realme นั้นเรียกได้ว่าเปิดตัวกันบ่อยพอสมควรและในการเปิดตัวแต่ละครั้งก็เสริมเข้ามาทั้งในเรื่องของช่องว่างทางการตลาดและราคาได้ดีรวมถึงสเปคที่ให้มานั้นเมื่อเทียบกับเรทราคาใกล้ๆกัน ต้องบอกว่าค่อนข้างจัดเต็มอย่างมากและทำได้คุ้มราคาเป็นจุดเด่นหลักๆของแบรนด์นี้และการเติบโตที่มากขึ้นเรื่อยๆของแบรนด์นี้ก็เป็นผลจากพวกนี้นั้นเองครับ ในตลาดทั่วโลกต้องยอมรับเลยว่าแบรนด์นี้โตไวมาก และเติบโตเยอะขึ้นมากๆครับในการทำตลาดที่เก่งพอสมควรเลย และในครั้งนี้ realme ได้เปิดตัว realme 6 Pro และ realme 6 ไปแล้วในต่างประเทศครับแน่นอนว่าเด่นๆเลยคือเรื่องของ หน้าจอ 90 Hz การชาร์จไว หน้าจอแบบเจาะรู กล้องหน้ามุมกว้าง กล้อง 64MP ที่ทำราคาได้ไม่ถึงหมื่นต้องบอกเลยว่าน่าสนใจครับ ครั้งนี้เรามาอยู่กับทาง realme 6 Pro ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองกันไปเต็มๆแล้วมันจะน่าสนใจ หรือน่าเล่นมากกว่ารุ่นเดิมมากน้อยแค่ไหน หรือคนใช้ 5 Pro นั้นจะสมควรอัพไหมมาชมกันเลย
realme 6 Pro นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่กว่าและได้ใช้งาน CPU Snapdragon นั้นเองครับ รุ่น Pro จะมีหน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz และความถี่ตอบสนองการสัมผัสหน้าจอ 120Hz มันมีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.60% นอกจากนี้มันยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปเซต 720G 8nm อีกด้วย สำหรับกล้องหลังของมันมี 4 ตัวเช่นกันประกอบด้วยเลนส์ 64MP + เลนส์กว้าง 8MP + เลนส์เทเล 12MP + เลนส์มาโคร 2MP ส่วนกล้องหน้าคู่ของมันจะเป็นแบบเจาะรูที่มีประกอบด้วยเลนส์ 16MP + เลนส์กว้าง 8MP และมาพร้อมกับ แบต 4300 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 30W ไวมากๆ รวมถึงสแกนนิ้วมาให้ตรงขอบเครื่อง ที่ ระยะเวลาในการใช้งานค่อนข้างไว อีกทั้งมาพร้อมกับ สีใหม่ที่เป็นลวดลายสายฟ้า และ โหมดต่างๆที่แทรกเสริมเข้ามาครับในทั้งกล้อง วีดีโอ ระบบ หน้าจอถือว่าเป็นครั้งที่จัดเต็มอีกครั้งของทาง realme
ทางด้านราคานั้น มาพร้อมกับสเปค RAM 8/128GB เปิดราคา 10,990 บาทครับผม และมาในสี สายฟ้า Lightning Blue และ Lightning Red
UNBOX
สำหรับตัวกล่องนั้นยังคงมีการออกแบบสีเหลืองเช่นเดิมพร้อมกับตัวเลขทางด้านบนแน่นอนว่ามีเลขพร้อมบอกรุ่นแต่จะไม่ได้มีรูปตัวเครื่องอะไรมาครับ ส่วนทางด้านอุปกรณ์ในกล่องนั้นยังไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมจากรุ่นก่อนๆเท่าไรนั้นเอง
- ตัวเครื่อง
- เคสใส TPU
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
- ที่ชาร์จ 30W
- สายชาร์จ USB-A ไป USB-C
- ฟิล์มกันรอยติดมาให้แล้ว
มาที่ตัวเคสถือว่า มีความหนาเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าแต่ครั้งนี้เหมือนจะทำวัสดุออกมาได้ดีกว่าเดิมนิดนึงครับตัวเคสเป็นสีเทาๆเข้มๆเล็กน้อยใส่แล้วฝาหลังสะท้อนน้อยลงไปแบบชัดเจน แต่ชอบที่มันปกป้องเครื่องได้ดีมากๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป จะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ ซึ่งเคสปกติทั้วไปจะไม่มีมุมพิเศษขึ้นมาแบบนี้อันนี้ถือว่าออกแบบมาได้ดีมากๆ เหมือนเคสแถมเรือธงค่ายอื่นๆเลยแหละ และเป็นการออกแบบเดียวกันกับ realme 5 Pro รุ่นก่อนนู้นเลยนั้นเองครับที่จะปกป้องได้ค่อนข้างดีและตัวเคสอะไรนั้นจะเป็นแบบเดียวกันเลย
DESIGN
ทางด้านงานออกแบบ ในรุ่น 6 Pro นั้นจริงๆในตอนสัมผัสครั้งแรกเลยแอบรู้สึกความแน่นพรีเมี่ยมมากกว่าเดิมแบบชัดเจนครับทั้งขนาด ความโค้งงานประกอบฝาหลังพวกนี้รู้สึกว่าแน่นดี ไม่แปลกๆแบบรุ่นแรกๆหรือรุ่นก่อนหน้าครับแน่นอนว่าการวางกล้องหลังอะไรยังคงอิงแบบเดิมมาตั้งแต่รุ่นก่อนยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบอะไรเท่าไรนัก แต่ที่เด่นๆคือฝาหลังลายสายฟ้าฝาดครับ แน่นอนว่าเอาจริงๆตอนเห็นรูปเรนเดอร์คิดว่ามันจะเส้นแบบชัดเจน จนแปลกๆไปเลย แต่พอของจริงเออฝาหลังมันดูเนียนตาดูดีกว่ารูปเรนเดอร์เยอะ ไม่ลิเกแบบเส้นสายฟ้าชัดเจนมากครับ
ทางด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว มาพร้อมการเจาะรูมุมซ้ายบน 2 กล้องครับและเป็นความละเอียดแบบ Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ที่เป็นครั้งแรกของเรทราคานี้เลย และ ความสว่าง 480 nits
ทางด้านกล้องหน้าด้านบนนั้นจะเป็นแบบเจาะรูแล้วแต่มาพร้อม 2 กล้องเลยใหญ่หน่อยครับ เพราะรุ่นนี้กล้องหน้ากว้างมากๆ ใส่เข้ามาด้วยเก็บภาพได้หมดเลย ส่วนพวกเซนเซอร์ลำโพงอะไรก็แทรกตรงขอบหน้าจอข้างบนแบบเดิมเลย
ทางด้านขอบล่างนั้นจะยังคงมีความหนาตามเรทราคาของมันอยู่ครับพอรับได้ไม่ได้เยอะหรือน่าเกลียดอะไร ส่วนการควบคุมนั้นยังคงใช้งานแบบ 3 ปุ่มหรือใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้นั้นเอง จะเห็นว่ามีฟิล์มปกติติดมาให้แล้วด้วยครับ
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเราจะเห็นว่ากล้องแอบนูนขึ้นมาเยอะพอสมควร และฝาหลังมีความโค้งรับได้ดีครับแน่นอนว่า รุ่นนี้ยังคงมีไมค์ตัดเสียง อัดเสียงมาให้ในด้านบนครับ และวัสดุรอบๆเป็นพลาสติกเงาสีดำเงาไม่มีส่วนเว้าอะไรครับ
มาที่ด้านขวากันเลยจุดนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆของรุ่นนี้คือในแง่ของการสแกนนิ้วจากด้านหลังมาสู่ด้านข้างนั้นเองครับเพราะ ไม่ได้ใช้งานสแกนนิ้วบนหน้าจอเลยมาใช้งานด้านข้างแทน ส่วนปุ่มอื่นๆก็ไม่มีอะไรเลยครับ เพราะ Power ได้รวมไปกับตัวสแกนนิ้วแล้วนั้นเอง
ทางด้านซ้ายนั้นจะเป็นที่อยู่ของถาดซิมแบบ Triple Slot และรองรับ Micro-SD ครับแน่นอนว่าปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงยังคงอยู่ในด้านนี้ และเป็นวัสดุแบบเดียวกันทั้งหมด สีดำเงาไม่ได้มีลวดลายหรือไล่สีอะไรแบบตัวอื่นๆเน้นเรียบๆเลยครับ
ส่วนขอบเครื่องในด้านล่างนั้นจะเห็นว่ามีการออกแบบที่อิงการวางตำแหน่งอะไรที่คุ้นเคยกันดีครับ ตรงกลางเป็นUSB-C พร้อมกับ ลำโพง และ มีรูไมค์มาให้ ส่วนทางด้านรู 3.5 มม. นั้นยังคงมีมาให้อยู่ไม่ได้ตัดไปไหนครับ
ฝาหลังกันหน่อยต้องบอกว่าฝาหลังครั้งนี้เล่นกับแสงมิติของแสงได้สวยงามและมีลวดลายสายฟ้าสวยงามครับ และโทนเข้มๆ เล่นกับแสงได้ดีสายฟ้าไม่ได้ชัดเจนเกินไปเหมือนแค่เป็นเว้าๆเล่นกับแสงเท่านั้นถ้าไม่มีแสงไฟส่องตรงๆครับ ส่วนถ้าเจอแสงไฟแหล่งแสงก็จะชัดเจนขึ้นครับสวยขึ้นแล้วแต่คนชอบเลย สีน้ำเงินเข้มสวยงามขอบสีดำไล่สีได้ดี ส่วนการวางโลโก้แนวนอนเช่นเดิม พร้อมกับ กล้องมุมซ้ายบนครับ ทางด้านสแกนนิ้วย้ายไปข้างๆแล้วนั้นเอง
ทางด้านกล้องหลังวางเรียงกันยาวๆ แต่ส่วนกล้องท้ายๆจะชิดกันนิดหน่อยครับ ส่วนกล้องหน้ามี 2 ตัวทำให้ภาพรวมกล้องทั้งหมดมีมากถึง 6 ตัวครับ แน่นอนว่ากล้องหลักพัฒนามาเป็น 64MP แล้ว ที่ใช้เซนเซอร์ Samsung GW1 1/1.72″, ขนาดพิกเซล 0.8μm, (f/1.8), แฟลช LED, EIS, เลนส์กว้าง 119° ความละเอียด 8MP (f/2.3), เลนส์เทเล 12MP ที่ซูมได้ถึง 20x และ เลนส์มาโคร 4cm ความละเอียด 2MP (f/2.4) ครับในตัวกล้องนี้
SPEC
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.6 นิ้ว (2400 × 1080 พิกเซล) 20:9 Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz, ความสว่าง 480 nits, 81.5% NTSC color gamut, กระจก Corning Gorilla Glass 5
- ชิปเซต Snapdragon 720G 8nm ที่ใช้การ์ดจอ Adreno 618
- RAM LPPDDR4x 6GB + storage (UFS 2.1) 64GB, RAM LPPDDR4x 6GB / 8GB + storage (UFS 2.1) 128GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้ถึง 256GB
- ซิมคู่ (nano + nano + microSD)
- Android 10 ที่ครอบด้วย realme UI 1.0
- กล้องหลัง 64MP ที่ใช้เซนเซอร์ Samsung GW1 1/1.72″, ขนาดพิกเซล 0.8μm, (f/1.8), แฟลช LED, EIS, เลนส์กว้าง 119° ความละเอียด 8MP (f/2.3), เลนส์เทเล 12MP ที่ซูมได้ถึง 20x และ เลนส์มาโคร 4cm ความละเอียด 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 16MP (f/2.1), Sony IMX1471, เลนส์กว้าง 105° ความละเอียด 8MP (f/2.2)
- ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้าง
- รูแจ็ค 3.5mm, Dolby Atmos, วิทยุ FM
- ขนาดตัวเครื่อง: 163.9×75.8×9.4mm; น้ำหนัก: 195g
- Dual 4G VoLTE, WiFi 802.11 ac (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5, Dual Frequency (L1 + L5) GPS, NavIC, USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4300mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 30W
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน CPU ตัวใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกของค่ายเลยคือ Snapdragon 720G พร้อมกับ RAM 8 GB และ หน่วยความจำเป็น UFS 128 GB ทำคะแนน Antutu ไปได้ที่ 280K ต้องบอกว่าคะแนนโหดเอาเรื่องเลยครับส่วนคะแนนการอ่านเขียน ทำไปได้ 49700 และ เขียนไป 198 ครับและ Rxmonitor ขึ้น Non-CA และ Divevine L3 อยู่นะครับในการเช็ค Netflix SD เท่านั้นครับ โดยรวมนั้นถือว่าสเปคเมื่อเทียบกับราคาต้องบอกว่าทำได้ดีครับ ทั้งตัว CPU GPU และการรองรับครับ ทางด้าน Wifi ก็รองรับ Wifi 5Ghz ด้วยเช่นกันในรุ่นนี้
SYSTEM UI
realme UI นั้นเริ่มใส่เข้ามาแล้วในหลากหลายรุ่นหลังจากที่เปิดตัวไปไม่นานครับ พัฒนาขึ้นให้มีความแตกต่างความลื่นไหลและมี อนิเมชั่นมากกว่าเดิม รวมถึงยังคงอิงความเรียบง่ายที่จะไปคล้ายๆ Pure Android มากขึ้นครับ ในรุ่นนี้ยังใช้งานบนพื้นฐาน Android 10 และใช้ realme UI 1 แล้วไม่ได้ใช้งาน Colour OS แล้วนั้นเองครับ การแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอปอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมดเป็นวงกลมแล้ว จากที่เป็นสี่เหลี่ยมก่อนหน้า การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปฟันเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่าย ดีงามเลยแหละ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 110 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 3.4 จาก 8 GB ครับ
หน้าจอถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆของตัวนี้ที่มีการปรับมาใช้งาน 90HZ ในเรทราคาไม่แพงครับ และแน่นอนว่าสามารถปรับเลือกได้ด้วยรวมถึง โหมดมืด และ ตั้งค่าสีต่างๆครับ และรวมถึงการตั้งค่าการควบคุมหลักๆนั้นสามารถปรับใช้งานแบบเต็มจอหรือจะใช้งานแบบ 3 ปุ่มปกติสลับตำแหน่งได้ด้วย รวมถึงโหมดช่วย Smart Services ก็มีมาให้เลือกเยอะทั้งในการขับขี่ รวมถึง โหมดช่วยเหลือกในด้านการขับรถก็ยังคงมีมาให้ครับในส่วนนี้
Smart Sidebar แถบหน้าจอด้านข้างก็ รองรับการแชร์ไฟล์ที่เพิ่งเปิดขึ้นได้ เพิ่มเครื่องมือหรือแอปพลิเคชัน บันทึกหน้าจอในรูปแบบวิดีโอ และ จับภาพหน้าจอ นอกจากนี้ Smart Sidebar ยังมีโฟลเดอร์การจัดการให้เพิ่มรายการโปรดเข้าไปเพื่อดูรายการโปรดได้สบาย Gesture นั้นยังมีมาให้ครบทั้งการวาด การใช้งานท่าทางต่างๆครับ
THEME
รุ่นนี้ถือว่าสามารถปรับแต่งอะไรได้เช่นเดิมครับทั้ง ตัวไอคอน ตัวฟอนต์ หรือจะเป็นธีมหลักที่รองรับการปรับแต่งได้ค่อนข้างหลากหลายอย่างมากรวมถึงตัว รูปร่างไอคอนทั้งหมดและธีมมีให้เลือกหลากหลายอย่างมากทั้งแบบสำเร็จ ที่มีแบบฟรี หรือ แบบขายก็สามารถเลือกใช้งานได้ด้วยเช่นกันครับ ก็ถือว่าเป็นอิสระในการใช้งานหน้าตาต่างๆ แน่นอนว่าในรุ่นแรกๆนั้นจะปรับแต่งไม่ได้เลยแต่ในครั้งนี้ถือว่าเลือกใช้งานได้หลากหลายขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
SCREEN
หน้าจอมาในขนาด 6.6 นิ้ว (2400 × 1080 พิกเซล) 20:9 Full HD+ ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz, ความสว่าง 480 nits, 81.5% NTSC color gamut, กระจก Corning Gorilla Glass 5 และยังคงเป็นหน้าจอแบบ IPS LCD นะครับแน่นอนว่าในเรทราคานี้ยังไม่ค่อยเจอ AMOLED เท่าไรครับ ในเรื่องการใช้งานไม่ได้ติดปัญหาอะไรเลยใช้งานได้ค่อนข้างดีและมีการเจาะรูมุมซ้าย กล้อง 2 ตัวอาจจะดูเกะกะไปหน่อยครับ แต่ก็เป็นการพัฒนาที่ดีขึ้นไม่มีติ่งหน้าจอแล้ว และจอสวยกว่าเรทราคาของมันเยอะ และทิ้งรุ่นเดิมแบบชัดเจนทั้งเรื่องของ มิติภาพ ความสวยงามและการสัมผัสอันนี้ดีขึ้นจริงๆนะ ส่วนมุมมองสีดำอะไรพวกนี้อาจจะยังไม่ได้สุดเท่าตัว XT ครับเมื่อเทียบกับ แต่ถ้ามองกับรุ่นก่อนนั้นมันดีขึ้นในทุกมิติเลยนั้นเอง ถือว่าหน้าจอในครั้งนี้ในการสัมผัส ความลื่นไหล มิติของภาพดีกว่าเดิมเลย
หน้าจอในรุ่นนี้เมื่อมองเอียงๆแน่นอนว่าด้วยการที่ยังเป็นหน้าจอ LCD เลยอาจจะไม่ได้สีที่ดำสนิทเท่าไรนักเมื่อเปลี่ยนมุมมอง แต่ถ้าเทียบกับ 5 Pro ก่อนหน้าเหมือนทางรุ่นนี้จะพัฒนาขึ้นพอสมควรเลยครับทั้งตัวหน้าจอ การสู้แสง การสัมผัสต่างๆและเมื่อเปิดราคามาแบบนี้เลยไม่พ้นว่ามันอาจจะมาแทน realme XT เลยก็เป็นได้ครับทั้งสเปคหน้าจอ และในภาพรวมทั้งหมด หน้าจอในมุมมองเอียงๆก็ยังแสดงผลได้ดีชัดเจน ไม่มีปัญหา สีไม่เพี้ยนไม่ดรอปลงเยอะครับ ส่วนการออกแบบนั้นตรงที่เจาะรูกล้องหน้า2 ตัวนั้นอาจจะดูใหญ่ไปหน่อยถ้าไม่ชินกันครับ แต่ก็ดูดีกว่าติ่งหน้าจอนะ
90HZ
จุดขายและที่น่าว้าวที่สุดเลยคงหนีไม่พ้นหน้าจอแบบ 90Hz ในความละเอียดแบบ FHD ครับแน่นอนว่าเป็นเจ้าแรกๆเลยก็ว่าได้ที่ใส่แบบนี้เข้ามาในเรทราคาแค่ไม่ถึง 9 พันครับและในรุ่นล่าง realme 6 ก็หน้าจอ 90Hz ด้วยนะถือว่าโหดสุดในเรื่องของความลื่นไหลในการสัมผัสและการใช้งานสามารถปรับได้เลย ส่วนสัมผัสก็ติดมือได้ดีกว่าเดิมเยอะส่วนการใช้งานนั้นแน่นอนว่าลื่นไหลกว่าเดิมเยอะแค่เลื่อนหน้าจอ ใช้งานทั่วไปก็รู้สึกแตกต่างกว่าเดิมเยอะแล้วนั้นเอง
FINGERPRINT
ทางด้านการสแกนนิ้วแน่นอนว่ารุ่น 6 Pro นั้นจะยังไม่ได้ใช้งานหน้าจอ OLED ทำให้การสแกนนิ้วนั้นต้องอยู่ที่ตัวเครื่องอยู่ ยังไม่ได้ใช้งานสแกนนิ้วบนหน้าจอครับ ส่วนการสแกนนิ้วนั้นจะใช้งานข้างๆเครื่องแบบเดียวกับค่ายอื่นๆที่เราเห็นกัน แน่นอนว่าเป็นที่สแกนนิ้วและเป็นปุ่ม Power ในตัวครับ ทางด้านเวลาการสแกนนั้น 0.38 วินาที ที่ตามสเปคครับ และ ส่วนในการใช้งานถ้าคนถนัดขวาไม่น่ามีปัญหาครับแต่คนถนัดซ้ายอาจจะลำบากกันนิดนึง ส่วนความไวเมื่อเทียบกับสแกนนิ้วด้านหลังนั้นไม่ได้แตกต่างกันครับ แต่ถ้าเทียบสแกนนิ้วบนหน้าจอ ตัวนั้นจะแอบช้ากว่าเพราะตัวหน้าจอจริงๆจะช้ากว่านิดหน่อยเมื่อเทียบกับแบบนี้ครับ แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยคือแตะแล้วมาเลยครับสำหรับเวลาใช้งานไวมากๆ แตะแบบไม่ต้องกดปุ่มลงไปด้วยนะถือว่าดี
SOUND
ทางด้านระบบเสียงนั้นยังคงใช้งานได้ดีเหมือนรุ่นก่อนๆครับเพราะในรุ่นนี้รองรับ Dolby Atmos เช่นกันและมีรู 3.5 มม. อยู่ไม่ได้ตัดไปไหนครับส่วนทางด้าน หูฟังนั้นไม่มีแถมมาให้เช่นเดิมนะครับสำหรับค่ายนี้ ในแง่ของเสียงนั้นเหมือนจะไม่ได้แตกต่างกับรุ่นก่อนๆเท่าไรนักแต่ ในครั้งนี้นั้นรองรับเสียง Hi-Res Audio ได้ด้วยถือว่าเป็นรุ่นที่เรทราคาหมื่นต้นๆแต่รองรับระบบเสียงได้ค่อนข้างดีมากๆ และในแง่ของการเล่นไฟล์นั้นรองรับได้หลากหลายครับ รายละเอียดเสียงทำได้ดีครับในแง่ของการฟังเพลงต่างๆ เสียงมีมิติหลากหลายขึ้นกว่ารุ่นแรกๆ กำลังขับดีขึ้นด้วยเช่นกัน
SPEAKER
ลำโพงของทาง realme 6 Pro นั้นต้องบอกว่าพัฒนาขึ้นในแง่ของความดังของเสียงต่างๆรวมถึง คุณภาพถ้าเราเอามาเทียบกับ 5 Pro ครับ แต่ถ้าเราเอามาเทียบกับทาง realme XT นั้นแน่นอนว่าความดังทาง realme 6 Pro นั้นเหมือนจะทำได้ดีกว่า ดังชัดเจนกว่าพอสมควรแต่มิติของเสียงย่านต่ำ หรือ เสียงเบสพวกนี้จะมาแน่นกว่าทาง 6 Pro นิดหน่อยครับ สังเกตได้จากเสียงยิงปืน หรือ เวลาดูหนังจะแน่นกว่า แต่ถ้าเน้นความใสเสียงร้อง รายละเอียด 6 Pro จะดีกว่านิดหน่อยครับ แต่ถ้าเน้นความดัง ชัด 6 Pro ตอบโจทย์แน่นอน แต่ถ้าเสียงแน่นๆสะใจเบส อาจจะเบาไปนิด
GPS
ในการนำทางนั้นทำได้ดีต่อเนื่องจากรุ่นเดิมเลยครับ และจากที่ใช้งานจริงและใช้แอปทดสอบเช่นเคยครับ ก็จับได้ทั้งหมด 25 ดวง จากทั้งหมด 64 ดวงครับ เช่นใต้ทางด่วนพวกนี้ครับ ส่วนของกลางแจ้งจับได้ทั้งหมด 33 ดวง จากทั้งหมด 64 ดวง นะครับ ใกล้ๆกับเรือธง และใช้งานได้ดี ส่วนการเรียกใช้งานแอป หรือ เวลาหลังจากเปิดแอปนั้นก็ทำได้ค่อนข้างไว ถือว่าทำได้แม่นยำดีครับในการนำทางใครที่เน้นในเรื่องนี้รุ่นนี้แนะนำครับดีขึ้น ไว้ใจได้มากขึ้น
BATTERY
แบตเตอร์รี่ตัวนี้ให้มาที่ 4,300 การจัดการพลังงานมันทำได้ดีครับ และรองรับการชาร์จไว VOOK 30W เลยทีเดียวแน่นอนว่า เรื่องแบตจากที่เคยทดสอบแบรนด์นี้มาหลากหลายรุ่นพอสมควรเรื่องแบตถือว่าไว้ใจได้นะ และในการทดสอบนั้นต้องบอกว่าทั้งวันได้ จากที่ลองใช้งานหนักๆ 8-9 ชั่วโมง ใช้งานนำทางต่อเนื่อง 1-2 ชั่วโมงเต็มๆครับ และ เปิดเพลง ถ่ายรูป วีดีโอ เล่นเกมไป 1 ชั่วโมงกว่า ถือว่าทำได้ดีนะ และ แบตเหลือ 19 % ครับ ซึ่งหน้าจอเปิดทั้งหมด 6 ชั่วโมง และ ใช้งานทั้งหมด 11 ชั่วโมงถือว่าอึดมากๆครับแต่ถ้าจอเปิดโหดๆยังไงก็ทั้งวันสบายๆ
GAMING
รุ่นนี้เรื่องของการเล่นเกมหลังจากที่ได้ทดสอบสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลมากๆ การตอบสนองการทัชทำออกมาได้ติดนิ้วไม่มีปัญหาอะไร ภาพกราฟิกระดับสูงในเกมต่างๆสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ภายในคลิปเปิดให้หน้าจอแสดงผล 90Hz เรื่องของความร้อนเล่นต่อเนื่องเท่าที่ทดสอบสูงสุด 43 – 44 องศา ส่วนเเบตเตอรรี่ทดสอบ 1 ชั่วโมงกินไป 12 – 13 % โดยรวมเรื่องของการเล่นเกมรุ่นนี้เหมาะมากๆ
CAMERA
กล้องหลังตัวนี้และรวมถึงกล้องหน้าเป็นการอัพเกรดขึ้นมาอีกขั้นทั้งเรื่องความละเอียดและคุณภาพรวมถึงการใส่กล้องหน้ามุมกว้างมาให้ครับ กล้องหลังตัวนี้ปรับมาใช้งาน 64MP แล้ว โดยเป็นตัวหลัก Samsung GW1 1/1.72″, ขนาดพิกเซล 0.8μm, (f/1.8), แฟลช LED, EIS, เลนส์กว้าง 119° ความละเอียด 8MP (f/2.3), เลนส์เทเล 12MP ที่ซูมได้ถึง 20x และ เลนส์มาโคร 4cm ความละเอียด 2MP (f/2.4) แน่นอนว่าในการใช้งานทาง Software รุ่นนี้ถือว่าดึงประสิทธิภาพของเซนเซอร์ออกมาได้ดีครับ มิติ DR ของตัวภาพสวยงามและ ฉลาดในการจัดการแสงสี กลางคืน กลางวันได้ดี และโหมดช่วยต่างๆนั้น ทั้งโหมดกลางคืน HDR AI ร่วมกันได้ดี โทนสีสวยงามพอสมควรครับจากที่ได้ลอง ส่วนตัวกล้องในแง่ของการเก็บแสงมิติของภาพนั้นโอเคเลยทางด้าน HDR ทำได้ดีตอนย้อนแสงต่างๆครับ ส่วนเรื่องสีนั้นยังแอบมีความสดกว่าของจริงอยู่บ้างเป็นปกติของพวก AI ค่ายนี้นะครับ
ZOOM 1X-2X-5X-20X
PORTRAIT
SELFIES
กล้องหน้าในรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องหน้าแบบคู่ เป็นการดีไซน์งานออกแบบ แบบเจาะรูมุมซ้ายของเครื่องครับแน่นอนว่าเป็นครั้งแรกของค่ายที่ใส่เข้ามาแบบเจาะรูทั้ง 2 เลนส์และไว้มุมซ้ายคล้ายๆกับ S10+ นั้นเองแน่นอนว่าอาจจะคนละมุมครับส่วนตัวชอบแบบเจาะรูเล็กๆมากกว่านะ ในแง่ของสเปคกล้องนั้นแน่นอนว่าด้วยความใหญ่ของมันเลยใส่มา 2 เลนส์ที่รองรับเลนส์มุมกว้าง เป็นเลนส์หลักคือ 16MP (f/2.1), Sony IMX1471, เลนส์มุมกว้าง 105° ความละเอียด 8MP (f/2.2) ครับ ส่วนมุมมองนั้นกว้างขึ้นมากก แต่ความคมชัดก็มีแตกต่างกันนิดหน่อยครับ ส่วนทางด้านละลายหลังนั้นจะใช้งานได้แค่เลนส์ปกติเท่านั้น เลนส์มุมกว้างจะละลายหลังไม่ได้นะครับ และมี AI Beauty ด้วยสำหรับปรับหน้าเนียนต่างๆซึ่งตรงนี้จะรองรับทั้ง 2 เลนส์
VIDEO
งานวีดีโอในรุ่นนี้ต้องบอกว่าน่าสนใจเพราะเป็นครั้งแรกที่รองรับการถ่ายแบบ FHD 60FPS เข้ามาครับและมีโหมด Ultra Steady ใส่เข้ามาด้วยทำให้เรื่องของการถ่ายวีดีโอนั้นเทพขึ้นมาก เกินหน้าเกินตาหลายๆตัวในเรทราคานี้ครับแน่นอนว่า การรองรับการถ่ายสุงสุดให้มาที่ 4K 30FPS ครับ และ FHD 60FPS-30FPS และรองรับเลนส์มุมกว้างในการถ่ายที่ FHD 30FPS นะครับ รวมถึงรองรับการซูมสูงสุดที่ 10X Digital Zoom นั้นเอง ทางด้านฟีเจอร์การกันสั่นพิเศษใส่เข้ามาด้วยทั้งเลนส์ปกติ และ เลนส์มุมกว้าง รวมถึงกล้องหน้าด้วยนะถือว่างานวีดีโอนั้นโคตรเทพ
REALME 6 PRO
” ยกระดับความคุ้มค่าไปอีกขั้นในภาพรวม พร้อมกับ หน้าจอ กล้องที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน ”
ราคาถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้บอกเลยว่ามันไม่ได้แพงครับ และสเปคที่จัดเต็มมาแบบนี้แน่นอนว่าราคาก็ถือว่าสมกัน แต่ด้วยความที่เมืองนอกเปิดมาอีกราคาเลยทำให้หลายๆคนต้องออกมาบ่นกันนิดหน่อย แต่ก็ต้องเข้าใจกันว่าทั้งภาษีอะไรต่างๆที่ไม่เหมือนกันย่อมแตกต่างกันครับ ถ้าเราเข้าใจแล้วมาดูสิ่งที่ได้กับรุ่นนี้ต้องบอกว่ามันพัฒนาขึ้นมาเยอะเหมือนมาแทน realme XT แบบนั้นจริงๆนะ ทั้งเรื่องหน้าจอ ลำโพง การถ่ายวีดีโอ สเปคที่ให้มากับการออกแบบ งานประกอบที่ลงตัวกว่าเดิมเยอะครับ เหมือนเป็นการยกระดับอีกขั้น จาก Pro ไปอีก ทำให้ในภาพรวมมันสเปคที่จัดเต็มสุดๆในงบ หมื่นต้นนั้นเองครับ ส่วนงานออกแบบก็สวยมีความแตกต่างรวมถึงแบต การชาร์จไวก็ใส่เข้ามาให้ด้วย
ข้อดี
- หน้าจอ 90Hz ทำได้ดีและมีความลื่นไหลในการใช้งานอย่างมาก
- มาพร้อม Snapdragon 720G ตัวใหม่ล่าสุด
- แบตใช้งานได้ยาวนานและอึดพอสมควรแม้จะปรับ 90Hz
- รองรับชาร์จไว 30W
- งานออกแบบ ดีไซน์มีความโดดเด่น
- ลำโพงเสียงดีขึ้น ดังขึ้น กว่ารุ่นก่อนหน้า
- งานวีดีโอ ดีมาก ทั้งฟีเจอร์ และ คุณภาพที่ใส่เข้ามา
- กล้องทั้งหน้าและหลังทำได้ประทับใจ
ข้อสังเกต
- หน้าจอยังเป็น IPS LCD
- สแกนนิ้วด้านข้างอาจจะไม่ถนัดสำหรับบางท่าน
- Non-CA
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr
*รูปถ่ายจากกล้องมือถือทุกรูป ไม่มีการปรับแต่ง และ สามารถกดดูไฟล์เต็มแบบต้นฉบับได้นะครับ