ในทุกวันนี้กระแสการออกกำลังกายนั้น มาเยอะมากขึ้นเรื่อยๆในประเทศไทย และแน่นอนว่าการออกกำลังนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญครับ และถ้าเรามีตัวช่วยในการดูชีพจร นับแคล หรือ คอยสรุปให้ราว่าวันนี้เราออกกำลังไปเท่าไรเดินไปเท่าไรเหมือนมีคนคอยสรุปให้ว่าแต่ละวันนั้นเราทำอะไรไปบ้าง ก็จะช่วยควบคุมระเบียบวินัยได้ดีพอสมควรเลยแหละ แน่นอน ว่าตัวพวก Smartband หรือ Fitness tracker นั้นมีหลากหลายราคา และหลายแบรนด์เยอะมากกก สำหรับที่แอดมินเคยรีวิว มีทั้งหลายๆร้อย หรือ หลายพันแตะ หมื่นบาทก็มี และแน่นอนว่าแต่ละเรทราคามีผลต่อคุณภาพความแม่นยำแตกต่างกันไปครับ แต่ถ้าคนเริ่มต้นอยากลองที่มีความแม่น หรือ คุณภาพใช้งานได้ดีในระดับราคา หรือ ในเรทช่วง 1000 – 2000 เราเลยเอาเจ้า Fitness Tracker จากทางแบรนด์ FITFIRST มาฝากกัน
ในงบ 1700 บาทและใช้งานได้ค่อนข้างครบทั้งการวัดชีพจร ก้าวเดิน นับแคล กันน้ำได้ IP67 รองรับการทำงานออกกำลังโดยไม่ต้องมีมือถือ ได้ด้วยและเชื่อมต่อ Apple Health – Strava ได้ด้วยครับ มี GPS ในตัว อีกทั้งยังรองรับการแจ้งเตือนพวก Line -Massenger คนโทรมาได้ และ วัดชีพจรแบบ Realtime เวลาเราเข้าโหมดวิ่ง ปั่นจักรยาน ปีนเข้า ลู่วิ่ง เล่นบาส เทนนิส พวกนี้ครับ พร้อมเตือนว่าชีพจรเราสูงเกินไปให้พักอะไรแบบนี้แจ้งหมดเลย
FITFIRST PLUS HR นั้นมีขายแล้วในราคา 1,790 บาท ลองไปส่องลิงค์กันบ้างครับ Fitfirst Plus Hr มีหลากหลายสีสามารถเปลี่ยนได้ในเรื่องของตัวสาย Fitfirst แต่ตอนซื้อนั้นมีให้เลือกแค่สีดำนะครับ
UNBOX
ตัวกล่องนั้นมาในลักษณะสีขาว รูปสินค้าบอกชื่อรุ่น และ ฟีเจอร์การใช้งานชัดเจนครับ ตัวกล่องมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป และอุปกรณ์ของในกล่องนั้น มีมาให้แค่ตัว คู่มือ และ ตัว Fitfirst นั้นเองครับ ส่วนใครที่กำลัง งง ว่า สายชาร์จไม่ให้มา อันนี้ไม่ต้องตกใจครับเพราะมันเป็นหัว USB ในตัวเลยแค่ถอดสายออกมาครับผม อันนี้ก็สะดวกดีเหมือนกันเลย
DESIGN
การออกแบบโดยรวมก็สวยงามตามสมัยนิสมครับ คือไม่ได้ดูเป็นสายออกกำลังมากเกินไป แต่แอบเหมือนอีกค่ายไปหน่อยนะ แต่ในขณะเดียวกันก็แอบหรูได้ด้วยเช่นกันครับแต่เมื่อเราได้ลองสัมผัสทั้งหมดนั้นจริงๆก็มีน้ำหนักเบาครับ และตัววัสดุก็ตามราคาคือเป็นพลาสติกส่วนใหญ่ ทั้งตัวสีเงิน และ สีดำทั้งหมดครับ ส่วนของหน้าจอเป็นสีดำทั้งหมด แตะได้ตรงปุ่มตรงกลางครับ และตัวสายนั้นเป็นสายซิลิโคนยางแบบขีดๆ ธรรมดา คุณภาพกลางๆครับเหมือนตัวอื่นๆในเรทราคานี้ค่อนข้างแข็งไปนิดนึงจะไม่เหมือนสายของพวก Miband หรือทาง Fitbit ครับตัวนั้นจะออกด้านๆนิ่มๆหน่อย อันนี้ยางแบบแข็งๆไปนิดครับ
ด้านหน้าของตัว Fitfirst Plus HR เป็นหน้าจอ OLED ขนาด 0.69 นิ้ว ขาวดำ พร้อมกับหน้าจอที่ครอบทับด้วยพลาสติกดีไซน์เหลี่ยมๆครับหน้าจอเป็นระบบสัมผัสแค่ในส่วนของ วงกลมสีขาวครับ แตะได้อย่างเดียวไม่สามารถปัดซ้ายขวาได้นะครับ หน้าจอมองชัดแต่เมื่อออกแดดนั้น มองค่อนข้างยาก และ วัสดุเป็นพลาสติกระวังเป็นรอยนิดนึง
ด้านข้างนั้นทั้ง 2 ข้างจะไม่มีอะไรเลยครับในเรื่องของการออกแบบเหมือนกันครับไม่มีปุ่มควบคุมอะไร ดีไซนฺเหลี่ยมๆครับ ตัวสาย และ ตัวเรือนนั้นเรียบเนียนไปเหมือนชิ้นเดียวกันครับ และต้องใช้สายของมันเท่านั้นเลยเวลาเปลี่ยน
หน้าจอส่วนสีดำจะครอบคลุมมาถึงด้านข้างทั้ง 2 ข้างครับเป็นส่วนสีดำ เข้ากับตัวสาย และ บอดี้ทั้งหมดเป็นพลาสติกครับ ทั้งหน้าจอส่วนสีดำ และ ตัวบอดี้ส่วนสีเงินครับ
ด้านหลังตัวเรือนจะเป็นที่อยู่ของเซนเซอร์วัดชีพจร ทั้งหมดนะครับ จะมีแสงสีเขียวออกมาจากทั้งบนและล่าง แค่นั้นเลยไม่มีพอร์ทชาร์จ แม่เหล็กชาร์จครับ เพราะตัวนี้มันมีที่ชาร์จในตัวเป็นหัว USB เลยนั้นเอง จะเป็นยังไงไปดูกัน
ส่วนของสายนั้นเป็นสายยางซิลิโคนสีดำเงานิดหน่อย มีการเล่นพื้นผิวขีดๆเอียงๆครับ วัสดุยางไปทางแข็ง และ ไม่ค่อยนิ่มเท่าไรครับ จะแตกต่างกันสายอื่นๆที่จะเป็น ซิลิโคนกัน ซึ่งแบบนั้นจะใส่สบายกว่าและนิ่มกว่าครับ แอบชอบแบบนั้นมากกว่าหน่อยครับ ส่วนตัวล็อคแข็งแรงดี และ ตัวล็อคของตัวสายก็ล็อคกับที่ปรับระยะของสายได้แน่นหนาดี
ตัวสายนั้นสามารถ ถอดออกมาได้เลยครับในข้างนี้ซึ่งเมื่อถอดออกมาแล้วเราจะเจอกับหัว USB ในลักษณะโค้งเล็กน้อยตามสาย ซึ่งเราสามารถเอาไปเสียบชาร์จได้ตามพอร์ท USB ได้เลยไม่ต้องมีสายอะไรให้ยุ่งยากครับในจุดนี้
SPEC
- หน้าจอ OLED ขาวดำ ขนาด 0.96 นิ้ว
- กันน้ำ กันฝู่น IP67
- USB 2.0
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 7-10 วัน และเปิด Standby นานถึง 20 วัน
- GPS ในตัว สามารถลิ้งค์กับ Strava และ Apple Health ได้
- Working Vottage: 3.7V
- Host weight: about 24 g
- Sync: Bluetooth 4.0
- Working temperature: -20C- 40C
-
Battery Capacity: 65 mAh
SOFTWARE
ในด้านของซอฟท์แวร์นั้นเราสามารถโหลดมาใช้งานได้เลยโดยค้นหาในชื่อ VeryFitPro ครับจากทาง Playstore และเราก็จะสามารถใช้งาน ที่ละเอียดมากขึ้นทั้งดูข้อมูลในการเดิน วิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจแบบทั้งวัน หรือจะเป็นการนอนหลับนั้นเองครับ และสามารถตั้งค่าได้ค่อนข้างเยอะและตั้งค่าการแจ้งเตือนทั้งหลายว่าจะแจ้งอะไรบ้าง
หน้าข้อมูลหลักๆในส่วนแรกนั้นจะเป็นการโชว์ข้อมูลของแต่ละส่วน 3 ส่วนหลักๆ คือ วันชีพจร / การนอน / การเดินครับ ด้านบนจะสรุปรวมและเมื่อแตะเข้าไปจะเป็นกราฟแบบภาพซ้ายสุดในแต่ละหัวข้อ ส่วนด้านล่างนั้นเป็นข้อมูลแบบละเอียดว่า สูงสุดต่ำสุดเท่าไรในแต่ละวัน ครับดูข้อมูลแบบคร่าวๆแต่ถ้าอยากละเอียดนั้นต้องแตะในส่วน ต่อไป
เมื่อเข้าสู่หัวข้อ Detail นั้นจะบอกละเอียดมากขึ้นเป็นแต่ละช่วง และมีกราฟสรุปเป็นวันๆให้ครับ บอก Avg ในย่านต่างๆให้ดูว่าประมาณไหน เวลาไหนตื่นนอน หรือ ระยะทางเดือนเฉลี่ยพวกนี้ครับ ส่วนปุ่มตรงกลางนั้นจะเป็นเข้าโหมดต่างๆ 3 หัวข้อครับ 1 เช่นการวิ่งเดิน ปั่นจักรยานซึ่งตัวนี้ สามารถกดจากตัว นาฬิกาได้เลย ไม่ต้องผ่านแอพ และ Standalone ได้โดยมี GPS ในตัวเองครับ เมื่อกดแล้วมันก็จะเข้านับเวลา วัดชีพจรตลอดเวลาและ เส้นทางวิ่งรวมถึง สรุปข้อมูลทั้งหมดมาให้ชมกันเลย 2. อันตัวเลือกตรงกลางนั้นจะเป็นการเข้าโหมดกีฬาทั้ง 10 ประเภทนอกเหนือจากอันแรกครับ ก็จะบอก แคล ชีพจรปกติ และ 3. อันสุดท้ายคือการบันทึกน้ำหนัก ว่าวันนี้ลดไปเท่าไรจากเมื่อก่อนครับผม การตั้งค่านั้นก็สามารถปรับได้ค่อนข้างเยอะครับ ว่าจะเตือนเวลาโทรเข้ามาไหม เตือนว่านั่งนานไป หรือ ตั้งปลุก เตืแอนผ่านแอพต่างๆ และ ปรับตั้งค่าชัตเตอร์กล้อง แจ้งเตือนชีพจรเต้นผิดปกติ และ ตั้งค่าพลิกข้อมือมาดูแล้วจะติด หน้า Profile นั้นเป็นตั้งค่าส่วนอื่นๆ ยูนิต ตั้งค่า เป้าหมายต่างๆครับ ส่วนการแจ้งเตือนแอพรองรับค่อนข้างเยอะ และ เมื่อมีคนทักมาก็บอกชื่อคนทักด้วย แต่ไม่รองรับภาษาไทยนะ แต่อ่านชื่อ แอพ + คนส่งได้ครับ
หน้าการตั้งค่าต่อมาก็เป็นพวก การตั้งค่ากิจกรรม ว่าหลักๆในตัวนาฬิกาจะมีอะไรบ้าง เปลี่ยนหน้าตานาฬิกาได้ด้วย 4 แบบครับ รวมถึง การตั้งกำหนด Heart rate zone ได้ว่าจะตั้งไว้ประมาณไหน สูงสุดครับ
FEATURE
- วัดการนอนได้แบบออโตเมติก
- วัดระยะการวิ่งแบบ Pace ได้
- ระบบตั้งเตือนข้อความ และตั้งปลุกได้
- ระบบวัดแคลอรี่ และการเดินทาง
- ระบบช่วยเตือนความจำ
- ที่ชาร์จในตัว และชาร์จครั้งนึง 1-2 ชั่วโมง
- ระบบควบคุมการถ่ายรูป
- โหมดออกกำลังกาย 14 โหมด
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ แบบ Realtime
- แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 7-10 วัน และเปิด Standby นานถึง 20 วัน
- กันน้ำ IP67 สามารถกันฝนและการล้างมือได้ แต่ไม่สามารถใส่ว่ายน้ำได้
- รับประกันสินค้านาน 1 ปี
- เชื่อมต่อ STRAVA – APPLE HEALTH
ในด้านการใช้งานจริงๆตัวระบบสัมผัสหน้าจอนั้นทำได้ดีครับคือระบบไวและนิ้วแตะใช้งานได้ลื่นไหล กดรัวๆก็ไม่เจออาการหน่วงหรือค้างเลยครับทำได้ดีจริงๆ และในการควบคุมใช้งานหลักๆคือ แตะ 1 ครั้ง เปลี่ยนหน้า และแตะค้างเพื่อเข้าสู่หน้านั้นๆครับ ในเรื่องการเข้าโหมดออกกำลังก็แตะค้างได้เลย ก็จะเข้าสู่การนับ ชีพจรแบบตลอดเวลา และ เปิด GPS เพื่อจับระยะทาง เส้นทางต่างๆครับ การนับชีพจรก็ทำได้ดีครับแม่นพอสมควรและเปิดได้ตลอดเวลาเลย
ตัวหน้าจอนั้นจากที่ใช้งานเวลากลางแจ้งแดดแรงๆจะมองยากมากครับ แต่ถ้ามีร่มเงานิดหน่อยหรือสภาพแสงปกติไม่ได้โดนแดดตรงๆนั้นทำได้ดีแบบภาพที่เห็นเลยครับ ส่วนฟีเจอร์อื่นๆการแจ้งเตือนแอพนั้นก็มีรองรับเยอะครับแบบในภาพคือมีคนทักไลน์มาก็สามารถแจ้งเตือนได้บอกไอคอนแอพ และ ชื่อคนส่ง ถ้าเป็นภาษาอังกฤษนั้นก็จะอ่านได้ด้วย
และเมื่อมีคนโทรเข้ามานั้นก็สามารถกูรายชื่อ กดรับสาย วางสายได้เลย แต่เวลาคุยก็ต้องยกมือถือขึ้นมาเหมือนปกติครับ อันนี้จะแจ้งเตือนได้เวลาเราวิ่งพวกนี้ดูคนโทรมาสั้นๆครับ ส่วนเรื่องระบบสั่นบอกเลยว่า โคตรแรง ! สั่นแรงจริงๆคือใครไม่รู้สึกนี้ต้องเช็คเส้นประสาทกันหน่อยละ 55 สั่นแรงกว่าทุกยี่ห้อที่แอดมินลองมาเลยอันนี้ชอบมากครับ ส่วนเรื่องในการใช้งานจริงๆทั้งหมดโดยรวมค่อนข้างพอใจครับ ทั้งระยะเวลาการใช้งานอายุแบต หลายๆวันได้สบายจริงๆ ฟีเจอร์ค่อนข้างเพียงพอครบครัน และ แจ้งเตือนทำได้ไวดี รวมถึงใช้งานแบบไม่ต้องพกมือถือก็ทำได้ง่ายๆเลยครับ
ในการใช้งานฟีเจอร์การออกกำลังกายง่ายๆนะครับเข้าโหมดที่เราจะออกกำลัง กดค้างเข้าสู่ โหมดจับชีพจรตลอดเวลาแบบภาพขวาสุด จะจับเวลา บอกชีพจรต่างๆครับสามารถเปลี่ยนหน้าแสดงได้ เมื่อวิ่งเสร็จแล้วนั้นก็จะสรุปมาให้เลยว่ากี่นาที กี่แคล ชีพจรเท่าไร ระยะทางเท่าไร ก้าวกี่ก้าวเป็นต้นครับค่อนข้างสะดวกและใช้งานได้ดีโดยไม่ต้องมีมือถือเวลาออกไปวิ่งก็ทำได้ครับแต่พกตัวนี้ออกไป และกลับมาซิงค์กับมือถือก็จะได้ระยะทางข้อมูลต่างๆมาครบเลย
FITFIRST PLUS HR
“FitnessTracker ในราคาไม่แรง แต่ฟีเจอร์ครบครันเอาเรื่องเลยแหละ”
เป็น Fitnesstracker ที่ต้องบอกว่าในเรทราคา 1-2 พันตัวนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยอย่างแรกๆเลยก็คือฟีเจอร์ที่ใช้งานได้จริงทั้งหมดและใช้งานได้ดีซะด้วยครับ ทั้งวัดชีพจรตลอดเวลา การใช้งานโหมดออกกำลังแบบไม่ต้องพกมือถือออกไป มี GPS ในตัว ซิงค์กับแอพภายนอกได้ด้วย และ ดีไซน์การออกแบบที่ค่อนข้างสวย แม้จะแอบเหมือนอีกค่ายไปนิด รวมถึงการใช้งานยังไม่เจออาการหน่วง หรือเอ๋อทั้งตัวแอพและนาฬิกาครับ เป็นรุ่นที่จัดมาครบและดีกว่าที่่คิดไว้ รวมถึงอายุแบต ต่างๆและการชาร์จที่ค่อนข้างง่ายไม่ต้องมีสายอะไรยุ่งยากครับ แต่ก็มีบางจุดเช่น สายวัสดุยังไม่ได้ดีมากนักไม่ค่อยนิ่มเท่าไรแต่ตอนใช้งานไม่เจอปัญหาอะไรนะ หรือตัวสายที่เปลี่ยนต้องใช้ของมันเองและยังมีตัวเลือกได้ค่อนข้างน้อยรวมถึงสีสันในการเลือกซื้อยังน้อยไปนิด และหน้าจอเป็นพลาสติกอาจจะมีรอยมาง่ายไปหน่อยครับ
ข้อดี
- การออกแบบ ดูดีและสวย
- ฟีเจอร์จัดเต็มใช้งานได้จริง
- มี GPS ในตัว ซิงค์ข้อมูลกับแอพอื่นได้
- ระบบใช้งานได้ไว และ รวดเร็ว
- วัดชีพจรได้แบบ Realtime
- น้ำหนักเบามากและใส่สบาย
- ที่ชาร์จในตัวไม่ต้องพกสายเพิ่ม
- กันน้ำ IP67
ข้อสังเกต
- หน้าจอเป็นพลาสติกไม่ใช่กระจก
- สายยังมีตัวเลือกเปลี่ยนได้น้อย
- หน้าจอไม่สู้แสงแดดเท่าไร
- ยังไม่รองรับภาษาไทย
FITFIRST PLUS HR นั้นมีขายแล้วในราคา 1,790 บาท ลองไปส่องลิงค์กันบ้างครับ Fitfirst Plus Hr มีหลากหลายสีสามารถเปลี่ยนได้ในเรื่องของตัวสาย Fitfirst แต่ตอนซื้อนั้นมีให้เลือกแค่สีดำนะครับ
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรีวิวรุ่นต่อไปนั้นจะเป็นรุ่นอะไรอย่าลืมติดตามกันนะครับ ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review By Nineztr