สวัสดีกันอีกครั้งแฟนเพจทุกท่าน และเป็นการรีวิวอีกครั้งในสาย Notebook Laptop ที่เรียกได้ว่ามีการใช้งานที่หลากหลายที่สุดและ เหมาะแก่การใช้งานในทุกๆรูปแบบ ด้วยการที่ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ยืดหยุ่นอย่างมาก อย่างที่แอดไม่เคยเจอมาก่อนเลยจริงๆ ซึ่งเหมาะสำหรับสายงานแอดมินอย่างมาก คือ สถาปนิก นั้นเอง หรือ สายงาน กราฟฟิค ถ่ายภาพ หรือ แม้แต่ นศ ใช้ทำงานก็ยังไหว
Microsoft Surface Book 2 ซึ่งจุดเด่นของตัวนี้คือการที่ Notebook นั้นสามารถถอดจอได้ และ ยังรองรับปากกา และ การใช้งาน ทั้ง 4 รูป แบบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ใช้งานปกติ ถอดมาเป็น Tablet ใช้แบบ Studio หรือจะเป็นใช้งาน ตั้ง View mode นั้นเองครับ จะเป็นยังไงไปชมกันได้เลย แถมครั้งนี้ Microsoft thailand ได้นำ ปากกา Surface pen มาให้เรารีวิวด้วย
Surface Book 2 นั้นเปิดตัวในประเทศไปเมื่อเดือนก่อนและได้วางขายกันแล้วในหลากหลายรุ่น เพราะทั้งยังมี Surface laptop มาอีกด้วย แต่ครั้งนี้เราจะมาเน้นในตัว Book กันก่อนดีกว่าครับ ตัวที่เรารีวิวนั้นจะเป็นตัวเริ่มต้น Core i5 256GB of Storage, 8GB of ram : 54,900 บาท ที่ไม่มีการ์ดจอแยกนะ แต่ ก็ใช้งานได้มากกว่าที่แอดมินคาดคิดไว้มาก โดยมีราคา ดังนี้ และ ขนาดจอ มี 13 กับ 15
- 13.5″
Core i5 256GB of Storage, 8GB of ram : 54,900 บาท
Core i7 256GB of Storage, 8GB of ram, GTX1050 : 72,900 บาท
Core i7 512GB of Storage, 16GB of ram, GTX1050 : 82,900 บาท
Core i7 1TB of Storage, 16GB of ram, GTX1050 : 109,900 บาท15″
Core i7 512GB of Storage, 16GB of ram, GTX1060 : 103,900 บาท
Core i7 1TB of Storage, 16GB of ram, GTX1060 : 118,900 บาท
SURFACE BOOK 2 UNBOX + PEN
สำหรับตัวกล่องนั้นจะค่อนข้างเรียบง่ายและดูดีครับ แพ็คของมาอย่างดีและ มีความแข็งแรงอย่างมาก เปิดฝามาจะเห็น Surface นั้นวางนิ่งอยู่นั้นเอง และ ข้างบนนั้นจะเป็น สายชาร์จ Adaptor และ คู่มือครับผม และ สำหรับตัวปากกานั้น ก็เป็น กล่องแบบ สไลด์ ถือว่า เรียบง่ายเอามากๆเลยสำหรับ การออกแบบในตัวแพ็คเกจ
SPEC SURFACE BOOK 2
- หน้าจอ : PixelSense ความละเอียด 3000 x 2000 อัตราส่วน 3:2, Multi touch 10 จุด
- CPU : Dual-core up-to 3.5GHz Intel Core i5
- RAM : 8 – 16GB LPDDR3
- GPU : Intel® HD Graphics 620
- ความจุ : 256GB
- กล้องหลัง : 8MP
- กล้องหน้า : 5MP
- ลำโพงคู่หน้า Dolby Audio Premium
- ช่องเชื่อมต่อ : USB 3.0 2 ช่อง, USB-C, รูหูฟัง 3.5 มม., Surface Connect 2 ช่อง, SDXC
- น้ำหนัก : 1.53 กก. / 1.64 กก. (รวมคีย์บอร์ด)
- แบตเตอรี่ : ดูวิดีโอต่อเนื่องได้ 17 ชม.
DESIGN SURFACE BOOK 2
สำหรับตัวเครื่อง Surface book 2 นั้นต้องบอกก่อนเลยว่าแรกเห็นมันดูสวยหรู และ แข็งแรงมากๆ ไม่ได้มีความบางอะไรมากนัก และ เดาว่าต้องมีน้ำหนักพอสมควร และเมื่อจับก็ต้องบอกเลยว่า วัสดุดูดีมาก แม็กนีเซียมสีเงิน ทั้งเครื่องงานประกอบทำได้เนียนและแข็งแรงมากๆ ทั้งส่วนของ คีย์บอร์ด และ จอครับ และค่อนข้างเก็บช่องระบายอากาศได้เนียนและสวยเลยทีเดียว หน้าจอรุ่นนี้จะสามารถสัมผัสได้อีกด้วย และ รองรับปากกา
ตัวเครื่องขนาด 13 นิ้วแต่จอแบบ 3:2 นั้นจะเป็นอัตราส่วนที่แปลกๆแต่ถือว่าใช้งานได้ไม่ติดขัดครับ เมือมองด้านข้าง นั้นจะเห็นได้ว่าเมื่อเราพับลงมาจะมีพื้นที่ส่วนข้อต่อที่จะค่อนข้างสูงและอาจจะทำให้เครื่องหนานั้นเองแต่เวลาถือไปไหนมาไหนตรงนี้มันรับมือได้ดีเลยทีเดียว ขอบเครื่องค่อนข้างคมเนียนสวยเลยครับ
ในส่วนของน้ำหนัก และ ขนาด ต้องบอกว่าอาจจะไม่ได้เบามากนักเมื่อเทียบกับ 13 นิ้วบางรุ่น แต่ที่มันหนักแบบนี้เพราะ ความแข็งแรงและ การถอดจอ ออกมาได้นั้นจึงทำให้เครื่องไม่สามารถทำได้บางกว่านี้ และ ข้อต่อที่ต้องรับน้ำหนัก ของตัวจอไว้ด้วยนั้นเอง ส่วนของช่องระบายอากาศนั้นก็ซ่อนไว้รอบๆฝาขอบจออีกด้วยครับ
ตัวหน้าจอนั้นจะมีแถบแม่เหล็กแรงๆไว้ดูดติดกับ ปากกา Surface นะครับเราสามารถแตะให้มันติดกันไปเวลาพกไปไหนได้ด้วยสะดวกมากๆ และอยู่ค่อนข้างดีแรงมากๆไม่หลุดไปไหนพกพาง่ายครับจุดนี้ดีกว่าอีกแบรนด์ที่จะพกยากกว่า
ด้านหลังของตัวเครื่อง เรียบๆไม่มีรูระบายอากาศอะไรทั้งนั้นครับเพราะรุ่นนี้ไม่มีพัดลมระบายอากาศด้วยจากที่ไม่มีการ์ดจอแยกนั้นเองสำหรับรุ่นนี้ และ มียางรองกันลื่นมาเป็นแถบๆใต้เครื่องยาวๆ 2 เส้นครับ
SYSTEM SOFTWARE
Windows 10 Pro Creators Update ลิขสิทธิ์ ในเรื่องของการใช้งาน ประสิทธิภาพนั้นต้องบอกว่าเหลือๆสบายสำหรับใช้งานทั่วไป + กราฟฟิค จากที่แอดมินใช้มาเดือนกว่าๆเกือบ 2 เดือนนั้นพอใจในประสิทธิภาพที่ให้มามากๆครับเรามาดูคะแนนในแต่ละส่วนกันก่อนเลย ซึ่ง 3D MARK จะเป็นแอพทดสอบประสิทธิภาพเครื่องนั้นเองครับ จะเรียงจาก พวก Gaming Notebook ไปจนถึง Mobile Device ระดับสูงนะครับผม คะแนนในภาพแรกๆจึงอาจจะไม่ได้เยอะมากเพราะมันไว้ทดสอบ Gaming Notebook นั้นเอง
และสำหรับสเปคนั้น HARDWARE ก็จัดมาให้ครบ แต่รุ่นนี้จะไม่มีการ์ดจอแยก ครับผม intel Core i5-7300U เป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก 2.6GHz สูงสุดที่ 3.5GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads สำหรับ การ์ดจอออนบอร์ด นั้น Intel HD Graphics 620 ในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบาย แต่ถ้าเป็น 3 มิติ ก็พอไหวไม่หนักมากแต่ก็เล่นเกมส์ได้สบายๆอยู่นะครับ ถ้าไม่กินสเปคมากนัก
การอ่านเขียนนั้นค่อนข้างไวมากและด้วยมันเป็น SSD แบบ M.2 NVMe เป็นของแบรนด์ Samsung กับความเร็วระดับ Read: 2786 MB/s – Write: 333 MB/s นั้นเองครับผม
TABLET – STUDIO – VIEW – LAPTOP MODE
สำหรับตัว Surface นั้นจะมีโหมดการใช้งานที่สามารถตั้งได้ค่อนข้างหลากหลายตามการใช้งานครับ จะมีทั้งหมด 4 แบบ ด้วยกันคือ แบบ Tablet ที่จะสามารถถอดจอออกมาได้ Studio นั้นจะถอดจอมาและพลิกกลับไปให้จอนั้นจะติดกับพื้นแต่มีองศาเอียงรับมือเวลาวาดเขียนครับ โหมด View นั้นจะเป็นโหมดที่ใช้ในการดูหนังต่างๆได้มุมมองที่ดีครับและ ไม่กินพื้นที่ด้านหน้า ใช้งานสัมผัสเป็นหลัก และ สุดท้ายคือ LAPTOP คือใช้งานปกติทั้วไปเลยครับผม
SCREEN SURFACEBOOK 2
สำหรับหน้าจอ Surface Book 2 นั้นมาพร้อม จอ 13.5 นิ้ว อัตราส่วน 3:2 ความละเอียด 3000 x 2000 Pixel นะครับ (267 PPI) Contrast ratio: 1600:1 รองรับสัมผัส 10 จุด ซึ่งไม่ใช่ 16 : 9 แบบที่คุ้นเคยกันหลายๆคนอาจจะไม่ชินในจุดนี้นะครับ แต่ ในการใช้งานจริงไม่พบว่าขัดใจเท่าไรจะมีบ้างถ้าเราทำรูปอัตราส่วน 16:9 อาจจะไม่เต็มจอครับ มาในเรื่องของการใช้งานเวลาวาดรูปจะพบว่า อัตราส่วนแบบนี้เหมาะมากๆครับ สำหรับแอดมินไม่ยาวเกินไปและระยะกว้างค่อนข้างดีเวลาวาดครับตัวจอ ก็สู้แสงแดดได้ดีเวลาใช้งานและ รองรับน้ำหนักปากกาสัมผัสได้ดีมาก
DUAL SPEAKER DOLBY PREMIUM
สำหรับลำโพงตัวนี้มาพร้อมลำโพงคู่หน้าบนตัวขอบจอครับ Dolby Audio Premium ต้องบอกว่าการวางตำแหน่งจัดว่าได้ดีมากๆ ออกตรงๆ และที่ไว้ตรงหน้าจอนั้นเพื่อที่จะเวลาเราใช้โหมด TABLET เราจะใช้งานได้มันอย่างเต็มที่ครับผม สำหรับคุณภาพเสียงต้องบอกว่าดังพอสมควรและลำโพงมีมิติ แม้จะไม่เท่าพวก Laptop ที่เค้ามีลำโพงขนาดใหญ่ตรง คีย์บอรด์นั้นแต่เมื่อเทียบกับหลายๆตัวนั้นแอดมินต้องบอกว่าใช้ได้ เหมือนกัน สำหรับ Book2 เสียงมาตรงดี
KEYBOARD
สำหรับคีย์บอร์ดตัว SURFACE BOOK2 Layout คีย์บอร์ดยังคงเป็น 4 แถวขนาด Full Size นั้นจะมาพร้อมกับไฟ Black Light สีขาวครับสามารถปรับระดับไฟทั้ง 3 ระดับ และปิดไฟได้ครับ ตัวคียบอร์ดมาพร้อมสีเดียวกับตัวเครื่องและ ปุ่มขนาดค่อนข้างพอเหมาะกดลงไป เสียงเบา เงียบ และนุ่มครับ สำหรับระยะห่างนั้นค่อนข้างดีในแต่ละปุ่ม ถือว่าทำได้ดีมากๆ และ ปุ่มรับกับนิ้วได้ดีครับ
TOUCHPAD
สำหรับตัว Touchpad นั้นมาพร้อมสีเดียวกับตัวเครื่องเช่นกัน ขนาดกลางๆจริงๆแอดมิน ว่าขนาดมันเล็กไปนิด น่าจะทำใหญ่ๆไปเลยมันใช้งานสะดวกกว่าเวลาใช้หลายๆนิ้วและใช้งานทั่วไป แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนคือตัว SURFACE นั้นสามารถใช้งานสัมผัสหน้าจอได้ด้วยจึงทำให้จุดนี้ไม่ค่อยมีผลเท่าไรครับ การกดก็กดลงไปได้เลยซ้ายขวา มุมล่างครับ
FACE UNLOCK WINDOWS HELLO
สำหรับการปลอดล็อคเครื่องนั้นมีอีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างมากคือ WINDOWS HELLO ที่จะเป็นการแสกนหน้าแบบที่ไม่ใช่แค่จำภาพถ่าย แต่มีกล้อง IR เซนเซอร์พิเศษ ที่จะไว้สำหรับฟีเจอร์นี้นั้นเองทำให้จับภาพได้ไวมาก และ ไม่สามารถใช่รูปถ่ายในการปลดล็อคได้นั้นเองครับ และความไวต้องบอกเลยว่า 0.1วิก็ติดเลยบางสภาพแสงครับ ที่แสงน้อยๆมืดๆก็ยังแสกนได้ด้วย ต้องบอกว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างมาก และสะดวกมากๆครับในการใช้งาน
CONNECTOR
สำหรับช่องเชื่อมต่อ พอร์ทต่างๆตัวนี้ต้องบอกก่อนว่ามีมาให้ครบครับในกลายๆส่วน มาดูที่ด้านหน้าส่วนของด้านหน้าจะมีช่องเว้นไว้สำหรับเปิดหน้าจอให้ตรงกลาง และ ในส่วนของจอ นั้นก็คือปุ่มเปิด ปิด เครื่อง เพิ่มเสียงลดเสียง ซึ่งมีปุ่มพวกนี้เพราะเวลาเราใช้เป็น TABLET มันจะสะดวกมากๆครับผม และจะเห็นแถบรูระบายอากาศรอบเครื่องเล็กๆ
ด้านขวาของตัวเครื่องมีพอร์ทที่จำเป็นมากๆคือ ช่องชาร์จสำหรับหัวของ Surface เป็นแบบ MAGNET และรูเล็กๆนั้นคือพอร์ทแบบ TYPEC ที่สมัยนี้นิยมและเป็นมาตรฐานมือถือสมัยใหม่ครับผม และ ส่วนของจอจะมีรู 3.5 มาให้ในด้านซ้ายนั้นต้องบอกว่าตัวฐานคียบอร์ดนั้นมีพอร์ทมาให้เพียงพอต่อการใช้งาน คือ USB 3.0 2 ช่อง และ ช่องใส่ SD CARD ครับผมเรียกได้ว่าช่องต่อที่ให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งโอนไฟล์ถ่ายรูป สะดวกจริงๆครับผม
ในส่วนนี้คือเมื่อเวลาเราถอดจอออกแล้วนั้น ตัวจอจะมีพอร์ทสำหรับ ชาร์จแยกได้ซึ่ง ตัวชาร์จใช้หัวแบบเดียวกับเวลาเราเสียบชาร์จบนตัวฐานคีย์บอร์ดนั้นเองครับเผื่อใครจะพกเป็น TABLET ก็ใช้งานได้ชาร์จแยกได้ แต่ถ้าเป็น TYPE C จะสะดวกไปอีกครับ น่าเสียดาย รูข้างๆ 2 อันนั้นคือ แม่เหล็กที่จะเป็นตัวรับกับฐานคีย์บอร์ดนั้นเองครับ
BATTERY
สำหรับตัวแบตการใช้งานต้องบอกว่าอึดสบายหายห่วง ทั้งวัน 12 ชม ได้แบบสบา่ยๆครับ ซึ่งตัวแบตนั้นจะมีหลักๆคือ 2 ก้อนใช้งานในส่วนของตัวจอ กับ ตัวฐานคียบอร์ดครับ อันนี้แอดมินใช้งานเขียนรีวิว เข้าอะไรต่างๆทำงานทั้งวันได้สบาย พกพาไปไหนมาไหนได้ทั้งวันครับเป็นแบตอีกแบรนด์ที่ใช้งานได้ทั้งวันแบบสบายมาก พอๆกับ MAC ที่แอดมินใช้เลย และยังมีโหมดปรับได้ว่าเราจะเน้น ประหยัดแบต หรือ ประสิทธิภาพต้องบอกว่าแอดเลือกแบบ แรงๆแต่แบตยังอยู่ได้ทั้งวันอันนี้ชอบมากๆครับพกไปไหนมาไหนสบายเลย ตัวชาร์จเวลาเสียบไฟจะขึ้นที่หัวชาร์จเสียบกับเครื่องนะ
CAMERA
สำหรับตัวกล้องหน้าหลังนั้นอาจจะไม่ได้เน้นมากครับสำหรับ Notebook หลายๆตัวซึ่งตัวนี้มาพร้อมกับกล้องหลัง 8MP พร้อม AUTO FOCUS และ กล้องหน้า 5MP โหมดกล้องมีมาครบเลย ทั้ง HDR / PANORAMA แม้กระทั้งโหมดโปร แบบปรับชัตเตอร์ได้ แต่เชื่อว่าหลายๆคนคงไม่ได้ใช้กันเท่าไรกับ คอมพิวเตอร์หรือ TABLET แต่ทาง MICROSOFT ก็ยังใส่มาให้ ถือว่าใส่ใจและทำได้ดีนะครับ เรามาชมภาพถ่ายกล้องหลังกันก่อนเลยครับ
GAMING
สำหรับการเล่นเกมส์ตัวนี้อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับสายเกมส์มากนักครับเพราะด้วย CPU I5 + ไม่มีการ์ดจอ หรือ พัดลมระบายความร้อน ถ้าเล่นเกมส์แนะนำไปรุ่นที่มี GTX 1050 แยกดีกว่าครับ แต่ในตัวนี้ถ้าอยากเล่นหละ ก็บอกว่าพอเล่นได้ครับสำหรับเกมส์ทั่วๆไปอย่าง Overwatch ก็เล่นได้แบบปรับภาพต่ำหน่อยแต่ Framerate ก็ไม่ตกมากครับ ส่วน PUBG Mobile ที่ใช้โปรแกรม Simulator นั้นก็เล่นได้สบายครับผมในเกมส์นี้ส่วนความร้อนแน่นอนมีพอสมควรเลยเพราะด้วยการไม่มีพัดลมระบายนั้นเอง เวลาเล่นเกมส์ส่วนจอนั้นจะร้อนครับ แต่คียบอร์ดไม่ร้อนเลยภาพตัวอย่างจากในเกมส์ครับผม ภาพสามารถปรับได้ HD +HIGH FPS ครับจะลื่นพอดีเลย
WORKS GRAPHIC RENDER
สำหรับการทำงานแน่นอน สายนี้ทำงานสบายมากครับ ทั้ง ออกแบบ วาดภาพ แต่งภาพ ทำพรีเซนต์ 3D ต่างๆสบายมากเหมาะสำหรับการทำงานแบบเต็มที่ และ รวมไปถึงการใช้งานแบบ Lecture นั้นทำได้ดีมากถ้ามีปากกายิ่งดีไปอีก
ใช้งานพวกโปรแกรม ADOBE ทั้งหลายนั้นต้องบอกว่าใช้งานได้ลื่นไหลครับ และในสเปคระดับนี้แอดมินลองตัดต่อภาพ หรือ แต่งภาพทั้งหลายเช่น Photoshop / Lightroom / หรือ Premier Pro ก็ยังใชได้ครับสำหรับไฟล์ไม่หนักมากครับ แต่เรื่องความร้อนเมื่อใช้หนักๆก็มีสะสมไว้ตรงจอครับ แต่ก็ระบายได้เร็วเพราะวัสดุที่นำมาใช้นั้นเอง
ทำงานพรีเซนต์ตระกูล Microsoft 360 ได้สบายครับ มีฟังก์ชั่นวาดเขียนรองรับปากกาที่ทำให้พรีเซนต์สวยกว่าเดิม
สายงานสถาปนิกก็ยังใช้งานได้สบายสำหรับตัวนี้ ทั้ง AUTOCAD / 3D /SKETCHUP ครับทำงานได้ลื่นไม่ติดเท่าไรแม้ตัวนี้จะเป็นตัวเริ่มต้นก็ใช้งานได้อย่างสบาย แปลนบ้าน หรือ โครงการนั้นก็เอาอยู่ และมีตัว Autocad mobile ที่รองรับทำให้ใช้ปากกาได้สะดวกมากๆเวลาออกหน้างานและแก้แบบแบบคร่าวๆครับผม หรือจะเขียนแบบ ถ่ายหน้าจอ แล้วเอาปากกาวาดแก้ไขแบบได้เลยครับผมถือว่าสะดวกมากๆครับเวลาใช่งาน ถอดเป็น TABLET
อีกทั้งระบบ AR เริ่มมีส่วนในชีวิตมากขึ้นตัว SURFACE ก็รองรับครับ ตัว MIXED REALITY ทำให้ AR ของเราไปอยู่ในโลกเสมือนจริงได้แบบง่ายๆอย่างเช่นในภาพนั้นเป็นโมเดล ที่มาจาก AR แต่ก็นำไปวางพรีเซนต์บนโต๊ะได้
อีกฟีเจอร์ที่ใช้งานบ่อยๆกนั้นก็เป็น Screen Sketch ที่เราจะสามารถถ่ายภาพหน้าจอตอนนั้นและเอามาวาดขีดเขียนได้สบายครับอันนี้ต้องบอกว่าแอดมินใช้บ่อยมากๆเวลาถ่ายหน้าจอและแก้ไข ปรับเปลี่ยนจด หรือ บันทึกอะไรต่างๆ
MICROSOFT SURFACE PEN
สำหรับเจ้าปากกา Surface pen ตัวนี้ สามารถ รองรับแรงกดถึง 4,096 จุด สามารถวางมือบนจอได้ สามารถเอียง Sketch แบบดินสอได้ และ มีปุ่มบนตัวปากกา และ ยางลบในด้านท้ายและข้อดีมากๆ 1จุด คือมีแม่เหล็กติดกับจอได้ พอไปสะดวกมากกกกกก ครับแอดชอบจริงๆ มี 2 สี คือ เงิน กับ ดำครับ ราคาประมาณ 3900 บาทครับ Surface Pen เปลี่ยนหัวปากกาได้ตามแบบที่ต้องการได้ อายุแบตเตอรี่ที่นานกว่า 1 ปี ใช้ถ่าน AAAA หนึ่งก้อน นอกจากนี้ยังมี เทคโนโลยี PixelSense ซึ่งทำให้แม่นยำและตอบสนองได้ดีกว่าเดิม
DRAWING WITH MICROSOFT PEN
จากที่ลองปากกนั้นต้องบอกก่อนเลยว่า เป็นปากกาที่ทำได้ดีที่สุดตั้งแต่ที่แอดมินลองมาหลายๆตัว และใช้งานสะดวกมากๆ และ มีความอิสระในการใช้งาน หลายๆแอพ ในการย้ายไฟล์ทั้ง ไม่นับพวกปากกาเฉพาะทางพวกนั้นเลยที่ต้องมี จอแยก หรือ ที่ วาดแยก น้ำหนักตัวปากกาไล่ได้ดีมาก เมื่อเราวางอ่อนๆเส้นก็อ่อนตามและไล่น้ำหนักได้ใกล้เคียงดินสอมากขึ้นไปอีก อีกทั้งยังมีลงสีน้ำที่มีการไล่น้ำหนัก และ ผสมสีได้อีกด้วยครับผม ต้องบอกว่าจะทำให้การวาดรูปนั้นมีความสนุกมากขึ้น เพลินมากขึ้น ปากกาไม่หนืดไม่ลื่นเกินไปครับผม และ ด้วยหัวปากกาเล็กทำให้วาดได้ละเอียดและ ยังใช้ในการจดงาน TEXT ต่างๆได้สะดวกอีกด้วยครับผม
SURFACE BOOK 2 มันคือ 2 IN 1 LAPTOP ที่ลงตัวที่สุดตั้งแต่เคยลองมา !
สำหรับแอดมินต้องบอกว่าประทับใจอย่างมากในรุ่นนี้ ทั้งด้านการใช้งาน การรองรับ ประสิทธิภาพของตัวเครื่องงานประกอบ วัสดุต่างๆครับ และ เป็น Notebook 2 in 1 ที่ทำได้ดีที่สุดเลย และ ปากกาก็จัดว่าเด็ด แม้จะต้องซื้อเพิ่มครับ ซึ่งข้อดีมันเยอะมากจริงๆ แต่ก็มีบางจุดที่อาจจะต้อง กลับมามองกันอีกนิดเช่น ราคาที่สูงแต่ได้สเปคต่ำกว่า ปากกาต้องซื้อเพิ่ม และการรับประกัน 1 ปี แต่ถ้าสายงานบางสายงานมันก็ไม่แพงเกินการลงทุนจริงๆครับ
ข้อดี
- งานประกอบดีมากกก วัสดุดูดีและ แข็งแรง
- สเปคมีครอบหลุมทุกช่วงเรทราคาและการใช้งานแต่ละคน
- หน้าจอ สวย คม สีสวย สู้แสงแดดได้ดี และ รองรับปากกาได้ลงตัว
- การทำงานรวดเร็ว การจับสัญญาณต่างๆได้ดีมาก
- กล้องหลัง หน้าทำได้ดีกว่า Notebook ทั่วไป
- ไฟ Keyboard และ ตัวกา่รออกแบบทำให้ใช้งานสะดวกมาก
- มาพร้อม Wins 10
- ลำโพงคู่หน้าวางตำแหน่งได้ดีและเสียงดังพอสมควร
- การใช้งานร่วมกับปากกา ทำได้ลื่นไหลมาก ทั้งการย้ายแอพ สลับแอพ ต่างๆ
- ยังมีช่อง USB 3.1 และ พอร์ทต่างๆมาค่อนข้างครบ
- แบตจัดว่าอึดพอสมควร ทั้งวันได้สบาย 12 ชม สำหรับแอดมิน
ข้อเสีย
- อัพเกรด ได้แค่ SSD เท่านั้น
- ราคาอาจจะสูงไปสำหรับบางคน แต่ด้วยสายงาน บางสายมันคุ้มค่ามาก
- Surface pen ต้องซื้อแยก
- ไม่มีพัดลมระบายความร้อน แต่เพื่อความสะดวกสบายในการพกพาและถอดจอนั้นเอง
- รับประกัน 1 ปี ในเรทราคานี้ อาจจะดูน้อยไปนิด
- จอยังไม่ RGB 100%
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ และต้องขอขอบคุณ MICROSOFT THAILAND ด้วยนะครับผม