Lenovo นั้นถือว่าเป็นค่ายที่ทำ Gaming Notebook ออกมาหลากหลายตัวแต่ที่น่าสนใจคือมีราคาไม่แรงและสเปคที่ใช้งานได้ดีรวมถึงหน้าจอที่รองรับการกางได้ค่อนข้างกว้างมากๆเป็นไม่กี่ค่ายที่ทำได้กว้างขนาดนี้แน่นอนว่าปกติเรานั้นจะไม่ค่อยเห็นสายเกมที่ต้องใช้การกางระดับนี้เท่าไรครับแต่ในรุ่นนี้เองก็รองรับได้เผื่อการใช้งานที่หลากหลายขึ้น สำหรับตัว Ideapad L340 นั้นก็ได้เปิดตัวมาเช่นกันในธีมสีดำฟ้า และใช้งาน intel gen9 และ GTX 1050 สำหรับในเรื่องของการออกแบบก็จะเน้นในการออกแบบที่เรียบๆอาจจะไม่ได้ดูเหมือนสายเกมมากเท่าไรนัก หรืออาจจะช่วยในการใช้งานทั่วไปได้แบบไม่ใช้สายเกมเกินไป และในราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้นครับ
สเปครุ่นนี้มาพร้อมกับ Core i Gen 9 Core i5-9300H พร้อมด้วยการ์ด NVIDIA GeForce GTX 1050 3GB DDR5 และแน่นอนว่าในรุ่นนี้ได้ติดตั้ง HDD อีกทั้งหน้าจอนั้นยังมาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 นิ้ว iPS FHD ด้วยและรองรับองศาการกางที่มากกว่ารุ่นทั่วไป และ ฟีเจอร์ม่านกล้องที่จะช่วยปิดเลนส์กล้องเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวอีกด้วยนั้นเอง และในด้านของลำโพงนั้นก็มาพร้อมกับลำโพงที่รองรับเทคโนโลยีเสียง Dolby Audio ทำให้เสียงนั้นมีมิติและมีคุณภาพที่มากกว่าเดิม ส่วนในเรื่องของการเชื่อมต่อรุ่นนี้ให้ Bluetooth 5.0 และ Intel Wireless-AC 9560 2×2 AC ถือว่าดีทีเดียวครับ และตัวคียบอร์ดรุ่นนี้ยังให้ไฟ Blacklit มาให้ด้วยเป็นโทนสีฟ้าครับไม่สามารถปรับสีได้แต่สามารถลดแสงได้ 3 ระดับปกติ และรุ่นนี้ยังดีที่ได้ Numpad แบบเต็มรูปแบบมาให้ด้วยในด้านขวา
สำหรับราคานั้นจะมีทั้งหมด 4 รุ่นย่อยครับและ สามารถเปลี่ยนสเปคเองได้ด้วยนอกเหนือจากที่บอกไปข้างล่างครับ
- i5-9300H + GTX 1050 + RAM 8GB + HDD 1TB ราคา 23,990 บาท
- i5-9300H + GTX 1050 + RAM 8GB + HDD 1TB + SSD 256GB ราคา 24,990 บาท
- i7-9750H + GTX 1050 + RAM 8GB + HDD 1TB + SSD 256GB ราคา 27,990 บาท
- i7-9750H + GTX 1650 + RAM 8GB + HDD 1TB + SSD 256GB ราคา 29,990 บาท
DESIGN
ในด้านการออกแบบตัวเครื่องมาในโทนสีดำฟ้าทั้งหมด การใช้วัสดุงานประกอบอะไรดูแข็งแรงดีครับแต่มีความรู้สึกพลาสติกในส่วนที่วางแขนอะไรมากไปนิดนึงแต่ก็ได้น้ำหนักที่เบามาแทนครับ ส่วนฝาหลังนั้นก็เป็นลายปัดลายอลูมิเนียมสวยงามพร้อมกับเคลือบเงามาให้ด้วยข้อดีคือรักษาง่ายไม่ติดรอยมันของมือแต่ก็อาจจะไม่ได้เท่เท่ากับแบบ ด้านๆของบางรุ่นส่วนข้อต่ออะไรต่างๆนั้นดูแข็งแรงและรองรับการใช้งานทั่วไปได้แน่นอนว่าค่ายนี้นั้นทำเรื่องของหน้าจอพับแบบกางวางราบได้ในหลายๆรุ่นเรื่องความแข็งแรงต่างๆนั้นไว้ใจได้ครับ ความหนานั้นยังแอบหนาอยู่เมื่อเทียบกับสมัยนี้แต่ถ้ามองมันเป็นคอมพิวเตอร์สายเกมนั้นอาจจะพอเข้าใจได้ว่าทั้งเรื่องของระบายความร้อน อะไรต่างๆนั้นทำให้มันต้องมีความหนาที่มากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปอยู่พอสมควรและการใส่การ์ดจอ heatsink เข้ามาด้วยนั้นเอง
ในส่วนของช่องระบายความร้อนยังคงอยู่ในตำแหน่งประจำของหลายๆตัวคือตรงด้านหลังนั้นเองส่วนนี้จะเป็นช่องระบายความร้อนหลักๆของตัวเครื่องมีการเล่นสีฟ้าสวยงามจะเห็นว่าช่องแต่ละส่วนนั้นไม่เท่ากันโดยส่วนที่เปิดกว้างกว่านั้นจะเป็นส่วนที่ระบายหลักๆจากทางพัดลมหลักครับ โดยในรุ่นนี้ มีพัดลมมาให้ 2 ตัวมีขนาดเล็กและใหญ่ครับอยู่ในด้านมุมขวาขอบเครื่อง การวางแบบนี้อาจจะทำให้ระบายได้ไม่ทั่วถึงเท่าไรต้องรอดูการใช้งานจริงกันอีกที และเมื่อแกะข้างในดูแล้ว Heatsink นั้นมีแค่ 2 เส้นเท่านั้นทำให้เรื่องการระบายความร้อนนั้นน่าเป็นห่วงพอสมควรเลย ข้อต่อของรุ่นนี้สามารถเปิดฝาพับได้ในข้างเดียวโดยไม่โยกเยก ส่วนเรื่องของวัสดุฝาด้านในนั้นก็ทำได้สวยและดูดีกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควรแต่เครื่องความแน่นอาจจะพอเข้าใจได้ในเรทราคาช่วงนี้ครับ แต่รวมๆนั้นแข็งแรงไว้ใจได้อยู่
ฐานของเครื่องนั้นเป็นพลาสติกด้านเรียบๆไม่มีลวดลายอะไรครับยางรองเครื่องมีมาให้ 3 จุดหลักๆเป็นแถบยาวในด้านหลัง และ 2 จุดในด้านหน้าส่วนช่องระบายในส่วนข้างล่างนั้นมีเป็นแถบยาวๆสำหรับดูดลมเข้าและปล่อยข้างหลังแค่นั้นครับแต่ก็ยังมีการเล่นสีฟ้ามาให้ตรงแผงข้างในเล็กน้อยถือว่าดูไม่เรียบจนเกินไปแต่เป็นส่วนข้างล่างอาจจะไม่ค่อยเห็นเท่าไรครับ และฝาด้านหน้านั้นก็เป็นโทนดำเรียบๆแต่มีการแปะโลโก้สีฟ้ามาให้มุมเครื่องก็เด่นมากๆเป็นพลาสติกเงาๆครับ ไม่มีไฟหรือสะท้อนแสงอะไรในส่วนนี้ ถือว่าเรียบกว่า Gaming ในตลาดหลายๆตัวมากครับ
ขอบหน้าจอนั้นไม่ได้บางมากทั้งขอบบนและข้างๆยังมีความหนาอยู่พอสมควร ส่วนขอบหน้าจอข้างบนนั้นจะมียางรองแนวยางของเครื่องและที่น่าสนใจคือส่วนของกล้องหน้านั้นจะเห็นว่ามีแถบเลื่อนอยู่ ตรงนี้คือฟีเจอร์ที่จะเป็นเหมือนม่านมาปิดเลนส์ของตัวกล้องเพื่อความเป้นส่วนตัวที่มากกว่าเดิมครับเพราะบางคนอาจจะกังวลเผลอเปิดกล้องเวลาสตรีมหรืออะไรแบบนี้สำหรับสายเกมหรือใช้งานทั่วไปอะไรแบบนี้ก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีครับ และฝาด้านหน้านั้นจะเป็นว่าเป็นวัสดุที่ปัดลายสวยงามและเก็บขอบต่างๆได้ดีแต่ก็ยังพอเห็นรอยต่อของวัสดุที่แตกต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อยเมื่อดูข้างๆ
SPEC
- Intel Core i5-9300H (2.40 GHz, 8 MB L3 Cache, up to 4.10 GHz)
- NVIDIA GeForce GTX 1050 (3GB GDDR5)
- RAM 8GB DDR4
- HDD 1 TB 5400 RPM
- 15.6″ FHD (1920 x 1080), IPS, antiglare, 250 nits, 45% color gamut
- 2x 1.5W speakers with Dolby® Audio®
- 2 x USB 3.1 (Gen. 1)
- USB-C
- Headphone / mic combo
- HDMI 2.0
- RJ45
- 2.2kg
- Up to 9 hours*, with Rapid Charge technology
PERFORMANCE
ตัวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 9 อย่าง Intel Core i5-9300H โดยจะเป็นรุ่นยอดนิยมประจำช่วงครึ่งปีหลังของ 2019 มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.40 GHz สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads และมาพร้อมกับการ์ดจอติดตัวกับ UHD 630 และเสริมด้วยการ์ดจอแยก GTX 1050 3GB DDR5 และมาพร้อมกับ RAM 8GB DDR4 รวมถึงให้ HDD มาเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปได้สบายๆ
PC MARK เป็นการทดสอบที่เน้นไปทางด้านการใช้งานทั่วไป ทำงานหลักๆเน้นไปที่ CPU ทำงานหลักๆครับซึ่งจากการทดสอบจริงๆ i5 GEN9 9300H ตัวนี้หลังจากที่ทดสอบบอกเลยว่าแรงสมราคาตระกูล Gen9 เลยนะแม้จะไม่ได้แรงโหดอะไรมากนักแต่ถ้ามองในแง่ใช้ทำงานทั่วๆไปทำคะแนน 2984 ความร้อนที่ทดสอบสูงสุดที่ 95 สำหรับ CPU และ GPU 80 ในห้องปกติ
3DMARK นั้นเป็นการทดสอบในด้านคะแนน 3 มิติทั้งหลาย เน้นการประมวลผลการเล่นเกม เรนเดอร์เป็นหลักในพวกการ์ดจอคะแนนในหลายๆส่วนนั้นทำได้ดีสมกับการ์ดจอแยกของ GTX 1050 (3GB GDDR5) ที่ขับออกมาในคะแนนหลายๆส่วนได้ดีกว่าที่คิดไว้ ทั้ง 4 การทดสอบครับ ความร้อนที่ทดสอบสูงสุดต่อเนื่อง 3 ทดสอบที่ 97 สำหรับ CPU และ GPU 88 ในห้องปกติไม่มีแอร์ครับ
CINEBENCH R15-R20 นั้นเป็นการทดสอบการเรนเดอร์ CPU ล้วนๆแล้วและตัวใหม่ 20 นั้นทำงานหนักกว่าเดิมหลายเท่ามากๆ คือเป็นรุ่นใหม่ที่ทดสอบโหดกว่าเดิม Workload จัดหนักกว่าเดิมเยอะครับทำคะแนนไปได้สมราคาคุย คือ 1294 CB ครับในตัว Cinbench R20 ส่วนตัว R15 ตัวเก่านั้นทดสอบแล้วได้ที่ 67 Fps / 627 CB และตัวความร้อนหลังทดสอบตัวนี้ได้ที่ 83 CPU GPU 78
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอแบบ 15.6 นิ้ว IPS FULLHD 60HZ เป็นหน้าจอแบบจอด้านนะครับจากที่ลองนั้นมุมมองของมันทำได้ระดับกลางๆรวมถึงตัวสีก็ไม่ได้แม่นเท่าไรครับตัวสีหน้าจอนั้นเมื่อได้ลองใช้งานแล้วสีอาจจะไม่ได้ดีเท่าไรสำหรับใครที่จะเอาไปทำตกแต่งภาพ หรือทำสายงานกราฟิก แต่ถ้าในส่วนของการเล่นเกมนั้นตัวนี้ก็รองรับได้ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าดูกันในแง่ของการสู้แสงความสว่างตัวนี้ก็อาจจะสู้ได้ยากนิดหน่อยแม้จะปรับสุดแล้วครับแม้จะเป็นจอด้านก็จริงแต่ก็ยังมองเห็นได้ยากเมื่อใช้งานมีแสงรบกวนเข้ามาเยอะๆ และในแง่ของการออกแบบนั้นยังมีความหนาของขอบหน้าจออยู่พอสมควรเมื่อเทียบกับตัวอื่นๆในยุคนี้ที่เริ่มจะทำขอบบางขึ้นกันเรื่อยๆแม้จะในเรทราคานี้ครับ
หน้าจอเมื่อมองจากมุมมองด้านข้างจะเห็นได้แบบชัดเจนเลยว่าความแม่นยำของสีจากเดิมที่อาจจะไม่ได้ดีมากนัก และเมื่อมองแบบนี้สีสันความสว่างก็จะดรอปลงไปอีกครับ แน่นอนว่าหน้าจอตัวนี้ต้องบอกกกันตรงๆว่าอาจจะไม่ได้เด่นมากนักเน้นใช้งานทั่วไปได้ แต่ถ้าทำงานจริงจังอาจจะต้องหาจอเสริมเข้ามาช่วยด้วยครับทั้งเรื่องความสว่าง มุมมองและความแม่นยำของตัวสี แต่ถ้าเราแค่ใช้งานทั่วไปไม่ได้ซีเรียสอะไรเรื่องความแม่นยำมากนักก็ไม่ต้องเป็นห่วงสำหรับรุ่นนี้ครับ ใช้งานทั่วไปได้สบายๆ ดูหนังเล่นเกม เขียนงานพิมพ์งานแบบนี้ได้อยู่ จอด้านก็ช่วยไว้ได้ระดับนึงในการทำงานข้างนอก
TOUCHPAD / KEYBOARD
ตัวคีย์บอร์ดนั้นต้องบอกว่าคุ้นเคยกันดีในตระกูล Ideapad ทั้งเรื่องของการออกแบบและรูปทรงของตัวปุ่มนั้นเป็นสีดำและตัวอักษรสีฟ้าทั้งหมดในขอบด้านบนตัวตรง และขอบด้านล่างโค้งครับส่วนความโค้งก็รองรับนิ้วมือได้ดี เป็นแบบ 4 แถวขนาด Full Size และมี Numpad ในด้านขวามาให้ยังไม่ได้ตัดไปไหน ส่วนเรื่องตัวปุ่มนั้นตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกับนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ส่วนตัวปุ่มนั้นก็มีขัดใจตรงลูกศรนิดหน่อยครับ เพราะรุ่นใหม่ๆบางตัวก็ปรับให้ใช้งานง่ายขึ้นโดยส่วนตัวไม่ชอบตัวปุ่ม แบบนี้เท่าไรนักครับค่อนข้างใช้ลำบากไปนิดนึงสำหรับสายเกม และแน่นอนว่าตัวนี้มีไฟมาให้ปรับได้ 2 ระดับโทนสีฟ้าขาวครับ
ตัวปุ่มระยะการกดมีความลึกกำลังดี และที่ชอบคือความโค้งรับกับนิ้วได้ดีกว่าหลายๆตัวที่ได้ลองแน่นอนว่าของตัว Lenovo ก็ยังคงใช้คีย์บอร์ดลักษณะนี้มาหลายๆตัวครับรวมถึงการเว้นระยะห่างหลายๆอย่างก็ทำได้ค่อนข้างลงตัวและไม่ติดปัญหาอะไรในด้านของตัวอักษรนั้นเป็นสีฟ้าอ่อนๆเมื่อเวลาไม่เปิดไฟก็ยังเห็นอยู่ลางๆครับใช้งานได้ในหลายสภาพแสงยังมองเห็นได้ชัดครับไม่ได้มีปัญหาในส่วนนี้ และตัวไฟเมื่อเปิดก็มองเห็นได้ชัดเจนครับและมีไฟรอบๆปุ่ม
สำหรับตัวทัชแน่นอนว่ามีขนาดแอบเล็กไปเหมือนกัน และก็ยังไม่มีการเล่นกับการออกแบบอะไรเลยในตัวทัชแพดไม่มีพวกโครเมี่ยมเงาๆหรือจะเป็นพวกสีสันต่างๆตามขอบครับเป็นแค่วัสดุแบบเดียวกันแต่มีร่องรอยต่อแค่นั้นเลยถือว่าเรียบมากๆยังคงการออกแบบรวมๆได้ดีเลยแหละ ตัวแป้นไม่มีคลิกแยกซ้ายขวาอะไรครับสามารถกดลงไปได้เลย ตัวทัชนั้นรองรับหลายๆนิ้วได้ แต่ไม่ได้สะใจอะไรมากนักเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่องโดยรวมนั้นเองสามารถรองรับการทำงานหลายๆนิ้วได้ดี ไม่เจออาการเอ๋ออะไรครับ และสามารถวางนิ้วควบคุมทั้ง 4-5 นิ้วได้เป็นอย่างดีในเรื่องของวัสดุนั้นเป็นแบบเดียวกับตัวเครื่องโดยรวมทำให้ค่อนข้างติดนิ้ว เป็นตัว Software ของ Precision ครับแบบเดียวกับรุ่นอื่นๆของค่ายใช้งานได้ดี แต่รู้สึกขนาดที่เล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับ 15.6 นิ้วของตัวเครื่องโดยรวมครับ
CONNECTOR
ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นจะโดนเทมาอยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมดครับ และมาให้เพียงพอต่อการใช้งานแบบพอดีมากๆครับจริงๆใส่มาอีกฝั่งได้นะจะได้ครอบคลุมได้มากกว่านี้ ในด้านซ้ายนั้นอันแรกจะเป็นช่องไฟเข้าแบบสี่เหลี่ยมครับ และ ยังมีช่อง LAN มาให้อยู่รวมถึง HDMI – USB 3.1 ทั้งหมด 2 ช่อง และ รูไมค์+หูฟัง และ ช่อง USB-C 3.1 . จริงๆถือว่าน้อยไปหน่อยครับคือมันพอดีแบบเป๊ะๆ เสียบเมาส์ หรืออะไรก็เหลือมาให้อีกแค่ 1 ช่องเท่านั้นครับและไม่มี SD-Card อะไรมาให้เลยสำหรับการใช้งานเสียบดูรูปภาพต่างๆ และ ลำโพงมุมเครื่องนั้นเว้าออกมาทำให้มีพื้นที่ในการยิงเสียงออกมาด้านข้างและไม่ได้ยิงลงพื้นเยอะเกินไปครับ
เมื่อมาดูในด้านขวานั้นจะเห็นเลยว่าไม่มีช่องอะไรเลยยกเว้นแค่ Kensington Lock เท่านั้น และมีเส้นสายที่ทำให้ดูบางๆเข้ามานิดหน่อย และลำโพงที่ยิงออกมาด้านข้างครับเรื่องของเสียงนั้นไว้ใจได้เสียงดีกว่าหลายๆตัวในเรทราคานี้แน่นอนว่าอาจจะเป็นเพราะตำแหน่งการวางและระบบเสียงที่รับรองจาก Dolby ด้วยที่ทำให้มันโดดเด่นกว่าหลายตัว
GAMING
จากหลายๆเกมที่แอดมินได้ลองนั้น FPS ทำได้ดี ได้บางเกมรันได้สบาย ทุกเกมที่เอามาให้ดูคือปรับภาพสูงทุกเกมนะครับ ซึ่งตัวนี้ ก็รองรับการใช้งานเล่นเกมอะไรได้กลางๆไม่ได้เด่นอะไรมาก ด้วยการที่ใช้ i5 9300H + การ์ดจอ 1050 เท่านั้้นอีกทั้งเรื่องระบายความร้อนยังไม่ได้ดีเท่าไรรวมถึงการอ่านเขียนด้วยค่อนข้างช้าครับพอเล่นได้ลื่นๆ แต่ไม่ได้เทพมากเล่นทั่วไปแบบไม่ได้จริงจังได้ครับสำหรับสเปคและในเรทราคาแบบนี้
- Overwatch นั้น ทำไปได้ FPS 60-70 อุณหภูมินั้น GPU 74 CPU 76
- APEX ทำไปได้ FPS 55-61 อุณหภูมินั้น GPU 78 CPU 80
- BLACK OPS 4 ทำไปได้ FPS 50-60 อุณหภูมินั้น GPU 80 CPU 89
โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิดีมากนะจากที่ทดสอบ สภาพอากาศทั่วไป เสียงพัดลมก็ดังตามปกติครับผมแต่รุ่นนี้ไม่ได้เด่นเรื่องของระบายความร้อนเท่าไรครับและพัดลม 2 ตัวคนละขนาดวางติดกันก็อาจจะทำให้ระบายได้ไม่ทั่วถึง
LENOVO IDEAPAD L340 Gaming
” สายเกมราคาเบาๆ หน้าจอกางได้กว้าง พร้อมกับการออกแบบที่ดูดี “
เป็น Gaming Notebook ที่ดูดีและเรียบๆจนดูไม่ออกว่าเป็นสายเกม แน่นอนว่าเหมาะกับคนทั่วไปที่อยากได้คอมพิวเตอร์สำหรับทำงานแต่สเปคแรงพอสมควรและเล่นเกมบ้างนิดหน่อยครับตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอนและด้วยหน้าจอที่กางได้กว้างก็รองรับการทำงานได้หลากหลายขึ้นในตอนทำงานต่างๆ รวมถึงไฟบนคีย์บอร์ดอะไรก็มีมาให้และแต่เรื่องของการระบายความร้อนอาจจะไม่ได้ดีเท่าไรนักและในการเล่นเกมแบบหนักๆจริงๆอาจจะลำบากนิดหน่อยครับทั้งเรื่องของความร้อนและปุ่มต่างๆที่ไม่ได้ออกแบบมาสายเกมจริงจัง แต่ก็อย่างว่าคือตามราคาครับไม่ได้เป็นข้อเสียอะไร และเรื่องของหน้าจออาจจะต้องดูกันอีกนิดว่ารับได้ไหมในเรื่องของสีและการสู้แสงความสว่างครับ
ข้อดี
- หน้าจอรองรับการใช้งานค่อนข้างหลากหลาย และ ข้อต่อ มีความแข็งแรงกางได้ 180 องศา
- ได้ใช้งาน i5 Gen9 และ GTX 1050 รวมถึงมีสเปค GTX 1650
- ตัวเครื่องวัสดุงานออกแบบทำได้ดี ดูสวยและไม่เกมมิ่งมากเกินไป
- คียบอร์ดมาพร้อมไฟ blacklit สีฟ้าสวยงาม และมี Numpad
- ฟีเจอร์การปิดตัวกล้องรักษาความเป็นส่วนตัวได้ดี
- USB เป็น 3.1 ทั้งหมดทั้ง USB-A -USB-C
- ลำโพงมีคุณภาพเสียงที่ดีและมีความดังพอสมควร
- มาพร้อม Windows10
ข้อสังเกต
- หน้าจอไม่ได้ดีเท่าไรแม้จะเป็น IPS
- มีความร้อนสูงในการใช้งาน
- แบตใช้งานได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- พอร์ตเชื่อมต่อน่าจะมีมาให้มากกว่านี้ในฝั่งขวา
- มีแค่ HDD มาให้และการอ่านค่อนข้างช้ามาก
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr