realme ในประเทศไทยถือว่าเปิดตัวอย่างต่อเนื่องครับแต่ในครั้งนี้มาในเรื่องของอุปกรณ์ Gadgets กันบ้างในครั้งนี้ได้เปิดตัว realme Band เป็นสายรัดข้อมือที่จะสามารถแทรคกิ้งข้อมูลอะไรต่างๆได้ครับทั้งเรื่องของการใช้งานออกกำลังกายที่มีโหมดให้เลือก รวมถึง การวัดชีพจร การนับก้าว แคล รวมถึงการแจ้งเตือนจากมือถือ และหน้าจอสีด้วยในรุ่นนี้ รองรับการกันน้ำ IP68 เรียบร้อยซึ่งถือว่าในแง่ของสเปคนั้นค่อนข้างจัดเต็มพอสมควรครับและ มีการใช้งานที่ไม่ได้ยุ่งยาก มีแอพรองรับสามารถปรับแต่งอะไรได้รวมถึงตั้งค่าได้ด้วย ทางด้านราคาก็อยู่ในราคาที่จับต้องง่าย และที่สำคัญคือรองรับการอ่านแจ้งเตือนภาษาไทยได้ด้วยครับ อักษรอะไรเป๊ะปกติเลยในรุ่นนี้สำหรับเจ้า realme
realme band นั้นเปิดตัวมาด้วยสเปค หน้าจอแสดงผลกว้าง 0.96 นิ้ว รองรับระบบสีถึง 65,000 สี สามารถปรับระดับความสว่างของหน้าจอได้ 5 ระดับผ่าน realme Link รองรับ การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจทุก 5 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง และ สามารถปรับระดับความสว่างของสีหน้าจอได้ 5 ระดับ ผ่าน realme Link และปรับจอแสดงผลได้ 5 สไตล์ รวมถึงการ ตรวจวัดคุณภาพการนอน ในแง่ของการควบคุมนั้น ปุ่มสัมผัสบนหน้าจอแสดงผล นะครับแต่หน้าจอไม่ใชระบบสัมผัส ส่วนการชาร์จนั้น ง่ายต่อการชาร์จแบต สามารถชาร์จผ่าน USB จากตัว Band ได้โดยตรง และมีฟีเจอร์การเตือน TBD ช่วยเตือนเมื่อมีระดับอัตราการเต้นของหัวใจเกินระดับปกติ และการกันน้ำ IP68 รวมถึงอายุในการใช้งานนั้นรองรับสูงสุด 9 วัน และ 6 วันเมื่อเปิดการวัดชีพจรครับ
realme Band นั้นเปิดตัวมาในราคา 799 บาท พร้อมกับ 3 สีด้วยกันในตัวสายคือ สีดำ สีเหลือง สีเขียว
UNBOX
- ตัวเครื่อง realme Band
- สายยาง TPU สีเขียว สามารถถอดได้ทั้ง 2 ข้าง ซื้อเปลี่ยนสีเองได้ภายหลัง
- คู่มือ
- สายชาร์จจะไม่มีเพราะตัวเรือนสามารถเสียบชาร์จแบตได้เลย
DESIGN
งานออกแบบนั้นก็จะมาในทรงที่เราคุ้นเคยกันครับเป็นปกติของ Smartband ในหลายๆรุ่นไม่มีปุ่มกดไม่มีอะไรในด้านข้างแต่จะเป็นปุ่มสัมผัสตรงด้านล่างแทนแน่นอนว่าหน้าจอนั้นไม่ได้ใช้ระบบสัมผัสเต็มรูปแบบนะครับ จะแตะได้อย่างเดียวไม่สามารถปัดซ้ายขวาขึ้นลงอะไรได้เลย ส่วนวัสดุเป็นพลาสติกหลักๆหน้าจอสี่เหลี่ยมน้ำหนักกลางๆครับ ตัวสายนั้นให้ความรู้สึกไม่ได้นิ่มมากและไม่ได้แข็งมากกลางๆรองรับการใช้งานทั่วไปและไม่เหนียวเวลาใช้งานครับ
ตัวเรือนเป็นสี่เหลี่ยมเข้ากับตัวสายพอดีมีการเล่นขอบสีเทานิดหน่อยตรงขอบบน และขอบล่างของตัวเรือนส่วนตัวสายสามารถปรับได้หลากหลายระดับครับ ตัวเรือนกับตัวสายนั้นไม่มีตัวล็อคอะไรแค่เสียบเข้าไปในร่องของมันก็แน่นพอดี ในด้านหลังนั้นจะเป็นที่วัดชีพจรต่างๆครับ และจะเห็นว่าเป็นวัสดุสีเทาคล้ายๆผิวเม็ดทรายไม่ได้เป็นสีดำซะทีเดียวก็ดูสวยดีเช่นกัน ส่วนในเรื่องของการชาร์จนั้นในรุ่นนี้ถือว่าดีเพราะสามารถถอดและเสียบกับ USB-A ได้ไม่ต้องมีสาย
มาส่องกันที่ตัวเรือนแบบชัดๆเป็นพลาสติกทั้งหมด ในด้านหน้าเป็นหน้าจอพลาสติกสีดำพร้อมกับปุ่มควบคุมที่เป็นระบบสัมผัสครับ หน้าจอนั้นไม่ได้เต็มนะครับจะเป็นแค่กรอบข้างในแอบเล็กไปหน่อยและไม่สู้แสงมากนักแต่ถ้ามามองราคาก็พอรับได้ ส่วนเรื่องของ ขนาดกว้าง 0.96 นิ้ว รองรับระบบสีถึง 65,000 สี ส่วนภาษาไทยแจ้งเตือนรองรับนะ
ทางด้านสาย TPU นั้นต้องบอกว่าทำได้ดีมันจะคนละแบบกับพวก Miband ครับจะไปคล้ายๆสายของ Honor มากกว่าคือมีความแข็งและทรงรูปร่างได้อยู่ระดับนึงไม่ได้นิ่มย้วยและก็ไม่ได้แข็งมากเนื้อผิวเรียบๆปกติครับ มีให้ปรับระยะได้หลากหลายมากๆแน่นอนว่าตัวสายสามารถถอดออกได้เลยตอนถอดทำมุมเอียงก็ดึงออกมาได้ไม่ลำบากมาก
SPEC
- หน้าจอ กว้าง 0.96 นิ้ว รองรับระบบสีถึง 65,000 สี ปรับสว่าง 5 ระดับ
- ปุ่มสัมผัสบนหน้าจอแสดงผล แต่หน้าจอไม่รองรับการสัมผัส
- รองรับการอ่านแจ้งเตือนภาษาไทย
- BLUETOOTH 4.2
- IP68 WATERPROOF
- รองรับทุกการแจ้งเตือนในทุกแอปพลิเคชัน เช่น Wechat, QQ, Facebook, WhatsApp, Twitter, linkedin
- การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจทุก 5 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง
- Sport Mode รองรับ 9 ประเภท เช่น คริกเกต โยคะ การวิ่ง การเดิน การเดินระยะไกล การปีนป่าย การปั่นจักรยาน การปั่นจักรยานออกกำลังกาย การเล่นฟิตเนส
- สามารถชาร์จและส่งผ่านข้อมูลได้โดยไม่ต้องพึ่งตัวชาร์จ โดยชาร์จผ่าน USB จากตัว Band ได้โดยตรง
- เชื่อมต่อผ่าน realme Link
- อายุแบตใช้งานได้ 6-9 วัน ต่อการชาร์จ
- มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ สีเหลือง สีเขียว
- ราคา 799 บาท
SOFTWARE
ทางด้านระบบ Software นั้นจะเชื่อมต่อโดยใช้งาน App realme Link ซึ่งในตอนนี้จะมีแค่ realme Buds Air และ realme Band ในการรองรับในแอปนี้นะครับส่วนการเชื่อมต่อตัว Band นั้นจะใช้ BT 4.2 นะครับ ตัวแอปนั้นรองรับภาษาไทยอะไรได้รวมถึงตัว Band ด้วยเช่นกันในการเชื่อมต่อ หน้าตาอะไรใช้งานง่ายครับข้อมูลสามารถแสดงการออกกำลังหรือในแต่ละวันได้ เป็นกราฟฟิคสวยงาม แต่แน่นอนว่าตัวแอปนั้นยังไม่มีในตัว Apple Store นะครับ
เมื่อสมัครเข้าแอปครั้งแรกก็จะต้องลงทะเบียนพร้อมกับลงทะเบียนตัว Band หรือเชื่อมต่อนั้นเองครับตัวแอปหลักๆยังไม่ได้มีอะไรเยอะแต่ดูจากการออกแบบแล้วพวกสินค้าอื่นๆจากแบรนด์นี้น่าจะมีเยอะมากๆเพราะวางระบบไว้รองรับหลากหลายชิ้นได้สบายครับ การเชื่อมต่อไม่ยุ่งยากกดค้นหาและกดยืนยันได้เลยโดยการกดค้างเวลาขึ้นหน้าจอเชื่อม
เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้วนั้นก็จะมีตัว Band ขึ้นมาแบบในภาพด้านซ้ายสุดครับสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดได้เลยเมื่อเข้ารมาหน้าหลักนั้นจะเป็นตรงกลางคือบอกว่าในแต่ละวันทำอะไรไปเท่าไรบ้างและสรุปเป็นกราฟออกมาให้ดู ส่วนขวาสุดนั้นจะเป็นในส่วนของการสรุปเวลากดออกกำลังกายในตัว Band เป็นแบบไม่พกมือถือไปนะครับจะได้ประมาณนี้ จะไม่ได้มีแมพหรือแผนที่ให้ดูแต่ถ้าเรากดเริ่มวิ่งจากมือถือนั้นจะมีการบันทึกเส้นทางในการวิ่งหรือเดินมาให้ด้วยครับ
ในหน้านี้จะเป็นการสรุปในแต่ละช่วงข้อมูลว่าวันนี้ชีพจรจะเป็นยังไงเป็นการบอกรายละเอียดที่ลึกขึ้นในแต่ละส่วนครับเป็นการบอกเป็นโซนๆไปเลยและสูงต่ำยังไง ส่วนข้อมูลอันที่ 2 ก็เป็นก้าวเดินในช่วงนั้นวันนั้นๆ ระยะทางเท่าไร ที่แคล และยังมีบอกการนอนหลับให้ด้วยครับดูได้ทั้งหมด ส่วนขวาสุดจะเป็นการออกกำลังที่กดเริ่มในตัวแอปได้เลย
ในแง่ของการตั้งค่านั้นถือว่าตั้งค่าได้ค่อนข้างละเอียดเลยแหละทั้งปรับหน้าตา แจ้งเตือน การโทร รวมถึงการตั้งปลุก เตือนดื่มน้ำ และอีกมากมายทั้งหามือถือ หรือจะเป็นการเลือก Sportmode และ ใช้งานหน้าจอแนวนอนได้ด้วยบนตัว Band ครับอันนี้ไม่ค่อยเจอในตัวอื่น รวมถึงปรับภาษาไทยได้ และ ปรับความสว่างหน้าจอได้จากในแอปนั้นเอง
หน้าตา Watchface นั้นต้องบอกกันตรงๆว่าค่อนข้างน้อยกว่าตัวอื่นแบบชัดเจนมีแค่ 5 หน้าตาตามภาพเท่านั้นและไม่สามารถปรับได้ ส่วนการแจ้งเตือนนั้นรองรับค่อนข้างหลากหลายแอปมากๆ และการเลือก Sportmode นั้นรองรับประมาณ 9 โหมดหลักๆตามภาพครับอาจจะน้อยไปหน่อยแต่ทั้งนี้พวกนี้สามารถอัพเดทเพิ่มได้ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ
ส่วนการซิงค์ข้อมูลนั้นรองรับการซิงค์ไป Google Fit ยังไม่เจอแอพอื่นๆนะครับส่วนภาษาตามที่แจ้งไปรองรับภาษาไทยปกติในตัว Band และ มีการแจ้งระดับค่าชีพจรว่าโซนไหนเป็นยังไงและสามารถตั้ง Max ได้ว่าของเราเท่าไร
FEATURE
ในส่วนของฟีเจอร์เมื่อใช้งานผ่านตัว Band นั้นก็รองรับได้เยอะและมีพวกฟีเจอร์ที่จะคอยตรวจจับเองทั้งเรื่องของการเต้นของชีพจรที่ผิดปกติ หรือจะเป็นการนอนหลับอะไรพวกนี้นั้นไม่ต้องกดอะไรมันจะคอย Monitor เราเองตลอดเวลารวมถึงมันยังมีฟีเจอร์ที่จะตรวจเองได้ว่าตอนนี้เรากำลังออกกำลังอะไรอยู่นั้นเองครับ ส่วนในแง่ของการใช้งานนั้นจะเป็นระบบสัมผัสปุ่มเดียวคือตัวปุ่มข้างล่างหน้าจอครับเพราะว่าหน้าจอนั้นไม่ได้รองรับระบบสัมผัสแต่อย่างใดนะในรุ่นนี้ ในส่วนของฟีเจอร์ทั้ง วัดชีพจร การนับก้าว ระยะทาง ดูสภาพอากาศรวมถึง ค้นหามือถือก็ใช้งานได้ทั้งหมดครับ
หน้าหลักๆที่สามารถกดได้นั้นก็เป็นอันซ้ายสุดจะเป็นหน้าหลักของตัวนาฬิกา และ สามารถดูนับก้าวได้พร้อมกับกดอีกทีก็เป็นการวัดชีพจรครับ แต่วัดชีพจรจะไม่สามารถกดให้ติดตลอดเวลาไว้ครับถ้าใครอยากวัดแสดงตลอดเวลานั้นเอง
เมื่อเปลี่ยนหน้าไปอีกนั้นจะเป็นในส่วนของการออกกำลังที่สามารถใส่ได้ 3 แบบ และสามารถเลือกได้จากในแอพครับว่าจะให้มีอะไรเป็น 3 แบบหลักๆ ส่วนหน้าต่อไปก็เป็นสภาพอากาศและส่วนต่อไปก็เป็นในข้อมูลของตัว Band ครับ
ในส่วนของรายละเอียดในแต่ละส่วนครับคือเมื่อกดค้างในหน้าของการนับก้าวก็จะเข้ามาเป็นการดูข้อมูลแบบละเอียดครับว่าจะแสดงอะไรบ้างในวันนั้นเช่น จำนวนก้าว แคลที่เผาพลาญไปรวมถึง ระยะทาง และเวลาที่เราวิ่งไปทั้งหมด
และเมื่อกดค้างในส่วนของการออกกำลังนั้นจะเป็นการเริ่มจับแบบจริงจังว่า ชีพจรสูงสุดเฉลี่ยเท่าไร หรือจะเป็นระยะเวลาที่ใช้งาน และ จำนวนแคลซึ่งหน้าจอนี้จะสามารถติดไว้ได้เมื่อยกมาดูไมต้องกดเข้าไปหรือกดเพื่อดูอะไรครับ
FEELING
ในเรื่องของสายนั้นจะเป็นตัว TPU นะครับไม่ใช่สายซิลิโคนนิ่มๆเลยทำให้มันค่อนข้างทรงรูปทรงได้ดีมีความแข็งและนิ่มกำลังดีครับตัวสายนั้นไม่ได้มีลวดลายอะไรพิเศษเป็นสายเรียบๆเลยพร้อมกับโทนสีเขียวแบบทหารนิดหน่อยครับตัวสายมีสีดำ สีเหลืองให้เลือกใช้งานครับแล้วแต่ชอบ ในเรื่องของความรู้สึกในภาพรวมนั้นใส่สบาย เบาและไม่ใหญ่ในภาพคือข้อมือของสาวๆก็สามารถใส่ได้แบบพอดีแต่อาจจะใช้งานข้อสุดข้ายในการสวมใส่เลยครับแต่เท่าที่ลองใช้สอบถามนั้นก็บอกว่าชอบที่มันเบาและเล็กไม่เกะกะ เอาจริงๆใส่คู่กับนาฬิกาปกติได้คนละข้างแบบไม่เถอะทะด้วยครับ
ตัวปุ่มนั้นจะเป็นว่าจะเป็นปุ่มระบบสัมผัสวงกลมเล็กๆครับและจะสัมผัสได้แค่ปุ่มเดียวเท่านั้นตัวหน้าจอจะแตะไม่ได้ในการใช้งานตัวปุ่มนั้นก็ใช้งานปกติครับสั่งงานได้แค่ แตะค้าง แตะปกติจะไม่สามารถเลื่อนซ้ายขวาขึ้นลงอะไรได้ครับ ส่วนตัวล็อคให้มาเยอะมากๆรองรับขนาดข้อมือได้หลากหลายขนาดพอสมควรเลยส่วนในการใช้งานวิ่งจริงๆนั้นก็ตัวสายอะไรสามารถรองรับการใส่นานๆได้ครับจากที่ลองไม่ได้มีอาการแพ้อะไรรวมถึงไม่ได้ดีส่วนอึดอัดหรือร้อนอะไรครับ ความแน่นกำลังดีและน้ำหนักเบาใส่แล้วค่อนข้างกระชับไม่หลุดง่ายถือว่าในการใส่ใช้งานไม่ได้มีอะไรติดขัด แต่จะมีเรื่องของการใช้งานจริงในหน้าจอนั้นต้องบอกว่ามองยากในเวลาอยู่ข้างนอกพอสมควรครับ สู้แสงไม่ค่อยดีเท่าไร
NOTIFICATION รองรับไทย !
การแจ้งเตือนรุ่นนี้นั้นรองรับภาษาไทยทั้งหมดอ่านไทยได้ อักษร สระอะไรลงตัวไม่เด้งไม่หายครับรองรับได้หลากหลายบรรทัด แจ้งเตือนแอพได้ดีทั้ง Facebook LINE และแอพอื่นๆหลากหลายแอปพวกนี้สามารถเปิดได้ แต่จะดูย้อนหลังไม่ได้และไม่สามารถกดดูหัวข้อแจ้งเตือนได้ครับ จะเด้งมาแค่ตอนที่มันเตือนมาถ้ากดดูแล้วก็จะดูซ้ำไม่ได้นั้นเอง ก็ถือว่ารองรับภาษาไทยได้ก็อิสระในการใช้งานได้ระดับนึงแล้วแต่อาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างนิดหน่อยในการดูย้อนหลังครับ ส่วนในเรื่องการเปลี่ยนแปลง Spotify อะไรพวกนี้ไม่สามารถทำได้นะครับเนื่องจากหน้าจอมันไม่ได้สัมผัส
CHARGING
ในรุ่นนี้มีไฟแจ้งเตือนสถานะเวลาชาร์จมาให้ด้วยนะไม่ค่อยเห็น Band รุ่นไหนใส่ไฟตรงนี้เข้ามาก็เห็นชัดดีครับ อีกจุดเด่นคงเป็นเรื่องของการให้พอร์ต USB-A มาในตัวทำให้เราสามารถชาร์จแบตได้เลยไม่ต้องมีสายชาร์จของตัวเองไม่ต้องพกพาสายอะไรให้ยุ่งยากสามารถถอดสายและเสียบได้เลยครับค่อนข้างอิสระและง่ายมากๆถือว่าเป็นการออกแบบที่สะดวกจริงๆจะเห็นหลายๆตัวก็มีใช้แบบนี้เยอะขึ้นแน่นอนว่าเวลาไปข้างนอกมันสะดวกมากๆหรือเวลาไปเที่ยวครับ ส่วนในการชาร์จเข้าก็ไม่ได้มีชาร์จไวอะไรเป็นการชาร์จเข้าปกติครับสามารถเสียบชาร์จได้ทั่วไปเลยนั้นเอง
BATTERY LIFE
อายุการใช้งานแบตนั้นจากที่ลองใช้งานเปิดการใช้งานชีพจรตลอดเวลารวมถึงเปิดการเชื่อมต่อและใส่เวลานอนนั้นทำได้ประมาณ 5 วันครับมีการแจ้งเตือนเป็นระยะ และมีการใส่วิ่งช่วงเย็นวันเว้นวันโดยประมาณก็ถือว่าทำได้ตามที่แจ้งอยู่เหมือนกันถือว่าแบตก็ใช้ได้ครับอึดพอประมาณด้วยหน้าจอสีและการเปิดชีพจรตลอดเวลาก็อาจจะทำให้กินแบตใส่ส่วนนี้ได้นั้นเองส่วนถ้าใครที่เน้นซิงค์ไม่ได้บ่อยก็อาจจะทำให้ยืดอายุในส่วนนี้ได้รวมถึง ถ้าไม่เปิดชีพจรตลอดเวลาก็อาจจะลากไป 8-9 วันได้อยู่เท่าท่ีดูจากการลดแบตในช่วงเวลา 5 วันนี้ครับโดยจะลดไปแล้วแต่การใช้งานจริง
REALME BAND
” Smartband ราคาคุ้มค่า ฟีเจอร์จัดเต็ม เหมาะสำหรับสายสุขภาพในงบประมาณจำกัด “
ถือว่าเป็นตัวเลือกสำหรับใครที่เน้นในเรื่องของการออกกำลังแต่อาจจะเป็นตัวเริ่มต้นในงบไม่แพงมากสำหรับคนที่ยังไม่อยากลงทุนอะไรเยอะแยะแต่ขอแค่วัดชีพจรได้ กันน้ำได้ก็พอครับส่วนในเรื่องของการใช้งานก็ถือว่าตอบโจทย์ในหลายๆอย่างทั้งการออกกำลังกาย การแจ้งเตือนภาษาไทยในหลายๆแอปครับ รวมถึงแจ้งเตือนกดวางสาร เวลามีคนโทนมาได้ด้วย ส่วนตัวสายนั้นก็รองรับในการชาร์จแบบไม่ต้องมีสายชาร์จอะไรพิเศษครับสามารถถอดสายและเสียบชาร์จได้เลย ส่วนข้อที่ขอบ่นนิดหน่อยคงจะเป็นเรื่องของ หน้าจอที่ไม่สู้แสงมากนักและการปรับแต่งที่ยังมีน้อยไปหน่อย
ข้อดี
- ราคาเทียบกับสเปคฟีเจอร์รองรับได้ดีคุ้มค่ามาก
- วัดชีพจรได้ตลอดเวลา (แต่ไม่สามารถติดหน้าจอตลอดเวลาได้)
- ชีพจร การ Traking ทำได้ดี แม่นตามราคาของมัน
- ฟีเจอร์เยอะ ในการปรับแต่ง ตั้งค่าในแอป
- ตรวจวัดคุณภาพการนอน
- หน้าจอสี ขนาดใช้งานกำลังดี
- ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก มีแอปรองรับในการดูข้อมูล
- ขนาดน้ำหนักทำได้ค่อนข้างเบา
- แจ้งเตือนรองรับหลายแอป รองรับภาษาไทยได้สบาย อักษร สระ เป๊ะ
- แบตใช้งานได้อาทิตย์นึง อึดพอสมควร
- รองรับการชาร์จได้สะดวกไม่ต้องมีสายชาร์จแยก
ข้อสังเกต
- หน้าจอยังไม่สู้แสงเท่าไร
- ไม่สามารถดูแจ้งเตือนย้อนหลังได้
- ควบคุมเพลงไม่ได้
- หน้าตาปรับแต่งยังน้อยไปนิด
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review By Nineztr
