realme 5 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกมาพร้อมกันกับรุ่นพี่ 5 Proทั้งการออกแบบอะไรนั้นคล้ายกัน มาพร้อมกล้อง 4 ตัวเหมือนกันแต่แตกต่างกันในหลายๆจุดครับ จะเน้นไปที่ความอึดของแบตและราคาที่คุ้มค่าจับต้องได้ง่ายกว่า และในครั้งนี้ก็จัดเต็มมาให้ค่อนข้างครบๆทั้งเรื่องของแบตที่ให้มาเยอะมากๆรวมถึงกลับมาใช้งาน Snapdragon แล้วครับสำหรับหน่วยประมวลผลแน่นอนว่าไว้ใจได้เลยสำหรับค่ายนี้ ส่วนทางด้านราคาก็ยังคงเกาะๆกับเรทราคาเดิมได้ดีครับถือว่าเป็นค่ายที่ยังคงทำให้หลายๆคนนั้นจับตามองและเลือกใช้งานกันถ้าเน้นสเปคและความคุ้มค่าในการใช้งานครับ
realme 5 จุดเด่นๆคือ กล้อง 4 ตัว และแบตจัดเต็ม 5,000 mAh ครับ ในด้านของสเปคนั้นมาพร้อมกับ CPU Snapdragon 665 AIE พร้อมกับ RAM 4 GB และ STORAGE 128 GB เช่นกัน ส่วนระบบใช้งาน Android 9+ Colous OS 6 ครับ กล้องหน้าให้มา 13MP และ กล้องหลัง จัดเต็ม4 ตัว กล้องหลัก 12MP F1.8 และ กล้องมุมกว้าง กล้อง จับระยะ และ กล้องมาโคร ระยะ 4 CM ครับ ส่วนเรื่องของแบตนั้นใช้งาน 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 10W มาตรฐานทั่วไปครับไม่ได้ไวพิเศษอะไร ส่วน สแกนนิ้วยังคงมีมาให้ และ พอร์ตเป็น Micro-USB ครับ ส่วนรูหูฟังยังคงมีมาให้อยู่ และ Wifi รองรับ 2.4-5Ghz และ Bluetooth รองรับการใช้งาน 5.0 ด้วยเช่นกันครับ ส่วนในไทยนั้นเปิดตัวมามาพร้อมกับ 2 สี และ ใน RAM 4GB STORAGE 128 GB ครับผม
UNBOX
มาแกะกล่องกันก่อนเลยตัวกล่องนั้นมาในแบบเรียบๆโทนสีขาว พร้อมกับ รูปตัวเครื่อง ชัดเจนหน้าหลัง รวมถึงบอกชื่อรุ่นด้วยครับ จริงๆตัวกล่องแอบชอบแบบรุ่นก่อนหน้ามากกว่าเป็นแค่เลขสีเหลืองสวยงามครับ อันนี้แอบดูธรรมดาไปนิดนึง ส่วนด้านข้างก็บอกชื่อรุ่นครับ และ ด้านหลังก็ไม่มีอะไรเรียบๆครับไม่ได้บอกฟีเจอร์เด่นๆอะไรในส่วนนี้ครับ
- ตัวเครื่อง realme
- เคสใสนิ่ม TPU สีเทาดำ
- ฟิล์มกันรอย ติดมาให้แล้วบนหน้าจอ
- สายชาร์จแบบ Micro-USB
- หัวชาร์จ ขากลม 2 ขา รองรับ 10W
- ตัวคู่มือ และ ที่จิ้มซิม
ตัวเคสนั้นทำออกมาได้กระชับและมีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าแต่ครั้งนี้เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดีกว่าเดิมนิดนึงครับตัวเคสเป็นสีเทาๆเข้มๆเล็กน้อยใส่แล้วฝาหลังสะท้อนน้อยลงไปแบบชัดเจน แต่ชอบที่มันปกป้องเครื่องได้ดีมากๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็กคลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางแต่ตัวป้องกันหน้าจอและเลนส์กล้องนั้นจะไม่มีขอบพิเศษมาให้ครับ
DESIGN
ในแง่ของการออกแบบนั้นในรุ่นนี้มาพร้อมกับฝาหลังดีไซน์ใหม่หมดทั้งตัวสีและกราฟิกบนฝาหลังครับ ในสีที่รีวิวนั้นจะเป็น Crystal Purple แต่วัสดุนั้นไม่ใช่กระจกนะครับเป็นแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้านั้นเลยแต่มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด เรียกกันว่า Nano Holographic Colour นั้นเอง จริงๆสวยกว่ารุ่นก่อนหน้านะครับเป็นเหมือนการพัฒนาต่อเนื่องมาจาก Diamond cut ที่เป็นเอกลักษณ์ในรุ่นแรกๆ ส่วนงานประกอบ วัสดุนั้นทำได้พอๆกับตัว 3 ครับผม แต่จากที่ลองนั้นต้องบอกว่าการสะท้อนแสงตัว 5 Pro จะสะท้อนเล่นกับแสงได้ชัดเจนกว่า และสว่างเล่นกับแสงดีกว่า
หน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอแบบติ่งหยดน้ำเหมือนเดิมครับ 6.5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียดที่ HD+ อัตราส่วน 20:9 พร้อมกับ สัดส่วนหน้าจอ ต่อตัวเครื่องที่ 89% ใช้ Gorilla Glass 3+ นะครับ
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ในหน้าจอ สามารถใช้งานเต็มหน้าจอได้แบบไม่มีปุ่มนะครับ ส่วนขอบข้างๆนั้นก็ทำได้บางพอๆกับรุ่นก่อนหน้านี้เลยครับ แต่จะหนากว่าตัว 5 Pro และ 3 Pro เมื่อลองเทียบกัน
หน้าจอขอบบนนั้นเป็นแบบเดิมครับมาพร้อมกล้องหน้า พร้อมติ่งหยดน้ำ และมีการแทรกเซนเซอร์ไว้ข้างๆกล้อง รวมถึงขอบลำโพงอยู่เหนือกล้องหน้า กล้องหน้าให้มาที่ 13MP รูรับแสง f/2.0 ขอบจะหนากว่าตัว Pro เล็กน้อย
ในขอบเครื่องด้านข้างขวานั้นจะเป็นที่อยู่ของปุ่ม Power อย่างเดียวนะครับและจะเห็นว่าตัวกล้องนั้นนูนออกมาพอสมควร แต่ตัวเครื่องก็ทำได้บางเช่นกัน ส่วนสีขอบเครื่องนั้นจะเป็นสีเดียวกันไม่มีการไล่สีครับ และเป็นวัสดุพลาสติก
ตัวขอบเครื่องด้านบนนั้นจะเป็นสีม่วง และ ไม่มีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ครับ ซึ่งจะไม่เหมือนกับตัว Pro ส่วนวัสดุขอบเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกด้านครับผม แต่ฝาหลังนั้นจะยังโค้งมารับมือเหมือนกับรุ่น Pro อยู่เหมือนเดิม
ในส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่าตัวเครื่องมี ปุ่มเพิ่มลดเสียง และ ช่องใส่ถาดซิมครับเป็นแบบ Triple Slot รองรับ Dualstaby และ Non-CA แบบเดิมครับ กระจกฝาหลังนั้นจะโค้งลงมาตรงขอบข้างๆเล็กน้อยครับเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ทำให้จับถือได้ง่ายและเข้ากับมือได้มากกว่า
ขอบเครื่องด้านล่างนั้นจะเป็น ลำโพงหลัก ช่อง Micro-USB 2.0 และ รูไมค์ 2 ตัว รวมถึงรูหูฟัง 3.5 มม. นั้นยังอยู่นะครับ รุ่นนี้จะไม่มีมีการเล่นลวดแบบรุ่น Pro นะครับ จะเรียบๆเลยนั้นเอง
ฝาหลังนั้นจะเป็นการออกแบบใหม่ในชื่อ Holographic diamond พร้อมความเป็นประกายของสีสันที่สดใสในระดับนาโน มีการเคลือบกว่า 133 ครั้งเพื่อให้ได้สีที่สวยงามนั้นเองรวมถึงเป็นการพัฒนาการสะท้อนเหลี่ยมๆมาจากรุ่นก่อนหน้า และ ยังเป็นการออกแบบที่เนี้ยบกว่าเดิมด้วยครับเพราะสามารถป้องกันละอองน้ำได้เวลาน้ำกระเด็นใส่ สแกนนิ้วนั้นอยู่ในด้านหลังเหมือนเดิมครับไม่มีวงแหวนล้อม ส่วนโลโก้นั้นวางแนวนอนมุมเครื่อง
กล้องหลังจัดเต็มมาให้ทั้งหมด 4 เลนส์ โดยที่ตัวหลักนั้นจะเป็น 12MP F1.8 ตัวมุมกว้างนั้นจะเท่ากันที่ 8 MP F2.2 มุมกว้าง 119 องศาตัวเดียวกับ 5 Pro ครับ ส่วน กล้อง จับระยะ และ มาโคร นั้นก็ตัวเดียวกันทั้งหมด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Ultra clear night scape ที่ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนคมชัด และ ภาพไฟล์ Raw และโหมด Chroma Boost ก็มีมาให้เช่นกัน การออกแบบเลนส์หลักยังคงมีวงแหวน realme ring และ เขียนบอก f1.8 ครับ และไฟแฟลชออกมาด้านขวา
SPEC
- Android Pie 9.0 ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
- จอ IPS LCD ติ่งหยดน้ำขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 ใช้กระจก Gorilla Glass 3+
- CPU Snapdragon 665 AIE Octa Core 2.0 GHz + GPU Adreno 616
- RAM 4 GB
- STORAGE 128GB emmc 5.1 รองรับ microSD card เพิ่มได้ถึง 256 GB
- กล้องหน้า 13MP f/2.0
- กล้องหลัง 4 ตัว ตัวหลัก 12MP f/1.8 + กล้องมุมกว้าง 8MP 119° f/2.25 +กล้อง จับระยะ 2MP f/2.4 + กล้องถ่ายระยะใกล้ 2MP 4cm,f/2.4
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับ 10W
- Bluetooth 5.0 และ รองรับ Wifi 2.4Ghz 5Ghz
- พอร์ต Micro USB และ มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- ตัวเครื่อง 75.6 x 164.4 x 9.3 มม. หนัก 198กรัม
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ กลับมาใช้ Snapdragon 665 และ RAM 4GB ทำคะแนน Antutu ไปได้ที่ 139K มากกว่ารุ่น 3 ประมาณ 6 พันคะแนนเท่านั้น ไม่ค่อยเยอะเท่าไร ส่วนคะแนนการอ่านเขียนทำได้ เท่าเดิมเลยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรครับ ส่วนในตัว Geekbench นั้นทำคะแนนไปได้ที่ 314/1366 และ DRM L3 อยู่นะครับในการเช็ค ไม่แน่ใจว่าจะมีอัปเดตไหมเพราะสเปคที่เจอนั้นรองรับ L1 ครับ ส่วนตัว Sensor มีให้ครบทุกตัวครับไม่ต้องห่วง
SYSTEM UI
หน้าตาระบบรุ่นนี้มีการปรับปรุงอีกครั้งมาใช้ Colour OS 6 ร่วมกับ Android 9 เหมือนกับรุ่น 5 ทั้งหมดครับ ทั้ง การตั้งค่า การใช้งานทั่วไป แต่หน้าหลักๆนั้นยังคงมีมาคล้ายๆเดิมครับการแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอพอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ แต่แอพติดเครื่องยังมีมาเยอะพอสมควร พวกแอพนอกเหนือจาก Google ครับ และ App Drawer เลือกเปิดปิดได้ครับ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลมแล้ว จากที่เป็๋นสี่เหลี่ยมก่อนหน้า การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่ายและเสถียรมากๆ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 115 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 1.07 จาก 4 GB ครับ
ส่วนการโคลนแอพ อะไรทั้งหลายก็มีมาให้ครับผม รวมถึงตัว Game Space มาใหม่อันนี้น่าสนใจยังไงไปดูในหัวข้อ Gaming ได้เลย และ ยังมีผู้ช่วยอัจฉริยะมาให้ในการปัดมาด้านขวาในจอหลักจะคอยช่วยในการจัดการแจ้งเตือนอะไรต่างๆ หรือ ดูการใช้งานของเราว่าเน้นอะไรยังไงก็จะเสนอมาให้ใช้งานกันเลย อีกทั้งยังมีโหมดช่วยขับรถมาให้จะดูแลการแจ้งเตือน ขณะขับขี่ ระบบจะทำ การปิดเสียงการแจ้งเตือน ระบบจะใช้ตัวอักษรและ ปุ่มขนาดใหญ่ที่สามารถรับหรือปฏิเสธได้เท่านั้น และส่ง SMS ตอบกลับให้เองเลย แต่เรื่องของติ่งหน้าจอไม่เจอให้ปิดนะครับผมในตัวนี้
Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอพลิเคชั่น บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smart Sidebar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้สบาย Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับ รวมถึงการตั้งค่าการควบคุมหลักๆนั้นสามารถปรับใช้งานแบบเต็มจอหรือจะใช้งานแบบ 3 ปุ่มปกติสลับตำแหน่งได้ด้วย
THEME
ตัวการปรับแต่งธีมนั้นรองรับการเปลี่ยนพอสมควรครับซึ่งมีให้เลือกค่อนข้างเยอะจากที่รุ่นแรกๆนั้นปรับแต่งไม่ได้แต่ตอนนี้ปรับแต่งมาแล้วทำให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้นและเปลี่ยนทั้งตัวหน้าตาไอคอน แอพ และรวมถึงพื้นหลังต่างๆ
SCREEN
สำหรับหน้าจอในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยขยับมาใช้งานกระจกด้านหน้าแบบ Gorilla Glass 3+ ถือว่าน่าสนใจครับ ส่วนหน้าจอยังเป็น IPS LCD อยุ่ ขนาด 6.3 นิ้ว ใหญ่กว่ารุ่นเดิม 0.1 นิ้วแต่ยังคงใช้ความละเอียด HD+ และรองรับความสว่างสูงสุด 400Nits จากที่ลองมุมมองภาพนั้นทำได้ดี ความสีสันสดใสยังคงไม่เป็นปัญหา แต่ด้วยจอ LCD นั้นส่วนสีดำอาจจะไม่สนิทเท่าไร และสู้แสงไม่โหดมากนักครับจากที่ได้ลองกลางแจ้ง แต่ถ้าใช้งานในสภาพแสงทั่วไป ในห้องพวกนี้ถือว่าทำได้ดีไม่มีปัญหาครับ แต่เรื่องของความละเอียดนั้นจากที่เรานั้นจะใช้งานเรือธงมาก่อนทำให้รู้สึกว่าตัวจอนั้นอาจจะไม่ได้คมชัดเท่าไรครับแต่ถ้ามองในเรทราคานี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติพอรับได้ ไม่ได้แย่ครับ พอๆกับหน้าจอของ realme 3 ก่อนหน้านี้เลยทั้งเรื่องของสีสัน ความคมชัด และ การสู้แสงครับแน่นอนว่าการสัมผัสค่ายนี้ยังคงเจอว่าไม่ได้ติดนิ้วเท่าไรแน่นอนว่า สัมผัสให้ความรู้สึกแบบเดียวกับ realme 3 เป๊ะๆครับ และต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ไวติดนิ้วมากนักเมื่อเทียบกับ 5 Pro ตัวนั้นจะทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนเลยในส่วนนี้ครับ
ในเรื่องของมุมมองหลายๆด้านกันบ้างด้วยการที่เป็นจอ LCD มุมมองบางครั้งอาจจะไม่ได้โหดมากครับถ้าเจอฉากสีดำเยอะๆและเอียงมองจะออกไปทางสีเทาๆซะมากกว่ากว่าไม่ได้ดำสนิทครับ ส่วนเรื่องความดรอปลงในมุมมองอื่นๆนั้นก็เจอบ้างครับถ้าเป็นโทนสีเข้มจะดรอปลงพอสมควรครับ และความสว่างในมุมมองเอียงๆนั้นไม่เท่ากับมองตรงๆเท่าไร ตัวหน้าจอจะให้ความรู้สึกแบบเดียวกับรุ่น 3 ก่อนหน้านี้เลยครับไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไรมีแค่ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ส่วนแสงสี มุมมองการสัมผัสนั้นแทบจะเหมือนเดิมเลย แค่ปรับมาใช้กระจกที่ดีกว่าเดิมนิดหน่อยครับ
SOUND
ในด้านของเสียงผ่านหูฟังตัวนี้มีรู 3.5มม. เสียงจาดที่ลองนั้น แน่นอนว่าตัวนี้ไม่มีหูฟังมาให้ครับ โดยความรู้สึกคล้ายของเดิมไม่ได้เด่นมากนักกำลังขับ เบส หรือ เสียงนั้นค่อนข้างธรรมดา เสียงที่ได้ออกมา จะค่อนข้างออกไปทางโทนแหลมสูง ส่วนใน เรื่องของมิติ เวที เสียงมากลางๆครับผม คล้ายๆกับตัว 3 เลยครับ รวมถึงตัวนี้หน้าตาการปรับเสียงสามารถปรับเสียงแล้วแต่แนวคนชอบได้และปรับ EQ ได้ 3 ย่านหลักๆครับ ถือว่าแอบน้อยไปนิดนึงนะ ปรับได้เท่าเดิมแต่เปลี่ยนหน้าตานิดหน่อยสำหรับใครที่ชอบปรับ EQ อาจจะต้องพึ่งแอพนอกแทนในการปรับแต่งเสียงต่างๆ
SPEAKER
ในการทดสอบลำโพงนั้นต้องบอกว่ารุ่นนี้นั้นเสียงดังขึ้นแต่ถ้าหากเราเอามาเทียบกับตัว Pro ทั้ง 3 และ 5 ก็ต้องบอกว่ายังคงมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรในเรื่องของมิติเสียงและความใสความดังครับแน่นอนว่าตามเรทราคาของมันนั้นเองในตัว realme 5 นั้นเสียงจะแหลมจัดกว่าและจะแบนกว่าเล็กน้อยครับ และพวกมิติเสียง เบสต่างๆนั้นจะไม่ได้มามากเท่าไรถ้าให้ฟังเทียบกัน แต่ถ้าคนทั่วไปใช้งานในเรทราคานี้ก็คงจะไม่ได้เน้นคุณภาพเสียงมากนัก แต่จะเน้นไปที่ความดังเวลามีคนโทรเข้ามามากกว่าและตัวนี้ก็ทำได้ดีครับดัง และ เสียงแหลมนั้นจะเด่นตอนมีริงโทนเรียกเข้าครับ
GPS
ส่วนของการนำทางตัวนี้แอดมินทดสอบนำทางจริงๆ และ ใช้แอพทดสอบเช่นเคยครับตัวนี้จากที่ทดสอบจริงๆพบว่านำทางได้แต่ตัวการนำทางอัพเดทยังไม่ค่อยเป๊ะมาก แต่ดีกว่าตัว 3 แบบชัดเจนจนรู้สึกได้เลยว่ามันใช้งานได้จริงที่ดีกว่าเดิมเยอะครับ ส่วนในการใช้แอพทดสอบนั้นก็จับได้ทั้งหมด 28 ดวง จากทั้งหมด 45 ดวงครับทั้งบนรถ และ ทางเดินเท้าปกติ ส่วนของกลางแจ้ง จับได้ทั้งหมด 35 ดวง จากทั้งหมด 53 ดวง นะครับ ถือว่าเป็นจุดที่ทำได้ดีกว่าเดิมแบบชัดเจนและแม่นยำ อัพเดทได้ไวขึ้นกว่าตัว 3 ถือว่าเป็นเรื่องดีที่หลายๆคนน่าจะชอบกันสำหรับใครที่เน้นนำทาง
BATTERY
รุ่นที่แล้วเราว่าอึดแล้วแต่รุ่นนี้มันโคตรอึดไปอีกครับด้วยการใช้งานแบต 5,000 mAh และใช้หน้าจอแค่ HD+ รวมถึง Snapdragon 665 ที่จัดการพลังงานได้ดีขึ้นทำให้เรื่องของตัวแบตนั้นใช้งานทั้งวันแบบเหลือชิลๆกว่าเดิม เล่นเกมไปเลย 3-4 ชั่วโมง แบตยังเหลือกลับบ้านได้ และ ทางเราก็ได้ลองกันจริงๆถือว่าอึดมากกกกก แบตนั้นใช้งานทั้งหมด 13 ชั่วโมง 28 นาที หน้าจอเปิดไป 8 ชั่วโมง และ เล่นเกมไป 4 ชั่วโมง PUBG Mobile ครับบอกเลยว่าทำได้ดีมากๆใครที่เน้นเรื่องแบตนั้นต้องใช้งานรุ่นนี้เท่านั้นน่าจะเยอะและอึดที่สุดในบรรดามือถือในเรทช่วงนี้แล้วครับ
GAMING
เรื่องของการเล่นเกมส์รุ่นนี้โดยรวมถือว่าค่อนข้างทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เมื่อเทียบกับราคา เท่าที่ทดสอบโดยรวมถือว่าทำออกไม่ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความร้อนหรือแบตเตอรี่ เท่าที่ทดสอบหลักๆอย่างเช่นเกม PUBG MOBILE ในรุ่นนี้โดยรวมสามารถเล่นได้เเต่อาจจะยังปรับภาพระดับ HD ไม่ได้อาจจะเป็นเพราะชิปใหม่คงจะต้องรอตัวเกมส์อัพเดทอีกทีนึง ในส่วนของเกมส์ ROV เท่าที่ทดสอบก็ถือว่ามีค่า FPS ค่อนข้างมี FPS นิ่งพอสมควรเลย เอาเป็นว่ามาลองชมคลิปที่ทดสอบกันดีกว่าจะได้ตัดสินใจซื้อรุ่นนี้ได้ง่ายขึ้น
CAMERA
ในส่วนของกล้องนั้นเป็นจุดเด่นหลักๆที่พัฒนาขึ้นมาครับแน่นอนว่ากล้องหลังตัวนี้จัดเต็มมาให้ทั้งเรื่องของ มุมกว้าง มุมปกติ ระยะมาโคร และ จับระยะลึกครับ แต่กล้องตัวหลักนนั้จะแตกต่างกันกับตัว Pro เพราะตัวนี้นั้นใช้งาน 12MP F.18 ครับ ส่วนกล้องตัวรองนั้นเป็นเลนส์มุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 8MP F2.2 ส่วนกล้องจับระยะ และ มาโครนั้น 2MP เท่ากันครับ ในโหมดกล้องนั้นมาให้ครบๆทั้งหมดคือ NightScape – Portrait – Super Macro – และ Ultra Wide และที่ชอบคือมุมกว้างนั้นรองรับ Nightscape ด้วยสวยมากๆเลยครับจากที่ลองนั้นกล้องก็ทำได้ดีขึ้นในเรื่องของคุณภาพและความแม่นยำของตัวภาพที่ดีกว่าตัว 3 Pro ในภาพรวมทั้งหมดครับ และโฟกัสอะไรดีขึ้น ส่วนเรื่องกล้องก็มีมุมกว้างมาให้เล่นที่เด่นมากๆและถ่ายสนุกขึ้นเยอะเลยในการใช้งานถ่ายภาพครับ แต่กล้องหลักนั้นสีจะตรงแม่นกว่า พอปรับมาใช้กล้องมุมกว้างนั้นสีจะไม่ค่อยแม่นเท่าไรครับในส่วนของความแม่นยำ WB
WIDEANGLE
NIGHTSCAPE
PORTRAIT
SELFIES
ส่วนกล้องหน้านั้น มุมจะกว้างกว่า realme 5 Pro แต่ความคมชัดอาจจะดรอปลงไป ตัวนี้กล้องหน้าให้ความละเอียด 13 MP ใช้เซนเซอร์ รูรับแสง f/2.0 มาพร้อมโหมด Portrait และ AI Beauty เช่นเดิมครับ และก็สามารถปรับโทนแสงฟิลเตอร์ภาพได้ค่อนข้างเยอะกล้องหน้าถ้าแสงมากๆนั้นโดยรวมโอเคเลยแหละมุมภาพกว้างตัดขอบได้เนียนสวยเหมือนกันรวมถึงสีโทนผิวนั้นสาวๆน่าจะชอบกันครับถือว่าทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆในกล้องหน้าจากที่รุ่นแรกๆนั้นกล้องหน้ายังไม่ได้ดีเท่าไรในเรื่องของคุณภาพ ความใสความคมชัดแต่รุ่นนี้ทำได้ดีขึ้นมากเลยจากที่ได้ลอง
VIDEO
ในการทดสอบการถ่ายวีดีโอนั้นต้องบอกว่า รองรับการถ่ายสูงสุดที่ 4K30FPS ครับสำหรับมือถือในเรทราคานี้จัดว่าดีงามมากๆ แต่ต้องเข้าใจในเรื่องของการกันสั่นรวมถึงคุณภาพเสียงที่อาจจะไม่ได้ดีมากนักครับ แต่ในความละเอียดตัว FHD นั้นก็ถือว่าทำได้ดี แต่ในเรทราคานี้รุ่นนี้นั้นจะไม่รองรับการถ่าย FHD 60FPS นะครับถ้าหากใครกำลังดูอยู่ก็ควรทราบในจุดนี้ไว้ด้วย ส่วนเรื่องของคุณภาพในภาพรวมให้อยู่กลางๆทั้ง คุณภาพ เสียง กันสั่นทั้งหมดไม่ได้เด่นและไม่ได้แย่เกินไปครับ แต่ก็น่าเสียดายว่าเลนส์มุมกว้างนั้นไม่สามารถถ่ายวีดีโออะไรได้เลยครับถ้ารองรับจะโหดมาก
REALME 5
” realme จัดเต็มอีกครั้ง กับกล้อง 4 เลนส์ และให้แบต 5,000 mAh ที่อึดมาก ! “
รุ่นเล็กในครั้งนี้เป็นครั้งที่ทำออกมาได้ดีคือทั้งเรื่องของกล้องที่ 4 ตัวแบบเดียวกับรุ่นพี่ และยังใช้งานการออกแบบดีไซน์ทั้งหลายคล้ายๆกันมากครับรวมถึงตัวสเปคที่ให้มาก็ไม่แพ้ค่ายอื่นๆ และดีกว่าทุกรุ่นเลยแหละ ส่วนเด่นๆคือการใช้งานแบตมากถึง 5,000 mAh จัดเต็มมากๆ และกล้อง 4 ตัวก็ให้มาที่ 13MP F.18 ส่วนกล้องตัวอื่นๆนั้นเป็นตัวเดียวกับรุ่น Pro เลยนั้นเอง และหน้าจออะไรก็เต็มตามากขึ้นครับ สแกนนิ้วอะไรให้มาครบรวมถึงเซนเซอร์ด้วย แต่เรื่องของวัสดุอะไรอาจจะไม่ได้ดูหรูอะไรมากนักยังคงคล้ายๆเดิมครับผม แต่มีการเล่นลวดลายแปลกตามากขึ้น ส่วนพอร์ตยังคงเป็น Micro-USB อยู่ตามเรทราคาช่วงนี้
ข้อดี
- สเปค Snapdragon 665 ทำได้ดีและคุ้มค่ากับราคา
- ดีไซน์ฝาหลังแบบเดียวกับรุ่น Pro สีสันสวยงาม และ ดีไซน์กระชับมือ
- หน้าจอใหญ่ขึ้น เต็มตากว่าเดิมเล็กน้อย
- มาพร้อมกล้องมุมกว้าง กล้องมาโคร กล้องวัดระยะ แบบเดียวกับ 5Pro
- กล้องหลักรูรับแสง F1.8 ทำได้ดีกว่าที่คิด
- กล้องหน้าคุณภาพดีมุมกว้างกว่ารุ่นพี่เล็กน้อย
- แบต 5,000 mAh จัดเต็มอึดมากๆ ทั้งวันแบบสบาย เล่นเกมหนักได้
- ยังคงทำราคาได้น่าจับต้องเมื่อเทียบกับสเปคที่ให้มา
ข้อสังเกต
- หน้าจอยังคงเป็น HD+ และ สัมผัสไม่ไวมากนัก
- ใช้งาน Micro-USB
- Non-CA
- วัสดุฝาหลังเป็นรอยได้ง่ายระวังกันนิดนึง
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr
*รูปถ่ายจากกล้องมือถือทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ