ในช่วงเดือนมีนาคมของปี 2016 Apple ได้เปิดตัว iPhone SE ออกมาเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้ใช้งาน iPhone ณ ตอนนั้นเพราะ iPhone รุ่นใหม่นั้นมีขนาดหน้าจอและราคาที่เพิ่มขึ้น โดย iPhone 6s และ iPhone 6s Plus มีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้วตามลำดับ ซึ่ง iPhone SE นำดีไซน์จาก iPhone 5s มาใช้งานกับชิปเซต A9 ของ iPhone 6s ทำให้มีขนาดหน้าจอ LCD เพียง 4 นิ้ว ที่ในตอนแรกมีความจำให้เลือกแบบ 16GB และ 64GB แต่ปีต่อมา Apple ก็ได้ปล่อยรุ่นที่อัพเกรดความจำเป็น 32GB และ 128GB ในราคาเดิมคือ 16,800บาท และ 20,800บาท ตามลำดับ
เมื่อไม่นานมานี้นักวิเคราะห์ที่ชื่อ Ming-Chi Kuo ได้ออกมาเผยว่า Apple จะปล่อย iPhone SE 2 ในช่วงต้นปีหน้า และยังเสริมอีกว่า iPhone ดังกล่าวจะนำดีไซน์ของ iPhone 8 มาใช้งานกับชิปเซต A13 Bionic ทำให้มันจะไม่มีสแกนใบหน้า Face ID แต่จะมีสแกนนิ้วมือแทน ซึ่งมันก็ไม่ได้เอาดีไซน์มาแบบเป๊ะๆ เพราะมันจะมีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว(ที่ไม่ใช่ AMOLED) ความละเอียด 750 x 1,334 นิ้ว และหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของกล้องมันจะมีกล้องหลัง 12MP และกล้องหน้า 7MP
ซึ่งเราอาจจะได้เห็น iPhone SE 2 ถูกเปิดตัวในงานอีเวนท์ในเดือนมีนาคมปีหน้า และน่าจะเป็นงานเดียวกับที่ Apple จะเปิดตัวแว่นตา AR glasses นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีข่าวหลุดออกมาเกี่ยวกับราคาของเจ้า SE 2 ว่าจะเริ่มต้นที่ 399$(ประมาณ12,000บาท) และจะมีความจุให้เลือกคือ 64GB และ 128GB ในสี Space Gray, สีเงิน และสีแดง ซึ่ง Ram ของมันจะอยู่ที่ 3GB โดยจะแตกต่างกับใน iPhone 8 ที่มีเพียง 2GB
และเหมือนกับในตระกูล iPhone 11 คือเจ้า SE 2 จะไม่มีระบบ 3D touch แล้วแต่จะมาพร้อม Haptic touch ที่ใช้งานการตอบสนองจะเปลี่ยนไปตามระยะเวลาที่สัมผัสแทน
