อ้างอิงจากสถิติในไตรมาสที่ผ่านมา ปริมาณการผลิตสมาร์ทโฟนทั่วโลกเติบโตขึ้นถึง 9.2% โดยผู้ที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดก็คือ Samsung ที่มีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน 20.8% ด้วยตัวเลขที่มากขนาดนี้ ทำให้แบรนด์สัญชาติเกาหลีใต้สามารถรักษาความเป็นหนึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนเอาไว้ได้
โดยหากพิจารณาในด้านปริมาณแล้ว Samsung ผลิตสมาร์ทโฟนในไตรมาสที่ 3 ไปเป็นจำนวนกว่า 78.1 ล้านเครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 7.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ส่วน Huawei ในไตรมาสที่ 3 ได้ผลิตปริมาณสมาร์ทโฟนไปแล้วกว่า 67.5 ล้านเครื่อง ซึ่งเติบโตขึ้น 13.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ Huawei มีถึง 18%
ทางด้านของ Apple ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยปริมาณการผลิตสมาร์ทโฟนกว่า 46.7 ล้านเครื่อง ทำให้ครอบครองส่วนแบ่งตลาด 12.4% แต่สิ่งที่น่าสนใจคือในไตรมาสนี้เป็นช่วงเวลาที่ iPhone 11 ถูกวางขายพอดี ทำให้ปริมาณการผลิตสมาร์ทโฟนของ Apple นั้นเพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามากที่สุดในบรรดาแบรนด์สมาร์ทโฟนทั้งหมด
โดยรวมแล้วมีการผลิตสมาร์ทโฟนไปทั้งสิ้นเป็นจำนวนกว่า 375.2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 3 แต่ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เมื่อพิจารณาจากความต้องการของตลาดแล้วเป็นที่คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตสมาร์ทโฟนโดยรวมจะลดลงเหลือ 368.4 ล้านเครื่อง ซึ่งการลดลงนี้จะเกิดจากการลดลงของปริมาณการผลิตจากทุก ๆ แบรนด์ยกเว้น Apple
ด้วยเหตุนี้นักวิเคราะห์จึงคาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Apple สามารถแซงหน้า Huawei กลับขึ้นสู่อันดับ 2 ในตลาดสมาร์ทโฟนได้ โดยมีการคาดการณ์ว่า Apple จะผลิตสมาร์ทโฟนถึง 69 ล้านเครื่องหลังจบไตรมาสสุดท้ายของปีนี้นั่นเอง