Gopro เมื่อไม่นานมานี้ได้ทำการเปิดตัว Gopro 8 Black รุ่นต่อยอดจากทาง Gopro 7 แต่ที่ตื่นเต้นจริงๆในงานนั้นต้องบอกว่าเป็นตัว MAX ที่เปิดตัวกล้องแบบ 360 ต่อยอดจากรุ่น Gopro Fusion ซึ่งได้พัฒนาต่อยอดไปทั้งเรื่องของคุณภาพและตัวฟีเจอร์อีกทั้งยังใส่หน้าจออะไรเข้ามาปรับปรุงเยอะมาก และยังมีการออกฟีเจอร์ที่จะช่วยในการถ่ายวีดีโอให้สนุกมากกว่าเดิมและเอามาตัดต่อได้ง่ายและดูได้ง่ายขึ้น ต้องบอกว่าตัว 360 องศานั้นถ้าไม่ถนัดอาจจะใช้งานยากและยิ่งเป็นวีดีโอนั้นอาจจะเอาไปใช้งานตัดต่อได้ยาก แต่ครั้งนี้ทาง Gopro เข้าใจจุดนี้และได้พัฒนาแอปรองรับทำให้ถ่ายตัดต่อง่ายๆและไม่ยุ่งยากเลยในตัวแอปเองเลยครับ และคุณภาพก็ใช้งานได้ดีเลยแหละ
Gopro MAX นั้นเปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามและเรียบง่าย ต่อยอดจากรุ่นก่อนใส่หน้าจอเข้ามา มาพร้อมกับกล้อง 2 ตัวหน้าหลังแบบเก็บภาพมุมกว้างสุด รองรับ ถ่ายภาพได้ละเอียด 16.6 ล้านพิกเซล (360 องศา) และ 5.5 ล้านพิกเซล ในโหมดHERO รองรับการถ่ายวีดีโอ ถ่าย 360 องศาได้ 5.6K 30FPS และในโหมดปกติ 1440p 60fps และมีกันสั่นเทพเข้ามารวมถึง กันน้ำได้ 5 เมตร มีไมค์ทั้งหมด 6 ตัวแบบ Shotgun เก็บเสียงได้ดีกว่าเดิม มี GPS รองรับระบบเสียง 360 องศา พร้อมกับมีหน้าจอระบบสัมผัสมาให้ใช้งาน รองรับ USB-C และ micro-sd card ด้วยเช่นเดิมครับ สว่นราคานั้นต้องบอกว่าน่ารักขึ้นเปิดมาแค่ 17,000 บาทเท่านั้นถือว่าทำได้ดี
UNBOX
ตัวกล่องนั้นของขายจริงมันจะเป็นอีกแบบนึงครับแต่ในภาพนั้นจะเป็นกล่องแบบ VIP BOX ที่จะให้ของมาครบๆเพียงพอต่อการใช้งานเลยทั้งขาตั้ง ที่ยึดแบบกาว 2 หน้า ต่างๆกระเป๋าแข็งเวลาพกพาเป็นต้นครับ และมาพร้อมแบต สายชาร์จ ต่างๆครบรวมถึงที่ครอบเลนส์ ส่วนในตัวแบตนั้นจะใช้งานได้แค่ของมัน ใช้กับรุ่น 7-8 อะไรไม่ได้เลยนะครับ
Max Protective Lenses นั้นจะเป็น Cover เลนส์แบบพิเศษคล้ายๆกับการติดฟิล์มกันรอยหรือเหมือน Filter ป้องกันเลนส์นั้นเองซึ่งแน่นอนว่าด้วยความที่มันเป็น 360 องศาเลยทำให้ต้องออกแบบฝาครอบแบบคล้ายๆโดมก็แปลกตาดีเหมือนกันครับ แน่นอนว่าการใส่นั้นภาพที่ได้แอบดรอปลงไปนิดหน่อยและสั่นได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าใครจะไปลุยๆก็แนะนำติดไว้ดีกว่า แต่ถ้าลงน้ำนั้นจะไม่ให้ใส่นะครับเพราะใส่ตัวครอบลงน้ำไม่ได้ ออกแบบมานั้นก็ถือว่าปกป้องได้ดีพอสมควร
DESIGN
ทางด้านการออกแบบนั้นต้องบอกเลยว่าดีไซน์นั้นเป็นการพัฒนาต่อยอดจากตัว Fusion เหลี่ยมๆทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสทั้งหมดครับแต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงวัสดุ การเพิ่มหน้าจอรวมถึงไมค์เข้ามาให้ใช้งานได้ดีขึ้นรวมถึงตัววัสดุเองนั้นก็พัฒนาขึ้นครับ เป็นรอยได้ยากกว่าเดิมและทนทานกว่าเดิม ดีไซน์การวางกล้องเอาจริงๆมันเป็นเหมือนเอกลักษณ์ของค่ายนี้ไปแล้วครับ ตัวกล้องมีทั้งหน้าหลังวางคนละฝั่งกันครับและมีไมค์ด้านหน้าหลังบนมาให้ครบๆเลยและปุ่มต่างๆวางเหมือนกับรุ่น 7 , 8 ก่อนหน้าทั้งหมดเลยทำให้ไม่ต้องปรับตัวอะไรเยอะสำหรับใครที่เคยใช้งานกันมาด้วย
ในด้านหน้าหลังนั้นจะเห็นเลยว่ากล้องนั้นมีมาให้ทั้ง 2 ฝั่งครับในด้านหลังนั้นจะเป็นหน้าจอ ระบบสัมผัสซึ่งมีขนาดกลางๆกำลังดีครับแต่ระบบสัมผัสอาจจะไม่ได้ไวติดนิ้วเท่าไรอันนี้แอบบ่นนิดหน่อย ส่วน ตัวกล้องจะนูนออกมาแบบเลนส์เพียวๆเลย รวมถึง จะเห็นตัวไมค์ Shotgun ที่ให้มาทั้งด้านหน้าและหลังสามารถใช้งานได้เต็มที่ ระบบเสียงดีมากๆ ส่วนในด้านหน้านั้นจะเป็นโลโก้แบนูนๆครับ บอดี้เป็นยางกันกระแทกทั้งเครื่องและทนทานต่อรอยได้ดีมากๆ
ในขอบเครื่องด้านบนนั้นจะเป็นตัวปุ่มสำหรับกดถ่าย วีดีโอ ถ่ายภาพครับ และจะเห็นมีการใส่ไมค์เข้ามาให้อีกด้วยในด้านบนครับ ก็เรียกได้ว่าไมค์นั้นรองรับทั้ง 3 ด้านหลักๆเลย และ ยังมีในส่วนของด้านข้างอีกด้วยครับ ส่วนในด้านล่างฐานเครื่องนั้นจะเป็นจุดออกแบบพิเศษที่ใส่เข้ามาในปีนี้คือเป็นตัวขายึดกับไม้ หรือ อุปกรณ์ต่างๆในตัวเลยไม่ต้องไปใส่เคสแยกแบบแต่ก่อนแล้ว อีกทั้งยังเป็นแม่เหล็กดูดติดกันได้ดี สามารถวางได้ยึดได้แน่ๆเลยครับไม่ต้องห่วงเลย
ในส่วนของด้านซ้ายนั้นจะเป็นชื่อรุ่นเขียนว่า MAX และ จะเห็นว่ามีช่องไมค์อีกตัวที่แบบเดียวกันด้านหน้าและหลังครับ ซึ่งไมค์ทั้งหมดจะเป็น 6 ตัว ถือว่าเยอะมากๆและตัดเสียงเก็บเสียงได้ดีเลย ทางด้านปุ่มเปิดปิดก็อยู่ทางฝั่งนี้ครับเหมือนรุ่นอื่นๆ ในด้านของอีกข้างนั้นจะเห็นว่าเป็นฝาเปิดปิดแบบใหม่ที่มีความแน่นหนากว่าเดิม และ มีซีลยางกันน้ำอย่างดี จะเห็นว่าแบตยังเป็นแบบดึงออกมาแบบเดิมครับรวมถึง มีช่อง Micro-sd และ USB-C มาให้ใช้งาน
ทางด้านขาจับแบบเล็กๆนั้นก็รองรับการใช้งานได้ดีระดับนึง แต่แนะนำว่าใครชอบถ่าย 360 นั้นควรจะหาไม้สูงๆยาวๆมาใช้งานจะทำให้ไม่เห็นตัวไม้เลยเหมือนกับการถ่ายด้วย Drone ได้เลยครับ จะสวยกว่ามาก และตัวขาตั้งเล็กอันนี้รองรับการยืดได้ระดับนึงสูงสุดแบบในภาพเลย และสามารถกางขาออกมาตั้งวางได้ หรือจะถือ Selfies ได้เลย
SPEC
- HERO + 360 Capture Modes
- Max HyperSmooth
- In-Camera Horizon Leveling
- Max TimeWarp รองรับการถ่ายแบบ 360 องศา
- เลือกเลนส์ถ่ายวิดีโอได้ 4 แบบ มีโหมด Max SuperView เพิ่มเข้ามา ออกแบบให้เก็บภาพได้กว้างเป็นพิเศษ
- PowerPano รองรับการถ่ายภาพ Panorama ความกว้าง 270 องศาไม่เกิดการบิดเบี้ยวของภาพ
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด 5.6K 30 เฟรมต่อวินาที ได้วิดีโอ 360 องศา, แบบ 1440p 60 เฟรมต่อวินาที หรือ 1080p 60 เฟรมต่อวินาที แบบรุ่น HERO
- ภาพนิ่งในโหมดรุ่น HERO จะได้ความละเอียด 5.5 ล้านพิกเซล, PowerPano ได้ภาพความละเอียด 6.2 ล้านพิกเซล
- ติดตั้งไมค์ไว้ 6 ตัวเพื่อเก็บเสียงได้ 360 องศา แบ่งทิศทางของเสียงเมื่ออัดคลิป
- ตัดต่อคลิปในแอพ GoPro ได้เลย
- Reframe คลิป 360 องศา
- Live stream ความละเอียด 1080p ทำงานกับระบบ HyperSmooth
- รองรับการสั่งงานด้วยเสียง 12 คำสั่ง 15 ภาษา
- มีระบบ GPS เพื่อจับความเร็ว, ระยะทางและความสูง และเพิ่มเป็นรายละเอียดในวิดีโอได้ด้วยแอพของ GoPro
- Scene Detection ตัวกล้องตรวจจับฉากด้วยตัวเองว่าสภาพแวดล้อมที่เราอยู่เป็นแบบใด
- กันน้ำลึก 5 เมตร
- บันทึกภาพและวิดีโอเก็บเข้าไปใน GoPro PLUS ระบบ Cloud ของ GoPro โดยอัตโนมัติ
SOFTWARE
ทางด้าน Software นั้นอาจจะเป็นจุดเด่นหลักๆเลยก็ว่าได้ของทาง Gopro ในครั้งนี้และยิ่งตัว Reframe นั้นคือการทำให้การถ่าย 360 องศาไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดและทุกคนเข้าถึงได้ง่าย สามารถดูได้แบบคลิปทั่วไปเลยนั้นเองไม่ต้องมานั่งหมุนแต่เราสามารถหมุนได้เลยและเซฟเป็นมุมๆแบบที่เหมือนกับการหมุนกล้องแต่จริงๆแล้วนั้นเราแค่ถือเฉยๆเลย ถือว่าล้ำมากๆ และ สามารถตัดต่ออะไรเรียบร้อยจากตัวกล้องได้เลย ซึ่งคลิปทั้งหมดในรีวิวจะตัดต่อบนมือถือทั้งหมด ไม่มีการตัดต่อภาพจาก Gopro บนคอมเลยนะครับเอาไปแค่ใส่ Intro ของช่องเราเท่านั้นเอง !
GOPRO APP ก็ดาวน์โหลดกันได้เลยครับตาม App Store Play Store ของแต่ละค่ายเมื่อโหลดเสร็จแล้วก็เชื่อมต่ออะไรได้ปกติเลยสามารถตั้งชื่อ ตั้งค่าอะไรได้สบายๆครับ เมื่อเข้ามาก็เป็น 4 หน้าหลักๆในการทำงาน เป็นส่วนของการควบคุมกล้อง การดูมีเดีย และการตัดต่อหรือมีเดียที่เซฟไว้ครับ และต่อไปเป็นหน้าตั้งค่าของตัวแอป
สามารถควบคุมกล้องผ่านมือถือ หรือจะเป็นการ Live Streaming FHD ลง Facebook – Youtube ได้เลยครับและสามารถใช้งานตัวกล้องในการตั้งค่า วีดีโอภาพนิ่ง ข้อมูลต่างๆของตัวกล้องได้โหมดถ่ายรูปเป็นต้นครับทำได้หลากหลายพอสมควรและปรับแต่งตั้งค่าได้ละเอียดมากๆครับในการใช้งานกล้องทั้งหมดที่คุมผ่านตัวมือถือ
ตัว Reframe นั้นแนะนำว่าให้เราโหลดทั้งหมดมาลงบนมือถือก่อนครับและค่อนจัดการ ไฟล์ที่ได้จะดีกว่าและไม่หน่วงไม่หลุดครับ ซึ่งการทำงานมันก็แค่เข้าไปแก้ไข คลิปของเราและแตะในส่วนของ Reframe ได้เลยและก็จะทำงานได้ง่ายๆครับอย่างแรกคือไฟล์ที่เราได้นั้นจะเป็นแบบ 360 องศาเราสามารถหมุนไปมาได้ซูมเข้าออกได้เลย และจากนั้นถ้าเราซูมเข้าออกได้แล้วก็กด เซฟมุมนั้นแค่นั้นเลย จากนั้นเลื่อนแถบเวลาว่า วินาทีต่อไปเราจะให้กล้องหมุนไปมุมไหนของภาพ จากนั้นก็เซฟมุมนั้น เมื่อเรากดเล่นมันก็จะเป็นการเปลี่ยนมุมจาก มุมแรกเป็นมุมที่ 2 แบบเนียนๆแบบแพนกล้องไปเลยโดยที่เราแค่ถือกล้องไว้เฉยๆ มันคือการเลือกมุมในแต่ละนาทีของเรานั้นเอง สามารถตั้งได้หมดเลยจะเอามุมไหน นาทีที่เราเปลี่ยนมุมบ่อยแค่ไหนก็แล้วแต่เราเลยนั้นเองต้องบอกเลยว่าเป็นส่วนที่ดีที่สุดของรุ่นนี้และตัวนี้เลย !
และสามารถตัดต่อได้เลยผ่านในตัวแอพที่มีทั้งตัวเพลง Effect โทนสีของตัวกล้อง ใส่ตัวอักษร และตัดต่อแทรกคลิปอะไรได้ง่ายมากๆแนะนำให้ลองเล่นกันค่อนข้างสะดวกและตัดลงคลิปได้ไวมากๆ อีกทั้งยังรองรับการแชร์เข้า Social Media ต่างๆได้เลยโดยตรงครับ ส่วนในเรื่องของความละเอียดก็ทำได้ดี ไม่ได้ถูกลดทอนลงไปมากเท่าไรครับในตัวนี้
FEATURE
REFRAME
GOPRO MAX นั้นต้องบอกว่าเป็นรุ่นแรกที่สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้และมันเหมาะสำหรับกล้อง 360 องศาจริงๆทำให้การถ่ายนั้นถ่ายก่อนเลือกมุมทีหลังได้เลยว่าจะกันไปทางไหน ซูมเข้าตรงไหน หมนไปทางไปได้หมดโดยที่เราแค่อยู่เฉยๆหรือตั้งกล้องนิ่งได้เลยไม่ต้องหมุนไปมา อีกทั้งการถ่ายภาพนิ่งก็รองรับได้หลากหลายโหมดมากๆ มุมมองเหมือน GoPro Hero 8 Black ได้ทั้งหมดคือ Superview, Wide, Linear, Narrow อีกทั้งยังมีมุมแบบ 360 องศาด้วย
MAX HYPER SMOOTH
เป็นกันสั่นเทพที่ต่อยอดมาจาก Hyper Smooth เดิมครับแต่ครั้งนี้ระบบกันสั่นจะเทพแบบตัว 8 เลยคือชื่อ Hyper Smooth 2.0 แต่พอมาอยู่ในรุ่น MAX นั้นจะเปลี่ยนชื่อเป็น MAX Hyper smooth ซึ่งทำงานเหมือนกันแต่จะเป็นการกันสั่นแบบ 360 องศานั้นเองครับทำให้การถ่ายแบบ 360 องศาก็นิ่งขึ้นไปอีกระดับนึงเลยแหละ
TIMEWARP
นั้นจะเป็นการถ่ายแบบเร่งความเร็ว ซึ่งจะเป็น Timewarp แบบ 360 องศาข้อดีของมันคือสามารถเร่งความเร็วและหมุนไปรอบๆได้เลยทำให้เราได้มุมมองแปลกๆในการถ่ายและรองรับการ Reframe ได้ด้วยนั้นเอง ถือว่าค่อนข้างโหดมากๆเลยเพราะมันเปิดมุมมองใหม่ๆของตัวกล้องและสถานที่ที่เราไปได้ดีมากๆเลย
GOPRO MAX มาพร้อมกับฟีเจอร์ ล็อคเส้นขอบฟ้ามันดียังไงมาดูคลิปกันเลยครับ !! หมุนยังไงก็ไม่เอียง !ฟีเจอร์นี้มันจะทำงานให้เราสามารถถือยังไงเส้นขอบฟ้าก็ตรงคือจะเอียงจะหมุนยังไงภาพในวีดีโอก็นิ่งและไม่หมุนตามครับ ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่โหดมากๆในรุ่นนี้ และ ในรุ่น Hero 8 Black นั้นก็สามารถใช้งานได้ด้วยแต่ต้องไปเปิดแก้ไขในมือถือครับ แต่ของ Gopro Max สามารถเปิดในตัวได้เลย !! #Gopro #Gopro8 #GoproMax
โพสต์โดย TechHangout เมื่อ วันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2019
HORIZON LEVELING
นั้นจะเป็นระบบที่จะล็อคเส้นขอบฟ้าไว้ครับทำให้เราสามารถหมุนกล้องโดยที่ภาพไม่หมุนตาม คือจะสั่นแรงแค่ไหนภาพก็ไม่สะเทือนเลยง่ายๆมันสามารถกดเปิดปิดในตัวกล้องได้เลยครับเป็นฟีเจอร์ที่โหดมากๆจริงๆ แต่จะรองรับแค่การถ่ายแบบ Hero Mode เท่านั้นมันเป็นเหมือนการครอปภาพนั้นเองทำให้เราหมุนแบบ 360 องศาแต่ภาพที่ได้ก็จะนิ่งตรงๆไม่มีการหมุนตามครับ จะเห็นได้จากคลิปข้างบนเลยว่าเราหมุนขนาดไหน แต่ภาพที่ได้ก็นิ่งๆเลย
VIDEO
ทางด้านงานวิดีโอนั้น GoPro Max นั้นจะมีความละเอียดที่ 5.6K ต้องเป็นโหมด 360 องศา เท่านั้น ซึ่งไม่สามารถปรับได้มากกว่านี้ครับ แต่ถ้าเป็นมุมกล้องแบบ GoPro Hero 8 Black หรือมุมมองแบบกล้องแค่ด้านเดียวนั้นจะโดนลดความละเอียดลงมาสูงสุดจะอยู่ที่ 2.7K เฟรมเรต 60fps และ Full HD 60fps เท่านั้นครับจะไม่รองรับการถ่าย 4K อันนี้แอบเสียดายจริงๆและเรื่องของคุณภาพนั้นอาจจะไม่ได้โหดเท่าตัว 8 นั้นเอง แต่ได้มุมมองแปลกๆมาแทน ส่วนกันสั่นอะไรเทพไม่แตกต่างกันเลย โดยในคลิปที่เอามาให้ชมนั้นจะเป็นคลิปที่ถ่ายและตัดต่อจากมือถือผ่านแอพ Gopro ทั้งหมดครับลองในหลายๆฟีเจอร์ผสมกันไปทั้ง Timewarp / Reframe / Hero Mode เป็นต้น
PHOTO
ในเรื่องของการถ่ายภาพนิ่งนั้นต้องบอกว่าในรุ่นนี้นั้นอาจจะไม่ได้โหดมากเท่าไรทั้งในเรื่องของคุณภาพและฟีเจอร์ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับทาง Gopro 8 ซึ่งตัวนั้นคุณภาพนั้นจะทำได้ดีกว่าพอสมควรครับ เช่นฟีเจอร์ HDR – SUPER PHOTO ในรุ่นนี้จะไม่มีมาให้เลยนั้นเอง รวมถึงตัวคุณภาพของภาพถ่ายนั้นแตกต่างกันแบบชัดเจนครับ ถ้าใครเน้นภาพนิ่งนั้นต้องบอกว่าไปทาง Gopro 8 จะทำได้ดีกว่าพอสมควรเลย แต่ทาง Max นั้นจะเด่นตรงภาพมุมกว้าง และ Power Pano ที่ทำให้ภาพถ่ายนั้นรองรับการถ่ายแบบพาโนรามาโดยที่ไม่มีภาพซ้อนเลย ถือว่าเด่นเลยแหละในโหมดนี้ครับ และกดถ่ายได้ไวไม่ต้องรอประมวลผลนานเท่าไรเลยครับ มาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันเลยในหลายๆโหมด ภาพนิ่ง HERO จะได้ความละเอียด 5.5 ล้านพิกเซล, PowerPano ได้ภาพความละเอียด 6.2 ล้านพิกเซล
HERO MODE
360 PHOTO กดเปิดดูบทความใน Chrome จะสามารถหมุนภาพได้นะครับ
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
โพสต์โดย Pipatpanichkul Jakchalat เมื่อ วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2019
POWER PANORAMA
360 ปรับมุมภาพในแอปเป็นภาพนิ่ง
GOPRO MAX
“Action CAM 360 องศาที่ลงตัวที่สุด ทำให้การถ่าย 360 องศานั้นสนุกและใช้งานได้จริง !”
ACTION CAMERA ที่ทำได้ดีมากที่สุดในตอนนี้แล้วครับทั้งเรื่องของไมค์ ฟีเจอร์ กันสั่น รวมถึงการใส่อะไรเข้ามาเยอะแยะมาก ฟีเจอร์ Reframe และ ตัว Horizon Leveling นั้นคือเทพโคตรจริงๆครับ อันนี้ยอมรับเลยว่าใช้เลนส์มุมกว้างได้เป็นประโยชน์มากที่สุดแล้ว รวมถึงไมค์อัดเสียงนั้นทำได้ชัดและดีมากจริงๆเสียงคมชัดมากแม้จะลมแรงๆครับ ต้องบอกว่าเป็นการพัฒนาที่ดีขึ้นเรื่อยๆสำหรับตัวนี้ แต่เรื่องแบตนั้นยังคงหมดไวเหมือนเดิมใช้งานได้พอๆกับรุ่นเดิมเลยนั้นเองอันนี้แอบเสียดายถ่ายไปครึ่งวันก็หมดๆแล้วจากที่ไปลองกันมาครับ ถือว่าฉลาดในการพัฒนาฟีเจอร์ทำให้คนทั่วไปสนุกและถ่ายได้ง่ายขึ้นเอาไปลง Social หรือใช้งานได้จริงจังมากกว่าเดิมเยอะครับสำหรับกล้อง 360 องศา ซึ่งถ้ารุ่นนี้ไม่มีฟีเจอร์ Reframe นั้นความอยากได้อาจจะหายไปเยอะ หรือพวกการรองรับการถ่ายพวกนี้คือหัวใจสำคัญของรุ่นนี้เลยครับ และคุณภาพงานประกอบ วัสดุอะไรก็พัฒนาดีขึ้น มาในราคาที่น่ารักกว่าเดิมพอสมควร
ข้อดี
- คุณภาพงานประกอบวัสดุทำได้แข็งแรงและทนทาน
- ตัวกล้องรองรับการถ่ายที่หลากหลายมุมมากขึ้น
- ระบบกันสั่นทำได้ดี
- ระบบเสียงทำได้ดี เก็บเสียงได้ชัดเจน
- Gopro App คือส่วนที่ดีมากๆ รวมถึงฟีเจอร์ในแอป
- Reframe คือจุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้
- การถ่าย 360 องศาคุณภาพทำได้ดี
- สามารถกันน้ำได้ 5 เมตรแบบไม่ใส่เคสเสริม
- การควบคุมปรับตัวไม่ยากจากรุ่นปกติ
ข้อสังเกต
- แบตยังคงใช้งานได้ไม่นานเหมือนกับรุ่นก่อนๆครับ
- ตัวเลนส์นูนทำให้ต้องระวัง และ ฝาครอบอาจจะทำให้คุณภาพดรอปลง
- การถ่ายแบบมุมธรรมดายังสู้ตัว 8 ไม่ได้ ทั้งภาพนิ่ง และ วิดีโอ
- หน้าจอสัมผัสยังหน่วงกว่าตัว 8 พอสมควร
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr