ROG Zephyrus M คือเรือธงประจำ ROG ซึ่งตอนนี้มีตัวใหม่มาอีกคือ ROG Zephyrus S ที่มี น้ำหนักเพียง 2.1 กิโลกรัม จะเบาไปไหน และบางด้วยขอบจอก็บางขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับจอ IPS 144 Hz 3 ms ซึ่งเป็น Gaming notebook ตัวแรกของโลกที่ใช้จอที่เนียนตาและสวยงามแบบนี้ครับ แน่นอนว่ารุ่นพวกนี้ทางเว็บเราได้จับเป็นสื่อแรกๆในไทย และจะเปิดตัวในงาน IFA และ Gamescom ที่จะถึงเร็วๆนี้ครับแน่นอนว่า เราเลยมาเล่าเอาภาพสวยๆมาฝากกันสำหรับ ROG Zephyrus S (GX531) สุด Exclusive ที่เราไปลองจับกันมาถึงไต้หวัน ศุนย์ใหญ่จากทาง ROG เลยครับผม
Spec ROG Zephyrus S
- Windows 10 Pro – ASUS recommends Windows 10 Pro
- Intel® Core™ i7-8750H
- NVIDIA® GeForce® GTX 1070 (Max-Q) / GTX1060
- 8GB / 6GB GDDR5 VRAM
- DDR4 2666MHz SDRAM Up to 24GB (8GB onboard memory)
- M.2 NVMe PCIE 3.0 x2 512GB SSD
- M.2 NVMe PCIE 3.0 x4 256GB / 512GB / 1TB SSD
- หน้าจอ 15.6-inch FHD (1920×1080) IPS- 144Hz, 3ms, 100% sRGB
- Backlit Chiclet Keyboard
- Marked WASD keys
- N-key rollover
- RGB 4 zones
- Aura Sync
- 1.2mm key travel
- 2x 2W speakers with smart-amplifier technology
Array microphone - 802.11ac 2×2 Wave 2 Wi-Fi Bluetooth® 5.0
- น้ำหนัก 2.1 kg
- 1 x USB 3.1 Gen 2 Type-C™ (USB-C™)
- 1 x USB 3.1 Gen 1 Type-C™ (USB-C™)
- 1 x USB 3.1 Gen 2 Type-A
- 2 x USB 2.0 Type-A
- 1 x HDMI 2.0
- 1 x 3.5mm headphone and microphone combo jack
- 1 x Kensington Lock
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้มีความเปลี่ยนแปลงจากรุ่น M ค่อนข้างมากครับทั้งตัวการออกแบบ Layout ทั้งหมดย้ายตำแหน่งคีย์บอร์ด Touchpad ย้ายไปไว้ด้านข้างพร้อมกับเป็น Numpad ในตัวรวมถึงการเล่นสีลวดลายและดีไซน์วัสดุทั้งหมดได้พัฒนาขึ้น บางเบาขึ้น และมีความแข็งแรงขึ้นครับ และ ดีไซน์แบบนี้หลายๆคนคงคุ้่นเคยกับตัว ASUS ROG Zephyrus GX501 นั้นเองแต่มาปรับให้ขอบหน้าจอบางขึ้นสวยขึ้น ตัวเครื่องโดยรวมบางมาก ทำให้มันขนาดเล็กลงพอๆกับเครื่องขนาด 14 นิ้วเลยทีเดียว และการออกแบบยกตัวระบายความร้อยนั้นก็มีมาเหมือนกันในตัวนี้ครับ
ฝาหลังของตัวนี้มีการเล่นลวดลาย 2 ฝั่งเช่นกันครับวัสดุทั้งหมดเป็นอลูมิเนียม CNC-milling และขอบตัวเครื่องมีการตัดขอบสีทองแดงสวยงามและเด่นพอสมควรเลยแหละตัวโลโก้ ROG เป็นสีแดงพร้อมกับเล่นลวดลายเจาะรูเหมือนตาข่ายครับไม่สามารถปรับสีได้นะในตัวนี้มีแค่สีแดงเท่านั้นในตัวโลโก้ ROG ด้านหลัง และข้อต่อขาพับนั้นแข็งแรงและทำให้ยกตัวเครื่องขึ้นมาระบายความร้อนได้
คียบอร์ดมีพื้นที่ด้านบนไว้สำหรับระบายความร้อนรวมถึงมีการเล่นลวดลายสวยงามมากๆครับ ซึ่งเมื่อดูคีย์บอร์ดตัวเครื่อง Zephyrus S GX531 แล้วต้องบอกว่ามันดึงเอาจากรุ่นพี่มันมาทั้งหมดครับ และการใช้งานจากที่ลองต้องบอกว่าสะดวกดีรวมถึงการใช้ระยะปุ่ม ระยะการกด1.2มม ทำได้ดีครับแม้ตัวเครื่องจะบางการย้าย Touchpad ไปอยู่ที่ด้านขวาของตัวเครื่องแน่นอนว่ามันปรับได้หลายแบบ คือ Numpad สำหรับกดตัวเลขก็ได้ครับ มีปุ่มคลิกซ้ายขวามาให้พร้อมเลย อีกทั้งยังสามารถปรับไฟ RGB ได้ทั้งหมด 4 โซนหลักๆซึ่งแยกอิสระทั้งหมดเลยครับในตัว ไฟทั้งหมดบน Keyboard
ระบบระบายความร้อนตัวนี้เค้าพัฒนาขึ้นมาพอสมควรอย่างแรกก็เรื่องของการถ้าเราเปิดหน้าจอขึ้นมาขาของมันจะทำให้ยกตัวเครื่องได้สูงขึ้น และทำให้องศาการพิมพ์งานทำได้ดีขึ้นครับทาง Asus ใช้แนวคิดมาหลายๆตัวและจากที่ลองมันใช้งานดีขึ้นจริงๆอันนี้ชอบและทำให้การระบายดูดลมเข้าออกได้ดีขึ้นแน่นอนทั้งจากด้านล่าง ด้านข้างและด้านหลังครับ พัดลมตัวนี้มาพร้อมชุดละ 83 ใบพัดอีกทั้งยังมี ท่อระบายความร้อนทั้งหมด 5 เส้นเลยทีเดียวและช่องระบายเป็นแบบระบบดักฝุ่น Anti-Dust Tunnel ด้วยอันนี้เจ๋งระบบนี้ ซึ่งตัวที่ยกขึ้นมาเป็นไฟ RGB กับเค้าด้วยตามภาพด้านบนเลยครับ
สำหรับตัวพอร์ตเชื่อมต่อตัวเครื่องมันใส่มาให้รอบตัวเครื่องเลยด้านหลังก่อนเลยจะเป็นพอร์ท HDMI กับช่องสำหรับล็อคตัวเครื่องครับคู่กับ ระบายความร้อนซ้ายขวา ในส่วนด้านข้างทั้ง 2 ก็มีช่องระบายความร้อนเช่นกัน ด้านซ้ายจะเป็น Type-C กับ Usb 3.0 นะครับ และในส่วนของด้านขวาตัวเครื่องจะเป็นพอร์ท ที่ชาร์จไฟเข้า Type-C และ USB 3.0 2 ช่องรวมถึง หูฟัง+ไมค์ 3.5 มม. ไม่มีช่อง LAN มาให้เพื่อความบาง ในรุ่นนี้เสียดายแค่ T3 ยังไม่มา
Zephyrus S จุดเด่นที่น่าสนใจสุดๆในตัวนี้คงเป็นหน้าจอแบบขอบบาง แถมยังเป็นเจ้าแรกของโลกที่มาพร้อม Full HD IPS AHVA Refresh Rate 144 Hz และมาพร้อม Respond Time 3 ms ซึ่งตัว ขอบหน้าจอแบบบางพิเศษตัวนี้แหละทำให้มันสวยและขนาดเล็กกว่าเดิมอย่างมากใกล้เคียง 14 นิ้วครับทำให้พื้นที่มันเล็กลงพกพาง่ายขึ้นครับ และจอแบบนี้ทำให้การแสดงผลในมุมมองอื่นๆไม่เพี้ยนเวลาเอียงหรือทำงานนั้นก็ยังแสดงผลสีได้ตรงมากๆสามารถแสดงสีสันได้ครอบคลุม 100% ของมาตรฐานสีแบบ sRGB เรียกได้ว่าจอภาพเป็นจุดเด่นหลักๆของตัวนี้ทำให้เล่นเกมส์ FPS สูงๆได้สบาย เมื่อลองเกมส์แบบจอเดิมกับจอ 144 ความลื่นไหลเวลาหันภาพหรือเกมส์จะแตกต่างกันแบบถ้าใครชินจอ 144 มาใช้จอ 60 อาจจะขัดใจได้เลยครับ
SOFTWARE
ถ้าใครยังคุ้นเคยกับ ROG Game Center แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนมาเป็น Armoury Crate แน่นอนว่าการปรับเปลี่ยนนี้บอกเลยว่าหน้าตาดูดีขึ้นเยอะมาก เรียบหรูและยังแฝงความเท่และสายเกมส์ได้อย่างลงตัว ทำให้การปรับแต่งลงตัวและสะดวกขึ้นครับ เป็นการรวม Hardware และบอกเป็น Stat แบบ วงกลมว่าเน้นอะไรด้านไหนบ้าง รวมไปถึงการปรับแต่งไฟด้วย Aura Sync อีกทั้งยังตั้ง Profile ได้มากถึง 4 แบบทำให้สะดวกต่อการปรับเปลี่ยนได้ไวมากขึ้น และสามารถปรับตั้งให้มันเปลี่ยนไปตามเกมส์แต่ละเกมส์ได้ด้วยนั้นเอง ตัว Armoury Crate ยังมีแบบ Mobile Dashboard สำหรับ Android™ และ iOS รวมไปถึงความสามารถอื่นๆที่จะมีเพิ่มขึ้นจากการอัพเดทในอนาคต
สำหรับการพริวิวนี้หลักๆเราจะเน้นไปเรื่องของความรู้สึกดีไซน์และการสัมผัสกันก่อนนะครับแอดมินบอกเลยว่าตอนแรกไม่รุ็สึกว่ามันบางเบาอะไรขนาดนั้นแต่เมื่อเอามาเทียบรุ่นเก่าแล้วแบบ เห้ย มันสวยขึ้นเยอะมากก เบาบางมากจริงๆครับใครไม่เชื่อไปดูรูปเทียบกันได้เลย ต้องบอกว่าเป็นการปรับเปลี่ยนที่เยอะมากและทำให้มันสวยขึ้นมากดีขึ้นแบบรู้สึกได้และจอภาพที่ลองมันสมูทกว่าแบบชัดเจนครับ
และแน่นอนครับการ Preview ครั้งนี้ต้องขอขอบคุณทาง ASUS อย่างมากที่เชิญทาง Techhangout ไปร่วมงานและนำภาพมาฝากแพนเพจกันนะครับ ยังไงสำหรับรุ่นนี้ นั้นยังไม่มีกำหนดการ ราคา และ วันวางจำหน่ายชัดเจนนะครับ แต่ก็สามารถติดตาม Techhangout ได้เลยเราจะมาอัพเดททันทีที่วางขายกัน