายๆเกมส์ให้ครับ ทั้ง ROV / PUBG / INJUSTICE / DC UNCHAIN / FUTUREFIGHT ทั้งหมดนี้เล่นได้ลื่นแบบสบายๆ ทั้งในเรื่องของภาพ และ ความสมูทครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้ามองดีๆ หรือเทียบกับ พวกตระกูล SNAPDRAGON จะเห็นว่าพวกนั้นลื่นกว่าครับ อย่างเช่น ROV ตัว S9+ นั้นจะอยู่่ที่ 59-60 แต่เวลาบวก ตกไป 50 เลยทีเดียว แตกต่างกับ บางแบรนด์ที่เป็น Snap นั้น นิ่งที่ 59-61 ซึ่งใครสายเกมส์ต้องดูจุดนี้ดีๆนะ แต่ถือว่าพัฒนาขึ้นมาพอสมควร จากที่แต่ก่อนจะแตกต่างชัดเจนกว่านี้ครับ

GPS

สำหรับการจับ GPS นั้นถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีมากกกก คือแอดไม่ค่อยเจอ มือถือตัวไหนที่จับได้เขียวเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยนะในที่ทดสอบมา อันนี้ถือว่าแปลกใจอยู่ จับได้ไวและเร็วมากครับพัฒนาขึ้นมากจริงๆจากรุ่นเดิมและในการนำทางทำได้ค่อนข้างแม่นและไวครับไม่หลุดออกนอกทางหรือประมวลผลไม่ทันเลยเวลานำทางอันนี้ดี

BATTERY

การใช้งานแบต ทั้งวันเอาอยู่สบายครับ แต่ไม่ได้อึดมากนักนะ คือทั้งวันได้แต่กลับมาก็ชาร์จเลย เพราะจากที่แอดมินลองใช้งาน 11 ชั่วโมง จาก 100 เปอร์ กลับมาบ้านตอน 2 ทุ่ม แบตเหลือ 14เปอร์ครับ หน้าจอ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งใช้งานหลักๆึคือฟังเพลง เล่นเกม Facebook และ ถ่ายรูปบ้างครับ แบบทั่วไปที่แอดทดสอบ ใช้งานจริงก็ประมาณนี้ ในการชาร์จเข้านั้น สามารถใช้ ไร้สาย หรือ QuickCharge ได้นะ จะเป็น 2.0 นะครับ เร็วพอสมควร

CAMERA

สำหรับกล้องคู่ด้านหลัง (Dual-Camera) แบบ Super Speed Dual Pixel ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล โดยกล้องหลัก ขนาดของรูรับแสงกว้าง F/1.5 และ F/2.4 ส่วนกล้องตัวที่สอง ขนาดรูรับแสงกว้าง F/2.4, ระบบกันภาพสั่นแบบ Dual-OIS, ไฟแฟลชแบบ LED ซึ่งจัดเต็มจริงๆและจุดเด่นมันคือการปรับรูรับแสงได้ ภาพที่ได้ค่อนข้างสวยธรรมชาติ และ ตัวนี้พิเศษคือมีละลายหลัง Live Focus นะครับซึ่งรุ่น S9 จะไม่มีหลังจากที่ลองบอกเลยว่ากล้องทำได้สวยงามมากและ ละลายหลังเนียนตาไม่หลอกเกินไปครับ ซึ่งถือว่าทำได้ดีกว่ารุ่น Note 8 และ สว่างกว่า

หน้าตาการตั้งค่าต่างๆก็จะยังคงรูปแบบเดิมใช้งานง่ายและสะดวก นิ้วปัดไปๆมาๆขึ้นลงสลับกล้อง ซ้ายขวาเปลี่ยนโหมด ซึ่งทำได้ลื่นมาก จนบางที ก็เปลี่ยนโหมดไปแบบเร็วมาก ทั้งที่ไม่ได้จะเปลี่ยน เช่นเวลาปรับ ชัตเตอร์ในโหมดโปรนั้นเอง ชอบไปโดนเปลี่ยนโหมดอยู่เรื่อยเลยครับ เรามาดูตัวอย่างภาพถ่าย AUTO + HDR + LIVEFOCUS

PRO MODE 

โหมดมืออาชีพ เล่นได้สนุกมากขึ้น เจ๋งมากขึ้น เล่นกับแสงไฟได้มากขึ้นเพราะ การปรับ รูรับแสงได้แคบทำให้ภาพไม่โอเวอร์และยังคุมสีได้ดีครับ ปรับได้ 10 วิ – 24000 และ ISO 50-800 ครับผม F1.5/F2.4 สำหรับรูรับแสง และเราทำให้ดูว่า F2.4 / F1.5 มันแตกต่างจริงๆ สำหรับ ตั้งค่าทุกอย่างเหมือนกันหมดนะครับ จะเห็นชัดมากเลยว่าสว่างกว่าแบบชัดเจนครับผม และละลายหลัง แบบเดิมๆไม่ใช่ Software นั้น ก็แตกต่างแบบชัดเจนเลย

VIDEO + SLOWMOTION 960 FPS !

ถ่ายวีดีโอ ตัวนี้จัดเต็มด้วย 4K 60FPS ครับ เรียกได้ว่า ลื่นไหลและนิ่งสวยมากๆสำหรับตัวนี้ จะเป็นยังไงก็ไปชมกันได้เลย สำหรับการกันสั่นอาจจะไม่ได้เทพมาก แต่ก็ถือว่าดีใช้ได้ครับ ระบบเสียงเวลาคุยหรือพูดก็ดังชัดเจนเลยทีเดียว

super slowmotion 960fps ไม่ใช่ของใหม่แต่ก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ถ่ายสนุกขึ้นใน Samsung ทำให้จังหวะภาพสวยๆหรือหยุดเวลาได้เลย การถ่ายนั้นก็สามารถกดแบบ Manual ว่าจะให้ Slow ตอนไหน หรือว่า แบบ Auto มันจะถ่ายเองว่าเวลามีอะไรเคลื่อนไหวผ่านกล้องแบบชัดๆก็จะ Slow ให้เองเลยครับ อีกทั้งมีฟีเจอร์ ย้อนเวลากลับ หรือ วนลูปแบบ ในคลิปอีกด้วยแต่จะเป็น GIF นะ ที่แมวกระโดดไปมา กับ ย้อนเวลากลับของเม็ดข้าวและหยดน้ำ ครับ

SELFIES

กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสง F/1.7 และมาพร้อม AF อีกทั้งยังมี AR EMOJI  / Wide Selfies และ ละลายหลังอีกด้วยครับ เรียกได้ว่าจัดเต็มมากๆ และยังมีแบบแต่งหน้าให้ด้วยนะจะเป็นยังไงไปชมภาพกันได้เลยครับ ทั้งหลากหลายโหมดที่ได้ลอง และ แต่งหน้าแบบมีขนตา ทาแก้ม ทาปากมาให้ครับ เลือกโทนได้

SAMSUNG GALAXY S9+ เป็นการพัฒนาลบข้อเสียจากเดิม !

ต้องบอกเลยว่า S9+ นั้นตอนแรกที่เห็นมันช่างเหมือน S8 Minorchange จริงๆ และ ด้านหลังก็ไปคล้าย A8 ซะงั้นซึ่งหลังจากที่ลองนั้นต้องบอกเลย ว่า เออจริง มันคือการลบข้อเสียจากตัว S8 ซะมากกว่า และ ดีไซน์ต่างๆยังคงคล้ายเดิมแบบคล้ายมากๆครับ แล้วมันดีไหม ก็ดี เพราะมันลงตัวมากขึ้น ใช้งานได้ดีขึ้น ทั้งกล้อง เสียง ลำโพงต่างๆแต่ถ้าใครสายเกมส์ ฟังเพลงโหดๆ แรงขับเยอะๆ รุ่นนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบ แต่ถ้า สายถ่ายรูป ใช้งานทั่วไป จอสวย ลำโพงดัง มีของกินฟรี Galaxy Gift ต่างๆ รุ่นนี้มันโคตรลงตัวครับ เป็นการพัฒนาที่ดี แต่ ดีไซน์ยังคงเดิมนั้นเอง

ข้อดี 

  • จอยังคงทำได้สวยงามตามแบบ Samsung
  • งานประกอบดี ขอบข้างแบบด้านสวยและเป็นรอยยากกว่าเดิม
  • ลำโพงคู่ครั้งนี้ทำได้ดีและดังกว่ารุ่นก่อนมาก
  • กล้องหน้าทำได้สวยและมี Autofocus
  • กล้องหลังปรับรูรับแสงได้ โหดมาก และใช้งานได้จริงๆ ไม่ใช่ Software
  • ตำแหน่งสแกนนิ่วดีขึ้น และ สแกนใบหน้า + ม่านตา เป็นฟีเจอร์ที่ดี สลับกันสแกน
  • ความแรงของ CPU + RAM 6GB ทำได้ดีในการใช้งานทั่วไป

ข้อสังเกต

  • Exynos ที่ขายนั้นต้องยอมรับว่าเล่นเกมส์ไม่โหดเท่า Snap (แต่พัฒนาดีขึ้นมาก)
  • ดีไซน์ และ บางส่วนนั้นเหมือนจะเป็น S8+ ตัวปรับปรุงซะมากกว่า
  • Software ตัวนี้ยังเจอ ความไม่ลื่น+มีแอพเด้งอยู่เล็กน้อย
  • แบตทั้งวันแบบ พอดีๆ ไม่ได้อึดมากนัก พอๆกับตอน S8+ ครับผม

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะงับ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

Review By Nineztr

ขอขอบคุณทาง SAMSUNG THAILAND สำหรับ Samsung Galaxy S9+ ในการรีวิวครั้งนี้ครับ