เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทาง Porshe บริษัทยนต์หรูสัญชาติเยอรมันเผยว่าในปีงบประมาณที่ผ่านมาทางบริษัทมีรายได้รวม 3.31 หมื่นล้าน€ (ประมาณ1.2ล้านล้านบาท) มากกว่าปีก่อนหน้าราว 15% รวมทั้งสามารถทำกำไรได้ 5.3 พันล้าน€ (ประมาณ1.9แสนล้านบาท) มากขึ้นกว่าปีก่อนหน้า 27% โดยมียอดขายรถยนต์รวมถึง 301,915 คันตลอดปีงบประมาณ 2021
อย่างไรก็ตามทาง Porshe ก็ได้เผยว่าทางบริษัทมีเป้าจะวางขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้มีอัตราส่วนเป็น 80% ของรถยนต์ทั้งหมดในบริษัทภายในปี 2030 และภายในปี 2025 ทางบริษัทจะผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (ทั้งแบบพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดและแบบ plug-in hybrid) เป็นครึ่งหนึ่งของรถยนต์ทั้งหมด
นอกจากนั้นทางบริษัทยังเผยว่าจะขยายพอร์ตการผลิตรถยนต์ EV เพิ่มเติมในรุ่น Macan และ 718 จากเดิมที่มีรุ่น Taycan เป็นตัวชูโรงของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของบริษัท เพราะทาง Porshe มียอดขายรถยนต์รุ่น Taycan มากถึง 41,296 คันในปีงบประมาณที่แล้ว มากกว่ารุ่น 911 ที่มียอดขาย 38,464 คัน
โดยรุ่น 718 จะเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีดีไซน์ทรงรถแข่งสไตล์ Mission R ซึ่งรุ่น Mecan จะถูกเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ 718 จะถูกเปิดตัวในปี 2025
ทางบริษัทได้ลงทุนพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว และมีแผนเริ่มผลิตได้จริงภายในปี 2024 นอกจากนั้นทางบริษัทมีแผนขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศออสเตรีย, เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์ ที่เป็นจุดชาร์จแบบพรีเมียมสำหรับลูกค้าของ Porshe เท่านั้น และจะขยายจุดชาร์จเพิ่มเติมไปยังสหรัฐ ฯ และจีนในอนาคต