Asus ได้เน้นตระกูล Zenbook อย่างมากครับและได้มีการอัพเกรดยกชุดอย่างมากทั้งดีไซน์ การออกแบบ หน้าจอ และ Intel 8 Gen Whisky lake นั้นเอง สำหรับรุ่นที่เราได้ไปสัมผัสมาก่อนใครนั้นจะเป็น รุ่น Zenbook 13 / 14 /15 และ Zenbook Flip 15 นั้นเองต้องบอกเลยว่าการออกแบบครั้งนี้ทำได้ดี และ การใช้ Touchpad เป็น Numpad ถือว่าทำได้ดีมากๆและน่าสนใจอย่างมากครับในรุ่นนี้ และสเปคก็ไม่ธรรมดาเลยบางตัวมาพร้อม GTX1050 Max Q เลยแหละ อย่ารอช้าเราไปชมกันก่อนเลยครับว่ามีอะไรน่าสนใจและสวยงามขนาดไหนกัน !
PREVIEW ASUS ZENBOOK 13 / 14 / 15 / Flip 15
ASUS ZENBOOK 13 ในตระกูล 13-14-15 นั้นจะชูจุดเด่นของหน้าจอ NanoEdge พื้นที่แสดงผลถึง 93% หน้าตาสวยงามและมีขอบหน้าจอที่บางมากๆ และ แน่นอนสำหรับรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ ขอบจอแบบ เวลาเปิดแล้วจะยกตัวแป้นพิมพ์ขึ้นมาครับ เรียกว่า Ergolift นั้นเองแนวคิดนี้ต้องบอกว่ามีประโยชน์อย่างมากเลยแหละ ส่วนในเรื่องของจุดเด่นอีกจุดคือ Numberpad ที่ แฝงอยู่ในตัว Touchpad นั้นเอง จุดนี้สวยงามและใช้งานได้ดีจากที่ลองตอยสนองได้ดีเลยแหละ
สำหรับตัว 13 นิ้วเล็กสุดคือจะมาพร้อมขนาดที่เล็กกว่า A4 อีกนั้นเองพร้อมกับน้ำหนักเบามากๆ 1.09 Kg ขอบหน้าจอบางกล้องหน้ายังคงมีและออกแบบได้ดีจนสามารถใส่ไว้ด้านบนได้ อีกทั้ง รวม Numpad + Touchpad ไว้ด้วยกัน มาพร้อม intel i7 Gen 8 พร้อมการ์ดจอ MX 150 และ ลำโพง Harman/Kardon
ช่องระบายความร้อน ตระกุลนี้จะมาเหมือนกนันหมดคือซ่อนอยู่ส่วนหลังของตัวเครื่องครับออกมาทั้ง 2 ช่องระบายความร้อนค่อนข้างดีและไวพอสมควรอีกทั้งตัวเครื่องยกขึ้นไปตามแนวคิด Ergolift ทำให้ระบายได้ดีกว่าทั่วไปอีก
แนวคิดการยกตัวเครื่องขึ้นมา 33 องศาทำให้การพิมพ์งานได้ดีขึ้นเป็นแนวคิดที่ดีในแบรนด์นี้ครับใช้งานจริงๆจะพอรู้เลยว่ามันแตกต่างและสบายขึ้นกว่าแบบแบนๆปกติครับ จะเห็นพอร์ทเชื่อมต่อมีมาให้ครบพอต่อการใช้งานเลยแหละ
ASUS ZENBOOK 14 เครื่องสีน้ำเงินตัวนี้จะมีอะไรเหมือนกับ ตัว 13 นิ้วทั้งดีไซน์ฝาหลังและการออกแบบโดยรวมเหมือนกันครับ ส่วนของตัว Touchpad + Numpad ยังคงมีมาให้เช่นกันในตัวนี้จะเห็นเป็นไป LED สวยงามมากๆ ต้องบอกก่อนว่าตัว 13 และ 14 นั้นทุกอย่างแทบจะเหมือนกัน ทั้งดีไซน์ พอร์ทเชื่อมต่อ และตัว Numpad
ซึ่งตัว Touchpad นี้ัสามารถเปิดปิด Numpad ได้การแตะมุมขวาบนนั้นเองและใช้งานได้ค่อนข้างดีครับแตะใช้งานได้ปกติ ถ้าอยากเลื่อนก็เลื่อนได้สามารถปิดและใช้งานปกติได้ครับ รวมถึง เวลาปิดก็จะเนียนไปกับตัว Touchpad เลยไม่เห็นเลยครับว่ามีตัวเลขหรือมีอะไรซ่อนอยู่ในนั้น
สำหรับตัวหน้าจอตัวนี้มาพร้อมกับ NanoEdge เช่นเคยแต่กล้องหน้าจุดที่ดีคือยังไว้ด้านบนและออกแบบได้เล็กมากๆในส่วนของขอบจอรุ่นนี้ไม่ต้องย้ายกล้องหน้าไปไว้ข้างล่างอีกต่อไปครับ และขอบทั้ง 4 ด้านบางได้ใจจริงๆ และทั้ง 3 รุ่นนั้นจะมาพร้อมหน้าจอแบบ Wide 100% sRGB color gamut และมุมมอง 178° wide-view technology
พอร์ทเชื่อมต่อก็ยังมีให้ครบในทุกๆรุ่นย่อยทั้ง USB 2.0 ปกติ ช่องใส่ Micro-sd รูหูฟัง อีกด้านนั้นจะเป็น พอร์ท Type-C 3.1 Gen2 และ USB A 3.1และ HDMI ในอีกด้านของตัวเครื่องนั้นเองครับ วางแบบเดียวกับตัว 13 น้ำหนัก 1.09 Kg ขอบหน้าจอบางกล้องหน้ายังคงมีและออกแบบได้ดีจนสามารถใส่ไว้ด้านบนได้ อีกทั้ง รวม Numpad + Touchpad ไว้ด้วยกัน มาพร้อม intel i7 Gen 8 พร้อมการ์ดจอ MX 150 และ ลำโพง Harman/Kardon ที่มีระบบ Surround และ Amp พิเศษทั้ง 3 รุ่นแบบเดียวกันหมดนะครับ
ASUS ZENBOOK 15 สำหรับรุ่นใหญ่สุดของตระกูลนี้จะมีความแตกต่างเล็กน้อยในเรื่องของสเปค และการออกแบบตัว Numberpad ครับแน่นอนว่าจอใหญ่พื้นที่เยอะไม่จำเป็นต้องใส่ลงใน Touchpad แล้วนั้นเองตัวนี้จึงมี Numpad ไว้ข้างๆแบบทั่วไปแล้วส่วนเรื่องของพอร์ทก็จะแตกต่างกันเล็กน้อยและมีช่องระบายความร้อนเพิ่มขึ้นจาก 2 รุ่นก่อนหน้านี้นั้นเองครับ และะ ความแรงยังมาพร้อมกับ GTX 1050 Max-Q เลยทีเดียวสำหรับตัวใหญ่สุด
หน้าจอยังคงขอบบางสวยงามได้เหมือนเดิมสำหรับรุ่นนี้ครับ ตัว Numpad ไปไว้มุมขวาเรียบร้อยไม่ได้อยู่บน Touchpad แบบรุ่นเล็ก 2 ตัวก่อนหน้านี้ครับ ส่วนปุ่มคียบอร์ด ระยะความลึก และไฟยังคงมีมาครบเช่นเดิม แต่ตัวเครื่องจะสังเกตได้เลยว่ามันไม่ใหญ่แบบ 15 นิ้วทั่วไปครับทำขนาดได้ดีเพราะด้วยขอบจอและขอบรวมๆทำได้บางมาก
ฝาหลังของตระกูล Zen แน่นอนมีลายแบบนี้มีแบรนด์เดียวที่ทำได้สวยและเป็นเอกลักษณ์ตามชื่อ Zen ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวขัดลวดลายสวยงามอลูมิเนียมกึ่งเงาผิวเนียนมากๆครับ โลโก้ Asus เงาแบบมีมิติ ฝาหลังจะเป็นลักษณะเดียวกันหมดนะครับทั้งรุ่น 13 14 และ 15 ในส่วนของฝาหลัง พอร์ทการเชื่อมต่อแน่นอนว่าเครื่องใหญ่ขึ้น พอร์ทจะแตกต่างกับรุ่นจอ 14 และ 13 นิ้ว คือจะมีมากกว่าในส่วนของด้านขวานั้นจะมีพอร์ท SD Card มาแทน พอร์ท Type-C 3.1 Gen 2 พอร์ท USB A 3.1 พอร์ท HDMI และ ช่องชาร์จไฟ ส่วนอีกด้านนั้นจะเป็น รูระบายความร้อนที่เพิ่มเข้ามาระบายส่วนการ์ดจอ 1050 และ USB A 3.0 รวมถึงรูหูฟัง 3.5 มม ยังคงมีมาให้ครับในอีกด้านนึง เรื่องของน้ำหนักแน่นอนตัวนี้ยังคงทำได้ดี อยู่ที่ 1.59 kg ครับผม
ZENBOOK 13 – 14 – 15 แตกต่างกันอะไรบ้าง ??
- ขนาดหน้าจอแตกต่างกัน และ ขอบความหนาของหน้าจอแตกต่างกัน 0.1 มิล
- การ์ดจอ GTX 1050 Max-Q มีแค่ในรุ่น 15 นิ้ว
- Touchpad ที่มี Numpad ในตัวมีแค่ในรุ่น 13-14
- พอร์ทเชื่อมต่อ ตัว 15 จะแตกต่างกันตัว 13 และ 14 นิ้ว
- น้ำหนักตัว 13 และ 14 จะอยู่ที่ 1.09 ส่วน 15 นิ้วอยู่ที่ 1.59
- ตัว 15 นิ้วได้ RAM 2400MHz DDR4 onboard
- 4k มีให้เลือกแค่ตัวจอ 15 นิ้ว
- ทั้ง 3 รุ่นได้รับ MIL-STD-801G ทดสอบความแข็งแรง
ASUS ZENBOOK FLIP 15
เป็นรุ่นที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานหลายรูปแบบถือได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊คแบบพับหมุนจอได้ขนาด 15.6 นิ้ว ที่มีขนาดตัวเครื่องเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงกว่า 10% ทำให้ทั้งสองรุ่นมีขนาดกะทัดรัดที่สุดในโลก ที่มาพร้อมกับ NumberPad รูปแบบใหม่เช่นเดียวกันในตัว 13.3 นิ้ว และ ตัวนี้จะมีการดีไซน์ออกแบบแตกต่างกับรุ่นอื่นๆ ทั้งฝาหลังและข้างใน
ข้อพับตัวนี้ทำออกมาได้แข็งแรงพอสมควรและพลิกได้ 360 องศา ข้อต่อมีการเคลือบเงาและมีขนาดใหญ่พอสมควร พอร์ทการเชื่อมต่อนั้นมีมาให้ครบสำหรับตัว Flip 15 ตัวนี้ ทั้ง Hdmi USB-A และ รู 3.5 มม ครับ
ตัวเครื่องมาพร้อมกับ CPU 8th Generation Intel® Core™ i7 และในตัว ZenBook Flip 15 ได้มีการเพิ่มกราฟิกการ์ดแยกแบบประสิทธิภาพสูงอย่าง NVIDIA® GTX 1050 Max-Q และ ยังมาพร้อมกับหน้าจอที่รับรอง PANTONE® Validated ที่มีค่า Delta-E ต่ำเป็นพิเศษ โดยต่ำกว่า 2 สำหรับรุ่น 4K UHD และต่ำกว่า 3 สำหรับรุ่น FHD โดยวัสดุฝาข้างในมีการเล่นลวดลายสวยงามปัดเงา และไฟบนคียบอร์ดก็มีมาให้เช่นกันครับในรุ่นนี้
หน้าจอตัว Zenbook Flip นั้นรองรับการสัมผัสทำให้เวลาใช้งานเวลาพลิกตัวเครื่องนั้นทำให้ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม
ฝาหลังรุ่นนี้จะเป็นวัสดุอลูมิเนียมด้าน จะแตกต่างกับรุ่น Zenbook ธรรมดาที่มีการเล่นลวดลาย Zen นั้นเองตัวนี้จะแอดติดรอยนิ้วมือง่ายไปนิดหน่อยและเช็ดออกยากพอสมควรครับ แต่เครื่องการสัมผัสให้ความรู้สึกดีอยู่เหมือนกัน แถมได้รับการทดสอบความทนทานตามมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-801G สำหรับความทนทานและความมีเสถียรภาพในการใช้งาน
จะเห็นว่าทำไมมีกล้องตรง คียบอร์ดแน่นอนว่า ใช้งานเวลาพับจะเป็นกล้องหลังได้รวมถึง ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมกับกล้องแบบ world-facing ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับแอพพลิเคชั่น mixed-reality ที่สามารถนำเอากล้อง ZenBook Flip 13 และ 15 ไปถ่ายภาพวัตถุเพื่อนำมาใช้ในโปรแกรม 3D ได้อีกด้วย ถือว่าเจ๋งมากๆเลยครับ
ในด้านของการเชื่อมต่อก็มีพอร์ทมาให้ในส่วนของด้านนี้จะเป็นที่อยู่ของ ช่อง SD Card ครับและ USB A ส่วนจะมีปุ่มพิเศษคือปุ่ม Power ที่ไว้ตำแหน่งตรงนี้เพราะว่าเวลาใช้งานแบบพับหน้าจอจะสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้นครับ
และแน่นอนครับการ Preview ครั้งนี้ต้องขอขอบคุณทาง ASUS อย่างมากที่เชิญทาง Techhangout ไปร่วมงานและนำภาพมาฝากแพนเพจกันนะครับ ยังไงสำหรับรุ่นนี้ นั้นยังไม่มีกำหนดการ ราคา และ วันวางจำหน่ายชัดเจนนะครับ แต่ก็สามารถติดตาม Techhangout ได้เลยเราจะมาอัพเดททันทีที่วางขายกัน