VIVO นั้นได้เปิดตัวรับต้นเดือนกันยายนด้วยการต่อยอดรุ่น Y มาเป็นรุ่น Y20 ที่เปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมดในด้านหลัง มาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้นแถมยังใช้สแกนนิ้วในด้านข้าง Side-Mounted Fingerprint Scanner และยังคงจุดเด่นแบตแน่นๆเยอะๆ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 18W ด้วยส่วนทางด้านสเปคหันมาใช้งาน Snapdragon แล้วเช่นกันและฝาหลังออกแบบใหม่ลวดลายสวยงามพร้อมกับไม่มีสแกนนิ้วมาเกะกะแล้วด้วยเช่นกัน ก็ถือว่าทำราคาและสเปคออกมาตอบโจทย์สาวกได้ดีกล้องหน้าหลังยังคงไว้ใจได้เลย ฟีเจอร์การถ่ายให้มาเหมือนเดิมครับ ละลายหลัง ฉากหลังขาวดำเป็นต้น และ รูหูฟังก็ยังคงใส่มาให้นะไม่ได้ตัดออกด้วยครับในรุ่นนี้
สเปคของทาง VIVO Y20 นั้นถือว่ามีสเปคอะไรที่ใช้งานได้ดีเลยทีเดียวครับ มาพร้อมกับหน้าจอ Halo FullView™ Display ขนาด 6.51 นิ้ว หน้าจอ IPS ความละเอียด HD+ และ กล้องหน้า 8 MP ทางด้านกล้องหลังนั้นให้มา 3 ตัว เป็นเลนส์หลัก 13 ล้านพิกเซล กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Bokeh 2 ล้านพิกเซล และ สแกนนิ้วด้านข้างใช้เวลาแค่ 0.33 วินาที + ยังมีเทคโนโลยี Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย ทางด้านสเปคนั้นมาพร้อมกับ Qualcomm Snapdragon 460 พร้อมด้วย RAM 4GB และ ROM 64GB ยังมาพร้อมช่องใส่ซิมแบบ Triple card slot ซึ่งสามารถรองรับ SD การ์ด ได้สูงถึง 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI ประหยัดพลังงาน + Reverse charging อีกด้วย แต่ยังคงใช้งาน Micro-USB นะครับ รวมถึงกล้องหลังนั้นน่าเสียดายไม่มีเลนส์มุมกว้างหรือโหมดกลางคืนมาให้นะ แต่โหมดต่างๆ ฟังก์ชั่นการถ่ายรูป ทั้ง Face Beauty หรือ Portrait Light Effects โฟกัสแบบ PDAF นั้นยังคงมีมาให้อยู่ครับ
Vivo Y20 วางจำหน่ายในราคา 5,299 บาท โดยมีให้เลือกถึง 2 สีด้วยกัน ได้แก่ Nebula Blue ( สีน้ำเงิน ) , Dawn White ( สีขาว )
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVO Y20
- ที่ชาร์จ 18W
- สายชาร์จ MICRO-USB
- เคสใส TPU
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
เคสที่เเถมมาของ VIVO Y20 ถือว่ามีความหนาอยู่พอประมาณ วัสดุงานเหมือนกับเคสที่เเถมมากับรุ่นก่อนๆ กันกระเเทกได้ดีในระดับนึง ตัวขอบกินเข้ามาบนหน้าจอและมีความหนาสูงกว่าหน้าจอทำให้วางคว่ำได้สบาย ส่วนฝาหลังนั้นก็คลุมได้หมดครับรวมถึงตัวเลนส์กล้องนั้นก็ทำออกมาปิดได้ดีมีความหนาขึ้นมาปกป้องได้เวลาวางต่างๆใช้งานทั่วไป ส่วนตรงพอร์ตชาร์จอะไรต่างๆนั้นมีจุกปิดมาให้เหมือนเดิมตามเเบบฉบับของ VIVO ที่เเถมมาเหมือนกับในรุ่นก่อน
ด้วยตัวเคสนั้นมีความนูนขึ้นมาปกป้องตัวเลนส์และหน้าจอขึ้นมาอีกครับ และ ทั้ง 4 มุมนั้นในด้านหน้าจะทำความสูงพิเศษขึ้นมาเพื่อที่จะปกป้องหน้าจอให้ดีขึ้นไปอีกเวลาตกหรือวางคว่ำครับ แต่ในแง่ของความสูงหรือหนาอาจจะไม่ได้สูงมากนักครับในรุ่นนี้ ตัวเคสภาพรวมปกป้องได้ดีแต่อาจจะไม่ได้หนามากนัก เวลาตกก็สามารถกระแทกได้ในระดับนึง แบบไม่หนักมากนะครับ
DESIGN
งานออกแบบในสี้นี้นั้นทาง VIVO เองได้รับแรงบันดาลใจจาก “เนบิวลาในห้วงจักรวาล” ไล่ระดับสีสีน้ำเงิน และสีม่วงอย่างสวยงามเปิดจินตนาการของคุณเพื่อสำรวจความลึกลับที่น่าชวนฝัน และยังใช้งานออกแบบตัวเครื่องให้มีความโค้ง 2.5D เพื่อให้พอดีกับมือมอบความรู้สึกสัมผัสตัวเครื่องที่บาง และเบา พร้อมด้วยสีสันสดใส สวยสะดุดตา สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ถ้ามองกันตรงๆฝาหลังการที่ย้ายสแกนนิ้วไปด้านข้างนั้นถือว่าทำให้ฝาหลังดูเรียบเนียนตาสวยและดูแพงเหมือนมือถือราคาแพงได้ดีเลย และการใช้โทนสีฝาหลังนั้นดูแพงดูดีกว่าตระกูล V พี่น้องมันด้วยนะในบางมุม อีกทั้งแม้จะเป็นแบต 5,000 mAh ก็ตามแต่ตัวเครื่องกลับทำได้บางและเบากว่าที่คิดไว้เยอะพอสมควรเลยแหละ
ทางด้านหน้าจอในรุ่นนี้ยังคงการออกแบบอิงแบบเดิมที่ใช้งาน หน้าจอ Halo FullView™ Display IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำแต่ที่ชอบคือมีการสู้แสงที่ทำได้ดีเลยทีเดียวและมุมมองการใช้งานถือว่าโอเคอย่างมากเมื่อเทียบกับราคาของรุ่นนี้
หน้าจอขอบบนนั้นเราจะเห็นว่ามีกล้องหน้า 8MP พร้อมกับการแทรกเซนเซอร์อะไรต่างๆไว้ข้างบนรวมถึงลำโพงเวลาคุยโทรศัพท์ครับ ส่วนขอบอะไรนั้นก็มีความหนาใกล้ๆกันทั้งหมด ตามในเรทราคาของมันถือว่าพอรับได้ในจุดนี้
แต่ขอบหน้าจอด้านล่างนั้นจะค่อนข้างหนาพอสมควรถ้ามองในแง่เรทราคาประมาณนี้ก็จะได้ประมาณนี้ในหลายๆตัวครับส่วนการควบคุมนั้นต้องบอกว่ารองรับการเปลี่ยนแปลงได้เยอะ สลับปุ่ม หรือใช้งานแบบท่าทางได้ด้วยเช่นกัน
ในด้านล่างนั้นแอบบ่นนิดหน่อยยังคงใช้งาน Micro-USB ครับ ส่วนลำโพงหลักในด้านซ้าย พร้อมกับรูไมค์และรู 3.5มม.ในด้านขวาสุด ส่วนบอดี้นั้นจะเป็นพลาสติกเล่นสีน้ำเงินเข้มและฝาหลังโค้งนิดๆตรงขอบแต่เรียบๆตรงกลาง
ในส่วนขอบด้านซ้ายนั้นเราจะเห็นว่ามีการไล่สีสวยงามฟ้าอ่อนไปน้ำเงินเข้ม จะห็นว่ามีความบางพอสมควรเลยทีเดียวและฝาหลังเรียบๆครับ รวมถึงถาดซิมรองรับ Triple Slot รองรับการใช้งานได้ดีเพิ่มความจุ และ ซิมคู่ด้วยครับ
ในส่วนของขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าตัวเครื่องนั้นจะเป็นคนละสีกับด้านล่างในขอบด้านบนนั้นจะเป็นสีฟ้าครับ และกล้องนั้นจะไม่ได้นูนออกมามากเท่าไรก็ถือว่ายังเป็นการออกแบบที่ค่อนข้างดีในส่วนของเลนส์กล้องด้านหลังรุ่นนี้ครับ
และทางด้านขอบด้านขวานั้นเราจะเห็นการไล่สีแบบเดิมแต่ครั้งนี้เป็นจุดเด่นของค่ายและในรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับสแกนนิ้วในด้านขวาที่เป็นปุ่ม Power ในตัวซึ่งสแกนนิ้วได้เร็วอย่างมาก และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงนั้นจะมีมาให้อยู่ในด้านบนครับ
ในส่วนของฝาหลังนั้นเราจะเห็นว่าการที่ย้ายสแกนนิ้วมาด้านข้างเราจะได้ฝาหลังแบบเรียบๆนั้นทำให้ดูพรีเมี่ยมและสวยอย่างมากครับ ส่วนการไล่เฉดสีต่างๆนั้นถือว่าดูดีและรองรับการเล่นกับแสงได้ดีมากๆแต่วัสดุนั้นจะยังคงไม่ได้ใช้งานวัสดุกระจกนะครับ แต่การใช้งานโทนสีอะไรถือว่ามีความพรีเมี่ยมกว่ารุ่นพี่ซะอีกจุดนี้เครื่องจริงถือว่าสวยเอาเรี่อง และการวางกล้องนั้นเราจะเห็นว่าในมุมซ้ายด้านบนเหมือนเดิมแต่มีการขยายให้คล้ายๆกับรุ่นพี่อยู่และการจัดวางต่างๆแต่ยังคงเรียงกัน 3 กล้องเรียงลงมาเหมือนเดิมเลย พร้อมกับโลโก้ที่เขียนในแนวนอนมุมซ้ายล่างของตัวเครื่องนั้นเอง
กล้องหลังนั้นยังคงให้มา 3 ตัวเช่นเดิมครับมาพร้อมกับเลนส์หลัก 13MP F2.2 ที่รองรับโฟกัสแบบ PDAF และมาพร้อมกับ เลนส์มาโคร ระยะ 4 เซนติเมตร 2MP F2.4 และเลนส์สำหรับการทำละลายหลังจับระยะต่างๆที่ 2MP F2.4 เช่นกัน ส่วนทางด้านงานออกแบบเปลี่ยนดีไซน์จากรุ่น Y19 เล็กน้อยตามสมัยมากขึ้นและไม่นูนเท่าไรด้วยครับ
SPEC
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 10.5 บนพื้นฐาน Android 10
- หน้าจอ Halo FullView™ Display IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ แบบติ่งหยดน้ำ
- Snapdragon 460 + GPU Adreno 610
- RAM 4GB
- ความจุ 64GB รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว (13MP F2.2 + 2MP F2.4 + 2MP F2.4 )
- กล้องหน้า 8MP F2.2
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
- พอร์ต microUSB, ช่องเสียบรูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จไว 18W
- น้ำหนัก 192.3 กรัม / ขนาด 164.41×76.32×8.41 มม.
- Accelerometer, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Virtual Gyroscope, E-compass, Side-Mounted Fingerprint Scanner
- Micro USB, Wi-Fi, Bluetooth 5.0, FM, OTG
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้ใช้งาน Snapdragon 460 พร้อมกับ Storage 64GB จัดเต็มด้วย RAM 4GB ส่วนทางด้านคะแนน USF นั้นอ่านไปได้ที่ 507 MB/s – เขียนไปได้ที่ 177 MB/s ส่วน DRL L1 ในแอป Netflix รองรับ HD นะครับ ส่วนคะแนน Antutu ทำไปได้ 143367 คะแนนถือว่าตามระดับของ CPU และ Geekbench นั้นทำไปได้ 256/1151 คะแนน ถือว่าเป็นการอัพเกรดจากรุ่นเดิมตอน Y19 มาใช้งานค่าย Snapdragon ตัวใหม่ 11nm
SYSTEM UI
ทางด้านหน้าตาระบบอะไรนั้นยังคงใช้ Funtouch OS 10.5 บนตัว Android 10 แล้วบอกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างครับทั้งหน้าตาการตั้งค่า Quick Setting มันไปอยู่ตำแหน่งที่ควรจะเป็นแล้วในด้านบนแน่นอนว่าหากเทียบกับ OS 10 ก่อนหน้าถือว่ามีหลายๆจุดต่างที่หน้าตั้งค่าตามที่แจ้งไปและฟีเจอร์ตามระบบ 10 นั้นเองครับ
การดูการแจ้งเตือนนั้นสามารถลากลงมาได้เหมือนรุ่นอื่นๆ ส่วนการตั้งค่าหลังจากรุ่นก่อนๆค่ายนี้จะเป็นการปัดขึ้นมาจากด้านล่าง แต่ครั้งนี้เลื่อนลงมาจากด้านบนแบบรุ่นอื่นๆแล้วเหมือนคนอื่นซะทีครับถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนหลักๆ ส่วนการแบ่งหน้าจออะไรสามารถทำได้สบายๆ และหน้าตามีการเปลี่ยนแปลงจากตอน OS10 อยู่พอสมควรเลยแหละครับ
Storage 64 GB จะว่างให้ใช้งาน 50 โดยประมาณครับ และในส่วนของ RAM 4 GB นั้นใช้งานไป 2GB กว่าเท่านั้นเองถือว่าน้อยพอสมควรเลยตัวระบบของมัน และทางด้านคีย์บอร์ดนั้นใช้งาน Google G Board นั้นเอง
อีกส่วนที่น่าสนใจของแบรนด์นี้ถือว่าเป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆในการใช้งานครับทั้งตัว Animationเปลี่ยนได้หลากหลายมากๆครับทั้ง หน้าตาตอนชาร์จ เป็นการปรับแต่งที่หลากหลายมากๆทำให้นึกถึงใน Android ยุคก่อนๆที่รูทและปรับเปลี่ยนหน้าตา Effect อะไรกันได้หรือจะเป็นการปรับแต่งอื่นๆถือว่าเป็นค่ายที่ปรับได้เยอะที่สุดเลยแหละ
Gesture แน่นอนว่ารองรับเหมือนกันทั้งแคปหน้าจอรวมถึงการเตือนเวลายกหรือจะเป็น Smart Feature ทั้งหมดแนบหูแล้วรับอะไรพวกนั้นครับและปุ่มการนำทางนั้นสามารถเปลี่ยนได้ด้วยทั้งรูปแบบ และ การจัดวางหรือเต็มจอครับ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้ยังคงใช้งานหน้าจอแบบ Halo FullView™ Display ขนาด 6.51 นิ้ว ที่เป็นติ่งหน้าจอตรงกลาง ยังไม่ได้ใช้งานหน้าจอเจอะรูครับ ทางด้านหน้าจอใช้อัตราส่วนจอแสดงผล 20:9 ความคมชัดระดับ HD+(1600 x 720) มอบมุมมองที่กว้างมากยิ่งขึ้น ด้วย IPS และเทคโนโลยี In-cell ทำให้จอแสดงผลมีสีสัน ความคมชัด และรายละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยกรองแสงสีฟ้า เพื่อปกป้องดวงตาของคุณ เท่าที่ทดสอบนั้นแน่นอนว่าตามเรทราคาก็แอบเสียดายว่าหน้าจอยังคงเป็น HD+ เท่านั้นถ้าใครที่ใช้งานเรือธงมาก่อนแน่นอนว่ามาจับตัวนี้อาจจะรู้สึกว่าไม่คมเท่า แต่ถ้ามองกันสำหรับคนทั่วไปที่ใช้งานมือถือในเรทราคานี้อยู่แล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันครับ แต่ชอบที่สีสันและสู้แสงได้ดีงามพอสมควรเลยสำหรับทาง VIVO Y20 รุ่นนี้ ถือว่าเทียบกันในงบนี้จอตัวนี้สวยและสว่างเอาเรื่องเลย
ในแง่ของการสัมผัสนั้นจริงๆทางค่าย VIVO ต้องบอกตรงๆว่าเป็นค่ายที่ทำระบบและสเปคออกมาเข้ากันได้ดี มีความลื่นไหลในการใช้งาน สัมผัส หน้าจอมีคุณภาพครับเพราะในหลายๆค่ายอาจจะเจอสเปคแรงก็จริง แต่พอใช้งานสัมผัส ความลื่นไหลมันไม่ดีเท่าไร แต่ไม่เจอปัญหากับค่ายนี้เลยจริงๆถือว่าเป็นจุดเด่นของ VIVO เลยครับ ส่วนมุมมองในด้านเอียงๆนั้นก็พอไหวในการใช้งานทั่วไปเป็นจอ IPS สบายๆครับสีไม่ได้ดรอปหรือเพี้ยนรวมถึงมีความสว่างที่สม่ำเสมอ ถือว่าเป็นจอที่ดีนะเท่าที่ลองใช้งานมาครับ แม้จะเป็น HD+ แต่คุณภาพสู้แสง สีตรงและสม่ำเสมอทำได้ดี
SIDE-MOUNTED FINGERPRINT SCANNER
ในรุ่นนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งของทางค่าย เพราะว่าในรุ่นก่อนๆในเรทราคาไม่แพงนั้นจะใส่สแกนนิ้วด้านหลังมา อาจจะทำให้ดีไซน์ฝาหลังและการใช้งานอาจจะไม่ได้ทันสมัยมากนัก แต่ครั้งนี้ได้ปรับมาใช้งาน Side-Mounted Fingerprint Scanner หรือสแกนนิ้วในด้านข้างที่เป็นปุ่ม POWER ในตัวเลยทำให้เราสามารถ ปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ 0.33 วินาที นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างดีนะ ดีไซน์ดูเรียบมากขึ้นและปุ่มก็ใช้งานเวลาเปิดเครื่องได้ดีเลยแหละครับ
SOUND
ทางด้านเสียงนั้นในรุ่นนี้ถือว่ากลางๆครับทั่วไปไม่ได้เด่นหรือเน้นมากนักสำหรับทาง VIVO Y20 รุ่นนี้แน่นอนว่ายังคงมีรู 3.5 มาให้เสียงก็พอใช้งานทั่วไปได้ แต่จะไม่ได้มีหูฟังอะไรมาให้แล้วนะสำหรับรุ่นนี้ ส่วนเสียงนั้นเท่าที่ลองก็ถือว่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆในเรทราคานี้ก็ไม่ได้หนีกันมากนัก เสียงกลางๆ ฟังเพลงได้ คุยโทรศัพท์ได้ แต่ถ้าคนที่เน้นฟังเพลงผ่านหูฟังมากๆก็ถือว่าพอรับไหว เสียงยังรู้สึกดังและมีกำลังขับนิดหน่อย แต่การเล่นเพลงต่างๆเสียงมันยังขาดมิติ หรือ ขับออกมาได้ไม่ครบเท่าไรนัก ถ้ามองเทียบกับในเรทนี้จริงๆมีบางตัวจะรู้สึกกำลังขับได้มากกว่า แต่มิตินั้นไม่ได้หนีกันมากครับก็ถือว่า กลางๆไม่ได้เด่น แต่ก็ไม่ได้เบาหรือแบนแห้งซะทีเดียวสำหรับตัวนี้ใช้งานแก้ขัดฟังเพลินๆได้
GPS
ในการนำทางต่างๆนั้นไม่เจอหลุดหน่วงอะไรนั้นถือว่าทำได้ดีกว่าเดิมพอสมควรเพราะการที่หันมาใช้งาน Snapdragon แล้วก็อาจจะมีส่วนช่วยในเรื่องนี้ได้ด้วยการจับที่ดีขึ้นกว่าเดิมและไวกว่าเดิมครับในการทดสอบใช้งานจริงโดยทดสอบในที่ร่มหรือใต้ทางด่วนพวกนี้ เจอทั้งหมด 54 ดวง และ จับได้ 25 ดวง ส่วนที่โล่ง บนรถ กลางแจ้งทำได้ 56 ดวง จากทั้งหมด 32 ดวง ครับถือว่าอยู่ในระดับที่ดีพอสมควรเลยแหละ และเทียบกับรุ่น Y19 จุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่พัฒนาขึ้นชัดเจนจริงครับถือว่าโอเคสำหรับใครที่อาจจะหามือถือมาใช้งานนำทาง หรือ GRAB พวกนี้ได้
BATTERY 5,000 MAH
การใช้งานแบตตัวนี้ถือว่าให้มาจัดเต็มเช่นเดิม 5,000 mAh พร้อมกับรองรับการชาร์จไว 18W ถือว่าเหลือๆในการใช้งานเมื่อเทียบกับราคา และ สเปคนั้นเพียงพอต่อการใช้งานทั่ววันได้เลยครับตัวแบตยังคงเยอะแต่ทำน้ำหนักตัวเครื่องได้บางเบาเช่นเดิมสำหรับตระกูล Y รุ่นนี้ เท่าที่ลองใช้งานจริงนั้นใส่ซิมใช้งานปกติถือว่ารองรับได้สบายๆ เท่าที่ลองใช้งาน 12 ชั่วโมงนั้น เปิดหน้าจอไป 4-5 ชั่วโมง เล่นเกมไป 1 ชั่วโมงเต็มๆพร้อมกับ ฟังเพลง นำทางต่างๆถ่ายรูปถือว่าอึดเลยนะเหลือกลับมา 51% แต่ถ้าใช้งานโซเชี่ยลเยอะมากๆก็อาจจะได้ประมาณ 30% แต่ก็ถือว่ายังสบายๆในการใช้งานทั่วไปทั้งวันแบบไม่ต้องกังวลอะไรครับเพราะหน้าจอ CPU นั้นไม่ได้กินแบตเลยทำให้เหลือๆเลยครับจุดนี้
CAMERA TRIPLE
กล้องในรุ่นนี้ให้มาทั้ง เลนส์หลัก เลนส์จับระยะ รวมถึงมาโคร แน่นอนว่าใช้งานหลักๆนั้นคงหนีไม่พ้นเลนส์หลักที่มาพร้อมกับ 13MP F2.2 ที่รองรับโฟกัสแบบ PDAF ซะด้วย ส่วนทางด้านเลนส์จับระยะให้มา 2MP F2.4 รวมถึงเลนส์มาโคร ที่ถ่ายได้ 4 เซนติเมตรให้มาที่ 2MP F2.4 ด้วยเช่นกันจริงๆแอบน้อยไปนิดหน่อยแต่คุณภาพนั้นถือว่าเพียงพอเลยแหละ แต่ที่ลองใช้งานและค่อนข้างชอบนั้นคงจะเป็น Software ในการจัดการทั้งหมดถือว่าทำได้ว้าวพอสมควร จัดการแสงสี HDR อะไรได้สวยงามรวมถึงการจับระยะละลายหลังถ่ายคนได้เนียนเกินหน้าตามือถือเรทราคานี้มากๆครับ อีกทั้งยังได้ PORTRAIT EFFECT ทั้ง RAINBOW – MONOCHROME แบบรุ่นพี่มาด้วยทำให้การถ่ายนั้นสนุกพอสมควร แต่ก็แอบเสียดายเลนส์มุมกว้าง และ โหมดกลางคืนนิดหน่อยว่าไม่ได้ใส่เข้ามาให้ในรุ่นนี้ครับ
PORTRAIT EFFECT
SELFIE
กล้องหน้าในรุ่นนี้ยังคงให้มาที่ 8MP เป็นเลนส์หลักในการถ่ายครับซึ่งคุณภาพอะไรถือว่าโอเคใช้งานได้เลยทีเดียวในรุ่นนี้มุมมองอะไรนั้นกลางๆไมไ่ด้แคบและไม่ได้กว้างมากนักเก็บส่วนใบหน้าและไหล่ได้แบบกำลังดี ถ้ายืดแขนสุดก็สามารถเก็บระยะรวมๆได้กำลังดีเลย ส่วนการถ่ายนั้นเก็บสีผิวอะไรได้ดีเลยนะมีความขาวและสว่างกำลังดีโทนค่อนข้างตรงและสวย การปรับแต่งใบหน้านั้นยังคงจัดเต็มมาให้ตามแบบฉบับค่ายนี้อยู่ และยังมีโบเก้ใส่เข้ามาให้สำหรับการละลายหลังเวลาถ่ายกล้องหน้า แต่จะไม่สามารถปรับระยะละลายหลังอะไรได้นะครับโปรแกรมจัดการมาให้ทั้งหมด
VIVO Y20
” แบตจัดเต็ม 5,000 mAh พร้อมกล้องหน้าหลังที่ไว้ใจได้ และ สแกนนิ้วด้านข้าง “
ตระกูล Y จัดเต็มอีกครั้งแน่นอนว่ามาพร้อมกับแบตที่จัดเต็ม 5,000 mAhเช่นเดิมแต่มีการปรับเปลี่ยนงานออกแบบให้ดูดีสวยงามมากขึ้นและทำราคาได้ดีกว่าเดิม การย้ายสแกนนิ้วมาด้านข้างแบบรุ่นแพงๆทำให้งานออกแบบฝาหลังสวยงามมากขึ้นพอสมควรเลยแหละ ส่วนกล้องหลังยังคงให้มา 3 ตัวพร้อมกับฟีเจอร์การถ่ายที่ครบๆเช่นเดิมอีกทั้งทางด้านหน้าจอถือว่าสวยและสู้แสงได้ดี และปรับมาใช้งาน CPU Snapdragon 460 รุ่นใหม่ล่าสุด จัดการพลังงานได้ดี ประหยัดแบตพอสมควรแต่ก็ยังทำงานได้ลื่นไหลเมื่อใช้งานกับ Funtouch OS ของทาง Vivo ถือว่าลื่นไหลและติดนิ้วครับจริงๆไม่อยากให้มองแค่สเปคเพราะระบบของค่ายนี้ถือว่าทำจัดการได้ดีจนน่าตกใจเลยแหละ แต่ก็ขอบ่นในเรื่องของพอร์ต Micro-USB และ กล้องไม่มีมุมกว้างหรือโหมดกลางคืนอะไรมาให้ก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
ข้อดี
- หน้าจอทำได้สวยและสู้แสงได้ดีพอสมควร
- สแกนนิ้วด้านข้างค่อนข้างดี ดีไซน์ฝาหลังได้สวยขึ้น
- แบตให้มาแน่นๆ 5,000 mAh ทั้งวันเหลือๆ + (ชาร์จเร็ว 18W)
- กล้องหลัง 3 ตัวใช้งานได้ดี
- กล้องหลัง Portrait ทำได้ดีเกินราคา
- กล้องหน้ายังคงไว้ใจได้ ถ่ายสวย
- ตัวเครื่องน้ำหนักค่อนข้างเบา บางพกพาได้ง่าย
- สเปคเพียงพอต่อการใช้งาน RAM 4GB STORAGE 64GB
- ระบบทำงานได้ลื่นไหล สัมผัสใช้งานติดนิ้ว
ข้อสังเกต
- ไม่มี Nightmode หรือ กล้องมุมกว้างให้ใช้งาน
- ยังคงใช้ Micro-USB
- หน้าจอ HD+
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr