realme 3 pro นั้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดเมืองนอกและในไทยก็จะเข้ามาเร็วๆนี้แน่นอนว่าเป็นรุ่นที่หลายๆคนจับตามองเพราะมันมาพร้อมกับ Snapdragon 710 ที่ความแรงใช้งานได้ดีมากๆรวมถึงการใช้งานกล้องหลังที่เซนเซอร์ IMX519 ตัวเทพเลยแหละ realme นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่เปิดตัวและลุยตลาดราคาคุ้มค่าอย่างต่อเนื่องจริงๆทั้งในไทยและต่างประเทศและเติบโตอย่างเร็วมากๆและข้อดีคือศูนย์บริการที่เยอะและรองรับได้ทั่วประเทศ ทำให้ในไทยนั้นมันเป็นแบรนด์ที่หลายๆคนจะรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆและติดตามมากขึ้นเรื่อยๆด้วยนั้นเอง
ในส่วนของ realme 3 pro นั้นมีขนาดหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว Full HD+ และชิปเซต Snapdragon 710 อีกทั้งกล้องและอะไรหลายๆอย่างที่ดีกว่า realme 3 ตัวธรรมดา ทั้งในเรื่องของการใส่ฟีเจอร์ HyperBoost 2.0 ที่มาพร้อมทำงานให้ตัวเครื่องมีประสิทภาพในด้านต่างๆดีมากยิ่งขึ้นจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งานต่างๆหรือในเรื่องของการเล่นเกม realme 3 Pro นั้นจะมีกล้องหลัง 2 ตัวที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล โดยใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX519 ซึ่งเหมือนกับที่ใช้ใน OnePlus 6T และกล้องหน้าจะมีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล (เลนส์ f/2.0) ซึ่งมากกว่า realme 3 ที่มีกล้องหน้าเพียง 13 ล้านพิกเซล อยู่เกือบเท่าตัว และมีปุ่มสแกนนิ้วอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง แบตเตอรี่จะมีมาให้ถึง 4,045 mAh VOOC 3.0 20W แถมมากับตัวเครื่องด้วย
realme 3 Pro เปิดราคามาที่ 6,999 บาท ในความจุ RAM 4 GB STORAGE 64 GB และ 8,999 บาทในความจุ RAM 6 GB STORAGE 128GB มาพร้อมกับ 3 สีหลักๆคือ Nitro Blue น้ำเงินตัวที่รีวิว – Lighting Purple ดำม่วง- Carbon Gray สีเทา Promotion- Truemove h 4490 บาท ในตัว 6/128 GB ส่วน Lazada สั่งจอง ลดไป 400 บาทเหลือ 6,599 บาทเท่านั้น สำหรับ 4/64 GB
UNBOX
ตัวกล่อง realme 3 Pro นั้นยังมาในลักษณะสีเทาส้มตามการออกแบบในรุ่นใหม่ ตัวกล่องด้านหน้ายังเป็นการเขียนแต่ตัวเลขเท่านั้นว่าเป็นรุ่นะไรจริงๆการออกแบบกล่องชอบแบบนี้มากกว่าที่มีรูปตัวเครื่องนะ มันดูทันสมัยและเรียบๆดี
- ตัวเครื่อง realme 3 Pro
- เคสใสนิ่ม TPU
- ที่ชาร์จ VOOC 3.0 20W 5V/4A
- สายชาร์จรองรับ VOOC 3.0 Micro-USB
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
เคสใสนั้นยังคงแถมมาให้ในกล่องที่เป็นเคสใสแบบ TPU ที่ต้องบอกว่าค่อนข้างหนาและกันกระแทกได้ดีมากๆในด้านหน้า เพราะว่ามีการยกมุมขอบเครื่องทั้ง 4 มุมทำให้เวลาวางคว่ำนั้นสามารถกันกระแทกหน้าจอได้แบบสมบูรณ์และรอบๆยังคงยื่นสูงเหนือกระจกหน้าจอได้แบบพอดีและสามารถติดฟิลม์กระจกได้ทำให้มันพอดีกับเคสเลยทีเดียว ส่วนด้านหลังนั้นก็เป็นจุดๆที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เคานั้นติดกับฝาหลังและ เคสนั้นนูนพอดีกับเลนส์กล้องหลัง
DESIGN
ทางด้านการออกแบบในรุ่นนี้มีความคล้ายกับรุ่น realme 3 แบบชัดเจนในแง่ของการวางตำแหน่งกล้อง การไล่สีแต่เมื่อดูดีๆจะเห็นถึงความแตกต่างกันพอสมควรเลย เพราะการใช้วัสดุขอบเครื่องครั้งนี้เป็นโลหะ และมีความแข็งแรงมากขึ้นฝาหลังนั้นดูดีขึ้นและมีการเล่นลวดลายที่เป็นเส้นๆตามแนวSสวยงามและทดทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่ารุ่นเดิมอีกด้วยครับ ส่วนตัวเครื่องหน้าจอเป็นหน้าจอแบบติ่งหยดน้ำเช่นเดิมและมาพร้อม Gorilla Glass 5 กันเลย ส่วนเครื่องมีการซีลยางทำให้กันฝุ่นละอองน้ำได้ดีขึ้น และ แผ่นระบายความร้อนกราไฟต์ตรงด้านหลังทำให้ระบายความร้อนได้ดีกว้าเดิม การออกแบบยังคงดีไซน์แบบเดิมแต่ปรับปรุงวัสดุรายละเอียดเล็กๆน้อยจากรุ่น 3 ที่ต้องบอกว่าสวยและดูดี
ด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับดีไซน์จอไร้ขอบแบบติ่งทรงหยดน้ำคล้ายกับรุ่น realme 3 แต่หน้าจอให้กว้างกว่าเพราะมีขนาด 6.3 นิ้ว สัดส่วนต่อตัวเครื่อมากถึง 90.8% ความละเอียดที่ Full HD+ และใช้ กระจกกันรอยแบบ Gorilla Glass 5 ที่คุณภาพค่อนข้างสูง และมีฟิลม์กันรอยติดมาให้เรียบร้อยจากทางโรงงานครับ
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นต้องบอกว่ามีขนาดพอสมควรจริงๆมันเป็นเรื่องปกติของมือถือในเรทราคาพวกนี้ที่ยังคงมีขอบข้างล่างครับ ปุ่มควบคุมต่างๆนั้นไปอยู่บนหน้าจอและสามารถใช้งานแบบเต็มหน้าจอปัดไปมาๆได้ด้วย
หน้าจอส่วนบนนั้น จะเป็นพวกเซ็นเซอร์ และลำโพงสนทนาเอาไว้ตรงขอบเครื่องเหมือนเดิมครับ และมี กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล 1.8 ไมครอน และใช้เทคโนโลยี 4-in-1 Pixels สำหรับรวมเม็ดพิกเซล่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นเม็ดพิกเซลขนาดใหญ่ เพื่อช่วยถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ส่วนขอบบนและขอบข้างนั้นทำได้บางขึ้นและดูไร้ขอบมากขึ้น
ขอบด้านล่างเครื่อง นั้นเป็นรูลำโพง ด้านซ้ายมือ พอร์ทแบบ Micro-USB ตรงกลาง รูไมค์ และ รู 3.5มม. แอบเสียดายที่ยังเป็น Micro-USB นะในยุคนี้และในเรทราคานี้ แต่ก็อาจจะเป็นข้อจำกัดของ VOOC 3.0 ก็เป็นได้
ส่วนขอบด้านบนนั้นเป็นที่อยู่ของ รูไมค์เท่านั้นไม่มีอะไรในด้านบนนี้แต่จะเห็นการออกแบบที่มีการเล่นความโค้งของตัวขอบเครื่องจะไม่ใช่เรียบๆแบบรุ่น 2 Pro แล้วและทำให้ดูขอบบางและจับง่ายขึ้นรวมถึงโค้งรับมือได้ดีขึ้นมากครับ เพราะในรุ่น 2Pro เคยบ่นไปว่าฝาหลังตัดตรงและดูหนาและจับยากนั้นเอง จะแอบเห็นเส้นๆลวดลายของฝาหลังที่เป็นการออกแบบเฉพาะรุ่นนี้เลยครับ
ส่วนด้านซ้ายนั้น เป็นที่อยู่ของปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และ ถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot รองรับ Dual Stanby จากที่ลองคือ เวลาโทรอีก ซิม 1 และ ซิม2 นั้นจะใช้ Data ไม่ได้นะครับ
ในด้านขวาของตัวเครื่องยังเป็นแค่ปุ่มเปิดปิดเครื่องปกติครับ แต่ขอบเครื่องนั้นใช้วัสดุที่แข็งแรงขึ้นแบบปัดด้านสีน้ำเงินไม่ได้ไล่สีตามฝาหลัง มีการเล่นการออกแบบที่เว้าเข้าไปทำให้ขอบเครื่องนั้นดูบางขึ้นอีกด้วยครับ
ด้านหลังตัวนี้จะเห็นการวางโลโก้แบบแนวนอนพร้อมการเล่นแสงสีฝาหลังแบบตัว S คล้ายเส้นบนสนามแข่งรถจริงๆถือว่าสวยงามเลยแหละเมื่อมองเห็นรายละเอียดของฝาหลังแต่ยังคงใช้พลาสติกในส่วนของฝาหลังนะครับ แน่นอนว่าสแกนนิ้วมือยังคงอยู่ข้างหลังพร้อมกล้องหลังคู่ที่วางไว้มุมซ้ายบนเหมือนรุ่นอื่นๆในแนวตั้งครับ พร้อมมี realme ring ล้อมรอบกล้องหลังตัวบนด้วยครับเป็นเอกลักษณ์เล็กๆน้อยในค่ายนี้
กล้องหลังนั้น มาให้ 2 ตัวนการจับระยะและถ่ายรูปปกติ ที่มีความละเอียด ตัวหลัก 16 + 5 ล้านพิกเซล f1.7 และ ตัวที่ 2 นั้นเป็น f 2.4 เและใช้เทคโนโลยีการโฟกัสแบบ Dual Pixel และสามารถถ่าย ถ่ายวิดีโอแบบ Slo-Mo ที่ระดับ 960fps รวมถึง Nightscape, ฟีเจอร์ Chroma Boost และ Portrait มาครบมากๆ
SPEC
- หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว FHD+ ดีไซน์แบบ Dewdrop ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
- CPU Qualcomm Snapdragon 710 AIE 2.2 GHz
- GPU Adreno 616
- ความจุ 6+128GB และ 4+64GB รองรับเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 256GB
- กล้องหน้า AI Selfie 25 ล้านพิกเซล F2.0
- กล้องหลังคู่ 16 F1.7 +5 F2,4 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ Super Slo-mo ได้ 960fps ถ่ายภาพโหมด Ultra HD 64MP และมีโหมดถ่ายภาพกลางคืน Nightscape
- แบตเตอรี่ 4045 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว VOOC 3.0
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Micro-USB 2.0
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 บน Android 9 Pie
- มี 2 สี, Nitro Blue และ Lightning Purple
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพตัวนี้ที่ใส่เข้ามาจะเป็น Snaodragon 710 AIE แต่มีความเร็วที่ลดลงจากทั่วไปเล็กน้อยเลยทำคะแนนทำไปได้ 1467 5737 เพราะถ้าเทียบ 710 ตัวอื่นๆจะแตะไป 1800 ครับ ส่วนตะแนน Antutu นั้นทำได้ 155067คะแนน มากกว่าตัว 3 ประมาณ 2 หมื่นคะแนน และน้อยกว่า 710 ทั่วไป 3 หมื่นคะแนนโดยประมาณนั้น ส่วนความปลอดภัยได้ L3 และ หน่วยความจำเป็น EMMC5.1 ปกติครับผม ถือว่าคล้ายๆกับรุ่นก่อนที่ 660 ลดสปีด และในครั้งนี้ก็เป็น 710 ที่อาจจะโดนลดความเร็วลงเล็กน้อยแต่ก็ยังใช้งานได้ดีเหมือนกันครับ
SOFTWARE
หน้าตาระบบรุ่นนี้มีการปรับปรุงอีกครั้งมาใช้ Colour OS 6 ร่วมกับ Android 9 เหมือนกับรุ่น 3 ทั้งหมดครับ ทั้ง การตั้งค่า การใช้งานทั่วไป แต่หน้าหลักๆนั้นยังคงมีมาคล้ายๆเดิมครับการแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอพอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมด รวมถึงเป็นการใช้สี่เหลี่ยมด้วยครับ การปรับแสง การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่ายและเสถียรมากๆ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 110 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 2.6 จาก 6 GB ครับ
ส่วนการโคลนแอพ อะไรทั้งหลายก็มีมาให้ครับผม รวมถึงตัว Game Space มาใหม่อันนี้น่าสนใจยังไงไปดูในหัวข้อ Gaming ได้เลย และ ยังมีผู้ช่วยอัจฉริยะมาให้ในการปัดมาด้านขวาในจอหลักจะคอยช่วยในการจัดการแจ้งเตือนอะไรต่างๆ หรือ ดูการใช้งานของเราว่าเน้นอะไรยังไงก็จะเสนอมาให้ใช้งานกันเลย อีกทั้งยังมีโหมดช่วยขับรถมาให้จะดูแลการแจ้งเตือน ขณะขับขี่ ระบบจะทำ การปิดเสียงการแจ้งเตือน ระบบจะใช้ตัวอักษรและ ปุ่มขนาดใหญ่ที่สามารถรับหรือปฏิเสธได้เท่านั้น และส่ง SMS ตอบกลับให้เองเลย แต่เรื่องของติ่งหน้าจอไม่เจอให้ปิดนะครับผมในตัวนี้
Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอพลิเคชั่น บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smart Sidebar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้สบาย Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับ รวมถึงการตั้งค่าการควบคุมหลักๆนั้นสามารถปรับใช้งานแบบเต็มจอหรือจะใช้งานแบบ 3 ปุ่มปกติสลับตำแหน่งได้ด้วย
SCREEN
สำหรับหน้าจอในตัว realme 3 Pro นั้นจะมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ที่มีความละเอียด FullHD+ และด้วยการออกแบบหน้าจอที่เป็นแบบ Dewdrop ทำให้หน้าจอนั้นเต็มพื้นที่เครื่องเมื่อเทียบกับตัวเครื่องสูงถึง 90.8% ครอบทับด้วยกระจกกันรอยแบบ Gorilla Glass 5 จากค่าย Corning เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งจากการตกกระแทก หน้าจอความรู้สึกแรกในการใช้งานเลยรู็สึกถึงความคมชัดที่ดีกว่าตัว 3 และรุ่นก่อนหน้าแต่เรื่องสีสันนั้นอาจจะไม่ได้แตกต่างกันมากครับ ส่วนเรื่องมิติของภาพนั้นทำให้ใกล้ๆกัน แต่ความคมนั้นจะค่อนข้างรู้สึกแตกต่างกันค่อนข้างชัดเลย และในเรื่องของการสัมผัสก็เช่นกันเรื่องของการทัช การใช้งานติดนิ้วดีกว่าตัว 3 และ ไวกว่าแบบรู้สึกได้เลยครับ ส่วนการออกแบบติ่งแบบหยดน้ำยังคงไม่แตกต่างกับรุ่นปกติเท่าไรครับ ตัวนี้ไม่สามารถปิดติ่งหน้าจอได้นะ จะเป็นแค่บางแอพที่จะปิดส่วนติ่งนั้นออกไปครับแต่ไม่สามารถตั้งค่าปิดทั้งหมดได้ ส่วนการสู้แสงแดดนั้นทำได้ดีอยู่เหมือนกัน
หน้าจอในการมองด้านอื่นๆนั้นก็รองรับมุมมองได้ดีกว่ารุ่น 3 และ รุ่นก่อนหน้าด้วยเช่นกันสีไม่ดรอปและไม่เพี้ยนครับมุมมององศาเอียงๆก็ยังคงเห็นหน้าจอได้ค่อนข้างชัดและสีไม่เพี้ยน และแม้ใช้งานกลางแจ้งแสงหน้าจอก็สามารถเร่งได้สว่างและสู้แดดได้เป็นอย่างดี ส่วนเวลากลางคืนก็สามารถลดแสงให้อ่อนและใช้งานเวลาแสงน้อยได้ดีครับ แต่ด้วยเป็นจอแบบ LCD ทำให้ส่วนสีดำนั้นอาจจะไมไ่ด้ดำสนิทเท่าไรซึ่งเป็นปกติสำหรับหน้าจอแบบนี้ครับไม่ได้มีปัญหาอะไร ถือว่าทำหน้าจอออกมาได้ค่อนข้างดีอันดับต้นๆในเรทราคานี้รวมถึงการสัมผัสที่ดีกว่าเดิมแบบค่อนข้างชัดเจน
SOUND
ในด้านของเสียงผ่านหูฟังตัวนี้มีรู 3.5มม. เสียงจาดที่ลองนั้น แน่นอนว่าตัวนี้ไม่มีหูฟังมาให้ครับ โดยความรู้สึกคล้ายของเดิม ในตัว reaelme 3 แต่กำลังขับมาดีกว่ารุ่นนั้นนิดหน่อยครับในระดับเสียงเดียวกับ รวมๆก็อาจจะไม่ได้เด่นมากนักกำลังขับ เบส หรือ เสียงนั้นค่อนข้างกลางๆครับ เสียงเหลมเด่นกว่านิดหน่อย ส่วนเรื่องของมิติ เวที เสียงมากลางๆครับผม คล้ายๆกับของแบรนด์ realme 3 ในรุ่นก่อนหน้ามากๆครับแต่ดีที่กำลังขับมามากกว่านิดนึง รวมถึงตัวนี้หน้าตาการปรับเสียงสามารถปรับเสียงแล้วแต่แนวคนชอบได้และปรับ EQ ได้ 3 ย่านหลักๆครับ ถือว่าแอบน้อยไปนิดนึงนะ ปรับได้เท่าเดิมแต่เปลี่ยนหน้าตานิดหน่อยสำหรับใครที่ชอบปรับ EQ อาจจะต้องพึ่งแอพนอกแทน
SPEAKER
ทางด้านลำโพงรุ่นนี้มาพร้อมลำโพงในขอบล่างตัวเดียวและเมื่อนำมาเทียบกับรุ่น 3 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็พบว่าเสียงที่ออกมานั้นมีความดังขึ้นมาแบบชัดเจน แม้เรื่องของมิติเสียงอะไรนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากแต่ด้วยการที่กำลังขับมันมามากกว่าทำให้เราได้ยินเสียงรายละเอียดอะไรนั้นเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนในเรื่องแนวเสียงต่างๆนั้นยังคงมาในแนวทางเดียวกันกับรุ่นก่อนหน้าเลยนั้นเองครับ ถือว่าเสียงที่ออกมาทำได้ดีดังชัดเจน เสียงแหลมนำเสียงคนพูดอะไรชัดเจน
GAMING
การเล่นเกมตัวนี้มาพร้อมกับ Gamespace ตัวใหม่หน้าตาแบบใหม่สวยงามและดูสายเกมมากขึ้นครับ โดยการใช้ Game Space ผู้ใช้จะสามารถจัดการเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีทั้งหมด 3 โหมดด้วยกันคือ โหมดประสิทธิภาพสูง โหมดสมดุล และโหมดการใช้พลังงานต่า และสามารถดูสถานะ Wifi ความนิ่งอะไรได้ รวมถึงล็อคความสว่างอะไรพวกนี้ได้ครับ สำหรับตัวนี้แน่นอนว่ายังคงมีฟีเจอร์ที่จะช่วยได้คือการรองรับการใช้งานทางลัด เช่น การปิดการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนข้อความ การทำงานหลายอย่างได้อย่างรวดเร็ว การจับภาพหน้าจอและการบันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ การใช้ 710 ทำให้รีดประสิทธิภาพออกมาได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ
GPS
ส่วนของการนำทางตัวนี้แอดมินทดสอบนำทางจริงๆ และ ใช้แอพทดสอบเช่นเคยครับตัวนี้จากที่ทดสอบจริงๆพบว่านำทางได้ค่อนข้างแม่นและไวครับเป็นจุดเด่นที่ค่อนข้างแตกต่างกับทาง realme 3 ก่อนหน้านี้แบบชัดเจนตัวนี้จับได้ไวและเยอะกว่ารวมถึงนำทางได้ดีกว่าด้วย ส่วนในการใช้แอพทดสอบนั้นก็จับได้ทั้งหมด 21 ดวง จากทั้งหมด 39 ดวงครับทั้งบนรถ และ ทางเดินเท้าปกติ ส่วนของกลางแจ้ง จับได้ทั้งหมด 24 ดวง จากทั้งหมด 39 ดวง นะครับ ถือว่าเป็นจุดแตกต่างกันหลักๆของการใช้งานที่เทียบกับตัว 3 ก่อนหน้านี้ครับน่าสนใจสำหรับใครที่เน้นในเรื่องนี้
BATTERY
อายุใช้งานแบตมามากถึง 4045mAh แน่นอนว่ามันดูน้อยลงกวาตัว 3 แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไรรวมถึงตัวนี้มาพร้อมเทคโนโลยีที่น่าสนใจอย่าง VOOC 3.0 ทำให้มันชาร์จได้ไวมากๆ และจากที่ลองใช้งานอายุแบตนั้นหลายๆวันจะเฉลี่ยๆนั้นทำให้รองรับการใช้งานทั้งวันได้สบายๆครับจากที่ใช้งานคือ ทั้งหมด 12-13 ชั่วโมงจอเปิดเยอะพอสมควรตีเป็น 5 ชั่วโมงครับใช้งานถ่ายรูป โซเชี่ยลอะไรปกติ ฟังเพลง ดู Youtube และเล่น PUBG 1 ชั่วโมงเต็มๆแบบเปิดภาพสูงสุดครับ ครับแน่นอนว่าใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่ต้องกังวล เหลือกลับมา 20% อาจจะดูลดไวกว่าตัว 3 เล็กน้อยประมาณ 1-2 ชั่วโมงเพราะทางเราก็ใช้งานควบคุ่กันไปครับตัว 3 Pro จะหมดไวกว่านิดนึง ส่วนเรื่องการชาร์จเข้านั้น 3 Pro ทิ้งขาดครับ เทคโนโลยี VOOC 3.0 ต้องบอกเลยว่าน่าสนใจอย่างมากและดีกว่าทุกๆค่ายเลย
VOOC 3.0
เทคโนโลยีนี้ต้องบอกว่าน่าสนใจเพราะมันเป็นเทคโนโลยีในการชาร์จไวที่คุ้นเคยกันดีและมีความไวสูงรวมถึงความปลอดภัยสูงมากด้วยระบบป้องกันถึง 5 ขั้นตอนและใช้การชาร์จเข้า 20W 5V/4A เลยทีเดียวทำให้ชาร์จได้ 50%ในเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้นและ 1 ชั่วโมงแบตก็เต็มพอดีถือว่าไวเอาเรื่องเลยนะ เป็นการจ่ายไฟที่แรงและปลอดภัยมากๆ และมาพร้อมความจุแบตมากถึง 4045mAh ที่เยอะมากเมื่อเทียบกับค่ายอื่นเล่นเกมยาวๆไป 7 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จนั้นก็ยังมีโหมด CABC ทำให้ลดการใช้พลังงานขณะชาร์จและทำให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นและชาร์จเข้าไวขึ้นด้วย จากที่ทดสอบนั้นใช้เวลา 40 นาทีได้มาถึง 70% และใช้เวลา 1 ชั่วโมงแบตเต็ม 100% ถือว่าโหดเอาเรื่องเลยแหละ
CAMERA
ครั้งนี้วีดีโอรองรับการถ่าย 960 Fps และ ถ่าย 4K ได้อีกด้วยครับถือว่าโหดมากๆ แต่ในภาพนิ่งก็ต้องบอกว่าโหดไม่แพ้กัน เพราะมาพร้อมกับกล้องหลังคู่ที่มาพร้อมเซนเซอร์ระดับเทพแบบ IMX519 ที่มีความละเอียด ตัวหลัก 16 + 5 ล้านพิกเซล f1.7 และ ตัวที่ 2 นั้นเป็น f 2.4 เและใช้ เทคโนโลยีการโฟกัสแบบ Dual Pixel ทำให้โฟกัสได้ไวขึ้นมาก และแม่นขึ้น รวมถึงสามารถถ่าย ถ่ายวิดีโอแบบ Slo-Mo ที่ระดับ 960fps แบบเดียวกับเรือธงค่ายอื่นๆได้ในความละเอียด HD และ ยังรองรับ 4K และ 1080P 60FPS ได้อีกด้วย ส่วนถาพนิ่งนั้นก็มีฟีเจอร์แบบรุ่นน้องคือ Nightscape, ฟีเจอร์ Chroma Boost และ Portrait มาครบมากๆ เลยแหละ จากทีได้ลองใช้งานถ่ายรูปมาซักพักต้องบอกว่ากล้องทำได้ดีมากในกลายๆอย่างดีกว่าเดิมแบบชัดเจน ทั้งความคมชัดรายละเอียดโทนสีต่างๆ แต่ยังเจอปัญหาในเรื่องของ WB ที่บางสภาวะแสงยังเพี้ยนค่อนข้างชัดเจน อันนี้น่าจะมีแก้ไขในอนาคตครับ ส่วนความไวในการโฟกัส บันทุกภาพ และโหมดต่างๆนั้นทำออกมาได้ประทับใจไม่ติดอะไรครับ
PORTRAIT
NIGHTSCAPE
SELFIES
กล้องหน้า 26 ล้านพิกเซลจัดเต็มพร้อมด้วย AI และ เทคโนโลยีการรวมพิกเซล 4-in-1 Pixels ทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยนั้นทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม และมีการถ่าย HDR – Portrait และ AI Beautification มาให่้ครบครันเพียงพอต่อการใช้งานเลยครับส่วนคุณภาพนั้นถือว่าใช้ได้ดีมากๆในการถ่ายทั้งแสงน้อยและกลางแจ้งครับเฉลี่ยแสงได้ดีมาก
VIDEO
การถ่ายวีดีโอในรุ่นนี้มาพร้อมกับการรองรับการถ่าย 4K 30FPS และ 1080P 60FPS-30FPS เลยทีเดียวและยังรองรับการถ่าย Super Slowmotion 960FPS ด้วยเป็นครั้งแรกของแบรนด์นี้ครับถือว่าการถ่ายวีดีโอถือว่าจัดเต็มเอาเรื่องเลย ส่วนในการใช้งานจริงๆนั้นต้องบอกว่าคุณภาพนั้นใช้งานได้เลยแต่เรื่องของการกันสั่นนั้นจะไม่มีเข้ามาช่วยในการถ่าย 4K และ 1080P 60FPS ครับ จึงทำให้ภาพนั้นค่อนข้างสั่นไหวพอสมควรแต่ถ้าถ่ายแบบทั่วไป 30 FPS นั้นภาพที่ได้ต้องบอกว่านิ่งเอาเรื่องเลยนะถือว่าทำได้ดีครับในรุ่นนี้ และการถ่าย 960FPS นั้นจะได้แค่ HD เป็นเรื่องปกติของระบบแบบนี้นะครับหลายๆค่ายก็ได้ความละเอียดเท่านี้และถ่ายได้แค่ 3 วิแบบเดียวกับค่ายอื่นๆ ส่วนความลื่นไหลนั้นอาจจะไม่ได้โหดมากนักน่าจะเป็นเทคโนโลยีการถ่ายคล้ายๆของ Huawei เลยครับภาพที่ได้คล้ายๆกัน
realme 3 Pro
“ตัว Pro ยังคงทำได้น่าประทับใจ แรงกว่าเดิม กล้องโหดกว่าเดิม พร้อม VOOC 3.0”
realme ยังคงทำได้ดีในรุ่น Pro ลงตัวในการใช้งานหลายๆอย่างทั้งเรื่องของสเปคความแรงที่ใช้งานได้ดี รวมถึงกล้องหลังที่พัฒนาดีขึ้นรวมถึงใช้ Sensor ที่ดีกว่าเดิมมากๆคือตัว IMX519 ที่คุ้นเคยกับในรุ่น Oneplus 6T นั้นเองจึงไม่แปลกที่คุณภาพของตัวกล้องหลังจะพัฒนาขึ้นชัดเจนอีกทั้งยังมีโหมดการถ่ายที่ดีขึ้นการรองรับ Nightscape และ 65 MP ในการถ่ายในโหมดโปร แต่จริงๆแล้วตัว 65MP นั้นอาจจะไม่ได้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนมากนักกับการถ่ายปกติครับ ส่วนเรื่องการใช้งานด้านอื่นๆก็ดีขึ้นทั้ง GPS แบตที่ชาร์จได้ไวกว่าเดิมมากด้วย VOOC3.0 และตัววัสดุตัวเครื่องที่ทำได้ดีกว่าเดิมและการออกแบบที่ดูบางเบากว่าเดิมครับ แต่ก็มีจุดขัดใจบางอย่างเช่นพอร์ตชาร์จยังเป็น Micro-USB และ กล้องหลังยังแอบเพี้ยนเล็กน้อยในเรื่องของโทนสีของภาพ และไม่รองรับ Dualactive ในการใช้งาน 2 ซิมครับผม แต่ในด้านอื่นๆก็ต้องบอกว่าทำได้ดีและลงตัวขึ้นเรื่อยๆสำหรับค่ายนี้
ข้อดี
- มาพร้อมการออกแบบฝาหลัง วัสดุบอดี้ที่แข็งแรงกว่าเดิม
- Snapdragon 710AIE ถือว่าแรงใช้ได้
- ระบบ ชาร์จไว VOOC 3.0 ไวมากๆ ถือว่าเด่นมาก
- กล้องหลังคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิม มาพร้อม SONY IMX519 ตัวเทพ
- รองรับการถ่าย 4K-FHD 60FPS – 960FPS
- มาพร้อม Android 9 + Colour OS6
- GPS ใช้งานนำทางได้ดีแม่นยำกว่าเดิมมาก
- หน้าจอสวยและสัมผัสได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆของค่าย
ข้อสังเกต
- พอร์ตชาร์จยังเป็น Micro-USB ในปี 2019
- กล้อง WB ยังเพี้ยนอยู่เล็กน้อย
- Snapdragon 710AIE แบบลดสปีด
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr
*รูปถ่ายจากกล้องทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ