realme เป็นแบรนด์ที่เปิดตัวก่อตั้งกันมาไม่นานเป็นแบรนด์ที่คุ้นเคยกันดีสำหรับแบรนด์ที่แยกออกมาจากทาง OPPO นั้นเองครับทำตลาดในไทยไม่นานแต่สร้างกระแสได้แรงมากๆ ด้วยราคาที่ไม่แรง และ สเปคที่ได้นั้นโหดมากๆรวมถึงการทำตลาดอย่างกว้างขวางและลุยเต็มที่ทำให้มัน จุดกระแสติดได้และขายได้อย่างต่อเนื่องครับที่สำคัญหาซื้อได้ง่ายด้วยแหละ แน่นอนว่าในปี 2019 ก็ได้ลุยตลาดกันอย่างต่อเนื่องทั้งรุ่น C1 2019 ที่เพิ่มความจุ ความคุ้มเข้ามาและในครั้งนี้ ถึงตารุ่นเด่นประจำปี คือทาง realme 3 ตัวล่าสุดสดๆร้อนจากทาง realme เลยครับจะเป็นยังไง คุ้มค่าน่าใช้งานกันแค่ไหนติดตามกันได้เลย สำหรับรุ่นนี้ ที่มีการเพิ่มโหมดถ่ายกลางคืย แบตเยอะขึ้นและดีไซน์ใหม่ทั้งหมด
realme 3 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นหลากหลายที่น่าสนใจ 6.21 นิ้ว ใช้กระจก gorilla glass 3 ทางด้าน CPU ใช้ของ MediaTek Helio P60 และ มาพร้อมกล้องหลัง กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 MP (F/1.8) + 2 MP (F/2.4) พร้อมระบบ AI และมี Night Scape ด้วยครับ และในด้านของ แบตเตอรี่จัดเต็มมาให้ 4,230 mAh ส่วนสีที่เข้าไทยนั้นน่าจะมาครบทั้งหมด ทั้ง 3 สี Dynamic Black, Radiant Blue, Classic Black ทางเราเลยเอามาถ่ายเทียบ 2 สีให้ดูกันชัดๆเลยครับว่าชอบแนวไหนกันมีรูปเพิ่มเติมในด้านล่างให้ชมกันอีกนะครับ
ทางด้านราคาตัวนี้ ปรับราคาลดไป 1000 บาทเหลือเพียง ราคา 4,990 บาท
ได้ความจุ RAM 4 GB STORAGE 64 GB ครับ
มาพร้อมกับ 3 สีทั้งหมด Dynamic Black, Radiant Blue,ซึ่งหาซื้อกันได้เลย แต่ถ้าสีดำล้วนขายแค่ TrueShop เท่านั้น และ ราคาพิเศษที่ TRUE 1,490 บาทเลย แบบติดโปร และ ตามร้านค้าออนไลน์
UNBOX
ตัวกล่องรุ่นนี้มาพร้อมกับ โทนสีเหลือง เทาเป็นสีใหม่ของทางแบรนด์แล้วนั้นเองครับจากที่ก่อนหน้านี้นั้นถ้าใครจำกันได้แบรนด์นี้จะเป็นสีแดงขาว และ ฟอนต์ก็คนละแบบกันครับแน่นอนว่าเป็นการ รีแบรนด์ครั้งใหม่เลย แต่ก็สวยขึ้นนะ คู่สีนี้ตัดได้สวยและเด่นดีครับ กล้องมาเป็นสีเทา และ ข้างในสีเหลือง โทนสีเหลืองส้มอันนี้สวยดีจริงๆชอบๆ
- ตัวเครื่อง Realme 3
- เคสใส TPU
- ที่ชาร์จ 5V 2A
- สายชาร์จ Micro-USB
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
ตัวเคสในรุ่นนี้มาพร้อมกับเคสแบบใส่นิ่ม ที่ปกป้องได้ค่อนข้างดีครับคือใส่แล้วอุ่นใจกว่าบางตัวที่เคสนั้นจะบางๆแม้จะเป็นของแถมเหมือนกันครับ ส่วนการปกป้องเลนส์กล้อง ตัวเครื่องมุมเครื่องทำได้ดี หุ่มได้หมด และ หน้าจอก็สามารถกันได้ด้วยครับ เวลาวางคว่ำและใช้งานทั่วไป รวมถึงตัวเคสนั้นมีที่ปิดพอร์ทชาร์จด้านล่างเครื่องมาให้ด้วยครับ
DESIGN
การออกแบบตัวนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิม ถ้าเทียบในรุ่น Realme 2 แบบธรรมดานะครับตัวนั้นจะเป็นฝาหลังแบบ Diamound Cut แต่อันนี้เปลี่ยนมาใช้ฝาหลังแบบเรียบๆแต่เป็นการไล่เฉดสีสวยงามแทนแน่นอนว่าการออกแบบนั้นแตกต่างกันค่อนข้างชัดรวมถึงการวางตำแหน่งกล้องมาเป็นแนวตั้งด้วย และติ่งหน้าจอก็เล็กลงเป็นแบบตรงกลางหยดน้ำแทนครับ ส่วนน้ำหนัก วัสดุอะไรไม่แตกต่างกันมาก แต่การไล่สี 3D Gradient Unibody เป็นเทรนด์ที่นิยมและสวยเลยแหละ
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับการออกแบบหยดน้ำที่อาจจะไม่ต่างกับ 2 Pro มากนัก แต่เป็นการพัฒนาจาก 2 ธรรมดามากกว่าครับเลยทำให้มันดูดีขึ้น หน้าจอขนาด ขนาด 6.21 นิ้ว ความละเอียด HD+ ครอบทับด้วยกระจก gorilla glass 3 ความสว่างประมาณ 450 NITS ถือว่าใช้ได้เลยแหละ ในเรทราคานี้ครับ
ด้านบนเป็นติ่งหยดน้ำที่มีพวกเซนเซอร์อะไรฝังมาตรงบริเวณนั้นครับ ไม่มีไฟแจ้งเตือนอะไรนะครับ รวมถึงลำโพงนั้นฝังอยู่ตามขอบที่เห็นในภาพเลย ขอบจอค่อนข้างบางนะ บางกว่าคู่แข่งอีกค่ายแบบชัดเจนครับในจุดนี้
ด้านล่างนั้นค่อนข้างหนาเป็นปกติตามเรทราคานะ การควบคุมอะไรทั้งหมดสามารถปรับเปลี่ยนได้และใช้แบบเต็มจอได้ครับ จะเห็นว่ามันเป็น Android 9 แล้วการควบคุมเลยยกมาได้เลยหรือจะใช้แบบเดิมๆก็ปรับเปลี่ยนได้สบาย
ด้านขอบล่างนั้นมาพร้อมกับ รูหูฟัง 3.5มม. ยังมีอยู่ไม่ตัดไปไหน รูไมค์มาให้ และ ช่องชาร์จแบบ Micro-USB ถ้าเอาตามราคานี้ก็รับได้ครับไม่ได้น่าเกลียดอะไร ลำโพงหลักของเครื่องมีมาให้ด้านล่างฝั่งขวาในภาพครับ
ขอบขวาตัวนี้เป็นที่อยู่ของปุ่ม Power อย่างเดียวแต่จะเห็นว่าขอบเครื่องนั้นมีการไล่เฉดสี เขียวอมฟ้ามาเป็นน้ำเงิน สวยงามเหมือนกันครับเป็นวัสดุแบบเดียวกันทั้งชิ้น กับฝาหลังเลยด้วยทำให้เวลาจับนั้นค่อนข้างเนียนและไม่เจอรอยต่อ
ด้านขอบบนนั้นเรียบๆครับไม่มีอะไรเลย กล้องนูนขึ้นมาเล็กน้อย และ จะเห็นว่าสีคนละแบบกับขอบล่างครับ ด้านบนนั้นจะเข้มกว่า เป็นการไล่สีของตัวนี้ครับ
ด้านขอบซ้ายตัวเครื่องนั้น เป็นปุ่มเพิ่ม ลดเสียง และ เป็นที่อยู่ของถาดซิมแบบ Triple Slot ครับรองรับสบายทั้ง 2 ซิม + เพิ่มความจุได้ด้วยไม่ต้องเลือกใช้แบบ Hybrid Slot ครับ
ฝาหลังในรุ่นนี้ นั้นเป็นแบบพลาสติกที่เล่นเลเยอร์ไล่แสงสีสวยงามจากเขียวไปน้ำเงินสวยเลยแหละ พร้อมกับโลโก้แบบแนวนอนในมุมซ้ายล่างครับ และ มีสแกนนิ้วอยู่ข้างหลัง รวมถึง วัสดุแบบคลุมชิ้นเดียวกันไปจนขอบเครื่องเลย โค้งรับมือได้ดีด้วยนะครับ เวลาจับถืออะไรแบบนี้ แอบจับถนัดกว่าตัว 2Pro ด้วยนะ
กล้องหลังนูนขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับการเล่นโครมเมี่ยมรอบๆ และ กล้องหลังมีการเล่นวงแหวนสีส้มๆ มีชื่อเรียกว่า Realme Ring รอบตัวกล้องบนสุดครับ และ ไฟแฟลชอะไรอยู่ในโมดูลเดียวกันหมด ตำแหน่งสแกนนิ้่วใช้งานง่ายและไม่เจอปัญหาอะไรเลยครับ
เอามาเทียบกันนิดนึงสำหรับ 2 สี Dynamic Black, Radiant Blue,
Dynamic Black, Radiant Blue, อันนี้จริงๆก็แล้วแต่คนชอบเลยนะ สีที่รีวิว คือ Radiant Blue จะเป็นการไล่สี เขียวฟ้าน้ำเงิน และ อีกสีนั้นจะเป็น Dynamic Black ที่เป็นสีน้ำเงินดำ แต่เด่นตรงที่มีการเล่นจุดสีทำให้เวลาสะท้อนแสงแรงๆนั้นจะเห็นเป็นเม็ดสีเต็มเครื่องเลยอันนี้ก็สวยเหมือนกันครับ แล้วแต่ชอบเลยแหละ เล่นกับแสงได้โดดเด่นกันทังคู่เลย
SPEC
- Android 9.0 Pie + ColorOS 6.0
- หน้าจอแสดงผล Dewdrop Display ขนาด 6.2 นิ้ว 19:9 HD+ 2.5D Corning Gorilla Glass 3
- MediaTek Helio P60 2.0 GHz +Mali G72
- RAM 4 GB
- STORAGE 64 GB + microSD สูงสุดที่ขนาด 256GB
- กล้องหลังคู่ ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล F 1.8 PDAF ฟีเจอร์ Nightscape , ChromaBoost HDR , AI Scene Recognition
- กล้องหน้า AI ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล F2.0 , AI Beautification
- แบตเตอรี่ความจุ 4230 mAh
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ , สแกนใบหน้า
- Dual-SIM + ถาดซิมแบบ Triple-Slot
- Wi-Fi 802.11 b/g/n ไม่รองรับ Wifi 5GHz
- Bluetooth 4.2
- Micro-USB
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพตัวนี้ที่ขายไทยจะเป็น CPU MTK P60 นะครับจะไม่ใช่ตัว P70 และแน่นอนว่าาคะแนนทำไปได้ 1419 5025 ตะแนนทำได้กลางๆตามระกับของ CPU ครับส่วนความปลอดภัยได้ L3 และ หน่วยความจำเป็น EMMC5.1 และ ในเรื่องของคะแนน Antutu นั้นทำไปได้ระดับ 133585 คะแนนครับ จะน้อยกว่า P70 2 หมื่นคะแนนโดยประมาณครับ
SOFTWARE UI
หน้าตาระบบรุ่นนี้มีการปรับปรุงอีกครั้งมาใช้ Colour OS 6 ร่วมกับ Android 9 หน้าตาเปลี่ยนไปพอสมควรครับทั้งการตั้งค่า การใช้งานทั่วไป แต่หน้าหลักๆนั้นยังคงมีมาคล้ายๆเดิมครับการแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอพอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมด รวมถึงเป็นการใช้สี่เหลี่ยมด้วยครับ การปรับแสง การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่ายและเสถียรมากๆ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 64GB นั้นเหลือใช้งานได้ 49.3 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 1.9 จาก 4GB ครับ
ส่วนการโคลนแอพ อะไรทั้งหลายก็มีมาให้ครับผม รวมถึงตัว Game Space มาใหม่อันนี้น่าสนใจยังไงไปดูในหัวข้อ Gaming ได้เลย และ ยังมีผู้ช่วยอัจฉริยะมาให้ในการปัดมาด้านขวาในจอหลักจะคอยช่วยในการจัดการแจ้งเตือนอะไรต่างๆ หรือ ดูการใช้งานของเราว่าเน้นอะไรยังไงก็จะเสนอมาให้ใช้งานกันเลย อีกทั้งยังมีโหมดช่วยขับรถมาให้จะดูแลการแจ้งเตือน ขณะขับขี่ ระบบจะทำ การปิดเสียงการแจ้งเตือน ระบบจะใช้ตัวอักษรและ ปุ่มขนาดใหญ่ที่สามารถรับหรือปฏิเสธได้เท่านั้น และส่ง SMS ตอบกลับให้เองเลย แต่เรื่องของติ่งหน้าจอไม่เจอให้ปิดนะครับผมในตัวนี้
Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอพลิเคชั่น บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smart Sidebar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้สบาย Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Dewdrop Display ขนาด 6.2 นิ้ว 19:9 HD+ 2.5D Corning Gorilla Glass 3 แน่นอนว่ายังดีที่ระบุบอกรุ่น Gorilla Glass มาให้ชัดเจนครับ ส่วนหน้าจอถ้ามองกันตามเรทราคาในแง่การออกแบบกันก่อนขอบหลายๆด้านนั้นทำได้บางกว่าคู่แข่งพอสมควรและดูดีมากเลยแหละ ส่วนในเรื่องของคุณภาพความคมชัดนั้นเป็นจอแบบ HD+ อาจจะไม่ได้คมชัดสะใจอะไรครับแต่เรื่องของสีสันนั้นใช้ได้เลยแหละสวยงามดีครับ แต่เรื่องของการสู้แดดอาจจะไม่ได้โหดเท่าไรในเจอแสงแรงๆจะมองจอยากพอสมควรครับเพราะเป็นจอ LCD เลยทำให้สู้แดดได้ยากไปหน่อย ส่วนการสัมผัสติดนิ้วพอๆกับตัว 2Pro ครับ และ มีฟิลม์มาให้ก็พอใช้ได้ไม่ได้แย่ครับ
ในเรื่องของมุมมองหลายๆด้านกันบ้างด้วยการที่เป็นจอ LCD มุมมองบางครั้งอาจจะไม่ได้โหดมากครับถ้าเจอฉากสีดำเยอะๆและเอียงมองจะออกไปทางสีเทาๆซะมากกว่ากว่าไม่ได้ดำสนิทครับ ส่วนเรื่องความดรอปลงในมุมมองอื่นๆนั้นก็เจอบ้างครับถ้าเป็นโทนสีเข้มจะดรอปลงพอสมควรครับ และความสว่างในมุมมองเอียงๆนั้นไม่เท่ากับมองตรงๆเท่าไร
SOUND
ในด้านของเสียงผ่านหูฟังตัวนี้มีรู 3.5มม. เสียงจาดที่ลองนั้น แน่นอนว่าตัวนี้ไม่มีหูฟังมาให้ครับ โดยความรู้สึกคล้ายของเดิมไม่ได้เด่นมากนักกำลังขับ เบส หรือ เสียงนั้นค่อนข้างธรรมดา เสียงที่ได้ออกมา จะค่อนข้างออกไปทางโทนแหลมสูง ส่วนใน เรื่องของมิติ เวที เสียงมากลางๆครับผม คล้ายๆกับของแบรนด์ realme ในรุ่นก่อนหน้ามากๆครับ รวมถึงตัวนี้หน้าตาการปรับเสียงสามารถปรับเสียงแล้วแต่แนวคนชอบได้และปรับ EQ ได้ 3 ย่านหลักๆครับ ถือว่าแอบน้อยไปนิดนึงนะ ปรับได้เท่าเดิมแต่เปลี่ยนหน้าตานิดหน่อยสำหรับใครที่ชอบปรับ EQ อาจจะต้องพึ่งแอพนอกแทน
SPEAKER
ทางด้านของลำโพงตัวนี้ถ้าเราเอามาเทียบกับรุ่นน้องในค่ายมันหน่อยจริงๆแล้วจากที่ลองเสียงมันไม่ได้แตกต่างกันชัดเจนอะไรมากครับ แนวเสียงมาในแบบเดียวกันเลยแต่เสียงความดังนั้น realme 3 จะเด่นดังกว่าเล็กน้อย และเสียงมิติดีกว่า รวมถึงเสียงแหลมชัดเจนกว่าของรุ่น C1 ครับแน่นอนว่าเสียงถ้าไม่เอามาเทียบกันแบบนี้อาจจะแยกกันยากพอสมควรเลยแหละ แต่ถ้าเราเอาไปเทียบกับตัวอื่นค่ายอื่นบางตัวนั้นเสียงของ realme 3 เหมือนจะแหลมจัดไปหน่อยครับ เสียงขาดเสียงเบสและความแน่นไปมากพอสมควร จะเน้นไปแหลมใส อาจจะแสบหูไปนิดนึงครับ
GAMING
การเล่นเกมตัวนี้มาพร้อมกับ Gamespace ตัวใหม่หน้าตาแบบใหม่สวยงามและดูสายเกมมากขึ้นครับ โดยการใช้ Game Space ผู้ใช้จะสามารถจัดการเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีทั้งหมด 3 โหมดด้วยกันคือ โหมดประสิทธิภาพสูง โหมดสมดุล และโหมดการใช้พลังงานต่า และสามารถดูสถานะ Wifi ความนิ่งอะไรได้ รวมถึงล็อคความสว่างอะไรพวกนี้ได้ครับ
สำหรับตัวนี้แน่นอนว่ายังคงมีฟีเจอร์ที่จะช่วยได้คือการรองรับการใช้งานทางลัด เช่น การปิดการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนข้อความ การทำงานหลายอย่างได้อย่างรวดเร็ว การจับภาพหน้าจอและการบันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ ส่วนตัว MTK P60 นั้นอาจจะไม่ได้แรงเท่าไรครับแอบเสียดายที่ไม่ใช่ MTK P70 และเลยของลองใน PUBG นั้นสามารถปรับได้ตามภาพเลย จริงๆไม่ได้ลื่นมากนัก แต่ถ้าปรับภาพ Standard ก็พอลื่นเลยแหละ แต่ในแง่ความสวยอาจจะไม่ได้โหดมากนักยังไงสามารถรอติดตามการทดสอบเกมหลายๆเกมได้แบบใน Video ทาง Youtube ได้เลยนะครับสำหรับเจ้า realme 3 MTK P60 ตัวนี้ กด Subscribe ไว้ได้เลย
GPS
ส่วนของการนำทางตัวนี้แอดมินทดสอบนำทางจริงๆ และ ใช้แอพทดสอบเช่นเคยครับตัวนี้จากที่ทดสอบจริงๆพบว่านำทางได้ ตัวการนำทางอัพเดทยังไม่ค่อยเป๊ะมากนักเมื่ออยู่ในเมืองมีการหันหัวผิดทิศไปบ้างและอัพเดทแอบช้าไปเวลาขับรถในบางจังหวะเจอบ้างบางครั้งครับ ไม่ได้เจอทุกครั้งนะ ส่วนในการใช้แอพทดสอบนั้นก็จับได้ทั้งหมด 12 ดวง จากทั้งหมด 41 ดวงครับทั้งบนรถ และ ทางเดินเท้าปกติ ส่วนของกลางแจ้ง จับได้ทั้งหมด 17 ดวง จากทั้งหมด 41 ดวง นะครับ ทำได้ใกล้ๆกับตัวอื่นที่ใช้ MTK นะครับหรือพวก OPPO F11 Pro ที่พึ่งทดสอบกันไปเลย
BATTERY
อายุใช้งานแบตมามากถึง 4230mAh และใช้ตัว CPU MTK P60 แน่นอนว่ามันเลยทำให้แบตนั้นอึดมากจริงๆและจอเป็น HD+ ช่วยกันได้อย่างดี นั้นทำให้รองรับการใช้งานทั้งวันได้สบายๆครับจากที่ใช้งานคือ ทั้งหมด 12 ชั่วโมงจอเปิดเยอะพอสมควรตีเป็น 4-5 ชั่วโมงครับใช้งานถ่ายรูป โซเชี่ยลอะไรปกติ ฟังเพลง ดู Youtube ครับแน่นอนว่าใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกังวล เหลือกลับมา 46% โอเคเลยครับ แต่เรื่องชาร์จเข้าอาจจะไม่ได้ไวอะไรมากนัก
CAMERA
กล้องหลังของรุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับกล้องหลัง คู่ความละเอียด 13 MP (F/1.8) + 2 MP (F/2.4) และมาพร้อมระบบ AI รวมถึง Night Scape Mode ถ่ายกลางคืนได้สว่างและคมชัดเดี๋ยวเราไปชมกันได้เลยในด้านล่างครับสำหรับโหมดนี้ และแน่นอนว่า โหมด Expert มีมาให้ปรับด้วยโดยสามารถปรับได้ 1/8000- 16 วิเลยทีเดียว อย่างโหด !! ปรับได้เยอะมากครับ และรวมถึง ISO-EV -AF-WB สามารถปรับได้ทั้งหมดเลย ตัวกล้องถ่ายสวยนะจากที่ลองสีค่อนข้างตรงและถ่ายได้ไว ละลายหลังทำได้ดี แต่กลางคืนก็ยังคงเจอ Noise มาบ้างพอสมควรครับถ้าไม่ใช้ Nightscape นะ เราไปลองชมตัวอย่างภาพถ่ายกันเล็กน้อยครับจากรุ่นนี้
PORTRAIT
NIGHT SCAPE
โหมดการถ่ายกลางคืนนั้นถ้าเราเปิดแล้วจะช่วยให้ถ่ายกลางคืนคมสวยและชัดขึ้นเยอะมากเป็นหลักการทำงานทำให้เราถ่ายกลางคืนโดยไม่ต้องมีขาตั้งได้ แต่ได้ภาพที่สว่างและ จุดที่เป็นหลอดไฟจะคมและไม่ฟุ้งเลยครับจะเห็นได้จากภาพเทียบข้างบนที่เราเทียบมาให้ดู และ ถ่ายถือไว้ 2-3 วิเท่านั้นครับ ถือว่าทำได้ดีมากๆเลยเมื่อเทียบกับราคาเท่านี้ โหมดนี้ถ่ายได้ดีกว่าตัวอื่นๆเยอะเลยนะในเรื่องความคมชัดและคุณภาพโดยรวมครับอันนี้ชอบมากๆเลยแหละไปชมกัน
SELFIES
กล้องหน้าของทาง Realme 3 นั้นมาด้วยกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13 MP (F/2.0) พร้อมระบบ AI Beauty และยังรองรับการถ่าย Portrait และ สามารถปรับหน้าเนียน แบบ 3 มิติ ปรับเปลี่ยนรูปทรงหน้าได้ทั้งหมดครับ และสามารถเลือกโทนสีได้ด้วย จากที่ลองมุมกล้องนั้นกว้างเหมือนเดิม ถ่ายได้ง่ายและไว ความคมชัดใช้ได้เป็นระบบ Fixed Focus ครับ แต่ระยะทำมาดีอยู่ ถ่ายหน้าค่อนข้างเนียนและดูดี ทั้งแสงน้อยและแสงปกติ กล้องหน้าใช้ได้เลย
REALME 3
” ออกแบบสวย กล้องโหมดกลางคืนโหด และได้แบตอึด พร้อมราคาที่ถูกมาก ! “
Realme 3 นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่อะไรหลายๆอย่างนั้นค่อนข้างครบเครื่องในแง่ของการใช้งานและการออกแบบ แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับตัว Pro ก่อนหน้านั้นอาจจะไม่ได้รู้สึกแตกต่างกันมากในแง่ของประสิทธิภาพการใช้งานแต่ที่ค่อนข้างโดดเด่นน่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบและ กล้องหลังที่มีการพัฒนาขึ้นพอสมควรโดยเฉพาะโหมดการถ่ายแบบ Nightscene แน่นอนว่าค่อนข้างว้าวและคุณภาพดีกว่าที่คิดไว้เยอะมากๆ และในเรื่องของแบตที่อึดทั้งวันแบบสบายๆเลยแหละ รุ่นนี้ตอบโจทย์ในแง่การใช้งานทั่วไปได้สบาย ส่วนเรื่องระบบหน้าตาอะไรก็ปรับเปลี่ยนใหม่ พร้อมได้ Android 9.0 ด้วยครับ แน่นอนว่าความลื่นไหลนั้นอาจจะไม่ได้ติดนิ้วและแรงมากนักจากที่ลองๆ เพราะตัวที่ขายไทยนั้น P60 จริงๆแอบเสียดายเล็กน้อย และ ได้แค่พอร์ท Micro-USB มาแต่ด้วยเรทราคานี้ก็ถือว่าใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไรเลยแหละครับ
ข้อดี
- การออกแบบสวย ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
- งานประกอบแข็งแรงใช้ได้ เก็บงานได้ดี
- กล้องหลัง NightScape โหด และ รายละเอียดทำได้ดี
- แบตใช้งานได้ทั้งวันสบายๆอึดมากๆ
- ใช้งาน Android 9.0 + Colour OS 6 หน้าตาใหม่
- กล้องหน้าทำได้ดีกว่าคู่แข่ง
- ทำราคาได้ดี จับต้องได้ง่าย
ข้อสังเกต
- วัสดุข้างหลังเป็นรอยได้ง่ายมากๆ
- เมืองไทยได้ MTK P60
- เชื่อมต่อยังเป็น Micro-USB
- ไม่รองรับ Wifi 5Ghz
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget