เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟนรุ่น OPPO F9 ในรุ่นนี้อาจจะเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นจากแบรนด์ OPPO ที่มีผลตอบรับดีมากๆในบ้านเรา สำหรับ OPPO F9 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ประสบความสำเร็จในแง่ของกระแสตอบรับและยอดจำหน่ายอย่างท่วมท้น ใน 5 วันแรก ของการเปิดจอง OPPO F9 สามารถทำลายสถิติยอดจองเดิมใน OPPO F7 ได้มากถึง 2 เท่า และในเวลาต่อมา OPPO F9 ยังทุบสถิติสมาร์ทโฟนของ OPPO ที่ทำยอดจองสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำหรับบทความนี้เราเลยอยากจะมาเเนะนำฟีเจอร์เด่นๆที่มีอยู่ใน OPPO F9 ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 ( Oreo ) ครอบทับด้วยระบบ Color OS 5.2 จากแบรนด์ OPPO เอาเป็นว่าเรามาเริ่มดูกันดีกว่าว่ามีอะไร ? น่าสนใจบ้างในรุ่นนี้ ก่อนอื่นเลยเรามาพูดถึงฟีเจอร์ใหม่ที่ใส่มาใน Color OS 5.2 ที่มีอยู่ใน OPPO F9 กันก่อนดีกว่าว่ามีอะไร ? บ้าง
รายละเอียดสเปค OPPO F9
- หน้าจอ TFT-LTPS ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 1080 x 2340 พิกเซล
- ชิปประมวลผล Mediatek MT6771 Helio P60 CPU Octa-core
- GPU Mali-G72 MP3
- RAM 6GB ROM 64GB
- รองรับ microSD สูงสุด 256 GB
- กล้องหลังคู่ Dual Camera ความละเอียด 16+2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/1.8
- กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.0
- รองรับซิมแบบ Triple Slot
- พอร์ตเชื่อมต่อ Micro-SD
- แบตเตอรี่ความจุ 3500 mAh พร้อมกับฟีเจอร์ VOOC Flash Charge 5V 4A , 20W
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
ความปลอดภัย
เรื่องความปลอดภัยโดยใน Color OS 5.2 ได้เพิ่มความปลอดภัยนอกจากการปลดล็อคตัวเครื่อง โดยมีการเพิ่มความปลอดภัยในเรื่องของการติดตั้งแอพฯ การซื้อแอพฯ รวมไปถึงการสแกนใบหน้าที่จะปลอดภัยและสะดวกสบายในการใช้งาน
หากว่าเราเข้าไปที่หน้าตั้งค่าเลือกหัวข้อ ลายนิ้วมือใบหน้า และ รหัสผ่าน เราจะเห็นหัวข้อการปลดล็อกตัวเครื่องทั้งหมด 2 วิธี คือการปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ และ การปลดล็อกด้วยใบหน้า ดูแล้วมันก็เหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นทั่วไป เเต่ผมอยากจะให้เพื่อนๆลองเลือกหัวข้อ การปลดล็อกด้วยใบหน้า
พอเข้าไปเเล้วให้เราทำการสแกนใบหน้า ( สำหรับคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ) พอเข้ามาเเล้วเราจะเห็นหน้าต่างตัวเลือกต่างๆตามภาพด้านบน
ก่อนอื่นต้องเเจ้งก่อนว่าการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยใบหน้าจะมีการใช้งานทั้งหมด 2 วิธี
1. การปลดล็อกโดยการลากนิ้วขึ้นเมื่อหน้าจอเปิดอยู่ : วิธีนี้ส่วนตัวว่าไม่ค่อยสะดวก เเละรู้สึกว่ามันช้าไปนิด คือเราจะต้องทำการกดปุ่ม Power ด้านข้างตัวเครื่องเเล้วต้องลากนิ้วขึ้นเมื่อหน้าจอเปิด ตัวเครื่องถึงจะทำการปลดล็อก
2. การปลดล็อกโดยการใช้ใบหน้าของเราโดยตรง : วิธีนี้จะทำให้เราสามารถปลดล็อกเครื่องได้ไวขึ้นเพียงเเค่กดปุ่ม Power ตัวเครื่องก็จะทำการปลดล็อกให้เลย
นอกจากการปลดล็อกใบหน้าทั้งหมด 2 วิธี ทาง OPPO ยังเพิ่มความปลอดภัยโดยการใส่หัวข้อ การหลับตาจะทำให้การรู้จำใบหน้าล้มเหลว อ่านเเล้วอาจจะรู้สึกงงๆหน่อยความหมายก็คือ เมื่อเวลาเราหลับตาหรือเรานอนหลับอยู่อยู่ มีคนนำสมาร์ทโฟนของเรามาเพื่อที่ต้องการปลดล็อกตัวเครื่อง ระบบจะรักษาความปลอดภัยโดยการไม่สั่งงานปลดล็อกตัวเครื่องของเรานั้นเองทำให้การปลดล็อกล้มเหลว
ล็อกแอพ
นอกจากการเพิ่มลูกเล่นการปลดล็อกตัวเครื่องเเละระบบการรักษาความปลอดภัยด้วยใบหน้าเพิ่มขึ้น Color OS 5.2 ยังเพิ่มในส่วนของการปลดล็อกความปลอดภัย เกี่ยวกับแอพ และ ที่เก็บข้อมูลส่วนตัว ได้อีกด้วย
วิธีการใช้งานให้เราทำการเปิดการใข้งานเหมือนกับรูปภาพด้านบน เเละให้เราเข้าไปที่หน้าตั้งค่า เลือกหัวข้อ การรักษาความปลอดภัย – การเข้ารหัสแอพ
พอเราเลือกหัวข้อนี้ระบบจะทำการให้เราใส่รหัสผ่าน ให้เราทำการใส่รหัส เเค่นี้เราก็สามารถตั้งค่าแอพเพื่อทำการล็อกตามที่เราต้องการได้เลย เเละระบบก็จะใช้ใบหน้าของเราเพื่อทำการปลดล็อกเเทนรหัสผ่านได้อีกด้วย หรือจะใช้ลายนิ้วมือเพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้นก็ได้ด้วยเช่นกัน
Swipe-UP Gesture Navigation
ฟีเจอร์ Swipe-UP Gesture Navigation หรือการนำทางโดยการด้วยการลากนิ้วขึ้น ฟีเจอร์นี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีความน่าสนใจ สำหรับใครที่เบื่อแถบนำทางบนหน้าจอด้านล่างแบบเดิมๆ บน OPPO F9 เรายังสามารถเลือกใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ เเละมีให้เลือกด้วยกันหลายวิธี
วิธีการเข้าไปตั้งค่าเข้าไปที่หัวข้อ การตั้งค่า – ปุ่มนำทาง – การนำทางด้วยการลากนิ้วมือ และก็สามารถตั้งค่าตามที่เราต้องการตามรูปภาพด้านบนได้เลย
Smart Sidebar
เป็นฟีเจอร์ที่จะทำให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นกับฟีเจอร์นี้ ก่อนที่เราจะใช้งานฟีเจอร์นี้ได้เราต้องเข้าไปเปิดซะก่อน ให้เราเข้าไปที่ตั้งค่า เลือกหัวข้อ ความสะดวกสบายเเบบชาญฉลาด – แถบด้านข้างอัจฉริยะ
แล้วก็ทำตามเปิดตามภาพด้านบนได้เลย หลังจากนั้นให้เรากดปุ่มโฮมจะย้อนกลับมาที่หน้าหลักของเรา ให้สังเกตุตรงด้านขวาของจอจะมีแถบขาวเเละให้ทำการเลื่อนออกมา
พอเราเลื่อนออกมาเเล้วก็จะเห็นหน้าเส้นทางลัดที่เราสามารถเพิ่มแอพตามที่เราต้องการได้เลย อีกทั้งเรายังทำการบันทึกภาพหน้าจอ หรือจะอัดวีดีโอได้เลยเป็นไงสะดวกใช่ไหม
นอกจากนี้เวลาที่เราดูวีดีโอก็ยังสามารถทำการเเชทกับเพื่อนๆได้ด้วยนะ
อีกทั้งเรายังสามารถทำการบันทึกหน้าจอแบบง่ายๆโดยการลากสามนิ้วลงมาจากด้านบน หรือจะทำการเเบ่งหน้าจอง่ายๆก็ลากสามนิ้วขึ้นมาจากด้านล่างนั้นเอง
Game Space
ฟีเจอร์นี้ดูเหมือนว่าจะเอาใจสายเกมโดยเฉพาะโดยฟีเจอร์นี้จำทำการนำเกมส์ของคุณที่มีทั้งหมดไปรวมกันอยู่ในแอพเดียว ทำให้คุณสามารถค้นหาเกมส์ที่มีบนตัวเครื่องของคุณทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนั้นในฟีเจอร์นี้คุณยังสามารถตั้งค่าในส่วนต่างๆเพิ่มเติมได้ ปิดการเเจ้งเตือนต่างๆ , ล็อคความสว่างหน้าจอ , เพิ่มความเร็วกราฟฟิกเกม , จัดการบริหารอินเตอร์เน็ตบนตัวเครื่องทำให้สามารถเล่นเกมส์ได้ลื่นยิ่งขึ้น เป็นต้น
นอกจากนั้นพอเราปัดหน้าจอจากด้านซ้ายมุมจอก็ยังสามารถเรียกแถบ Smart Bar ขึ้นมาใช้งานได้เหมือนเช่นเดิมเหมือน OPPO F7 เเต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือรูปแบบหน้าต่างการใช้งานที่ดูสวยกว่าเดิม และในขณะที่เราเล่นเกมส์ก็ยังสามารถเปิดเเชทกับเพื่อนหรือจะบันทึกหน้าจออัดวีดีโอก็สามารถทำได้เลย
หรือจะกดปิดแถบการเเจ้งเตือนต่างๆ รวมไปถึงปฏิเสธการรับสายได้ มีโหมด AFK ที่สามารถเปิดบอทเกมเเนว MMORPG พอเรากดเเล้วระบบจะทำการลดเเสงหน้าจอลง เเละ ก็ยังคงสามารถกดหน้าต่างเเชทขึ้นมาขณะเล่นเกมส์ได้เหมือนเดิม
Video editing
ฟีเจอร์นี้มีเพิ่มขึ้นมาบน Color OS 5.2 เอาใจสำหรับคนที่ชอบถ่ายวีดีโอ อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีความน่าสนใจที่ใส่มาใน OPPO F9 ที่คุณควรรู้ก็คือการเเก้ไขวีดีโอ โดยในรุ่นนี้พอคุณทำการอัดวีดีโอของเราเรียบร้อย
ให้เราเข้าไปที่ คลังรูปภาพ – เลือกวีดีโอที่คุณต้องการ จากนั้นให้ทำการกดปุ่ม แก้ไข ก็จะมีตัวเลือกให้เราสามารถกำหนดความเร็วหรือช้าของวีดีโอของคุณได้
พอคุณเลือกความเร็วตามที่ต้องการ ก็ให้กดถัดไปจะเห็นหน้าลูกเล่นต่างๆให้เราได้กดเเก้ไขใส่วีดีโอง่ายๆ ไม่ว่าจะ เป็นธีมสวยๆ , เสียงเพลงเพราะ , เปลี่ยนโทนสีของวีดีโอ , ใส่ข้อความตัวหนังสือ ฟีเจอร์นี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่จะทำให้เราสามารถแก้ไขวีดีโอได้อย่างสะดวกสบาย
Google Assistant
ในรุ่นนี้ทาง OPPO ได้ใส่ฟังก์ชั่น Google Assistant มีความสามารถในการตอบรับ โต้ตอบกลับ คล้ายกับความสามารถของ Siri ของทาง Apple และมีความสามารถในการเข้าถึงการทำงานต่างๆ ของเครื่องเราได้มากกว่า สามารถทำให้เราค้นหาสิ่งต่างๆตามที่เราต้องการได้โดยการใช้คำสั่งเสียงของเรา
วิธีการใช้งานก็ง่ายๆเพียงแค่กดปุ่มโฮมตรงปุ่มนำทางค้างไว้ ก็จะสามารถเรียกใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้เลย หรือหากไม่สะดวกก็สามารถเลื่อนแถบเส้นทางลัดด้านบนลงมาเราก็จะเห็นฟังก์ชั่นนี้ด้วยเช่นกันลองไปใช้งานดูนะครับสะดวกดี ** หมายเหตุ ** สมาร์ทโฟนต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
Google lens
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่น่าสนใจที่ใส่มาภายในกล้องของ OPPO F9 ก็คือ Google Lens นี้ละครับ ก่อนอื่นผมต้องอธิบายก่อนว่าฟีเจอร์นี้มันสามารถทำอะไรได้บ้าง ?
Google Lens เป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจากทาง Google ที่มาเปลี่ยนการถ่ายรูปที่สุดแสนธรรมดาบนสมาร์ทโฟน ให้มีความสนุกและน่าสนใจมากยิ่ง ซึ่ง Google Lens จะมาคอยบอกข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับรูปภาพที่คุณได้ถ่ายออกมา ด้วยหลักการทำงานร่วมกันของ AI เเละรูปภาพครับโดยหลักๆเเล้วในรุ่น OPPO F9 ตัว Google Lens สามารถใช้งานได้ดังต่อไปนี้
ใช้งาน Google Lens กับรูปภาพอะไรได้บ้าง
- คัดลอกข้อความ
- รูปถ่าย จะมีการบอกข้อมูลเกี่ยวกับรูปนั้น เช่น สุนัขตัวนี้พันธุ์อะไร, ดอกไม้ชนิดใด, ตึกนี้คือตึกอะไร
- สำรวจหนังสือและสื่อ สามารถดูรีวิวและรายละเอียดอื่นๆ ของหนังสือได้ , ภาพยนตร์ , เพลง , วีดีโอเกมส์
- รูปสถานที่ : จะมีการบอกตำแหน่งของสถานที่นั้นทันทีว่าอยู่ที่ไหน
- สแกนโค้ด QR
ต้องเเจ้งก่อนว่าความแม่นยำในการค้นหาอาจจะไม่ 100% เเละสมาร์ทโฟนของคุณจะต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้ด้วยนะครับ
Artistic Portrait Mode
อีกหนึ่งฟีเจอร์บนกล้อง OPPO F9 ที่คุณต้องรู้นั่นก็คือ Artistic Portrait Mode เพื่อการปรับแต่งแสงเทคนิคแบบ 3D และสไตล์ Bokeh ที่จริงเเล้วเคยมีอยู่ในรุ่น OPPO R15 PRO หรือ OPPO FIND X สามารถเบลอฉากหลังของภาพให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เเละสามารถเลือกโทนสีตามที่เราต้องการได้เลยแบบง่ายๆ
นอกจากนั้นก็ยังมีในส่วนของลูกเล่นสติ้กเกอร์สวยๆน่ารัก ให้เราได้เลือกใช้งานอีกมากมาย เเละยังมีให้โหลดตามที่ต้องการอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับฟีเจอร์ใหม่ๆเด็ดๆที่ใส่มาใน Color OS 5.2 บน OPPO F9 ที่แอดมินนำมาฝากในบทความนี้ ก็เรียกได้ว่า Color OS 5.2 ของทาง OPPO เป็นระบบปฏิบัติการที่มีหน้าตา UI ที่เรียบหรูใช้งานง่าย แถมยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครัน
ใครที่สนใจก็สามารถไปหาซื้อเป็นเจ้าของได้เเล้วในราคา 10,990 บาท ที่ตัวเเทนจำหน่าย OPPO ทุกสาขา
พร้อมกับ OPPO F9 เฉดสีใหม่ที่ OPPO เตรียมเปิดให้จอง F9 Starry Purple Edition ฝาหลังสีม่วงประกายดาว 8 – 26 กันยายนนี้ ในราคา 10,990 บาท พร้อมของขวัญสุดพิเศษจำนวนจำกัดยังไงถ้าใตรสนใจก็ไปหาซื้อกันเลย