ASUS Republic of Gamers (ROG) ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเกมมิ่งภายใต้ธีม Meta Buffs โดยมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงในเรื่องของน้ำหนักที่เบาขึ้น เร็วขึ้น และความทนทานที่มากขึ้นเพื่อยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมไปอีกขั้น โดยงานนี้ได้จัดผ่านระบบออนไลน์ซึ่งมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
ROG Strix GeForce RTX 30 Series graphics cards
มาถึงสินค้าตัวแรกกับการ์ดจอ ROG Strix GeForce RTX™ 30 ซีรี่ส์ที่ปรับปรุงมาใหม่ทั้งหมดบนสถาปัตยกรรม NVIDIA® Ampere ถึอว่าเป็น RTX ในเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งได้เพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เข้ามามากมาย อาทิความละเอียดและความสวยงามของภาพ, เฟรมเรทที่สูงขึ้น เพื่อรองรับแอปพลิเคชั่นใหม่ ๆ และความแรงเพิ่มขึ้น 1.9 เท่าต่อวัตต์ และ สามารถรองรับความละเอียดในการแสดงผลสูงถึง 8K, ผสานกับการออกแบบชุดระบายความร้อนแบบใหม่ที่ได้เปิดเพลทโลหะเข้าไปเพื่อให้ดูดุดันมากยิ่งขึ้น พร้อมกับพัดลมแบบ Axial-tech 3 ตัวที่ได้รับการปรับจูนเพื่อการระบายความร้อนที่ดีที่สุด และเสียงรบกวนน้อยที่สุด โดยพัดลมตัวกลางจะให้ใบพัดมาถึง 13 ใบ และพัดลมตัวซ้ายและขวาจะมีใบพัด 11 ใบ ทำงานที่ความเร็วรอบแตกต่างกัน ช่วยทำให้การไหลเวียนของอากาศผ่านแผงระบายความร้อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
มาถึงในส่วนของฮีทซิงค์ระบายความร้อนที่ออกแบบใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 2.9 slot เพื่อช่วยการไหลเวียนของอากาศที่ดีขึ้น และถ่ายเทความร้อนจากตัว GPU ได้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี MaxContract พื้นผิวที่ถูกขัดเรียบในระดับจุลภาคทำให้สามารถนำพาความร้อนได้อย่างดี, นอกจากเรื่องของชุดระบายความร้อนแล้ว เรายังได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวเก็บประจุ, โช้คภาคจ่ายไฟ ที่สามารถส่งมอบพลังงานหลายร้อยวัตต์ได้อย่างง่ายดายภายในเวลาเพียงเสื้ยววินาที,
กราฟิกการ์ด ROG Strix GeForce RTX 30 ใช้ส่วนประกอบ Super Alloy Power II ที่ถูกประกอบเป็นตัวการ์ดด้วยเทคโนโลยี Auto-Extreme โดยใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมในการผลิตทุกขั้นตอนเพื่อลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากมนุษย์ และเพื่อให้แน่ใจว่าการ์ดทุกใบจะได้มาตรฐานตามข้อกำหนดของ ROG
FanConnect II หัวต่อพัดลม PWM ที่ควบคุมการทำงานอัตโนมัติตามการแปรผันของอุณหภูมิ CPU และ GPU และทำงานตามการปรับสวิตช์ Dual bios ระหว่าง Performance และ Quiet โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมควบคุม และไฟแสดงสถานะตรวจสอบการเชื่อมต่อไฟจาก PSU เพื่อช่วยให้แก้ปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ในส่วนของการออกแบบด้านหน้าตัวการ์ดครั้งนี้ ทีม ROG ได้มีการออกแบบหน้าตาใหม่ทั้งหมดโดยมีการผสมเส้นสายที่เป็นโลหะช่วยเพิ่มความดุดันและความแข็งแรงของตัวการ์ด, ไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งได้ด้วยโปรแกรม Armory Crate, แผ่น Backplate และ PCB ที่มีการเจาะช่องระบายอากาศเผื่อให้ระบายขึ้นสู่ด้านบน ป้องกันลมร้อนที่จะหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่
สรุปผลรวมของการเพิ่มบัฟให้กับกราฟิกการ์ด ROG Strix GeForce RTX 30 Series ส่งผลให้การออกแบบระบายความร้อนก้าวกระโดดไปข้างหน้าอย่างมาก เมื่อจับคู่กับประสิทธิภาพที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรม NVIDIA Ampere ตอนนี้เกมเมอร์
สามารถเข้าถึงประสบการณ์ใหม่ ๆ ตั้งแต่อัตราเฟรมที่บ้าคลั่งในเกมการแข่งขันไปจนถึงการเล่นเกมความละเอียดสูงที่ราบรื่นในเกม AAA ที่สมจริง
ROG Swift 360Hz PG259QN and PG259QNR gaming monitors
ROG ยังเปิดตัวจอเกมมิ่งรุ่นล่าสุดอีก 3 รุ่นด้วยกันคือ ROG Swift PG329Q, ROG Swift PG259QN 360Hz และ ROG Swift PG259QNR 360Hz ที่รองรับการเล่นเกมได้ไหลลื่นและภาพสมจริงขณะเล่นเกม
ROG Swift PG259QN และ PG259QNR เป็นจอเกมมิ่งตัวแรกของโลกที่มีรีเฟรชเรตเร็วที่สุดตอนนี้คือ 360 Hz ซึ่งแสดงผลได้สูงกว่าจอ 240 Hz ถึง 50% ตัวจอมีขนาด 24.5 นิ้ว 1920 x 1080 ใช้พาแนลแบบ Fast IPS ทำให้การตอบสนองของภาพทำได้เร็วถึง 1ms gray-to-gray (GTG) ตัวจอยังรองรับ HDR10 ทำให้ความสว่างของภาพทำได้ชัดเจน สมจริงยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังใช้ NVIDIA® G-SYNC® processor ที่ให้ variable refresh rate (VRR) แบบปรับเปลี่ยนได้ ทำให้การเล่นเกมนั้นลื่นไหล ภาพไม่มีอาการภาพขาด หรืออาการแลคของภาพเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
Reflex Latency Analyzer อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะมาปฏิวัติวงการเกมเมอร์ให้เหนือชั้นไปอีกระดับ กับจอ ROG Swift PG259QNR จอเกมมิ่งที่สามารถตรวจจับเมาส์ที่การคลิกของเมาส์และการเคลื่อนไหวบนจอได้ เช่น แสงไฟจากปากกระบอกปืนที่ยิงออกไปกับเมาส์ที่คลิกอยู่ขณะนั้นว่าตรงกันรึเปล่า ซึ่งการวัดผลระดับนี้ต้องใช้เครื่องวัดที่มีราคาสูงกว่า $7,000 เหรียญสหรัฐฯ Reflex Latency Analyzer ช่วยให้เกมเมอร์ได้เข้าใจถึงการวางตำแหน่งเมาส์ เครื่องคอมฯ และจอที่คุณใช้งานว่าสัมพันธ์กันในแบบที่ควรจะเป็น
ROG Swift PG329Q จอเกมมิ่งขนาด 32 นิ้ว ที่ความละเอียด 2560 x 1440p ให้อัตรารีเฟรชเรทที่ 175 Hz มาพร้อมกับเทคโนโลยีพาเนลจอแบบ Fast IPS และเป็นจอเกมมิ่งตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับ NVIDIA G-SYNC Compatible ที่มีโอเวอร์ไดรฟ์แบบปรับเปลี่ยนได้, องค์ประกอบผนึกของเหลวภายในจอสามารถตอบสนองได้รวดเร็วกว่าจอ IPS ทั่วไปได้ถึง 4 เท่า ทำให้การตอบสนองทำได้เร็วถึง 1 ms gray-to-gray (GTG) ที่สำคัญจอตัวนี้ใช้เทคโนโลยี Quantum-dot ที่ผ่านการตั้งค่าสีแล้วจากโรงงานแล้ว นอกจากนี้ยังรองรับ DisplayHDR™ 600, DCI-P3 98% และ sRGB สูงถึง 160% ให้สีได้แม่นยำและสมจริงยิ่งขึ้น และถนอมสายตาด้วยเทคโนโลยี ASUS Extreme Low Motion Blur Sync (ELMB Sync) ช่วยขจัดภาพเบลอโดยไม่ลดทอนอัตราการรีเฟรชเรท ด้วยการปรับการตอบสนองของพิกเซลแบบไดนามิกช่วยให้ภาพลื่นไหลพร้อมไปกับการถนอมสายตาในตัว
ROG Strix XF 120 cooling fan
ROG Strix XF 120 พัดลมระบายความร้อนพีซีขนาด 120 มม. เชื่อมต่อผ่านสาย 4 พิน แบบ PWM ได้รับการทดสอบและการันตีว่าให้แรงลมได้สูงถึง 62.5 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) และแรงดันลมคงที่ 3.07 mm H2O รองรับการใช้งานได้หลากหลายทั้ง CPU cooler ระบายความร้อนหม้อน้ำ หรือแม้แต่ระบายความร้อนจากตัวเคสฯ
ROG Strix XF 120 ใช้แกนพัดลมเป็นแบบแม่เหล็กลอยตัว เพื่อลดการเสียดทานเมื่อใช้งาน ทำให้มีเสียงที่เงียบขึ้น อายุการใช้งานได้ยาวนานถึง 400,000 ชั่วโมง ใบพัดลมมีร่องพิเศษเพื่อเพิ่มแรงลมอีกด้วย ขอบของพัดลมใช้วัสดุเป็นยางเพื่อลดการสั่นสะเทือนที่ให้เสียงรบกวนได้ ตัวพัดลมทำรอบได้ตั้งแต่ต่ำสุด 250 ถึงสูงสุดที่ 1800 RPM และสามารถปิดตัวเองอัตโนมัติเมื่อตั้งค่าไว้ที่ 0% PWM
ROG Rapture GT-AXE11000 gaming router
ASUS เป็นผู้นำในตลาดอุปกรณ์เครือข่ายรายแรกที่เปิดตัวเราเตอร์ WiFi 6 ตัวแรกของโลก และตอนนี้ ASUS ได้พร้อมที่จะส่งมอบแบนด์วิดท์ที่กว้างขึ้นและเพิ่มช่องสัญญาณ WiFi 6E บนช่องความถี่ 160Hz ด้วย ROG Rapture GT-AXE11000 ซึ่งเป็นเราเตอร์ WiFi 6E ตัวแรกของโลกในแบบ Tri-Band บนการเชื่อมต่อแบบ 802.11ax WiFi 6E ทำให้ ROG Rapture GT-AXE11000 รองรับความเร็วสูงถึง 11,000 Mbps และรองรับ WAN aggregation ซึ่งสามารถทำงานคู่กันได้ ทำให้รองรับความเร็วอินเทอร์เน็ตได้สูงถึง 2 Gbps, และด้วยเสา Wifi 6 แบบ 4×4 และความเร็วพอร์ท Lan ที่ 2.5 Gbps พร้อมสำหรับความเร็วของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั้งแบบสายและไร้สาย ได้มากกว่า 1 Gbps เป็นที่เรียบร้อย ROG Rapture GT-AXE11000 ใช้ CPU แบบ quad-core 1.8 GHz 64-bit มาพร้อมกับ RAM 1GB รองรับการทำงานหนักต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ROG Rapture GT-AXE11000 ยังใช้พาวเวอร์แอมป์กระจายใหม่ในย่านความถี่ 6 GHz ซึ่งมีแบนด์วิดท์มากกว่า 5Ghz ถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องสัญญาณ 160 MHz ให้อีก 7 ช่อง จากมาตรฐาน WiFi 6 ช่วยลดอาการแลค และให้ความเร็วสูงกับอุปกรณ์ที่รองรับ โดยไม่กระทบกับอุปกรณ์รุ่นเก่า
ROG Strix Scope RX keyboard
เกมมิ่งคีย์บอร์ด ROG Strix Scope RX เป็นคีย์บอร์ด RGB ตัวแรกที่เราใช้สวิตซ์เมคคานิคคอลของเราเองที่ใช้ชื่อว่า ROG RX Red Optical Mechanical Switches ที่ออกแบบแกนปุ่มกดเป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบกลวงพร้อมไฟ RGB ช่วยให้คุณได้พิมพ์แม่นยำมากยิ่งขึ้น แม้ไม่ได้ออกแรงกดเต็มนิ้ว และช่วยให้ไฟ RGB นั้นกระจายได้รอบคีย์แคปอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความล่าช้าในขณะส่งข้อมูลเรียกได้ว่าเป็นศูนย์ ทำให้ทุกสัมผัสของคุณทำได้อย่างแม่นยำ และด้วยสวิตซ์ภายในเป็นแบบ X-stabilizer ทุกการกดทำได้สม่ำเสมอไม่โยกเยก และอายุการใช้งานของสวิตซ์ยังทำได้สูงถึง 100 ล้านครั้ง มั่นใจในความทนทานได้เลย!
ROG Strix Scope RX วัสดุด้านบนทำจากอัลลอยป้องกันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP56 เพื่อความทนทานในการใช้งาน ให้คุณได้สัมผัสการเล่นเกมแนว first-person shooter (FPS) ได้แม่นยำด้วยปุ่ม Ctrl ด้านซ้ายที่มีขนาดใหญ่ พอร์ตเชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 ที่เป็นแบบ passthrough รองรับการชาร์ตแบตฯ และการต่อฮาร์ดดิสก์ภายนอกได้ ปุ่ม Stealth key ไว้สำหรับปิดโปรแกรมทั้งหมดเพียงปุ่มเดียวยามต้องการความเป็นส่วนตัว และบรรดาปุ่มมัลติมีเดียก็ยังมีมาให้ครบครัน คีย์บอร์ดมาพร้อมกับไฟ RGB ในทุกส่วน ที่โลโก้ ROG และยังสามารถปรับตั้งแต่ตามใจคุณต้องการ ผ่านโปรแกรม Armoury Crate ที่ยังสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ไว้ให้ตรงกับเกม หรือโปรแกรมที่คุณใช้งานได้ตามใจชอบ
ROG Keris Wireless mouse
เมาส์ไร้สาย ROG Keris มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบามาก หนักเพียง 79 กรัม แต่ยังมีพื้นที่ในการจับเมาส์ได้กระชับ เหมาะมือ เมาส์ตัวนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง ROG กับบรรดาเกมเมอร์มือโปรฯ ที่ใช้เวลากว่า 6 เดือน ออกตัวต้นแบบมามากมายเพื่อให้เมาส์ไวเลส ROG Keris ที่จับได้กระชับ เหมาะกับเกมเมอร์ทุกคน
ความโดดเด่นอย่างแรกเชื่อมต่อได้ 3 โหมด 2.4 GHz / Bluetooth® LE และต่อสาย USB เมื่อจำเป็นต้องชาร์ตแบตเตอรี่ เซนเซอร์ของเมาส์ยังคงความพิเศษเหมือนเดิมคือรองรับการตั้งค่า DPI สูงถึง 16,000 dpi และต่ำสุด 400 dpi และด้วยแรงกดเพียง 40 กรัมเพื่อคงความแม่นยำที่สุด เมาส์ไวเลส ROG Keris ยังใส่ฟีเจอร์ที่ สามารถปรับเปลี่ยนสวิตซ์ได้เองโดยไม่ต้องบัดกรี อีกทั้งยังมาพร้อมกับสวิตซ์ที่ออกแบบใหม่ของ ROG เองที่ใช้ชื่อว่า ROG Micro Switch รองรับการคลิกได้สูงถึง 70 ล้านครั้งและหัวเชื่อมต่อแบบเคลือบทองเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน
ในส่วนของวัสดุที่ใช้กดปุ่ม L/R นั้นเราได้ใช้วัสดุ PBT ซึ่งมีความหนาและทนทานเป็นพิเศษ และด้านฟีดเมาส์ถูกออกแบบใหม่ให้มีความโค้งมน 100% ปุ่มด้านข้างสามารถถอดเปลี่ยนได้ และสามารถสร้างสรรค์สีได้เอง และท้ายสุดกับสายของเมาส์ไวเลส ROG Keris นั้นออกแบบให้ยืดยุ่นได้สูง ใช้งานได้คล่องตัวอีกด้วย
ROG Delta S headset
หูฟังเกมมิ่ง ROG Delta S เหมาะกับเกมเมอร์ตัวจริงอย่างคุณ ฟีเจอร์แน่นๆ อย่าง hi-fi-grade ESS 9281 CODEC ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี QUAD DAC™ และเป็นครั้งแรกของหูฟังเกมมิ่งที่มีเทคโนโลยี Master Quality Authenticated (MQA) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางด้านเสียงที่สร้างขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพการฟังเพลง และเป็นวิธีการเก็บเพลงที่บันทกไว้ในรูปแบบไฟล์ให้เล็ก สะดวกแก่การดาวน์โหลด โดยไม่เสียคุณภาพเสียงไปในขณะที่บีบอัดข้อมูล จึงทำให้ผลลัพธ์ไฟล์ MQA มีคุณภาพเทียบเท่ากับเสียงต้นฉบับที่อัดอยู่ในสตูดิโอเลยทีเดียว อีกทั้งยังมี ASUS AI noise-canceling ไมโครโฟน ทำให้ ROG Delta S ส่งมอบเสียงของคุณให้กับเพื่อนหรือก๊วนในวง ได้คมชัดยิ่งขึ้น และด้วยไดร์เวอร์ ASUS Essence ทำให้คุณภาพของเสียงทำได้สมจริงที่สุด เพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี
ROG Delta S นั้นมีน้ำหนักเพียง 300 กรัมและลักษณะเป็นแบบ D-shaped ROG Hybrid ear cushions ทำให้สวมใส่ได้สะดวกสบาย เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี พอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-C® เพื่อให้คุณสามารถใช้งานได้ทั้ง PC และเกมมิ่งคอนโซลอื่น ๆ หรือแม้แต่โทรศัพท์ได้สะดวก ไฟ RGB รอบตัวหูฟังนั้นมาพร้อมกับฟังก์ชั่น Aura Sync เพื่อให้คุณได้ควบคุมแสงไฟได้ทั้งหมด และมาพร้อมกับเอฟเฟ็คอย่าง soundwave จะเป็นแสงไฟแบบคลื่นเสียงเมื่อยามคุณพูดใส่ไมค์
ROG Scabbard II mouse pad
ROG Scabbard II เป็นแผ่นรองเมาส์ขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อเพิ่มครอบคลุมพื้นที่ในการวางคีย์บอร์ด เมาส์ และอุปกรณ์เกมมิ่งอื่นๆได้ทั้งหมด และด้วยขนาดที่ใหญ่ ทำให้คุณสามารถใช้งานได้สะดวกสบาย ตัวแผ่นรองนั้นเคลือบนาโนเกรดทหารทำให้ กันน้ำ น้ำมันหรือแม้แต่ฝุ่นเกาะได้เป็นอย่างดี ขอบมุมโค้งมนและเย็บด้ายกันขอบลุ่ยมาให้อีกด้วย