เปิดตัวกันไปแล้วสำหรับทาง Nokia 9 Pureview เรือธงตัวล่าสุดของค่าย ที่เป็นครั้งแรกของโลกที่มาพร้อมกล้องหลังมากถึง 5 ตัว และใช้เลนส์จากทาง Zeiss ที่คุ้นเคยกันครับ และในรุ่นอื่นๆก็มี Nokia 4.2 / 3.2 / 1 Plus / 210 ที่เป็นฟีเจอร์โฟน ก็ถือว่ายังเป็นอีกค่ายที่ยังคงทำฟีเจอร์โฟนออกมากันอยู่ครับ รายละเอียดท้ายบทความกันได้เลยสำหรับรุ่นอื่นๆ แต่จุดเด่นของงานนี้คงไม่พ้นเรือธงที่พัฒนามาร่วมหลากหลายปี ตั้งแต่ Snapdragon 845 เปิดตัวแรกๆ ใช้เวลาพัฒนานานมากๆเราเลยมาเจาะรุ่นนี้กันนิดหน่อยครับว่ามันมีอะไรเจ๋งๆน่าสนใจยังไงบ้างสำหรับ Nokia 9 Pureview
Nokia 9 Pureview เปิดตัวมาด้วยเป็นรุ่นกล้องหลัง 5 ตัวครั้งแรกของโลก และ สามารถถ่ายได้มากถึง 240 ล้านพิเซลครับ เขียนไม่ผิดแน่นอนพลังกล้อง ทำงานร่วมกับ CPU AI ทำให้มันประมวลผลออกมาได้ และ ยังมีการพัฒนาร่วมกับ ADOBE ในการส่งออกไฟล์ RAW DNG ให้ได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยเช่นกันครับ แต่เรามาดูสเปคโดยรวมกันก่อนดีกว่าว่ามันมีอะไรน่าสนใจยังไงบ้าง
- Android ONE 9.0 Pie อัพเดท 2 ปี ความปลอดภัย 3 ปี
- Snapdragon 845
- RAM 6GB LPPDDR4X
- Storage 128 GB
- หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว QHD+ 2K pOLED Gorilla Glass 5
- ลำโพงตัวเดียวพร้อม Smartamp
- ไมค์อัดเสียงทั้งหมด 3 ตัว
- USB-C
- กล้องหลัง 5 ตัว ทุกตัวใช้เลนส์ระยะเดียวกันที่ 12MP F1.8 แยกเป็นเซนเซอร์ ขาวดำ 3 ตัว และ สี RGB 2 ตัว
- Video HDR 4K 30FPS
- กล้องหน้า 20MP f/1.8
- แบตเตอร์รี่ 3320 mAh รองรับ QC 3.0 และ ชาร์จไร้สาย Qi
- กันน้ำ กันฝุ่น IP67
- Bluetooth 5.0 / LTE CAT 16 4X4MIMO
-
สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- Size 155 x 75 x 8 mm
- Weight 172 g
- Color Midnight Blue
สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับกล้องหลังเลนส์ ZEISS Optics 5 ตัว ซึ่งแบ่งเป็นเลนส์ที่มีเซนเซอร์สำหรับเก็บภาพสี 2 ตัว และเซนเซอร์สำหรับเก็บภาพแบบ Monochromatic 3 ตัว เพื่อการประมวลผลภาพที่คมชัดยิ่งกว่า เมื่อเลนส์อันทรงพลังทั้ง 5 ทำงานร่วมกันจะสามารถเก็บแสงได้มากกว่าเซนเซอร์รับแสงแบบตัวเดียวถึง 10 เท่า ภาพทุกภาพที่ถ่ายด้วย Nokia 9 PureView จะเป็นภาพแบบ HDR ภาพจะมีความคมชัดสวยงาม โหมด Depth Map ช่วยให้คุณสามารถสร้างภาพแบบ Bokeh ที่คล้ายๆมีเลเยอร์ให้ปรับในการละลายหลังได้มากกว่า 1200 เลเยอร์ครับ สามารถแต่งภาพหรือเลือกจุดโฟกัสได้ในภายหลังด้วย Google Photo Nokia 9 PureView ช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพแบบ RAW “DNG” ทั้งยังออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถตกแต่งภาพจากโทรศัพท์ได้ด้วยตนเอง ผ่านโปรแกรมตกแต่งภาพ Adobe Photoshop Lightroom ทำให้ตัวไฟล์นั้นมีความละเอียดและคุณภาพค่อนข้างแตกต่างและรองรับได้ดีมากๆสำหรับใครที่ชอบดึงไฟล์ต่อ
จุดเด่นหลักๆของมันเลยก็หนีไม่พ้นภาพนิ่ง แต่ด้านวีดีโอเสียดายว่าไม่ได้เน้นอะไรมากครับและถ่ายได้แค่ 4K 30FPS ไม่มี OIS แต่อาจจะใช้ EIS เข้ามาช่วยแทนทั้งภาพนิ่งและ วีดีโอ ฟีเจอร์ในส่วนวีดีโอเลย แต่ภาพนิ่งนั้นจัดเต็มมากทั้งเทคโนโลยีที่พัฒนาร่วมกับ Qualcomm / Light / Nokia ครับที่จะทำให้ภาพนั้นเพิ่มความละเอียด
**** ซึ่งการถ่ายเราไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะมีขนาดเท่าไรระหว่าง 60-240MP เพราะว่าตัวกล้องจะทำการคำนวณและประมวลผลให้เอง ซึ่งแล้วแต่สภาพแสงและสถานที่เราไปถ่าย แน่นอนว่าเราไม่สามารถทำให้มันถ่าย 240 ได้ตลอดเวลาครับ ขึ้นอยู่กับการรวมประมวลผลกันครับ และรองรับถึง 12.4 Stops ในด้านของมิติของภาพที่จะดันได้ ถือว่าเยอะมากๆ และ ถ้าเราถ่ายกันปกตินั้นจะได้ภาพที่ 12MP ที่เกิดจากการรวมกันของ 5 เลนส์และได้ภาพที่มีมิติ ความคมชัดสูง และ ดีเทลโหดกว่าทั่วไปมากถึง 10 เท่าครับ
สำหรับทางด้านราคานั้นเปิดมาที่ 699 USD หรือประมาณ ไม่เกิน 22,000 บาทไทยต้องบอกกันก่อนว่ามีสิทธ์ที่จะเข้าไทยครับ แต่ราคายังไม่ชัวร์ส่วนด้านสเปคอื่นๆอาจจะดูไม่ทันสมัยมากนักเพราะจริงๆรุ่นนี้มันพัฒนามานานมากๆกว่าจะวางขาย ซึ่งสเปคตอนที่พัฒนานั้นทำให้อาจจะไม่สามารถอัพเดทให้มันเป็นยุคปัจจุบันได้เช่นพวก CPU นั้นเอง
ตัวอย่างภาพจากทาง NOKIA แต่ไม่ใช่ไฟล์ 240MP นะครับ ซึ่งการถ่ายเราไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะมีขนาดเท่าไรระหว่าง 60-240MP เพราะว่าตัวกล้องจะทำการคำนวณและประมวลผลให้เอง ********
Nokia 4.2
Nokia 4.2 เป็นสมาร์ทโฟนของโนเกียที่ได้รับการออกแบบให้มีนวัตกรรมล้ำสมัย ในราคาที่จับต้องได้ มีดีไซน์คลาสสิค ด้วย Sculpted-Glass ที่ไม่เพียงแต่ดูหรูหราเท่านั้น แต่มาพร้อมกับนวัตกรรม AI ชั้นเลิศ กล้องหลังเลนส์คู่ ขับเคลื่อนด้วยระบบชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ตัวใหม่ล่าสุด นอกจากนี้ Nokia 4.2 ยังมาพร้อมกับปุ่มเรียกใช้งาน Google Assistant ที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานสมาร์ทโฟนของคุณไปตลอดการ เพียงกดปุ่ม Google Assistant หนึ่งครั้งเพื่อเข้าถึงระบบการช่วยเหลือจาก Google ในทันที กดสองครั้งเพื่อรับข้อมูลเรื่องราวที่คุณสนใจจากระบบการช่วยเหลือและอัจฉริยะที่เรียนรู้และปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานจริงของผู้ใช้งาน หรือ กดปุ่ม Google Assistant ค้างไว้ เพื่อใช้งานระบบ Walkie-Talkie ให้คุณสามารถบรรยายถึงปัญหาและถามคำถามในรูปแบบประโยคยาวแก่ Google ได้ Nokia 4.2 มาในขนาดที่พอดี เหมาะแก่การใช้งานมือเดียวด้วยความหนาเพียง 8.4 มม. และหน้าจอชนขอบขนาดกว้างที่มาพร้อมกับเลนส์กล้องหน้าสำหรับการถ่าย Selfie รวมถึงความสามารถในการถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง เช่น ระบบ multi-camera imaging และเซนเซอร์รับแสงคู่ของกล้องหลัง ให้คุณสามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างสวยงามโดดเด่นแบบสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ในราคาที่จับต้องได้
Nokia 3.2
Nokia 3.2 มาพร้อมหน้าจอ HD+ ขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในช่วงราคาเดียวกัน และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึงสองวันทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie รุ่นล่าสุด หน้าจอขนาดใหญ่ที่มีความกว้างถึง 6.2 นิ้ว HD+ ทำให้ประสบการณ์ การรับชมภาพยนตร์บนจอมือถือของคุณคมชัดและสะดวกสบาย ให้คุณเพลิดเพลินกับความบันเทิงที่มาพร้อมกับความทนทานของแบตเตอรี่ ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 427 ที่ให้การใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ บนสมาร์ทโฟนของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีติดขัด และระบบ Google Assistant ระบบ AI ล่าสุดที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งานสมาร์ทโฟนในทุก ๆ วัน เพียง กดปุ่ม Google Assistant หนึ่งครั้งเพื่อเข้าถึงระบบการช่วยเหลือจาก Google ในทันที กดสองครั้งเพื่อรับข้อมูลภาพถ่ายของกิจกรรมทั้งวันของคุณ หรือ กดปุ่ม Google Assistant ค้างไว้ เพื่อใช้งานระบบ Walkie-Talkie
Nokia 1 Plus
อัพเกรดประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นของคุณด้วย Nokia 1 Plus สมาร์ทโฟนน้องใหม่ในตระกูล Android (Go edition) ที่ทำงานบนระบบ Android 9 Pie (Go edition) รุ่นแรกของโลก มาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายภาพ หน้าจอขนาดกว้างและดีไซน์อันหรูหราคุณภาพสูงตามแบบฉบับของโนเกีย ในราคาที่จับต้องได้ ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับเกมและแอปพลิเคชันโปรด บนระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด Android (Go edition) ที่มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือ Google Assistant Go นอกจากนี้ Nokia 1 Plus ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรู ด้วยนวัตกรรมแบบ 3D tooling ที่สามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างประณีตสวยงาม ด้วยนาโนแพทเทิร์นที่ครอบคลุมตัวเครื่องตั้งแต่ด้านหลังจนถึงด้านหน้าจอ นอกจากนี้ Nokia 1 Plus ยังมาพร้อมกับเลนส์คู่กล้องหลังที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการถ่ายภาพที่คมชัด และการถ่ายรูป Selfie อันโดดเด่นด้วยกล้องหน้าที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Beautify
Nokia 210
ฟีเจอร์โฟนน้องใหม่ล่าสุดจากโนเกีย ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการท่องเว็ปด้วยเบราเซอร์ Opera Mini และเกมงูได้อย่างไร้ขีดจำกัดโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด Nokia 210 เป็นฟีเจอร์โฟนรุ่นสำคัญของโนเกีย ที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ผลิตด้วยวัตถุดิบที่คงทน และ ชุบสีด้วย Polycarbonate ที่จะสามารถกลบรอยกระแทกหรือรอยร้าวจากการใช้งานจริง เพลิดเพลินไปกับการท่องเว็ปบนเบราเซอร์ Opera Mini หรือเชื่อมต่อกับเพื่อนฝูงบน Facebook ได้อย่างไร้ข้อกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถเพิ่มเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนให้แก่สมาร์ทโฟนของคุณด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นโปรด ริงโทน หรือวอลเปเปอร์จาก Mobile Store
- Nokia 9 PureView วางขายแล้วทั่วโลก มีราคาโดยประมาณอยู่ที่ 699 USD
- Nokia 4.2 จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกในเดือนเมษายนเป็นต้นไป โดยรุ่น 2/16 มีราคาอยู่ที่ 169 USD และรุ่น 3/32 จะมีราคาที่ 199 USD
- Nokia 3.2 จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยรุ่น 2/16 มีราคาอยู่ที่ 139 USD และรุ่น 3/32 จะมีราคาที่ 169 USD
- Nokia 1 Plus จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกตั้งกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไปในราคา 99 USD
- Nokia 210 จะวางขายพร้อมกันทั่วโลกในเดือนมีนาคมในราคา 35 USD
- แท่นชาร์จแบตไร้สาย (Nokia Wireless Charger) ราคา 49 USD
- แท่นชาร์จแบตไร้สายขนาดพกพา (Nokia Portable Wireless Charger) ราคา 64 USD
- มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมใหม่สองตัว ได้แก่ แท่นชาร์จแบตไร้สาย (Nokia Wireless Charger) และ แท่นชาร์จแบตไร้สายขนาดพกพา (Nokia Portable Wireless Charger)