Asus ได้ทำการเปิดตัว Notebook อีกซีรีย์นึงนั้นคือ Asus Laptop ซึ่งทำราคาออกมาได้ดีมากๆและสเปคที่ใช้งานได้ โดยจะไม่ได้เน้นในด้านของดีไซน์หรือบางเบาแบบรุ่นพี่ Zenbook อะไรมากนักครับ แต่ก็เน้นไปสายคุ้มค่ามากกว่า โดยในรุ่นนี้นั้นจะเปิดตัวมาด้วยหลายเรทราคาเริ่มต้นเพียง 13,990 บาท ในสเปค  i3 ครับ แต่รุ่นที่เราจะมาดูรีวิวกันวันนี้เรียกได้ว่าเป็นรุ่นสูงที่สุดของตระกูลเลยก็คือมาพร้อม i7 และ มีการ์ดจอแยกจาก Nvidia MX250 รวมถึง SSD และ HDD มาให้ครบในช่วงเรทราคา 26,990 บาทครับถือว่าทำราคาออกมาน่าสนใจเรามาดูกันเลยว่าในรุ่น Asus Laptop นั้นจะมีความน่าสนใจการใช้งานเด่นๆอะไรยังไงบ้าง และประสิทธิภาพตัวเครื่องนั้นจะเป็นยังไง

Asus Laptop นั้นเปิดตัวมาด้วยสเปคและความคุ้มค่าที่เน้นไปทางด้านใช้งานทั่วไปอาจจะไม่ได้เน้นดีไซน์หรือพกพามากนัก แต่ยังมีจุดเด่นที่หน้าจอ 15 นิ้วที่ถือว่าพกพาได้ง่ายและเล็กที่สุดอีกตัวครับ ทางด้านการออกแบบก็เน้นการออกแบบที่เรียบๆไม่ได้มีการเล่นสีสันมากนักมาในโทนสีเงิน สีเทา ในด้านของสเปคนั้นก็มีให้เลือกทั้ง i3 i5 i7 อีกทั้งยังมาพร้อมกับ  NVIDIA® GeForce® MX250 และ RAM 4GB / 8GB / 16GB และในด้าน SSD HDD ก็มีให้เลือกกันแล้วแต่เรทราคาครับ มากันที่ตัว 509 นั้นจะมี 2 สเปค คือ i5 RAM 8 GB และ i7 RAM 16GB ครับ ทางด้านหน้าจอนั้นก็ใช้งาน IPS 15.6 นิ้ว LED-backlit Full HD  เลยนะจอใช้งานโอเคเลยแหละ รวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆนั้นก็มาให้ค่อนข้างครบเพียงพอต่อการใช้งานสบายๆครับและลำโพง  Sonic Master ก็ยังคงมีมาให้

ASUS LAPTOP นั้นเปิดตัวในรุ่น 15.6 นิ้ว มาด้วยกัน 2 สเปค และ 2 สีครับ

X509FL | Windows 10/i5-8265U/RAM 8GB/HDD1TB/MX250/FHD 15.6″ราคา 19,990 บาท

X509FL | Windows 10/i7-8565U/RAM 16GB/HDD1TB/MX250/FHD 15.6″ ราคา 26,990 บาท

UNBOX

  • ตัวเครื่อง ASUS LAPTOP X509
  • ที่ชาร์จ Adaptor
  • คู่มือ

DESIGN

ทางด้านการออกแบบต้องบอกว่าดูดีเรียบๆครับ รุ่นนี้จะไม่ได้เด่นในเรื่องขอบจอบางเฉียบอะไรมากนักรวมถึงไม่มี Ergolift เข้ามาในตัวนี้แต่เมื่อเทียบกับราคาและสเปคนั้นต้องบอกว่าน่าสนใจวัสดุเป็นพลาสติกหลักๆครับมาในโทนสีเข้มสวยงามดีนะ ชอบสีเทามากกว่าสีเงินซะอีกน้ำหนักโดยรวมกลางๆไม่ได้หนักไม่ได้เบา และความหนาพอประมาณครีบ ส่วนทางด้านหน้าจอก็มาพร้อมหน้าจอแบบด้านขอบซ้ายขวานั้นบางพอสมควรแต่ด้านบนนั้นก็มีความหนาและแทรกกล้องเข้ามาอยู่ วัสดุรวมๆนั้นจะไปคล้ายๆพวก Vivobook ในรุ่นก่อนๆครับรวมถึงแป้นพิมพ์ และลำโพงด้วย

การออกแบบโดยรวมของตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและด้านหลังนั้นมาในเแนวเรียบๆใช้โทนสีเดียวกันทั้งหมดและเป็นวัสดุพลาสติกด้านครับแต่ก็ไม่ค่อยเป็นรอยนิ้วมือเท่าไรนักวัสดุสัมผัสฝาหลังและข้างในให้ความรู้สึกแบบเดียวกัน และรุ่นนี้ที่ชอบมากกว่าที่เงินคือแป้นคีย์บอร์ดนั้นเป็นสีดำทำให้มองชัดและใช้งานในเวลากลางวันได้ดีกว่าสีเงิน รวมถึงดูดีกว่าในภาพรวมครับ สีเงินยังคงมองยากแบบเดิมเลย ส่วนสีเทาในรุ่นนี้ก็ทำโทนสีออกมาสวยไม่มืดไม่สว่างเกินไปครับ

ทางด้านฝาหลังนั้นเป็นพลาสติกแต่ก็ยังดีที่ใช้โลโก้ที่มีการเล่นลวดลายและวัสดุโครเมี่ยมสวยงามเหมือนกันและยังทำออกดูดีเลยแหละ  ไม่ใช่แค่การพิมพ์ลงไปแต่เป็นชิ้นโลโก้จุดเล็กๆน้อยๆแบบนี้ก็ทำให้ตัวเครื่องนั้นดูดีขึ้นมาอยู่นะ ทางด้านฐานของเครื่องนั้นเป็นพลาสติกสีเทาด้านจะแตกต่างกับด้านบนแน่นอนว่า ช่องระบายมีให้ค่อนข้างน้อยในด้านล่างและมียางรองให้ 4 จุดครับรวมถึงน็อตการถอดเปลี่ยนอะไรต่างๆมีมาให้และสามารถแกะได้ง่าย ช่องลำโพงอยู่มุมขวาซ้าย และ ยิงลงข้างล่างไปทางข้างๆครับ รวมถึงช่องระบายด้านหลังและด้านข้างก็มีมาให้นิดหน่อย

สำหรับทางด้านช่องระบายความร้อนด้านหลังจะไม่เหมือนกับรุุ่นอื่นๆ แน่นอนว่ารุ่นนี้จะไม่ได้ระบายออกตรงช่องระหว่างหน้าจอแล้วจะมีแค่ข้างขวาแค่นั้นเองครับและยิงออกไปข้างหลังลงพื้นนิดหน่อย ไม่ใช่แถบยาวๆ และในขอบหน้าจอด้านในเป็นโลโก้ ASUS และวัสดุแบบจุดๆครับ ก็ถือว่าดูดีอยู่ไม่ใช่พื้นผิวเรียบๆอะไรครับแต่จะไม่มีช่องระบายออกมาตรงส่วนนี้นะครับจะไม่เหมือนกับ Vivobook หรือ Zenbook ครับ

ตัวการออกแบบก็ไม่ได้เรียบไปซะทีเดียว มีการเล่นตัดขอบมุมอะไรเข้ามาบ้างและมีส่วนช่วยในการพักทำให้สะดวกขึ้นแน่นอนตรงส่วนด้านหลังทางด้านข้อพักเองนั้นเป็นพลาสติกด้านสีเทาแข็งแรงระดับนึง กางสุดได้พอสมควรครับเพียงพอต่อการใช้งานจับมุมเดียวพับได้สบายๆ ส่วนทางด้านกล้องดด้านบนมีมาให้อยู่นะพร้อมกับรูไมค์ไม่ได้ตัดไปไหน

SPEC

  • Intel® Core™ i7 8565U Processor,
  • ระบบปฏิบัติการ  Windows 10 Home
  • RAM  16 GB
  • การแสดงผล  15.6″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 60Hz Anti-Glare Panel with 45% NTSC with wide 178° viewing angles
  • กราฟฟิก  NVIDIA® GeForce® MX250 , with 2GB GDDR5 VRAM
  • สตอเรจ  Hard drive:   1TB 5400 rpm SATA HDD  Solid state drive: 256GB PCIe® Gen3 x2 SSD
  • คีย์บอร์ด  Chiclet keyboard
  • Multi-format card reader
  • WebCam  VGAWebcam
  • เน็ตเวิร์คกิ้ง   Wi-Fi   Integrated Wi-Fi 5 (802.11 ac)   Bluetooth  Bluetooth® 4.2
  • อินเตอร์เฟส
    1 x COMBO audio jack
    1 x Type-C USB 3.0 (USB 3.1 Gen 1)
    1 x USB 3.0 port(s) Type A
    2 x USB 2.0 port(s)
    1 x HDMI
    1 x Fingerprint reader (Optional)
  • แบตเตอรี่
    2 -Cell 32 Wh Polymer Battery
  • พาวเวอร์ อะแดปเตอร์
    Plug type :ø4 (mm)
    Output :
    19 V DC, 3.42 A, 65 W
    Input :
    100 -240 V AC, 50/60 Hz universal
  • ขนาด  NB:   360 x 235 x 22.9 mm (WxDxH)
  • น้ำหนัก  NB:  1.8 kg

PERFORMANCE

ทางด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้ค่อนข้างจัดเต็มมาให้ครับทั้งเรื่องของ CPU  Intel® Core i7-8565U  รุ่น ค มาพร้อมกับ 1.8GHz quad-core และ Boost ได้สูงสุด 4.6GHz และ 8MB cache เป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ 14 nm  4 Core 8 Threads  ส่วนทางด้านการ์ดจอ มาพร้อมกับการ์ดจอในตัวคือ INTEL UHD 620 ที่ก็ใช้งานได้ระดับนึง และใส่การ์ดจอแยกเข้ามาให้ด้วยตัว Nvidia MX 250 2GB DDR5 ทำงานรองรับ 3 เล่นเกมได้สบายๆ และ ให้ RAM 16GB  เข้ามาพร้อมกับ SSD 512 GB + HDD 1TB ครบๆเลยแหละแรงเพียงพอทำงานสบายๆ

PCMARK คะแนนทำได้ 4007  ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้ใน CPU i7  + RAM 16 GB ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ

3DMARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ SKYDRIVER  Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 10790 คะแนน การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆเพราะมีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วยด้วย และ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน SKY DRIVER  นั้นแตะ 9พัน ต้นๆ ได้เลยครับสำหรับ 9381 คะแนนถือว่า CPU i7 ที่ใส่เข้ามาในตัวนี้ถือว่าสบายๆรองรับการทำงานหนักได้สบายๆครับ

CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 709 100 FPS ทำได้ดีครับสมราคา อย่างที่บอกว่าทำได้ค่อนข้างดี ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1418 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU นั้นไม่ต้องห่วงสำหรับใช้งานหลายๆส่วนเรนเดอร์ทั้งหลาย ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 1721 ส่วนเขียนที่ 904  ครับจากทดลองหลายๆรอบ แน่นอนว่ามันแตกต่างกับ HDD ไวกว่า HDD ประมาณเยอะมากกกเมื่อเทียบกัน และรุ่นนี้มาให้ถึง 512 GB และ ให้ HDD มาอีกที่ 1TB ครับ

SCREEN

รุ่นนี้นั้นจัดเต็มสำหรับหน้าจอ IPS ขนาดมาให้ที่ 15.6นิ้ว เป็น LED FULL HD อัตราส่วนหน้าจอ 16:9 และเป็นจอแบบด้านนะครับจอด้านยังคงมีจุดเด่นเวลาใช้งานนอกสถานที่นั้นสบายตา ถนอมสายตาและไม่สะท้อนจนใช้งานยากอันนี้แอดมินยังคงชอบอยู่ครับ  ส่วนเรื่องของสี ความสดใสอาจจะสู้จอแบบกระจกเงาไม่ได้แต่ภาพที่ได้ในตัวนี้ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาแม้จะเป็นตระกูลเน้นราคาคุ้มค่าแต่สีความชัดที่ได้แทบไม่ต่างกับรุ่นZenbookปกติเลย อีกทั้งยังมีมุมกว้างมากถึง 178 องศาครับ สำหรับตัวขอภาพแอดมินไม่ติดขัดอะไรนะ สบายตาสวยคมชัด สู้แสงได้ดีครับโอเคเลยแหละแม้ว่าขอบอาจจะไม่ได้บางอะไรมากครับแต่เมื่อเทียบกับซีรียส์ ASUS Laptop แล้วนั้นต้องบอกว่าทำได้ดี

มุมมองนั้นกว้างได้มากถึง 178 องศาและเป็นจอแบบ IPS แน่นอนว่ามุมมองนั้นไม่ต้องห่วงแต่รุ่นนี้ที่รู้สึกได้เลยก็คือจอด้านนั้นช่วยลดแสงสะท้อนได้ดีแต่ด้วยความสว่างของหน้าจอที่แม้จะเปิดสุดแล้วก็อาจจะไม่ได้สู้แสงโหดมากนัดอันนี้ต้องเข้าใจกันไว้ก่อนครับแต่ก็ถือว่าสู้แสงได้ดีกว่าพวกจอรุ่นก่อนหน้านี้นะแต่ก็ยังไม่ได้ชัดเจนอะไรมากครับแบบในภาพข้างบนนั้นใช้งานกลางแจ้งเปิดหน้าจอสุดถ้าเรามองที่มุมนี้จะเห็นได้จางๆแต่แน่นอนว่าถ้ามองมุมตรงก็ขัดแบบภาพแรกเลยครับ ก็จริงๆไมไ่ด้มีปัญหาสำหรับจุดนี้แน่นอนเรามองตรงๆกันมากกว่าและใช้งานไม่เจอแสงเยอะมาก

KEYBOARD

คียบอร์ดในรุ่นนี้มาในลักษณะที่คล้ายเดิมระยะห่างค่อนข้างมากแต่ตัวปุ่มนั้นมีความโค้งมนมากขึ้นจากรุ่นก่อนขอบทั้ง 4 มุมนั้น โค้งเยอะกว่าเดิมทำให้ตัวแป้นอักษรมีความมนไปทั้งหมดระยะห่างแต่ละปุ่มคล้ายๆเดิมครับ ระยะการกด 1.4มม.เท่ารุ่นก่อนหน้าครับเป็นระยะที่ค่อนข้างดีเวลาพิมพ์แต่รุ่นที่ที่บอกคือการยกตัวเครื่องขึ้นมาทำให้มันพิมพ์ได้ง่ายขึ้น และยังมีไฟ Blacklit มาให้เช่นเดียวกันครับ ปุ่มนั้นจะให้อารมณ์แบบเดียวกับ Vivobook รุ่นก่อนหน้าชัดเจนทั้งเรื่องการออกแบบ ความรู้สึกรวมถึงดีไซน์ระยะห่างแบบเดียวกับรุ่นก่อนๆเลยในตัว Vivobook ถือว่าโอเคเลยแหละ

แน่นอนว่า Vivobook ตัวใหม่ๆก็เริ่มปรับไปใช้คียบอร์ดแบบใหม่ทั้งการออกแบบและการวางต่างๆกันหมดแล้วแต่รุ่นนี้นั้นก็จะมีระยะห่างนิดหน่อยเหมือนกับรุ่นก่อนๆ แน่นอนว่า จากที่แอดมินใช้งานปุ่มนั้นต้องบอกว่ารุ่น Zenbook ปุ่มค่อนข้างชิดกันกว่านี้มากๆเลยอาจจะต้องปรับตัวนิดหน่อยครับเลยทำให้รู้สึกว่าปุ่มระยะมันห่างกันแต่เมื่อใช้มาซักพักมันก็โอเคเลยปุ่มระยะประมาณนี้พิมพ์ได้ง่ายกว่าและสะดวกกว่าครับรองรับกันนิ้วได้ดีและระยะการกดแอดมินไม่ติดขัดอะไรในจุดนี้มีแค่ปุ่ม Numpad นั้นเหมือนพยายามใส่เข้ามาบีบขนาดมันและเล็กไปหน่อยกดค่อนข้างยากและแอบผิดบ่อยครับในด้านขวาของตัวเครื่องแต่ก็เป็นการพยายามใส่เข้ามาให้ใช้งานก็เป็นอีกจุดที่อาจจะยอมๆกันไปครับ

TOUCHPAD

สำหรับ Touchpad รุ่นนี้แม้จะจอ 15.6นิ้วแต่ตัว Touchpad ไม่ได้ใหญ่สะใจอะไรมากขนาดถือว่ากลางๆไปทางเล็กครับเป็นผิวแบบเรียบทั้งหมดและไม่มีปุ่มแยกตัวใช้งานการสัมผัสนั้นทำได้ลื่นดีติดตามนิ้วได้ดีครับแต่บางจังหวะเจอหนืดๆบ้างอันนี้เป็นบางช่วงนิดหน่อยเวลาไม่ได้เสียบแบตครับแต่เจอแค่ครั้งเดียวและก็หายไป ส่วนเรื่องการใช้งานนิ้วทั้ง 4 นิ้วของแอดมินนั้นสามารถใช้งานสั่งงาน Multitouch ได้สบายพื้นที่พอดีๆแต่น่าจะใหญ่กว่านี้จะดีมากๆ

ตัวการใช้งานยังคงติดนิ้วได้ดีทั้งเรื่องของการสัมผัสและการใช้งานหลายๆนิ้ว และตัวนี้ใช้งานระบบ Precision นะครับก็ถือว่าโอเคและหลายๆตัวก็ใช้งานระบบตัวนี้กันทั้งหมดแล้วไม่ใช่พวก Synaptic แล้วนั้นเอง ส่วนในการใช้งาจริงๆนั้นอาจจะไมไ่ด้แตกต่างกันเยอะมากนักแต่ก็รู้สึกว่าตัวใหม่นี้ปัญหาน้อยกว่าและใช้งานได้ค่อนข้างดีกว่าพอสมควร

SPEAKER 

ลำโพง Sonicmaster จากทาง Asus ก็ไม่ได้เลวร้ายเสียงดังสะใจดีซะด้วยครับลำโพงมาพร้อมกับลำโพงคู่ ยิงลงพื้นรวมถึงมีเสียงเบสมาให้หน่อยๆครับลำโพงไม่ได้แน่ในรุ่นนี้ เน้าเสียงดังฟังชัด มิติมากลางๆครับเบสมาบ้างนิดหน่อยใช้งานฟังเพลงและดูหนังสบายครับเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนก็ไม่ได้แตกต่างกันมากน่าจะใกล้เคียงกันเลยแต่ด้วยการย้ายตำแหน่งมาด้านซ้ายขวามากขึ้นริมมากขึ้นทำให้เสียงแยกซ้ายขวาได้ดีขึ้นครับถือว่าตระกูล Laptop ได้ลำโพงที่ดีขึ้น หลังจากที่ตระกูล Vivobook นั้นได้ลำโพง  Harman ไปใส่แล้วนั้นเองตัวนี้ก็เลยทำได้ดีกว่ารุ่นเดิมๆเยอะมาก

CONNECTOR

ทางด้านช่องเชื่อมต่อนั้นให้มาค่อนข้างครบมากๆทั้งเรื่องของพอร์ทต่างๆและการใช้งาน Type-C ครับ แม้จะขาดพวกช่อง SD Card พวกนั้นหรือจะเป็นช่อง LAN อะไรแต่ก็เป็นหลายๆตัวของค่ายนี้ที่เริ่มจะไม่มีพอร์ทแบบนี้มาให้แล้ว

มาที่ด้านซ้ายกันก่อนครับด้านนี้จะเป็นช่องสำหรับจ่ายไฟเข้า ช่อง USB Type-C USB 3.1 Gen 1 และ ระบายความร้อน ถัดมาเป็น HDMI และ ช่อง USB 3.1 เข้ามาทั้งหมดเลยในฝั่งนี้

แต่ในด้านขวานั้นต้องบอกว่าเป็นพอร์ทที่ใช้งาน และ ไฟแสดงสถานะครับ ช่อง MicroSD และ รู 3.5มม. รวมถึง USB 2.0 TYPE-A มาให้ทั้งหมด 2 ช่อง และ มีตัว Kensington Lock ครับผม

BATTERY 

ในการใช้งานแบตเตอรรี่นั้นตัวนี้แม้จะเป็นหน้าจอ 15.6 นิ้ว มาพร้อมกับ I7 + MX250 อีกทั้งยังมาพร้อมกับ RAM 16GB แน่นอนว่าสเปคแบบนี้แล้วนั้นแรงพอสมควรแต่ด้วยการจัดการพลังงานถ้าเราเน้นแบตอึดจริงๆก็ต้องบอกว่าทำงานข้างนอกแบบเบาๆได้สบายๆ 6 ชั่วโมงครับแต่ถ้าเริ่มเปิดโปรแกรมโหดๆตัดต่ออะไรพวกนี้แบบ Photoshop นั้นแบตจะใช้งานได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงครับแต่ถ้าไม่ได้ใช้งานหนักมากเล่นเน็ตทั่วไปปิดไฟคียบอร์ดอะไรแบบนั้นก็ทำได้ดีอยู่เหมือนกัน ก็ต้องยอมรับกับขนาดหน้าจอและสเปคที่ให้มาครับ ส่วนการชาร์จก็มีชาร์จไวเข้ามาให้เหมือนกัน รวมถึงตัว Adaptor ที่ชาร์จไฟนั้นค่อนข้างเล็กมากๆพกพาได้ง่ายและไม่หนักด้วยอันนี้ค่อนข้างชอบมากๆ

WORKING

ในด้านการทำงานนั้นตัวนี้รองรับสบายมากๆด้วยประสิทธิภาพของ i7 Gen 8 ทำงานร่วมกับ Nvidia MX250 และยังให้ RAM 16GB รวมถึง SSD + HDD เข้ามาช่วยในการรันโปรแกรมและเก็บข้อมูลได้สบายๆ เรื่องทำงานคงไม่ต้องห่วงแล้วหละมีแค่เรื่องของความร้อนอาจจะมากนิดหน่อยถ้าเราเรนเดอร์งานหนักๆครับอันนี้ต้องหาทางช่วยระบายกันหน่อย แต่เรื่องประสิทธิภาพนั้นรองรับไหวแน่ๆทั้งที่แอดมินลองคือ ตัดต่อไฟล์วีดีโอ ตัดต่อรูป หรือขึ้นโมเดลครับ และ การรันพวกโปรแกรม 3D ทั้งหลาย Sketchup -AutoCAD พวกนี้สบายๆครับ และยิ่งใช้ทั่วไปเหลือๆเลยในการทำงานตระกูล Microsoft ทั้งหมด ส่วนหน้าจอที่ให้มาสีพอทำงานได้มุมมองใช้งานได้ไม่ติดปัญหาอะไรครับ

GAMING 

ากที่ลองแน่นอนการ์ดจอแยกก็เล่นได้สบายครับในพวกเกมไม่หนักมากเช่น Overwatch  APEX CSGO พวกนี้สบายหรือ PUBG ก็ลื่นๆเลยครับส่วนเรื่องของภาพในเกมก็ปรับตามความเหมาะสมในเรื่องของการเล่นเกมใช้งานได้ดีครับเล่นได้ลื่นแต่ถ้าเกมหนักๆอาจจะต้องปรับภาพลดลงมาหน่อยตามความแรงเป็นปกติครับแต่ก็เล่นได้สบายแน่นอนส่วนเรื่องความร้อนก็ไม่ได้ร้อนจัดและไม่สะสมครับตรงตัวแป้นพิมพ์ที่วางมือไม่ร้อนเลยครับถือว่าจัดการในส่วนนี้ได้ดีในการใช้งานจริง แต่ถ้าเล่นกันต่อเนื่องนานๆอาจจะมีความร้อนสะสมและทำให้หน่วงได้ครับจุดนี้ต้องเข้าใจว่าระบบระบายความร้อนนั้นไม่ได้โหดมากนักเลยอาจจะไม่เหมาะเท่าไรถ้าเล่นหนักๆสำหรับตัว Asus Laptop ครับจากที่ลองก็มีไปแตะ 90+ ได้ค่อนข้างไวเหมือนกันในการเล่นเกมทั่วๆไปครับ และเอาจริงๆเลยจากที่ลอง ความร้อนขึ้นเมื่อไรจะเริ่มหน่วงและ FPS  ตกแบบไวมากๆครับเป็นจุดปกติของพวกคอมแบบนี้เจอกันหลายๆตัวไม่เหมาะเล่นเกมมากนัก

ASUS LAPTOP X509 

” ซีรียส์ ที่เน้นความคุ้มค่า  สเปคครบครัน ในราคาที่ไม่แรงเกินไป “

เป็นการพัฒนาอีกขั้นของ Asus Laptop ที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาทั้งในเรื่องของการออกแบบ วัสดุคุณภาพต่างๆนั้นน่าสนใจและน่าใช้งานมากกว่าเดิมรวมถึงนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยทำให่ใช้งานได้ดีขึ้นเยอะครับเหมาะสำหรับคนใช้งานทั่วไปอย่างมากที่งบไม่เยอะและหาคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานทั่วไปพกพาได้ง่าย และไม่ได้เล่นเกมหนักอะไรตัวนี้ตอบโจทย์อย่างมากครับ แต่แน่นอนว่าด้วยราคาแบบนี้ทำให้หน้าจอหรือวัสดุอาจจะไม่ได้ดีโหดอะไรมากนักต้องเข้าใจจุดนี้ไว้ด้วยนิดหน่อยนะครับ แต่ถ้าใช้งานทั่วไปบอกเลยว่าตัวนี้เหลือๆสบาย และในงบราคานี้เป็นรุ่นที่จัดเต็มพอสมควร

ข้อดี

  • หน้าจอ IPS 15.6 นิ้วรองรับมุมกว้างและสีค่อนข้างดี
  • มาพร้อม SSD + HDD ไม่ต้องใส่เพิ่ม
  • INTEL I7 + MX 250 อีกทั้งยังมาพร้อม RAM 16GB
  • ตัวเครื่องน้ำหนักเบา พกพาได้ง่าย ด้วยการใช้วัสดุพลาสติก
  • มีโครงเหล็กข้างในและเสริมตามขอบหน้าจอรวมถึงรอบ HDD
  • มาพร้อมไฟ Blacklit ในตัว
  • รองรับชาร์จไว และ แบตใช้งานได้ 6 ชั่วโมง
  • ลำโพง Sonic Master

ข้อสังเกต

  • ไม่มีช่อง SD Card
  • หน้าจอสู้แสงยังไม่ดีเท่าไร
  • วัสดุรวมๆเป็นพลาสติก

 และโปรโมชั่นพิเศษตอนนี้คือทาง ASUS ร่วมกับ Intel ตอกย้ำแบรนด์แห่งความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งสำหรับผู้บริโภค จัดโปรโมชั่นเอาใจนักสร้างคอนเทนต์ตัวยงให้ได้สร้างสรรค์ผลงานได้ง่ายยิ่งขึ้น แถมฟรี Ultimate Creativity Pack ที่มี 14 โปรแกรมยอดนิยม ครอบคลุมทั้งในส่วนของการแต่งภาพ ตัดต่อวิดิโอ ไลฟ์สตรีมมิ่ง หรือแม้แต่การสร้างสรรค์งานดนตรี เช่น Music Maker 2019 Plus, VR Studio, Vegas Movie Studio, DxO Photo Lab, XSplit Gamecaster และอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 15,000 บาท เพียงซื้อโน้ตบุ๊ก ASUS, TUF, และ ROG ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core i7/i9 Gen 8 หรือ Gen 9 ที่ร่วมรายการ https://woobox.com/briogv

สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ  มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ

ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>>  TECHHANGOUT

เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook  Techhangout พูดคุย Smartphone gadget 

Review by Nineztr