ทาง Techhangout ได้รับเชิญจากทาง AMD ไปร่วมงานที่ ประเทศ สหรัฐอเมริกา ในงาน AMD RYZEN MOBILE TECH DAY 2020 จัดที่ รัฐ TEXAS เมือง AUSTIN ครับโดยในครั้งนี้ไปจัดกันในตัว AMD CAMPUS กันเลยทีเดียวและเป็นครั้งแรกของทางเราที่ได้ไปเยือนถึงที่นู้นเลยก็ว่าได้ครับ และเป็นแค่ไม่กี่สื่อในไทยที่ได้รับเชิญไปต้องขอขอบคุณทาง AMD อย่างมากครับ โดยในงานครั้งนี้ตอนที่เราไปนั้นมีหลายๆอย่างที่อยากเล่าแต่ยังเล่าไม่ได้ต้องรอหลังมีนาคมถึงจะพอเล่าได้ครับและเป็นข้อมูลในส่วนของ AMD Ryzen 4000 ที่จะมาใช้งานบน Laptops นั้นเองมีการเล่าเรื่องถึงการพัฒนา หลักแนวทางการพัฒนาว่าในรุ่นนี้จุดประสงค์การพัฒนาจะเป็นยังไงรวมถึงแนวคิดในการพัฒนา CPU ตัวนี้ครับ แน่นอนว่านอกจากนี้ยังเป็นการโชว์ตัว Dev ต่างๆที่เป็นตัวพัฒนาล้วนๆเลยให้เราได้ทดลองกันแต่น่าเสียดายว่าห้ามถ่ายรูปครับผม เลยถือโอกาสมาเล่าสู่กันฟังมากกว่านะ และความรู้สึกหลังได้สัมผัส

โดยทางเราก็เดินทางไป โดยสายการบิน DELTA และการดูแลอย่างดีตลอดทั้งทริปครับ เมื่อถึงสนามบินก็ต่อเครื่องอะไรมาลง AUSTIN เรียบร้อยเดินทางจัดไปเต็มๆ 22 ชั่วโมงครับ แน่นอนว่าเมื่อถึงก็นอนพักยาว และมีเวลาก่อนวันงานพอสมควรและทาง AMD ก็พาไป OUTLET นิดหน่อย Shopping กันครับและเดินเที่ยวตามเมืองหรือในเมืองได้แล้วแต่เราครับ เลยเอาภาพบรรยากาศในตัวเมือง AUSTIN TEXAS มาฝากกันก่อนครับ ทุกภาพจะถ่ายด้วย S20 Ultra ทั้งหมดเลย ตอนที่แอดมินไปนั้นจะเป็นช่วงฝนตกทุกวันพอดี อากาศหนาวมาก 5 องศาได้เลย แต่ไม่มีหิมะนะครับ ส่วนตัวเมืองเค้าเงียบๆเป็นระเบียบอย่างมากเลยไปแล้วค่อนข้างติดใจจริงๆ ส่วนที่พักนั้นเราพักที่ HOTEL VAN ZANDT นะครับ อยู่ในตัวเมืองเลยเดินเที่ยวสบายๆ ก็เอามาฝากกันก่อนจะไปเข้าเรื่องในวันงานครับ

เมื่อมาถึงวันงานนั้นทาง AMD ก็มีรถไปรับไปสู่ AMD CAMPUS ซึ่งจะอยู่ไกลจากตัวเมืองมากพอสมควรเลยแหละและแน่นอนว่านั่งรถไปกันประมาณ 1-2 ชั่วโมงกันเลย แต่ก็คุ้มอย่างมากได้ไปเยือน CAMPUS AMD ที่ปกติเราไม่ได้เข้าไปแน่นอนครับ อลังการจัดเต็มอย่างมากในตัวอาคารทั้งหมดเป็น SILICON VALLEY ย่อมๆเลย เมื่อเข้าไปก็ไปสู่ตัวงาน ห้องประชุมข้อมูลเน้นๆครับในครั้งนี้ ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย เราเลยมาสรุปแบบพอเข้าใจง่ายให้ครับในหลายๆส่วนจะได้ไม่น่าเบื่อกันเลยไปสำหรับงาน AMD RYZEN  MOBILE  TECH DAY 2020 

ก่อนเริ่มงานทาง AMD ก็ได้กล่าวถึงความสำเร็จในช่วงปีที่ผ่านมาว่าการเติบโตมันมากขนาดไหนและมีแบรนด์ที่เอามาใช้หรือใช้งานกันเยอะแค่ไหนครับลุยตลาดเยอะขึ้นทั้ง GAMING NOTEBOOK และอีกมากมายและลุยตลาดมากกว่า 100 Product เลยทีเดียวครับ และในปีนี้ก็มุ่งมั่นที่จะลุยให้เพิ่มมากขึ้นหลากหลายกลุ่มลูกค้ามากกว่าเดิมครับสำหรับตัว AMD Ryzen 4000 Series ตัวนี้. AMD เริ่มต้นด้วย Worldfirst ทั้ง 2 อย่าง โดยในตัว Ryzen 4000 นั้นจะแบ่งออกไปทั้งหมด 3 รุ่นคือ U-H-PRO เช่นเดิมแน่นอนว่าจะเจาะกลุ่มที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนเลย เริ่มจากตัว H ที่จะเน้นในเรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยจะมี 2 รุ่นคือ 4800H และ 4600H  ที่จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของ core threads และ ได้พัฒนาในเรื่องของประสิทธิภาพของ CPU ที่ทำได้ดีกว่าเดิมทั้งในเรื่องความลื่นไหลและ fps เมื่อเทียบกับ I7 i9 ตามภาพเลยนั้นเองที่ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจน

RYZEN 4000 จะมาพร้อมกับ 3 รุ่นหลักๆ และมีตัวไหนบ้าง !

  • U-Series  ที่เน้นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน เน้นบางเบา
    RYZEN 3 // 4300U และ RYZEN 5 // 4600U / 4500U  และ RYZEN 7 // 4800U / 4700U
  • H-Series  ที่เน้นในเรื่องของ สายเกมมิ่ง การเรนเดอร์หนักๆ รวมถึงการทำงานขั้นสูง                      RYZEN 5 4600H  และ RYZEN 7  4800H และ RYZEN 9 // 4900H //4900HS
  • Pro-Series  ตัวนี้จะไม่ค่อยเห็นมากนักจะเป็นสายที่เน้นความปลอดภัยในแง่ธุรกิจ

** ซึ่งตัว HS นั้นจะมาพร้อมกับการกินไฟที่่น้อยกว่าคือ 35W แต่ประสิทธิภาพดีกว่าหรือเท่า H เลยทีเดียวและอยู่ในเกณท์คือ บางเบา และแบตอึดตามที่ข้อกำหนดของ AMD ครับ ส่วนตัว H ก็ปกติครับ 45W

** U นั้นจะเป็นตัวประหยัดไปเช่นเดิม 15W และ 8 Core/16 Thread ก็มาด้วยแน่นอนว่ายังคงชูเรื่องของ Single – Multi ที่ทำได้ดีกว่าเดิมเอาชนะ ได้แล้วครับเมื่อเทียบกับอีกค่าย และในตัวนี้ มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่แน่นอนว่าดัน FPS ได้โหดแล้วและมีตัวเลขที่ดีกว่าแบบชัดเจน รวมถึงเรื่องของการประหยัดพลังงานก็เน้นดีกว่าเดิมเช่นกันด้วยเทคโนโลยีของ 7nm จึงทำให้เรื่องนี้เป็นจุดที่ประหยัดพลังงานได้และได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม

Ryzen 9 Mobile 4900H มมาพร้อมกับประสิทธฺภาพที่สุดกว่าเดิมคือ 8-16 และ 45W รวมถึง 4.3Boost 3.0  โดยจะมาในช่วง Spring 2020 นี้ครับ

Ryzen 4000 ! เทคโนโลยี 7nm ประสิทธิภาพดีขึ้น 2 เท่า กินพลังน้อยลง 20% 

ในการทำตัวนี้จะทำยังไงให้มันสมดุลในเรื่องของการประมวลผลและหลายๆอย่างเข้าด้วยกันครับแน่นอนว่าทั้งเรื่องของอายุการใช้งานและประสิทธิภาพด้วย แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากแต่ก็สามารถทำได้เช่นกัน ในตัวนี้ยังคงใช้งาน zen 2 ในเรื่องของสถาปัตยกรรม Ryzen graphic นั้นก็พัฒนาขึ้นเช่นกันใช้งาน 7nm ที่จะได้ประมวลผลที่ดีกว่าเดิม และใช้พลังงาน 15w พร้อมกับ 59%. ผลคะแนนที่ดีขึ้นในตัว Timespy ครับ และเมื่อเทียบกับ VEGA 12nm นั้นจะได้ผลที่ดีกว่าเดิมแบบชัดเจน และในแง่ของการถอดรหัส ก็มีความเร็วขึ้น และรองรับ HDR-WCG HEVC CODEC ครับ และ รองรับ 4K 60 CONTENTS ในตัวของ ENCODE ใหม่ และแน่นอนว่าในเรื่องของการใช้พลังงานก็ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน แต่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิมเมื่อเทียบกับ 3700U ครับแต่ยังคงใช้งาน 15W เช่นเดิม และใช้งาน IPC ที่ดีกว่าเดิมครับ เมื่อเทียบกับ 1-2 gen ก่อนหน้าที่ทำได้ดีแบบก้าวกระโดดขึ้นมา เมื่อเทียบกับ 12nm ด้วย และในการจัดการของพลังงาน และใช้งาน Memmory ที่ abndwitch มากขึ้นแต่พลังงานลดลง DDR4 3200-LPDDR4X 4266 ครับ มากันที่เรื่องของการใช้งานอายุแบตครับ ใช้พลังงานลดลง 20%

จาก Picasso ไปยัง renore นั้นได้พัฒนาในเรื่องของการทำงานเป็น ACPI 6.3 ที่จะลดในเรื่องของเวลาในการทำงานได้ และมาในเรื่องของเสียงเพลง นั้นรองรับการใช้งาน รับคำสั่งเสียงตลอดเวลาได้ Always Listing และ จับคำศัพท์ได้ และ รองรับสูงสุด 6PDM Mic และ ใช้งาน AEC ได้ ป้องกันเสียงก้อง และ ในตัว Playback นั้นรองรับการใช้งาน พลังงานต่ำและ ประหยัดพลังงานขึ้นแม้จะใช้งานตัว always playning และ idle เวลาใช้งานนานๆจะช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงใช้คำสั่งเสียงแม้จะเปิดเพลงได้เพราะมีระบบตัดเสียงที่จะใส่เข้ามาด้วยรองรับเช่นกันครับ

พัฒนาการเชื่อมต่อรองรับ  ddr4 3200-lpddr4x 4622 // 4pcle 4 เลน และใช้งาน Memmory 2 ตัวควบคุม แต่ละตัวควบคุมรองรับ 64 ddr4 หรือ 2X32 รวมถึง virtual channels lpddr4x // 4×32 lpddr4x 4266 – 64×2  ครับ  ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อนั้น รองรับ พัฒนาตัวหน้าจอ 2 จอ 4K และ Thunderbolt 3 นั้นรองรับ 4K และ Renoir รองรับในตัว Microsoft Hyper V และ Play ready

มาเรื่องของประสิทธิภาพครับ CORMET LAKE หรือ ICE LAKE ครับ ในเรื่องของเทคโนโลยี และ การใช้งานสเปคต่างๆ แน่นอนว่าทาง Ryzen ได้พัฒนาเพื่อความมหัศจรรย์ครับ มาเรื่องกับตัว Ryzen 7 ครับ  เมื่อเทียบกับ Intel นั้นจะเป็นชัดเจนเลยว่า เมื่อเทียบกับสเปค มีทั้ง 4 คอร์ 8 เทรด และ 6คอร์ 12 เทรด ที่ผสมกันไปครับ เมื่อมาดูคะแนนที่เทียบกันจะเห็นประสิทธิภาพของมันที่แตกต่างกันพอสมควรครับ และ เมื่อเทียบกับทาง intel จะเห็นชัดเจนพอสมควรเลยวว่าทำได้ดีขึ้น  และเมื่อมาเทียบกับการทำงานนั้นทั้งการ PC MARK 10 และ KRAKEN  7ZIP ครับ จะเห็นการทำงานที่ดีกว่าพอสมควร ตามกราฟข้างล่างเมื่อเทียบกับ G7 GEN 10 ทั้งหลายครับ และในเรื่องของ การประมวลผลเรนเดอร์ต่างๆ ก็ทำได้ค่อนข้างประทับใจครับ ทั้งพวก Blender และ LAME เช่นกัน

ผลการทดสอบในเรื่องของการเล่นเกมครั้งนี้ถือว่าทำในเรื่องของ FPS ได้น่าประทับใจอย่างมาก ทดสอบกับตัว RYZEN7 U นะครับ ในความละเอียด 1080P ครับ LOW ซึ่งถือว่าเหมาะสมสำหรับการปรับภาพในตัวระดับ U และทำ FPS ได้ค่อนข้างสูงครับ ในกลายๆตัวเกมเลยทีเดียว จากที่รุ่นก่อนๆนั้นเรื่องนี้อาจจะยังไมได้ดีมากนัก  ส่วนในตัวการประมวลผล 3D นั้นในเรื่องคะแนน นั้นจะเห็นว่าในตัว Lenovo ก็จะช่วยให้เรื่องประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการใช้งาน 25W ครับจะเห็นได้ชัดเมื่อใช้งานตัว Multi threads ที่จะเริ่มแตกต่างกัน

Ryzen นั้นเมื่อเทียบกับทาง INTEL จะเห็นค่อนข้างชัดเจนเลยในเรื่องของ สเปคที่ยังคงแตกต่างกันแบบชัดเจนเมื่อเอามาเทียบกันครับ โดยเฉพาะของตัว CORE THREADS นั้นเอง และมันมีผลแบบชัดเจนเมื่อเอามาทดสอบกันครับ ทั้ง single -multi เลยนั้นเองเมื่อเทียบกับอีกค่ายครับ และจะเห็นผลแบบชัดๆในตัวของ Multi thread รวมถึงตัว Graphic cards ครับ และเช่นกันในแง่ของการใช้งานจริงนั้นก็พวกผลทดสอบ PC MARK ต่างๆก็ถือว่ายังคงทำได้ดีครับ โดยเฉพาะตัว 7 ZIP แต่ในตัว Browser ยังคงไม่ได้แตกต่างกันมาก และในเรื่องของการถอดรหัส เรนเดอร์เช่นกัน และในเรื่องของเกมสนั้นยิ่งชัดเจนเลยในตัว FPS ครับที่แตกต่างกันเยอะมากในตัว Overwatch และ GTA

Ryzen 3 นั้นจะมีแค่ตัวเดียวก่อนครับ R3 4300 นั้นจะแตกต่างกันครับ ทั้งจำนวน Core threads  และเอามาเทียบกับ i3 1005g1 ครับถือว่าสูสีในตัว SINGLE แต่ส่วนของ multi นั้นจะเริ่มแตกต่างกัน  และในตัว PC MARK ทั้งหลายก็ยังคงทำคะแนนได้ดี เหมือนกับทั้งรุ่น Ryzen 5-7 ที่จะทำได้ดีกว่าอีกค่ายครับ ถือว่าในเจนใหม่ทั้งหมดทำออกมาได้ดีมากเลยในแง่ของการทดสอบ คะแนนต่างๆ และในแง่ของ FPS ในการเล่นเกมก็ยังคงทำคะแนนนำพอสมควร และโดดมากๆในตัว Rocket league -CS GO ที่มากกว่า 100 ขึ้นไปครับ

HANDS ON ลองจับตัวจริงแบบคร่าวๆในงาน ! รุ่นไหมมาบ้าง ?

ทางเราได้ลองทั้ง ROG G14 – LENOVO SLIM 7 ที่ใช้งานกันคนละสเปค ทางด้าน ROG G14 นั้นใช้งาน RYZEN 9 HS ตัวเทพสุดของค่าย และ จับคู่ RTX 2060 MAX-Q ทดสอบ เกมส์ปรับภาพสูงสุดน่าจะ BF1 ครับ ซึ่งถือว่า FPS โคตรลื่นไหล 100+ ตลอดเลยและงานภาพสวยและสมูทอย่างมาก ส่วนเรื่องความร้อนไม่สามารถดูเป็นตัวเลขได้แต่อุ่นๆในระดับเดียวกับตระกูล RYZEN ก่อนหน้าครับในตัว ROG ตัวนี้

อีกรุ่นเป็นตัว SLIM 7 LENOVO ครับ แน่นอนว่าตัวนี้จะใช้งานแบบประหยัดไฟ มาพร้อมกับ RYZEN 7 U ไม่มีการ์ดจอแยก แต่ก็สามารถปรับภาพเล่น LOW แต่ได้ความลื่นไหลและ FPS 60 ได้แบบชิลๆ ตามคำบอกที่เทียบเท่า MX250 ได้ ถือว่าสมราคาคุยครับ แต่ความร้อนก็มีบ้างเช่นกันแบบรู้สึกได้ในส่วนฐานข้างล่างแต่ที่ชอบคือมันลื่นไหลดีไม่มีหน่วงแม้จะเปิดทิ้ง เล่นนานๆครับ อันนี้ดีมากแต่เสียดายเค้าห้ามถ่ายอะไรเลยครับเลยมาเล่ากันแบบคร่าวๆ

ส่วนรุ่นที่เตรียมใช้งาน RYZEN 4000 ก็ต้องบอกว่ามีทุกค่ายพร้อมแล้วครับ ทั้ง  Microsoft Surface Laptop , Lenovo S340 , lenovo Yoga , Acer Nitro 5 , ASUS ROG Zephyrus G , ASUS Laptop , MSI BRAVO , ASUS TUF , SAMSUNG , HP ENVY , HP PAVILION , Lenovo Thinkpad , DELL G5 SE 

MOBILE PLATFORM การพัฒนา และ ฟีเจอร์ที่ใส่เข้ามาในรุ่นนี้ ! 

การพัฒนา ทำให้มันดีกว่าเดิม ต้องดูทั้งเรื่องของ สิ่งแวดล้อมต่างๆ และในตัว SOC นั้นจะมีการจัดการพิเศษ อย่างแรกเลยคือเรื่องระบายความร้อน ตัวนี้จัด STT V2 เป็นต้นครับ โดยจะดูความร้อนในตัว คอมพิวเตอร์ของเรา ว่าร้อนแค่ไหนและควบคุมความร้อนของมัน และทำงานร่วมกันกับ AMD Smartshift  ได้ด้วยในตัว Dgpu และได้ทำงานร่วมกับกับ แบรนด์ว่าจุด hotspot ตรงไหนและเอาเซนเซอร์วางไว้ในตรงนั้น และจะได้ทำงานได้ตรงจุด และแยกเป็น 2 จุดคือ ควบคุม และ สั่งงานครับ ซึ่งจะดูว่าความร้อนของเครื่องมันเท่าไรควรจะเท่าไร ซึ่งจะทำงานร่วมกัน STAPM Boost ครับที่จะคอยจัดการความร้อนต่างๆด้วย

  • SMART SHIFT คือตัวจัดการพลังงานคอยแบ่งไฟ ให้กันระหว่าง gpu cpu ว่าจะเน้นส่วนไหน และคอยรองรับในส่วนของอัตรากินไฟ ซึ่งจะทำให้ในการจัดการได้ดีโดยที่ตัวเครื่องบางไมต้องหนา และทำให้เครื่องของ AMD นั้นทำได้ดีในเรื่องของประสิทธิภาพ ที่สามารถคุยกันได้ในตัว amd ครับเช่นจะจ่ายไฟไปให้ตัวไหนมากกว่ากัน ในการใช้งานที่แตกต่างกัน และทำให้เครื่องทำงานได้ดีที่สุด
  • STT V2. จะคอยคุมพลังงานและความร้อนในการใช้งาน ว่าควรลดหรือเพิ่มเท่าไร มีผลกับ CPU ความแรงพวกนี้ ทำงานร่วมกับ Smartshift ที่จะคอยจ่ายไฟว่ายังไงไปตัวไหนด้วย เซนเซอร์วัด ตรง Board ด้านหน้าและหลัง และไม่ให้ประสิทธิภาพลดแบบดิ่งเกินไปด้วย
  • BOOST ทำงานตอนขยับเมาส์ Fps เยอะขึ้น แต่จะไปทำให้คุณภาพภาพลดลงตอนเคลื่อนไหวเท่านั้นซึ่งเราจะมองไม่ออกอยู่แล้วครับตัวนี้คุ้นๆกันแน่นอนเพราะเป็น ฟีเจอร์ มาจาก Desktop นั้นเอง
  • SHARPENING. ยกมาจาก Desktop ทำให้ภาพคมขึ้น สวยขึ้น มีมิติสวยงามกว่าเดิม โดยที่ FPS ไม่ได้เปลี่ยนแปลงและมีความลื่นไหลที่ดีขึ้นด้วย
  • BATTERY. ในรุ่นนี้ก็ได้พัฒนาได้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิมครับมีส่วนมาจากทั้ง 7NM ของค่าย และ Powershift และ ระบบทั้งหมดที่ช่วยกัน รวมถึงการทำงานของตัว CPU ที่จัดการได้ดีขึ้น Idle ได้ยาวนานขึ้น

AMD RYZEN 4000 MOBILE PLATFORM 

จากกราฟทั้งหมด FPS ใครที่ชอบเล่นเกมเน้นๆ ตัวนี้ทำได้ดีนำอีกค่ายได้เกือบทุกเกมแล้ว แต่ยังไงขอลองใช้งานจริงจังอีกรอบนะครับ แต่ในกราฟและเท่าที่ลองบอกเลยว่า ฝั่ง Mobile ครั้งนี้ไม่ใช่เล่นๆ และในการใช้งานจริงๆทดสอบนั้นทางเราต้องรอเครื่องจากทาง AMD อีกครั้งในช่วงเดือนหน้าเนื่องจากติด COVID-19 เลยทำให้มีความล่าช้าครับผม เมื่อถึงเวลานั้นทางเราจะเน้นๆจัดเต็มให้เช่นเดิมพร้อมกับการทดสอบ เรนเดอร์งานจริงๆในงาน สถาปัตยกรรม รวมถึง การเล่นเกมทดสอบ FPS ครับว่ามันจะมีความแตกต่างอะไรมากน้อยแค่ไหน ทั้งเรื่อง FPS ความร้อนและในการใช้งานจริงๆ ในตัวขายจริงครับ รอติดตามกันได้เลยนะ

By Nineztr , AMD CAMPUS AUSTIN TEXAS