Samsung ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Galaxy Z Fold2 ในงานอีเวนท์ออนไลน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังที่ได้เคยสัญญาไว้ โดยมาพร้อมหน้าจอ Infinity-O Dynamic AMOLED ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด QXGA+ ที่มีรีเฟรชเรท 120Hz และมาพร้อมหน้าจอด้านนอก Super AMOLED Infinity Flex ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ สำหรับใช้ขณะที่สมาร์ทโฟนพับอยู่ ซึ่งตัวหน้าจอหลักจะทำมาจากกระจกบาง Ultra Thin Glass ที่ดูมีความหรูหรามากขึ้น
นอกจากนี้ตัวแกนพับยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถทำความสะอาดฝุ่นในตัวเองได้ และตัวแกนพับยังมีลักษณะโค้งมน อีกทั้งยังทำมาจากไฟเบอร์ที่สามารถรับน้ำหนักตัวสมาร์ทโฟนขณะวางแบบพับหน้าจอได้ตั้งแต่ 75 – 115 องศา
นอกจากนั้นยังมาพร้อมฟีเจอร์ App Continuity ที่สามารถใช้งานแอพผ่านทั้งหน้าจอภายในและหน้าจอภายนอกได้อย่างลื่นไหล และยังมีฟีเจอร์ Multi-Active Window ที่สามารถเปิดแอพหลาย ๆ แอพได้พร้อมกัน รวมทั้งสามารถเปิดไฟล์หลายไฟล์จากแอพเดียวกันแบบพร้อม ๆ กันได้อีกด้วย
สเปคของ Samsung Galaxy Z Fold2
- หน้าจอหลัก Infinity-O Dynamic AMOLED ขนาด 7.6 นิ้ว (2208 x 1768 พิกเซล) QXGA+ อัตราส่วน 22.5:18, หน้าจอรอง Super AMOLED Infinity Flex ขนาด 6.2 นิ้ว (2260 x 816 พิกเซล) HD+ อัตราส่วน 25:9
- ชิปประมวลผล Snapdragon 865+ 7nm ที่มาพร้อมการ์ดจอ Adreno 650
- RAM LPDDR5 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB / 512GB
- Android 10 ที่ครอบด้วย One UI 2.5
- ซิมคู่ (nano + eSIM)
- กล้องหลัง 12MP (f/1.8) มาพร้อม LED Flash, รองรับ PDAF, OIS + กล้องเทเล 12MP (f/2.4) รองรับ PDAF, OIS, ซูมแบบ optical ได้ 2x, ซูมแบบ digital ได้ 10x + กล้องมุมกว้าง 120 องศา 12MP (f/2.2)
- กล้องหน้าที่จอรอง 10MP และที่จอหลัก 10MP (f/2.2)
- ลำโพง Stereo โดย AKG, รองรับ Dolby Atmos
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
- ขนาดตัวเครื่องขณะพับ : 68.0 x 159.2 x13.8~16.8mm, ขณะกางออก: 128.2 x 159.2 x 6.0~6.9mm; น้ำหนัก: 282กรัม
- รองรับ 5G SA/NSA, Sub6 / mmWave, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11ax (2.4/5GHz), HE80, MIMO, 1024-QAM, Bluetooth 5, GPS with GLONASS, USB Type-C (Gen 3.2), NFC, MST
- แบตเตอรี่ 4,500mAh ที่รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย 25W, แบบไร้สาย 11W (WPC and PMA)
เจ้า Samsung Galaxy Z Fold2 มีให้เลือกในสีดำ (Mystic Black), สีทองแดง (Mystic Bronze) และสามารถเลือกสีแกนพับได้ทั้งสีเงิน (Metallic Silver), สีทอง (Metallic Gold), สีแดง (Metallic Red) และสีน้ำเงิน (Metallic Blue) โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,999 USD (ประมาณ62,000บาท) ในรุ่น 256GB ซึ่งจะถูกวางขายในวันที่ 18 กันยายนนี้ใน 40 ประเทศ (รวมถึงไทยด้วย ซึ่งราคาที่ไทยยังไม่ถูกเผยออกมา) ส่วนรุ่น 512GB จะถูกวางขายที่ประเทศจีนเท่านั้น โดยวางขายวันที่ 9 กันยายนนี้