Uncut Gems เป็นหนังที่ต้องบอกว่าน่าจับตามองเพราะว่าเป็นการพลิกบท จากดาราสายฮามาเป็นสายจริงจัง เดือดๆแบบนี้จากตัว อดัม แซนด์เลอร์ เองต้องบอกว่าน่าจับตามองและหลายๆคนก็ชื่นชมการแสดงครั้งนี้เลยแหละไม่ใช่หนังทีจะแสดงดราม่าอะไรเยอะแต่การเข้าถึงตัวละครมันได้จริงๆ ส่วนเรื่องนี้ก็เป็นหนังคุณภาพจาก Netflix อีกแล้วครับที่ได้ ผกก ทั้ง 2 คนจาก Good time คือ พี่น้อง Safdie นั้นเองครับ ซึ่งเป็นผกก สายรางวัล อินดี้หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไรนักครับ ถือว่าไม่เลวสำหรับการกำกับหนังครั้งนี้ และได้ดาราสาย ฮาที่พลิกบทบาทครั้งใหญ่และทำได้น่าประทับใจจริงๆ ตัวหนังเล่าเรื่องถึง นักค้าอัญมณี ที่มีวิธีรวยลัดๆ และ มีแต่ปัญหาเรื่องราวเข้ามาแบบไม่หยุด จนเราต้องลุ้นไป เอาใจช่วยและสถาการณ์แต่ละอย่างมันน่าอึดอัดมากๆและบทพูดรัวแบบจัดเต็มทั้งเรื่อง ถ้าใครไม่ชอบหนังอะไรแบบนี้บอกเลยว่าอย่าดูครับ บทพูดทั้งเรื่องและเล่นกับอารมณ์ของเราของตัวละครได้หนักแน่น
ทางด้านเนื้อเรื่องนั้นเอาจริงๆค่อนข้างชอบการเล่าเรื่องในแต่ละฉากที่เล่าเรื่องแบบทั่วไปให้มันน่าลุ้น น่าอึดอัดเอาใจช่วยกับตัวละครได้ดี รวมถึงการตัดต่อเล่าเรื่องที่ทำให้เราสามารถลุ้นไปกับฉากนั้นๆได้และอึดอัดจริงๆ ในส่วนของบทพูดเรื่องนี้จัดเต็มแบบรัวมากๆ ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงหนังจาก เควนตินแต่พูดเยอะกว่าแน่นกว่า แต่ในแง่ของความก้าวหน้าของเรื่องราวมันกลับไม่ได้ดำเนินไปไกลมากแม้จะพูดเยอะจุดนี้แหละแอบเสียดายเล็กน้อยครับ เลยทำให้ในหลายๆจุดที่มันน่าจะพีคกว่านี้ หรือเฉือนคมกันได้มากกว่านี้แต่ก็ไม่ได้ไปถึงจึดนั้นเลย เลยกลายเป็นพูดกันแบบน้ำๆเยอะมากกว่า แต่การพูดแต่ละฉากมันอึดอัดและยังคงเอาใจช่วยกับตัวละครได้ดีครับถ้าในแง่ของอารมณ์ของหนัง ส่วนการสรุปบทตอนจบอะไรก็ถือว่าเหนือความคาดหมายมากๆไม่คิดว่าจะจบอะไรแบบนี้ก็ถือว่าเป็นจุดที่ทำได้ดีอยู่
ทางด้านนักแสดงต้องบอกว่าทำได้ดีเลยแหละยิ่งตัว Adam Sandler ที่ต้องบอกว่าพลิกบทบาทครั้งใหญ่จริงๆเพราะเรารู้จักกันดีในแง่ของ นักแสดงสายฮา และครั้งนี้คือมาแบบสายเครียดเข้มๆ ก็ทำได้ดีมากจริงๆจนหลายคนอยากให้ได้รางวัลกันเยอะแยะมากแน่นอนว่าอาจจะไม่ได้บทที่เน้น ดราม่าหนัก แอคติ้งเยอะแต่เป็นการเข้าถึงตัวละครได้ดีมากกว่าครับ ตัวนักแสดงคือจุดพีคของหนังที่ทำให้เราลุ้นไปกับตัวละครจนเอาใจช่วยในหลายๆฉากได้เลย การรัวบทพูดที่เยอะมากๆใส่กันทำให้เราแบบอึดอัดมันจะทำอะไรต่อจากนี้ยังไงเป็นต้น และนักแสดงที่เข้ามาร่วม จูเลีย ฟ็อกซ์ ก็ต้องบอกว่าเป็นอีกจุดที่เสริมการแสดง เล่าเรื่องได้ดีเช่นกันครับ ส่วนในหนังก็มีนักบาส เควิน การ์เน็ต และ นักร้อง The Weekend มาร่วมแจมด้วย แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้หลักๆคือการแสดงของ อดัม ที่พีคมากจริงๆ แต่ถ้ามองในแง่ชิงรางวัลแล้วนั้นอาจจะยังไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น แต่การพลิกบทบาทแบบนี้และมาถึงได้ขนาดนี้ต้องยอมรับอย่างมากครับ
งานภาพการตัดต่อนั้นต้องบอกว่าเป็นจุดที่ช่วยให้ฉากธรรมดาๆนั้นกลายเป็นฉากที่น่าตื่นเต้นได้แบบคาดไม่ถึงครับทั้งการตัดต่อ มุมกล้องการเล่นกับอารมณ์นั้นทำได้ดีเลยแหละ ส่วนงานภาพโทนอะไรนั้นอาจจะธรรมดาครับไม่ได้เน้นในจุดนี้จะเป็นด้านมุมกล้อง การตัดต่อแต่ละฉากซะมากกว่าครับ และอีกจุดที่จะช่วยงานภาพด้วยก็คืองานเสียง ซาวนด์ที่ร่วมกดดันหนังได้ดีอีกจุดครับถ้าไม่มี งานภาพ เสียงมาช่วยในฉากแบบนั้นอาจจะเป็นแค่ฉากธรรมดาๆไปเลย และยิ่งตอนท้ายให้ความรู้สึกกดดันและลุ้นมากจริงๆ ดูแล้วอึดอัดพอสมควรเลย
ต้องบอกว่าเป็นหนังค่อนข้างเฉพาะแนวจริงๆใครที่ไม่ชอบหนัง อึดอัด หรือ การพูดรัวๆมีแต่บทพูดใส่กันพวกนี้แนะนำให้ข้ามเลยเพราะดูไม่จบแน่นอน และปิดก่อนได้เลย รวมถึงการเล่าเรื่องที่ต้องใช้เวลากว่าจะถึงจุดที่น่าติดตามอาจจะนานไปหน่อยครับเลยทำให้หลายๆคนปิดก่อนก็ได้ แน่นอนว่าหนังรวมๆนั้นดี แต่ก็ยังไม่ได้เฉือนคม พีคหรือพลิกอะไรกันมาก ยกเว้นตอนจบแค่นั้นจริงๆมันน่าจะได้สุดกว่านี้ในหลายๆอย่างและถ้ามันได้สุดกว่านี้ไม่แน่อาจจะได้รางวัลหรือเข้าชิงกันมากกว่านี้แน่นอนครับ แต่ต้องชมนักแสดงหลักว่าเป็นการพลิกบทครั้งใหญ่ของชีวิตเค้าเลยและทำได้ประทับใจจริงๆ งานภาพเสียงช่วยดันสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น ถ้าใครชอบหนังแบบเข้มข้น อึดอัด พูดรัวๆใส่กันแนะนำเลยครับ