สำหรับ Ultrabook ในงบไม่แพงเรทเริ่มต้นคงหนีไม่พ้น Vivobook ถ้าใครจำกันได้ก่อนหน้านี้เราได้รีวิวตัวเล็กในงบ 13,000 บาทกันไปและในครั้งนี้มันคือรุ่นย่อยที่หน้าจอใหญ่กว่า แรงกว่าเดิมพร้อมกับ Ryzen 5 และ เพิ่มเงินมาไม่เกิน 4,000 บาทถือว่าทำราคาได้ดีอีกแล้วนั้นเองในรุ่น Vivobook 15 ตัวใหม่พร้อมกับเด่นๆเลยคือเรื่องของสีสันแบบใหม่สวยงามจริงๆ อีกทั้งเรื่องของสเปคและการพกพานั้นยังเป็นจุดเด่นของตระกูลนี้อยู่เหมือนกันครับ Vivobook 15 ตัวใหม่นี้จะมาพร้อมกับรุ่นหลักๆคือ intel -AMD และตัว AMD นั้นจะราคาถูกกว่าและเป็นรุ่นที่เราเอามารีวิวนั้นเองครับสเปคที่ได้นั้นไม่ได้แย่เลยมาพร้อม Ryzen 5 + SSD +WINS10 เพียงพอต่อการใช้งาน
VivoBook 15 X512DA นั้นมีความน่าสนใจและความคุ้มค่าที่ยังคงเป็นตัวเลือกได้ดี เหมือนกับรุ่น X412 ก่อนหน้านี้แต่เป็นการขยายหน้าจอเพิ่มเข้ามานั้นเองครับ หน้าจอยังคงขอบบางแบบ NanoEdge สัดส่วนจอแสดงผล 87% สำหรับช่องระบายความร้อนถูกซ่อนอยู่ใต้หน้าจอบริเวณบานพับ ยังมีลำโพงคุณภาพทำงานร่วมกับระบบเสียง ASUS SonicMaster พร้อมมีระบบ Fast Charge มาให้ในตัว และในเรื่องของการเชื่อมต่อนั้นมาครบทั้ง USB-C, USB 3.1, USB 2.0, HDMI, และ microSD card reader รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Dual-band Wi-Fi 6 (802.11ac) และ Bluetooth 4.1 ด้วย และได้ Ryzen 5 รวมถึง SSD 512GB และ Windows10
ASUS VIVOBOOK 15 X512 มาพร้อม 4 สีหลักๆคือ สีเงิน (Transparent Silver), สีเทา (Slate Grey), สีน้ำเงิน (Peacock Blue) สีนี้จะเป็นสีเหลือบๆม่วงเขียวสีค่อนข้างสวยมากครับ สีที่รีวิวเลยนั้นเอง และอีกสีใหม่คือสีส้มๆ ( Coral Crush )เปิดราคาที่ 16,990 บาท สเปคที่ได้จะเป็น Ryzen 5 + SSD 512GB RAM 4GB Onboard +4GB และ มาพร้อม Windows 10 ครับ
UNBOX
- ตัวเครื่อง Vivobook 15 X512
- คู่มือ
- ที่ชาร์จ พร้อม สายชาร์จ
- ตัวกล่องการออกแบบแบบเดียวกับ X412
DESIGN
ในเรื่องของการออกแบบตัวนี้เด่นๆเลยที่ค่อนข้างชอบคือเรื่องของการใช้สี Peacock Blue ซึ่งข้อเด่นๆเลยคือมันเล่นกับแสงสีได้ดีมากๆ มองอีกมุมนั้นเป็นสีน้ำเงินแต่โดนแสงเหลือบๆอีกมุมมันกลายเป็นสีม่วงเข้มๆสวยงามมากๆครับจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมในรีวิวสีบางมุมนั้นมันไม่เหมือนกัน สรุปมันสีอะไรกันแน่จริงๆมันคือสีเหลือบนั้นเอง ขนนกยูง คือแรงบันดาลใจสีมันจะอมเขียวม่วงและน้ำเงินแล้วแต่แสงที่กระทบ เป็นสีที่ค่อนข้างสวยสุดแล้วในรุ่นนี้ ส่วนเรื่องของการออกแบบดีไซน์นั้นเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนักครับและงานประกอบก็ตามเรทราคาและเป็นพลาสติกส่วนใหญ่ ขนาด 15.6 นิ้วนั้นค่อนข้างพกพาได้ง่ายด้วยขอบหน้าจอบางและกระทัดรัดมากกว่าเดิม
ตัวเครื่องโดยรวมมาในโทนสีน้ำเงินทั้งหมด ซึ่งสีน้ำเงินจะเป็นสีเดียวกันวัสดุรอบตัวเครื่องนั้นเป็นแบบเดียวกันหมดรวมยกเว้นด้านล่างนั้นจะเป็นฐานพลาสติกสีดำ แอบเสียดายเล็กๆ ส่วนฝาหลังนั้นเป็นสีเงินพร้อมกับโลโก้ ASUS ส่วนเปิดมาข้างในนั้นตรงหน้าจอจะเป็นหน้าจอสีดำและขอบต่างๆเป็นโทนสีดำทั้งหมดถือว่าทำได้สวยและขอบค่อนข้างบาง และตรงส่วนแป้นพิมพ์นั้นจะเป็นสีดำทั้งหมด แถมยังมีการเล่นพื้นผิวสวยงามอีกด้วยนะ รุ่นนี้ข้อดีคือแป้นพิมพ์มองง่ายกว่าพวกสีเงินครับและใช้งานข้างนอกได้ดีมากๆ และการใช้สีดำก็ตัดกันตัวเครื่องดูสวยงามและลงตัวเหมือนกัน
ตัวโลโก้ ASUS นั้นไม่ใช่การพิมพ์สีปกติแต่เป็นโลโก้สีเงินที่มีลวดลายในตัวคล้ายๆรุ่นอื่นๆของค่ายครับถือว่าดีนะทำให้ดูพรีเมี่ยมขึ้นแบบชัดเจน และในส่วนฐานด้านล่างอย่างที่บอกไปนั้นก็จะเป็นสีดำด้านทั้งหมด และมียางรองแนวยาวมาให้รวมถึง ด้านหน้า และลำโพงแยกซ้ายขวาคนละฝั่งครับ ส่วนช่องระบายมีมาให้มุมขวาบนในภาพ และ ออกด้านหลัง ตัวนี้สามารถอัพเกรดได้ด้วยสามารถเพิ่ม RAM และ SSD ได้ด้วยครับ บางรุ่นจะไม่สามารถเพิ่มได้
ตัวรอบๆแป้นพิมพ์นั้นจะเป็นสีน้ำเงินแบบเดียวกับฝาหลังนะครับมาในโทนเดียวกัน จะเล่นกับแสงได้ดี เหลือบสีม่วงและเหลือบสีน้ำเงินสวยมากจริงๆ แต่จะเห็นการเล่นลวดลายจุดๆรอบๆเครื่องเลย คล้ายๆวงกลมทั้ง 2 ฝั่งเป็นการออกแบบที่คุ้นๆกันดีในหลายๆรุ่นก่อนหน้านี้ ถือว่าทำให้มันดูมีลูกเล่นอะไรค่อนข้างมากกว่าเรียบๆครับ และทำให้ดูมีราคามากขึ้น ปุ่มต่างๆวางตำแหน่งมาแบบที่คุ้นเคยกันดี พร้อมปุ่มเปิดปิดในมุมขวา ช่องระบายอากาศนั้นตรงบริเวณขอบจอยังคงมีมาให้เห็นแบบเดียวกับหลายๆรุ่นที่เอามาใช้งานกัน คือจะระบายออกมาได้ค่อนข้างเยอะและเป็นแนวยาวรวมถึง ตัวเครื่องที่ยกขึ้นมานิดหน่อยทำให้เรื่องระบายอากาศนั้นทำได้ดีพอสมควรลมสามารถเข้าไปข้างในได้ง่ายขึ้น
ERGO LIFT มันมาในรุ่นราคาหมื่นต้นๆแล้วถือว่าเป็นจุดที่ชื่นชอบมากถ้าใครอ่านรีวิวบ่อยๆทางผมจะบอกเลยว่ามันคือจุดเด่นที่ดีมากๆในค่ายนี้คือสามารถยกเครื่องขึ้นมาเพื่อที่จะพิมพ์ง่าย ระบายอาอากาศได้ดี กว่าแบบปกติมาก และมันมาในรุ่นหมื่นต้นๆถือว่ามาดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลย และ เป็นการออกแบบต่อเนื่องกับการเอาช่องระบายไว้ข้างหลังแนวยาวตลอดเครื่องทำให้เครื่องไม่ร้อนครับ และเมื่อพับเปิดปิดก็สามารถแนบไปเป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ปกติได้เลย
ตัวเครื่องยังคงมีกล้องหน้าไว้ขอบด้านบน แม้จะทำขอบหน้าจอมาบางทั้งหลายๆด้าน แต่ก็ยังไม่ตัดกล้องหน้าไปไหนครับ สามารถใส่เข้ามาได้ในส่วนของด้านบนและมีไมค์อะไรต่างๆเหมือนขอบบนในรุ่นปกติ ส่วนในเรื่องพื้นผิวนั้นก็มีการเล่นจุดๆตรงรอบขอบจอ ทำให้ดูมีอะไรมากกว่าแบบเรียบๆอีกทั้งการจับเวลาเปิดก็ติดมือได้ดีกว่าแบบเรียบๆนิดหน่อยครับ ส่วนของโลโก้นั้นยังคงไว้ขอบด้านล่างเช่นเดิมเขียน ASUS VivoBook ครับ งานประกอบต่างๆนั้นทำได้ดีรวมถึงขอบจอ
SPEC
- หน่วยประมวลผล AMD® Ryzen™ 5 3500U Processor,
- ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
- หน่วยความจำ8GB เป็น 4 GB DDR4 2400MHz SDRAM Onboard memory, 1 x SO-DIMM socket for expansion, และ แบบปกติอีก 4GB RAM รองรับสูงสุด 12 GB SDRAM
- การแสดงผล หน้าจอขนาด 15.6″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 60Hz Anti-Glare Panel with 45% NTSC
- สตอเรจ Hard drive: 512GB PCIe® Gen3 x2 SSD
- คีย์บอร์ด Chiclet keyboard
- WebCam HDWebcam
- เน็ตเวิร์คกิ้ง Wi-Fi Integrated Wi-Fi 5 (802.11 ac (2×2)) Bluetooth Bluetooth® 4.1
- ออดิโอ ASUS SonicMaster Technology
- น้ำหนัก 1.7 กิโล
- Fast Charging
- USB-C / MicroSD / HDMI / USB-A 2.0 / USB-A 3.0/ 3.5mm.
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพตัวนี้มาเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 3500U ตัวใหม่ล่าสุด ตระกูล U นั้นเป็นรุ่นที่ใช้พลังงานต่ำเพียง 15 วัตต์ มาพร้อมการ์ดจอ Radeon™ Vega 8 Graphics ติดมาให้ด้วย เป็นเทคโนโลยีการผลิต 12 นาโนเมตร 4 Core 8 Threads 2.1Ghz รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้มาให้ในตัวครับ สเปคโดยรวมถือว่าใช้ได้เลยแหละเราไปดูคะแนนกันดีกว่า แต่ตัวนี้ไม่มีการ์ดจอแยกอะไรมาให้นะครับใช้งานแค่ตัว Vega 8
3DMARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ CloudGate / Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยแหละคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 6303 คะแนนดีกว่าตัว 14 นิ้วถึง 4 พันกว่าคะแนน ถือว่าโอเคเลยในแง่ของการประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ตามเรทราคาและพวก Ultrabook เริ่มต้น ส่วนเรื่องคะแนน CloudGate นั้นแตะ 1 หมื่นได้เลยครับสำหรับ 9686 คะแนนถือว่า CPU ที่ใส่เข้ามาในตัวนี้ถือว่าสบายๆรองรับการทำงานระดับเริ่มต้น-ปานกลางได้เลยครับเพิ่ม RAM ก็จบเลย
PCMARK คะแนนทำได้ 3680 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้ใน CPU Ryzen 5 ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆดีกว่าตัว 14 นิ้วและรองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ
CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 637 ทำได้ดีครับสมราคา อย่างที่บอกว่าทำได้ค่อนข้างดีและเกือบไปเท่ากับตัว i7-3770U และ ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1228 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU และทำความร้อนได้ดีด้วยนะจากที่ได้ลอง ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 1679 ส่วนเขียนที่ 1092 ครับจากทดลองหลายๆรอบ แน่นอนว่ามันแตกต่างกับ HDD ไวกว่า HDD ประมาณเยอะมากกกเมื่อเทียบกัน และยังสามารถอัพเกรดใส่ SSD เพิ่มได้อีกครับแต่รุ่นนี้ไม่มี HDD มาให้นะครับจะไม่เหมือนกับ X412 ที่ใส่มาให้ทั้ง 2 แบบ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้ มาพร้อมขนาด 15.6″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 60Hz Anti-Glare Panel with 45% NTSC และเป็นจอรุ่นเดียวกับในรุ่น 14 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ LED ได้หน้าจอแบบด้านด้วยนะถือว่าดีในแง่ของการใช้งานนอกสถานที่จากที่ลองนั้นจอเมื่อมองตรงๆกันก่อนเลยคือหน้าจอแบบนี้จะเน้นใช้งานตรงๆจะทำได้ค่อนข้างดีเพราะพวกจอ TN จะมองไม่ค่อยเห็นเมื่อมองจากด้านข้างครับ และถ้ามองตรงๆมันก็ไม่ได้แย่เลยนะลองเทียบกับภาพที่มองตรงๆและมองข้างๆได้ จอให้สีที่พอใช้ได้ในแง่ของการทำงานต่างๆครับ และมีความคมชัด FHD ทำให้มันค่อนข้างเพียงพอต่อการใช้งานมากพอสมควรเลยแหละ ภาพไม่แตกภาพค่อนข้างชัดและใช้งานทั่วไปเอกสารแบบสบายมากหรือจะเอามาดูหนังทำงานอะไรก็ไม่มีปัญหาในจุดนี้ แต่การที่ขนาดจอ 15.6 ทำให้ดูใหญ่และอาจจะไม่คมชัดมากนักรวมถึงเรื่องสีสันต่างๆของหน้าจอ ทำให้สังเกตได้ง่ายกว่าตัว 14 นิ้วแต่ก็ไม่ได้แย่นะ จากที่ลองใช้งานทั่วไปถือว่าโอเค มองตรงๆใช้งานไม่ได้ติดปัญหาอะไรแต่ถ้าเอามาแต่งภาพดูหนังอะไรอาจจะไม่ได้สุดเท่าไรครับ
หน้าจอเมื่อมองจากด้านข้างแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติของจอพวกนี้ถ้าเรามองในด้านข้าง ด้านบน หรือเอียงเยอะๆนั้น ภาพจะมองเห็นได้ค่อนข้างน้อยกว่ามุมมองตรงๆ ด้วยความที่มันเป็นจอแบบ TN นั้นเองครับ แต่ว่ามันก็เป็นจอ TN ที่มีคุณภาพมากกว่าแต่ก่อนพอสมควร มีการพัฒนามากขึ้นด้วย แต่ด้วยขนาดจอที่ใหญ่ขึ้นและเป็นจอแบบนี้อาจจะทำให้ดูตัวจอเวลาใช้งานมันยังรู้สึกไม่ดีเทาไรและจริงๆมันมีรุ่นแบบจอ IPS ด้วยนะแต่ไม่ได้เอาเข้ามาซึ่งน่าจะด้วยการกำหนดราคาที่ไม่ให้เกินงบ 17,000 บาท เลยต้องใส่จอแบบนี้เข้ามาแต่ก็ใช้งานทั่วไปได้ครับแต่ทำงานไม่ได้ดีนัก
KEYBOARD
มากับที่แป้นพิมพ์กันบ้าง คีย์บอร์ดตัวนี้มาเป็นแบบ FULL ปกติครับ ปุ่มต่างๆมาครบรวมถึงขนาดปุ่มต่างๆก็มาให้ตามปกติ มี NUMPAD มาให้นะครับ และด้วยรูปทรงของปุ่มนั้นอาจจะคุ้นเคยกันดีกับรุ่นก่อนหน้านี้ ตัวแป้นพิมพ์ก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหาอะไร รวมถึงการจัดวางปุ่มต่างๆทั้งปุ่ม Function และปุ่ม Shift อะไรพวกนี้ก็อยู่ในตำแหน่งที่ปกติ และใช้งานได้ไม่ติดขัด และปุ่ม Power กับ Delete นั้นก็แยกออกห่างจากกันแล้วเพราะเครื่องขนาดใหญ่ขึ้น อีกข้อที่น่าจะปรับปรุงเลยคือการใช้ ปุ่มคีย์บอร์ดสีเงิน และ ตัวอักษรทีเทา ในรุ่นสีเงินนะซึ่งเจอแบบเดียวกัน ทำให้มองได้ยากมากๆครับเพราะมันไม่มีไฟ Blacklit แต่ดีที่ในรุ่นรีวิวนั้นเป็นสีใหม่ สีน้ำเงินเหลือบๆทำให้แป้นพิมพ์นั้นเป็นสีดำตัวอักษรขาวทำให้มองได้ชัดเจนครับ แต่ความรู้สึกเวลากดอะไรนั้นไม่ได้ดีเท่าไรจะเหมือนกับรุ่น 14 นิ้วค่อนข้างเบาๆ
ส่วนระยะการกดปุ่ม 1.2 มม. ทำให้ระยะในการพิมพ์ข้อความการกดอะไรต่างๆนั้นทำได้ดีมากดีกว่าที่คิดไว้ครับในแง่ของการใช้งานและเขียนบทความต่างๆ ปุ่มมีขนาดกำลังดีและความลึกลงไปพิมพ์ต่างๆได้ค่อนข้างต่อเนื่อง แม้จะมีปุ่มโยกๆเล็กน้อยครับเวลากดขอบๆตัวปุ่มแต่ก็ไม่ได้เยอะมากนัก ส่วนระยะห่างแต่ละปุ่มทำได้ค่อนข้างดีเลยแหละ และการยกตัวเครื่อง Ergo Lift นั้นทำได้ดีทำให้เวลาพิมพ์นั้นรองรับกับข้อมือและไม่เมื่อยมือ แต่ความรู้สึกเวลากดลงไปนั้นยังแปลกๆเหมือนที่เจอกันในรุ่น VivoBook ก่อนหน้านี้ครับสำหรับคียบอร์ดและความรู้สึกของแป้นพิมพ์ตัวนี้
TOUCHPAD
ตัวทัชมีขนาดใหญ่ขึ้นและใช้งานได้ดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง 15 นิ้วแต่ก็ไม่ได้ใหญ่ชนขอบอะไรมากนัก ตัวทัชเป็นวัสดุแบบเดียวกับตัวเครื่อง และยังมีการเล่นสีสันที่ค่อนข้างสวยและโดดเด่นเหมือนกับตัวเครื่องเมื่อมองมุมอื่นๆจะเป็นอีกสีนึงได้เลยครับ วัสดุมีการทำให้ลื่นและติดนิ้วมากกว่าในการสัมผัสต่างๆ ตัวทัชสามารถกดลงไปได้เลยขอบซ้ายขวาล่าง ซึ่งจากที่ใช้งานไม่ได้ติดปัญหาอะไรครับในส่วนนี้ ตัวระบบทัชนั้นใช้ Software ของ Precision นะ
การใช้งานหลายๆนิ้วพร้อมกันก็สามารถรองรับได้สบายครับและมันมีความกว้างค่อนข้างดีรองรับเวลาวางหลายๆนิ้วได้สบายสำหรับใครที่ใช้หลายๆนิ้วสำหรับทำงานหรือเลื่อนสลับแอพต่างๆนั้นก็ใช้งานได้ดีไม่ติดขัด หรือ เพี้ยนอะไรครับ
SPEAKER
ลำโพงในรุ่นนี้เป็นลำโพงคู่ซ้ายขวา เสียงที่ได้นั้นค่อนข้างดีเลยนะ แอบดีกว่ารุ่น 14 นิ้วที่เคยลองด้วยในเรื่องของความดังนั้นและมิติแยกซ้ายขวากังวาลทำได้ดีกว่า อาจจะด้วยตำแหน่งที่แตกต่างกันระยะห่างต่างกันเล็กน้อยครับ แต่เรื่องของคุณภาพเสียงมันไม่ได้แตกต่างกันมาก เสียงนุ่มเบสมีมานิดหน่อยแต่ที่ชอบคือมันไม่ได้แหลมจัด และไม่แสบหูแม้จะเปิดดังๆครับ แต่ถ้าเปิดสุดก็อาจจะไม่ได้ดังมากเวลาดูหนังจะค่อนข้างเบานั้นเองครับ พวกเสียงคนพูดอะไรพวกนี้จะค่อนข้างเบาไปนิด เวทีเสียงไม่ได้กว้างมากนัก และเสียงเบสไม่ได้เยอะครับ เสียงไปทางแหลมๆมากกว่า และ เมื่อเจอหลายๆเสียงมาพร้อมกันแต่ถ้าเอามาฟังเพลงก็ถือว่าใช้ได้ไม่ได้เบาหรือแห้งจนเกินไปครับในส่วนของลำโพง
CONNECTOR
ในด้านนี้จะเป็นที่อยู่ของไฟแสดงสถานะ ช่อง USB-A ทั้งหมด 2 ช่องแบบ 2.0 จริงๆ น่าจะไปด้านขวาสำหรับเสียบเมาส์อะไรมากกว่านะเพราะความเร็วต่ำมาก และ ช่องล๊อคโน้ตบุ๊ค ประมาณนี้ในด้านซ้ายครับ จะเห็นมีการเอียงให้ช่องลำโพงมีเสียงออกมาตรงขอบล่างนิดนึงครับ และทำให้ตัวเครื่องนั้นดูบางขึ้นด้วยและการไล่สีสวยงามเลยแหละ
ในด้านนี้จะเป็น ช่องไฟเข้า – USB-A 3.1 – HDMI 1.4 – USB-C และ รูไมค์+หูฟัง 3.5มม และเป็นช่องใส่สำหรับ Micro-SD ซึ่งจริงๆในรุ่น 15 นิ้วนั้นถ้าใส่ SD-Card จะลงตัวมากๆเสียดายเพราะขนาดเครื่องก็ใหญ่ขึ้นพอสมควรครับ ส่วน Ergo Lift นั้นยังคงทำงานยกตัวเครื่องขึ้น 2 องศาทำให้พิมพ์งานอะไรง่ายเหมือนเดิมเลยครับ
BATTERY
การใช้งานแบตตัวนี้จากที่ลองทดสอบ เนื่องด้วยจากสเปคมันไม่ได้แรงมากเลยทำให้อายุแบตมันใช้งานได้ค่อนข้างนานมาก รวมถึงไม่มีพวกไฟบนแป้นพิมพ์อะไรต่างๆ เลยทำให้การใช้งานแบบเต็มที่ก็ได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมงคือเปิด Photoshop ต่อไวไฟปกติ ทำงานหนักๆหรือในภาพคือตอนเปิดทดสอบอะไรต่างๆใช้งานเต็มที่ก็จะได้ 7 ชั่วโมงโดยประมาณ แต่ถ้าทำงานทั่วไปเบาๆเข้าเว็บอะไรพวกนี้แบตจะได้ถึง 11+ ชั่วโมงกันเลยแหละ ทั้งหมดการใช้งานมันขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนกันอีกทีนะครับ ว่าจะได้ประมาณกี่ชั่วโมง เพราะตัวเลขมันก็สามารถปรับเปลี่ยนได้เสมอ ส่วนเรื่องการชาร์จไฟเข้านั้นก็รองรับ Fast Charging สามารถชาร์จไฟเข้า 70 % ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
WORKING
การทำงานต่างๆ นั้นถือว่าทำได้ดีกว่าตัว X412 แบบชัดเจนทั้งเรื่องของ CPU ที่ดีกว่าเดิมและรองรับการทำงานทั่วไปเช่น Microsoft ทั้งหมด อันนี้รองรับได้สบาย Excel Word สบายครับพวกนี้ไม่มีปัญหา และ RAM 8 GB ก็เพียงพอ แต่ถ้ามาตระกูล ADOBE อาจจะเริ่มมีหน่วงนิดหน่อยเพราะ RAM ไม่พอแต่ในด้าน CPU รองรับได้สบายอยู่ครับในส่วนของ Photoshop แบบเบาๆ ไม่ได้หลายเลเยอร์เยอะหรือไฟล์ไม่หนัก แต่ถ้าหนักๆอาจจะมีหน่วงให้เห็นเป็นปกติครับ แต่ถ้า RAM เพิ่มขึ้นนั้นทำงานได้ค่อนข้างดีเลยแหละเพราะ CPU Ryzen 5 จัดการส่วนนี้ได้ดีครับ ทำงานรวมๆทำได้ดีกว่าตัว X412 หรือตัว 14 นิ้วแบบชัดเจนมาที่ในส่วนการดูหนังฟังเพลงทั่วไปสบาย โปรแกรมดูหนัง อื่นๆที่รองรับได้สบายไม่มีปัญหา หลักๆจะเน้นทำงานเบาๆจะดีกว่าครับในรุ่นนี้ หรือต่อภาพออกพรีเซนต์งานอะไรก็ทำได้สบาย มีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ และ USB มาให้ค่อนข้างครับเลยถือว่าตอบโจทย์ นักศึกษาได้ดี
GAMING
ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นอาจจะไม่ใช่จุดหลักที่หลายๆคนซื้อเครื่องรุ่นนี้มาแต่ก็อาจจะมีหลายคนอยากทราบกันว่าแล้วมันเล่นได้ไหมแก้ขัดคร่าวๆได้ไหม เลยจัดลองให้เล็กน้อยสำหรับเกมที่ค่อนข้างเบาและหลายๆคนเล่นกันเช่นในตัวอย่างคือการทดสอบเล่นเกม Overwatch โดยการปรับภาพปรับต่ำ Low เพื่อที่จะได้เล่นได้ลื่นที่สุดนั้นเองครับ ซึ่งจากที่ได้ลองทดสอบถือว่าเกมนี้พอเล่นได้เมื่อปรับภาพต่ำสุดเล่นได้ค่อนข้างลื่นและ FPS 20-40 สบายๆครับและถ้าปรับภาพต่ำสุดอีกก็จับได้ 50+ เลยแค่คุณภาพก็ลดลงไปตามกันส่วนเรื่องความร้อนนั้นประมาณ 70-80 องศา และ CPU แตะไป 90 องศาสูงสุดครับถือว่าปกติของพวก Ultrabook เล่นในสภาพอากาศไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลมครับ แต่ถ้าเกมที่โหดขึ้นมาหน่อยนั้น APEX ก็ค่อนข้างกระตุกกว่าแม้ปรับภาพต่ำสุดครับ FPS 9-26 โดยประมาณ ส่วนความร้อนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากครับในการเล่นเกม ระบายได้กลางๆเพราะมันเป็น Ultrabook ไม่ได้สายเกม
ASUS VIVOBOOK 15 X512DA
” จอใหญ่ขึ้น สเปคดีขึ้น สีสวยงาม แต่เสียดายตรงคุณภาพหน้าจอ เล็กน้อย “
ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่คนชอบจอใหญ่งบไม่มากและอยากได้ไว้ใช้ทำงานทั่วไปพกพาไปไหนได้หน่อย และมีสีสันที่ค่อนข้างสวยและแปลกใหม่รุ่นนี้คือตอบโจทย์อย่างมาก ราคาที่เพิ่มกว่ารุ่นเล็ก 4 พันกว่าบาทได้สเปคทีดีขึ้นและหน้าจอใหญ่ขึ้นถือว่าน่าลงทุนและด้วยการใช้ Ryzen ตัวใหม่ทำให้สเปคมันน่าใช้งานทำงานเล่นเกมได้มากกว่าเดิมและควบคุมความร้อนได้พอประมาณ ส่วนในเรทราคานี้ต้องทำใจบางอย่างเช่น ตัวแป้นพิมพ์หรือคุณภาพหน้าจออาจจะไมไ่ด้ดีมากนักถ้าใครใช้รุ่นสูงๆหรือพวก Mac แล้วมาพวกนี้อาจจะขัดใจแน่ๆแต่ถ้าแค่อยากหา Ultrabook สำรองใช้งานทั่วไปไม่ได้เน้นอะไรมากขอจอใหญ่ๆ พกพาได้ง่ายและสวยเป็นพอตัวนี้น่าเล่นอีกรุ่นนึงครับ การใช้งานทั่วไปสบายๆรองรับได้เยอะทำงานเล่นเกม แบตอยู่ได้นานและ พอร์ตเชื่อมต่อทำได้ดีและครอบคลุมพอสมควร
ข้อดี
- การออกแบบ งานประกอบทำได้ดีเกินราคา สีสวยมากๆ
- Ryzen 5 ทำงานได้ดี และเล่นเกมได้นิดหน่อย
- หน้าจอทำขอบได้บางและใช้งานได้ดี
- พอร์ตเชื่อมต่อมาครบเพียงพอต่อการใช้งาน
- มาพร้อม License Windows 10 Home
- Ergo Lift ยังคงเป็นจุดเด่นในการใช้งาน
- รับประกัน 2 ปี ส่งผ่าน 7-11 ได้สะดวก
- มี USB-C มาให้
ข้อสังเกต
- แป้นพิมพ์ยังให้ความรู้สึกแปลกๆไปหน่อย
- หน้าจอไม่ใช่ IPS และคุณภาพใช้งานได้กลางๆ
- ไม่ใส่ช่อง SD Card มาให้แม้ขนาดจะใหญ่
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr