เอาละครับกลับมาพบกันกับผม Admin Max อีกเเล้วกับบทความรีวิวมือถือรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ ช่วงนี้ผมอาจจะลงถี่หน่อยนะครับเพราะมือถือเปิดตัวกันใหม่ในช่วงนี้มันเยอะเหลือเกิน สำหรับกระทู้นี้ผมก็จะมารีวิวอีกหนึ่งมือถือที่น่าสนใจ หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ก็มีการพูดถึงกันเยอะพอสมควร สำหรับมือถือเครื่องนี้เป็นมือถือที่มาพร้อมกับบอดี้ฝาหลังที่มีเอกลักษณ์มีการเล่นสีทำให้ดูสวยงาม อีกทั้งยังมาพร้อมกับกล้องหน้าเเละหลังที่มีคุณภาพสูงมาก มันก็คงจะเป็นรุ่นไหน ? ไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เจ้ารุ่นนี้ OPPO R15 PRO โอเคเอาละเรามาชมกันดีกว่าครับว่าเจ้ามือถือรุ่นนี้มันจะน่าสนใจขนาดไหนกัน
UNBOX OPPO R15 PRO
- ตัวเครื่อง OPPO R15 PRO
- คู่มือ
- เข็มจิ่มซิม
- สายชาร์จ Micro USB ( สีขาว )
- หัวชาร์จไฟ ( สีขาว )
- หูฟัง
- เคสหลังพลาสติกใส
DESIGN
เอาละมาพูดถึงเรื่องดีไซน์ของรุ่นนี้กันก่อน เรื่องของดีไซน์ในรุ่นนี้ก็จะมาพร้อมกับบอดี้กระจก มีความโค้งมนเล็กน้อยตัวฝาหลังมีการไล่เฉดสี ให้ตัวเครื่องดูสวยงามเหมือนการนำสีมาเเต้มไม่มีผิด ตัวเครื่องที่เราได้มีรีวิวคือสี Cosmic Purple โทนจะออกดำๆดูเเมนๆดุๆหน่อย
ตัวเครื่องถึงเเม่จะมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่เเต่ทางออปโป้เอง ก็ยังออกเเบบมาให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่จับเเล้วไม่หนักมากในรุ่นนี้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 175 กรัมเท่ากับสมาร์ทโฟนรุ่นทั่วไป ส่วนรายละเอียดขนาดของตัวเครื่องในรุ่นนี้มีขนาดอยู่ที่ 155.3 x 75 x 7.5 มม
ตัวเครื่องด้านหน้า : มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.28 นิ้ว ความละเอียดแบบ FHD + ( 2160 x 1080 พิกเซล ) อัตราส่วน 19:9 Super Full Screen Display เพิ่มความแข็งแกร่งด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 หน้าจอถือว่ามีสีสันที่สดเลยทีเดียว
เหนือหน้าจอด้านบนมาพร้อมหน้าจอบากตามสมัยนิยม มีตำแหน่งกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมค่า f/2.0 20 มม
ด้านล่างในจอแสดงผลจะมีปุ่มใช้งาน Recent Apps , ปุ่มโฮม และ ปุ่มย้อนกลับ ( ในส่วนนี้สามารถสลับตำแหน่งได้ )
สำหรับตัวเครื่องด้านช้าย : จะมาพร้อมมีปุ่มเพิ่ม/ ลดเสียง ตรงขอบทำมาจากโลหะอะลูมิเนียม
สำหรับตัวเครื่องด้านขวา : มีช่องใส่การ์ดแบบสองซิมแบบ Nano-SIM เป็นแบบ Hybrid ให้เราเลือกระหว่างใส่สองซิมหรือเพิ่ม MicroSD ที่สามารถรองรับได้สูงสุด 256GB
สำหรับตัวเครื่องด้านบน : มีรูไมโครโฟนสำหรับตัดสัญญาณรบกวน
สำหรับตัวเครื่องด้านล่าง : มีพอร์ทเชื่อมต่อแบบมีลำโพงหลักทางด้านซ้ายตรงการมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Micro-USB ไมโครโฟน , ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. รุ่นนี้รองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูง VOOC Flash Charge
สำหรับตัวเครื่องด้านหลัง : ด้านหลังตัวเครื่องวัสดุเป็นกระจกแบบ 3D ด้านบนด้านซ้ายมาพร้อมกับตำแหน่งกล้องหลังคู่ 20 ค่า f/1.7 , 25 มม 1.22 μm , PDAF กล้องรอง 16 ล้านพิกเซล f/1.7 , 2.8″, 1μm มาพร้อมเซ็นเซอร์ตัวล่าสุดอย่าง SONY IMX519 ด้านขวาของเลนส์กล้องจะเป็นตำแหน่งของไฟแฟลชแบบ Dual-Tone
ตำแหน่งกล้องนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย เเต่ก็ไม่ต้องซีเรียสเพราะเคสที่เเถมมาจะยื่นออกมาจากตัวกล้องกันการเป็นรอย
ถัดลงมาจะมีตำแหน่งตรงกลางของเครื่องด้านหลังจะมีตำแหน่งสแกนลายนิ้วมือและถัดลงมาอีกจะมีคำว่า OPPO สลักเอาไว้
รายละเอียด OPPO R15 PRO
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย Color OS 5.0
- หน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.28 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2280 x 1080 พิกเซล), 401pp อัตราส่วน 19:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 AIE Octa-core 2.2 GHz
- หน่วยประมวลกราฟิก Adreno 512
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD Card สูงสุด 256GB (Triple Slot)
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 20 + 16 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX519 รูรับแสงขนาด f/7 พร้อมเทคโนโลยี AI Scene Reconition, มีโหมด Portrait Mode, โหมด 3D Lighting Effect
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.0 พร้อมเทคโนโลยี AI Beauty Recognition Technology และ AR Stickers
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby) (Hybrid Slot)
- รองรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner)
- รองรับระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า Face Access
- แบตเตอรี่ความจุ 3,430 mAh รองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูง VOOC Flash Charge
- ตัวเครื่องขนาด 3×75.0×7.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 175 กรัม
คุณภาพหน้าจอ
เรื่องของคุณภาพหน้าจอของรุ่นนี้ บอกเลยว่าไม่ต้องกังวลเรื่องของสีหน้าจอครับ อย่างที่ทราบกันดีว่ารุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ที่ขึ้นชื่อเรื่องสีสันของหน้าจอที่มีสีสดอยู่เเล้ว ให้โทนสีดำก็คือดำแดงก็คือแดงเลย ความสว่างก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ปกติไม่ได้สว่างมากจนเกินไปครับ
คุณภาพเสียง
คุณภาพเสียงก่อนอื่นผมมาเริ่มอธิบายคุณภาพเสียงของลำโพงก่อน เรื่องของเสียงผ่านลำโพงค่อนข้างดังครับ ลำโพงที่ออกทางด้านซ้ายของเครื่องจะเป็นลำโพงตัวเดียวมิติเสียงก็อยู่ในระดับที่โอเค ( ผมว่าดีกว่า F7 หน่อยนึง ) ส่วนเสียงที่ผ่านหูฟังที่เเถมผมว่าอยู่ในเกณธรรมดาครับไม่ได้เด่นมาก เเต่ก็ถือว่าใช้ได้ยังไงก็อยู่ที่หูฟังของเพื่อนๆหาหูดีๆมากสักอันรับรองเวรี่กู้ดครับ 😀
คุณภาพแบตเตอรี่ / ความร้อน
เรื่องของเเบตเตอรี่ความจุ 3,430 mAh หลังจากที่ผมลองใช้เรื่องของการใช้งานทั่วไปผมว่ามันก็อยู่ได้ทั้งวันนะ เเต่ใครที่เล่นเกมอาจจะต้องหาพาวเวอเเบงค์เอาไว้หน่อยผมลองเล่นเกม ROV เล่นไปประมาณ 1 รอบแบตลดไปประมาณ 4 % ครับ ผมก็ถือว่าไม่ได้หน้ากังวลอะไรครับ เรื่องความร้อนใช้งานทั่วไปตัวเครื่องก็เเค่อุ่นๆ ส่วนถ้าเล่นเกมตัวเครื่องก็จะรู้สึกว่าร้อนพอสมควรเเต่ก็เป็นธรรมดาของมือถือที่มาพร้อมกับฝาหลังกระจก เเต่ข้อดีคือมันอาจจะร้อนง่ายนิดหน่อยเเต่มันก็หายเร็วครับ ใสเคสเข้าไปผมว่าเเทบจะไม่รู้สึกเลย
GPS
เรื่องของการจับสัญญาณ GPS ผมถือว่ารุ่นนี้ทำออกมาได้ดีเท่าที่ควร เหมือนเดิมครับผมลองขึ้นรถไฟฟ้าแล้วทำการเปิดตัวแหน่งดูว่า ถ้าผมถึงสถานีไหนเเล้วตัวจีพีเอสจะเเจ้งตำแหน่งถูกหรือเปล่า ผลออกมาก็เป็นที่หน้าพอใจครับ OPPO R15 PRO ถือว่าตำแหน่งตามแผ่นที่ตรงที่ผมอยู่
ทดสอบใช้งานในการเล่นเกม
เรื่องของการเล่นเกมในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับชีพียู Snapdragon 660 AIE มาพร้อมกับชิปกราฟฟิค Adreno 512 ทำงานคู่กับเเรม 6GB เรื่องของการเล่นเกมนี้ไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ สามารถเล่นเกมต่างๆได้อย่างสบายๆเลย อาจจะไม่สามารถเปิดภาพกราฟฟิคในเกมเเบบสุดได้ เเต่ผมบอกเลยว่าถ้าเปิดระดับกลางๆนี้เล่นได้แบบลื่นๆเลย ผมเป็นสายเกม ROS หรือ Rules of survival ผมเปิดภาพระดับกลางเเละเน้น FPS เอาตอนผมเล่นบอกเลยว่าเฟลมเรทแทบไม่ตก ส่วนเกม Pubg Mobile ก็ถือว่าเล่นได้ด้วยเช่นกันครับเฟรมเรทก็จัดว่าดี เเละสำหรับใครที่เล่น ROV รุ่นนี้เปิด FPS ได้ 60 ค่า FPS ที่ได้หลังจากทดสอบก็ประมาณ 57 – 60 ประมาณนี้ อีกทั้งยังยังมีโหมดเกมที่สามารถเร่งความเร็ว และ ปิดการเเจ้งเตือนต่างๆอีกด้วย !!
PUBG MOBILE
Rules of survival
ทดสอบใช้งานระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า / สแกนลายนิัวมือ
หลังจากได้ทดสอบถือว่าทำงานได้เร็วในส่วนของการปลดล็อคด้วยใบหน้า อย่างส่วนตัวเป็นคนใส่เเว่นหลังจากที่ผมทดสอบไม่ว่าผมจะใส่เเว่นหรือถอดเเว่นตัวเครื่องก็สามารถปลดล็อคได้ทันที ในส่วนของการสแกนลายนิ้วมือก็สามารถปลดล็อคได้รวดเร็วถือว่าโอเคจริงๆในส่วนนี้ครับ
ประสิทธิภาพในการใช้งาน
OPPO R15 PRO มาพร้อมกับ CPU อย่าง Snapdragon 660 ประมวลผล Octa-core 2.2GHz GHz Kryo 260 และ GPU Adreno 512 , RAM 6GB ROM 128 GB รองรับ Wifi ( 2.4 / 5.0 GHz ) และ Bluetooth 5
ผลคะแนน AnTuTu Benchmark ก็ทำออกมาดีมีคะแนนอยู่ที่ประมาณ 145,387 คะแนน อันนี้ต้องเเจ้งก่อนนะว่ากดทดสอบเเค่ 1 รอบเท่านั้น
รุ่นนี้หลังจากการทดสอบก็สามารถรองรับการใช้งาน Multi Touch ได้สูงสุด 10 จุด หน่วยความจำชนิด EMMC 5.1 และ มีเชนเซอร์ต่างๆคร่าวๆดังต่อไปนี้
- Accelerometer Sensor ตรวจวัดความเร่งจากการโน้มเอียง
- Light Sensor ตรวจจับแสงสว่าง
- Orientation Sensor เซ็นเซอร์ปรับมุมมองหน้าจอ (คล้ายตัววัดระดับน้ำ)
- Proximity Sensor ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาแนบหู
- Gyroscope Sensor เซนเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุนของสมาร์ทโฟน
หน้าตาระบบ และ ฟังก์ชัน
OPPO R15 PRO จะมาพร้อมกับ Android 8.1.0 ( Oero ) ครอบทับด้วย ColorOS 5.0 โดยรวมหน้าตา UI ก็ค่อนข้างสวยงามในแบบของ OPPO มีความเรียบง่ายคนที่เคยใช้ในส่วนของ ColorOS คงจะคุ้นเคยกันดีสำหรับคนที่เคยใช้ ยังไงผมขอนำฟังก์ชั่นหลักๆที่เราได้ใช้จริงๆเเละเพื่อนๆควรรู้เอาไว้สำหรับ ColorOS 5.0 โดยในเวอร์ชั่นนี้ มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของปุ่มนำทางเพราะในรุ่นนี้ ย้ายมาอยู่บนหน้าจอแสดงผลเเล้ว ปุ่มนำทางเราสามารถสลับสับเปลี่ยนได้ หรือทำการซ่อนได้ เเละยังสามารถเลือกใช้งานปุ่ม EasyTouch ได้
มีในส่วนของการโคลนแอพ / การเร่งความเร็วเกม / การใช้งานมัลติทาสก์เต็มจอ / การเเบ่งหน้าจอ
แชทในขณะเล่นเกม
การเเบ่งหน้าจอ
ก็ประมาณนี้นะครับในส่วนของฟังก์ชั่นหลักๆที่ผมเชื่อว่าเพื่อนๆจะต้องได้ใช้งานอย่างแน่นอน
คุณภาพกล้องหลัง
OPPO R15 PRO เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ผมจัดว่าเป็นหนึ่งรุ่นที่มีกล้องหน้าเเละหลังสวยเลยก็ว่าได้ โดยในรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ความละเอียด 20 + 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมเซ็นเซอร์ตัวล่าสุดอย่าง SONY IMX519 ที่ทำงานร่วมกันกับ AI Enhanced ตัวช่วยที่จะมาทำให้ภาพถ่ายของเราสวยงามมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายภาพอะไรก็จะออกมาดียกตัวอย่างเช่น ดอกไม้ , วิว , อาหาร , สัตว์เลี้ยง ระบบ AI Scene ก็จะทำการช่วยให้ภาพถ่ายของเราออกมาสวยโดยที่เราไม่ต้องมานั่งเเต่งแอพเพิ่มเติม นอกจากนั้นในรุ่นนี้หลังจากที่ลองใช้งานเรียกได้ว่ามีจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพ Portrait ( ภาพละลายหลัง )
ในรุ่นนี้ยังมีลูกเล่น 3D Portrait Lighting ที่จะมาช่วยปรับเเสงของภาพถ่ายของเราให้ดูสวยยิ่งขึ้นแบบง่ายๆได้เลย มือถือเดี๋ยวนี้ผมเชื่อว่าต่อให้ถ่ายภาพแนวนี้ได้ก็ไม่ได้จบเเค่หลังกล้องอยู่ดี บางคนก็จะต้องไปพึ่งแอพต่างๆเช่นพวก Snapseed , PicsArt , Vsco แถมหน้าไม่เนียนก็ต้องไปพึ่งแอพ Camera 360 อีก
อีกทั้งยังมีโหมดโปรที่สามารถปรับค่า ISO ได้ตั้งเเต่ 22 จนถึง 3200 และ ปรับค่าสปีดชัตเตอร์ได้ตั้งเเต่ 1/8000s จนถึง 16s ได้อีกด้วยเรียกได้ว่าใครที่จะไปล่าทางช้างเผือกถ่ายรูปเเนวดวงดาวสามารถ ใช้ขาตั้งกล้องเเล้วไปถ่ายได้เลย อีกทั้งยังมีลูกเล่น AR sticker ใส่มาให้กล้องหลังด้วยเช่นกัน ในส่วนของการถ่ายวีดีโอรุ่นนี้สามารถบันทึกวีดีโอได้สูงสุดความละเอียด 4K เเละสามารถบันทึกวีดีโอแบบ สโลโมชั่น และ แบบ Time – Lapse ได้อีกด้วยครับ
ตัวอย่างภาพถ่าย Auto
ตัวอย่างภาพซูม
ซูม 2X
ถ่ายปกติ
ตัวอย่างภาพหน้าชัดหลังเบลอ
คุณภาพกล้องหน้า
รุ่นนี้มาพร้อมกล้องความละเอียด 20 ล้านพิกเซลพร้อมรูรับแสงกว้าง f/2.0 สำหรับกล้องหน้านอกทางออปโป้จะใส่ความละเอียดมาให้สูงเเล้วยังมีระบบ AI Beauty 2.0 ใส่เขามาให้ด้วย ระบบ AI Beauty ของทางออปโป้ถือว่ามีความฉลาดไม่ใช่น้อย มาช่วยทำภาพถ่ายของเราให้สวยโดยไม่ต้องมานั่งเเต่งแอพอื่นๆเพิ่มเติมเลย อีกทั้งยังสามารถปรับภาพได้ถึง 6 ระดับเลยทีเดียว และยังสามารถถ่ายเซลฟี่แบบละลายหลังได้อีกด้วย
นอกจากภาพที่ได้จะสวยเเล้วยังมี AR sticker สวยๆ และ สามารถถ่ายภาพเซลฟี่แบบ HDR ได้ที่จะทำให้ภาพเซลฟี่ของเราสวยยิ่งขึ้น ในส่วนของการถ่ายวีดีโอจะสามารถบันทึกความละเอียดได้ FullHD และ ในช่วงการถ่ายวีดีโอยังสามารถใช้งาน AR sticker และสามารถปรับความเนียนของใบหน้าได้ตามที่เราต้องการ
ตัวอย่างภาพถ่าย HDR
ตัวอย่างภาพกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพละลายหลัง
ข้อดี
- หน้าจอขนาดใหญ่ดีสีสันสวยงาม
- สเปคจัดว่าดีเล่นเกมสบายๆ
- กล้องหน้าเเละหลังสวย
- สเเกนใบหน้าไวมาก
- ดีไซตัวเครื่องน์สวย
- รองรับระบบชาร์จไว
- หน่วยความจำภายในเยอะ
- โหมด Portrait มาพร้อม 3D Portrait Lighting อาจจะไม่ได้เบลอเนียนที่สุด เเต่ถือว่าโทนภาพที่ได้สวยงาม
จุดสังเกตุ
- ใส่ 2 ซิมเพิ่ม Micro SD ไม่ได้
- โหมดเกมยังเปิดเร่งความเร็วเกมได้เเค่ไม่กี่เกม
- ไม่มีไฟเเจ้วเตือนสถานะ
- กล้องหน้าหลังไม่มีกันสั่นเบลอง่ายนิดนึง
สรุป
หลังจากที่ได้ใช้งานรุ่นนี้มารวมเกือบสามอาทิตย์ ในรุ่นนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่คนที่ชอบถ่ายรูปหน้าหลังสวยๆ ชอบถ่ายรูปแนว Portrait ไม่ต้องไปพึ่งแอพเเต่งรูปเพิ่มเติม ถ่ายเเล้วสามารถอัพลงได้เลย หรือใครชอบถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหน้าเเละหลังก็สามารถปรับความเนียนของใบหน้าได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบอัดคลิปแนว Vlog ส่วนสายเกมรุ่นนี้ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆใครที่ชอบสตีมเกมก็ทำได้อย่างแน่นอนครับ อีกทั้งยังมีเรื่องของการประกันหลังการค่ายที่สามารถเปลี่ยนได้เลยโดยไม่ต้องรอนานอันนี้ถือว่าโอเคมากครับใครที่ชอบออปโป้อยู่เเล้วไม่ต้องลังเลเลยครับ หาซื้อได้เเล้วในราคา 19,990 บาท ครับ
Review By : Maxmoreji