ASUS VIVOBOOK นั้นถือว่าเป็นตระกูลที่เน้นความคุ้มค่ามาโดยตลอด แต่หลังๆนั้นก็พัฒนามากขึ้นแบบชัดเจนทั้งเรื่องของ สเปก คุณภาพงานประกอบ ลำโพง รวมถึงงานออกแบบทั้งหมดเรียกได้ว่าในงบเท่าเดิมแต่คุณภาพ เทคโนโลยีที่ใส่เข้ามานั้นพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องจริงๆ และในรุ่นนี้ยังคงใช้งานรุ่นล่าสุดจากทางค่ายฟ้า INTEL นั้นถือ INTEL GEN 11 Tiger Lake นั้นเองมาพร้อมกับเทคโนโลยี 10nm ตัวล่าสุดด้วย รวมถึง INTEL IRIS Xe รุ่นล่าสุดที่เป็นการ์ดจอ Onboard ตัวล่าสุดที่ทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนเทียบกับ MX รุ่นก่อนได้ทันที และดีกว่าด้วยการประหยัดพลังงาน อีกทั้งในสเปกอื่นๆยังคงโดดเด่นด้วยหน้าจอขอบบาง 14 นิ้ว พกพาได้ง่ายหนักเพียง 1.4 กิโลกรัม และ หน้าจอ IPS รวมถึงลำโพงจากทางค่าย Harman/Kardon อีกทั้งมาพร้อมกับไฟ Backlit ตรงแป้นพิมพ์พร้อมใช้งาน และ พอร์ตเชื่อมต่อที่ค่อนข้างครบในยุคนี้ เรียกได้ว่าในงบ 2 หมื่นต้นๆตัวนี้ยังทำได้ประทับใจอีกครั้ง
ASUS VIVOBOOK 14 นั้นมาพร้อมกับ INTEL GEN 11 Intel Core i5-1135G7 และ Intel Core i7-1165G7 โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด รุ่นล่าสุดในไทยมาพร้อมกับ i3 i5 i7 ทั้งหมดนะครับ แน่นอนว่าจัดเต็มเอาเรื่องเลยแหละสำหรับตัวนี้ พร้อมกับการ์ดจอ Onboard Iris Xe iGPU และ ให้ RAM 8 GB DDR4 Bus 3200Hz พร้อมกับ SSD PCle NVMe 512GB และ มาพร้อมหน้าจอ 14 นิ้ว FHD IPS ด้วยเช่นกันเป็นหน้าจอแบบด้านครับ และด้านลำโพงยังคงใช้งาน จากค่ายดัง HARMAN/KARDON และ มาพร้อมกับ USB-C และการเชื่อมต่อนั้นรองรับ WIFI 6 – Bluetooth 5 ด้วยครับ ส่วนการอัพเกรด RAM นั้นไม่รองรับนะครับในรุ่นนี้
- S413EA-EB125TS : INDIE BLACK ราคา 22,990 บาท
I5-1135G7/DDR4 8GB[ON BD.]/512GB PCIe G3/Iris Xe iGPU/Backlit KB/14.0″ FHD IPS/WIFI6/Windows 10 Home/Microsoft Office - S413EA-EB158TS : HEARTY GOLD INDIE BLACK | ราคา 26,990 บาท
S413EA-EB159TS : TRANSPARENT SILVER
I7-1165G7/DDR4 8GB[ON BD.]/512GB PCIe G3/Iris Xe iGPU/Backlit KB/14.0″ FHD IPS/WIFI6/Windows 10 Home/Microsoft Office
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVOBOOK 14
- สายชาร์จ และ ADAPTOR
- สติกเกอร์สำหรับตกแต่งตัวเครื่อง
- คู่มือ ใบรับประกัน
DESIGN
ในเรื่องของการออกแบบ ดีไซน์ในรุ่นนี้จริงๆมันอาจจะไม่ได้ใหม่อะไรมากครับ เพราะมันจะเป็นเหมือนกับรุ่น S433 ก่อนหน้าที่ออกมาเป็นสเปก AMD นั้นเองทั้งเรื่องงานออกแบบอะไรหลายๆอย่างมันเหมือนกันเลยนั้นเองครับ ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับหลากหลายสีสันแบบเดิม และมาพร้อม 14 นิ้ว และมาพร้อมกับสีดำ และ สีทอง สีเงิน เน้นธีมสีหรูพอสมควร สีสันอาจจะไม่ได้โหดอะไรมากนักด้วยเช่นกันครับ ส่วนในเรื่องของการพกพานั้นยังคงทำได้ดีเช่นเดิมเลยครับ
ครั้งนี้เราเอามาให้ชมสีครับ คือ indie Black โทนสีดำ ฝาหลังนั้นเรียบๆมีการออกแบบเส้นสายขอบบน พร้อมกับโลโก้แบบ Diamond Cut สีเงินมาให้ด้วยรวมถึงขอบเครื่องของก็ตัดขอบเช่นกัน ส่วนฝาข้างในก็มีการเล่นสีตรงปุ่ม Enter ต่างๆให้สวยงามครับ และขอบหน้าจออะไรทำได้บางมากๆเลยครับดีไซน์นั้นมีความสวยงามและเรียบๆแบบรุ่นก่อนหน้า ถือว่างานออกแบบไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนักถ้าเทียบกับตัว AMD ก่อนหน้านี้ที่เป็นเจนใหม่ครับ
ภาพด้านบนนั้นเป็นจุดเด่นของงานออกแบบหลักๆในรุ่นนี้ทั้งเรื่องของโลโก้ และการออกแบบแถบข้างบนรวมถึงการใช้งานโลโก้ที่ตัดคมสวยแบบ Diamond Cut ทำให้มันมีมิติและเด่นขึ้นมา และยังมีการออกแบบปุ่ม Enter ที่มีการเล่นสีเขียวเด่นสวยงามใส่มาให้ในหลายๆรุ่นของตระกูลนี้โดดเด่นกว่าตัวอื่นเอาเรื่องครับ และ ยังมีตรงขอบเครื่องรอบๆทั้งเครื่องนั้นจะเป็นการตัดขอบแบบ Diamond Cut ทำให้มันเป็นสีเงินเงาทำมุมเฉียงทั้งเครื่อง ทำให้สะท้อนกับแสงและเงาได้สวยงามและดูดีมากขึ้น ในรุ่นนี้ใช้งานวัสดุ โลหะเลยทำให้มันดูพรีเมี่ยมมากกว่าเดิม
ข้อพับ ข้อต่อในรุ่นนี้ถือว่ามีความแข็งแรงและมีน้ำหนักกำลังดีครับ แต่จะยกจอขึ้นมาแบบมือเดียวไม่ได้นะครับเครื่องมันเบาบางพอสมควรเลยทำให้ยกทั้งเครื่องขึ้นมาเลยส่วนในรุ่นนี้หน้าจอมันจะไม่ได้มีระบบ Ergo Lift แล้วครับเลยทำให้ตัวเครื่องไม่ได้ยกขึ้นมาสูงแบบรุ่นก่อนๆ ส่วนตัวช่องระบายอากาศในส่วนข้างหลังนั้นจะเห็นว่ามีช่องเรียงแนวยาวครับแต่ช่องที่สามารถระบายได้จริงๆนั้นจะเป็นในด้านซ้ายของภาพที่มีช่องระบายใหญ่ๆครับ เลยทำให้มีช่องระบายเดียวเป็นหลักเป็นพัดลมเดียวแน่นอนว่าเป็นปกติของ Ultrabook หลายๆรุ่นครับเนื่องจากไม่มีการ์ดจอแยกเลยไม่ได้ต้องใส่พัดลมคู่มาแบบพวกคอมพิวเตอร์สายเกมมิ่งอะไรแนวนั้นครับ
ขอบหน้าจอในรุ่นนี้มีความบางพอสมควร แต่ก็ยังใส่กล้องหน้ามาให้ครับแม้จะไม่ได้มีการใส่สแกนใบหน้ามาให้ก็ตาม มีไมค์อะไรใส่มาให้เรียบร้อยครับ ส่วนขอบหน้าจอข้างๆนั้นมีความบางอยู่ระดับนึงเลย ขอบหน้าจอทั้งหมดจะเป็นสีดำครับไม่ว่าสีตัวเครื่องนั้นจะเป็นแบบไหนแต่ส่วนขอบหน้าจอนั้นจะเป็นสีดำเหมือนกันทุกรุ่นย่อย แต่จะไม่มียางรองมาให้
บริเวณแป้นพิมพ์และที่รองมือนั้นเป็นวัสดุโลหะเช่นกันครับ ไม่ได้มีลวดลายอะไรแต่มีเว้าลงไปนิดหน่อย โทนสีแป้นพิมพ์เป็นสีดำ ตัวหนังสือขาวพร้อมไฟขาว และ ปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนครับ ส่วนด้านข้างนั้นเราจะเห็นว่ามันมีการยกตัวเครื่องสูงขึ้นในด้านหลังแต่จะเป็นตัวยางรองใต้เครื่องที่ยกแทน ไม่ใช่ระบบ Ergo lift แบบรุ่นก่อนๆที่เปิดหน้าจอแล้วจะยกขึ้นไปครับเลย ทำให้องศาอะไรพวกนี้มันจะสูงไม่เท่ารุ่นก่อนๆแต่ก็ยังมีความง่ายต่อการใช้งานอยู่เช่นกัน
SPEC i5
- หน่วยประมวลผล Intel® Core™ i5 1135G7 Processor,
- ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Pre-installed Microsoft Office Home and Student 2019
- ชิพเซ็ต Integrated Intel® CPU
- หน่วยความจำ 8 GB Onboard memory
- การแสดงผล 14.0″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 60Hz Anti-Glare Panel with 45% NTSC
- กราฟิก Integrated Intel IRIS Xe Graphics
- สตอเรจ Solid state drive: 512GB PCIe® Gen3 SSD M.2
- คีย์บอร์ด Chiclet keyboard
- ช่องอ่าน การ์ด Multi-format card reader (SDXC)
- WebCam HDWebcam
- เน็ตเวิร์คกิ้ง Integrated Wi-Fi 6 (802.11 ax (2×2)) Bluetooth Bluetooth® 5.0
- อินเตอร์เฟส
1 x COMBO audio jack
1 x Type-A USB 3.1 (Gen 1)
1 x Type-C USB 3.0 (USB 3.1 Gen 1)
2 x USB 2.0 port(s)
1 x HDMI
1 x micro SD card - ออดิโอ Supports Windows 10 Cortana with Voice // Harman Kardon
- แบตเตอรี่ 3 -Cell 42 Wh Battery
- พาวเวอร์ อะแดปเตอร์ Output : 19 V DC, 3.42 A, 65 W Input :100 -240 V AC, 50/60 Hz universal
- ขนาด 324.9 x 215 x 17.9 mm (WxDxH)
- น้ำหนัก NB: 1.40 kg ~ 1.45 kg with battery
SPEC i7
- หน่วยประมวลผล Intel® Core™ i7 1165G7 Processor,
- ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home Pre-installed Microsoft Office Home and Student 2019
- ชิปเซ็ต Integrated Intel® CPU
- หน่วยความจำ 8 GB Onboard memory
- การแสดงผล 14.0″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 60Hz Anti-Glare Panel with 45% NTSC
- กราฟิก Integrated Intel IRIS Xe Graphics
- สตอเรจ Solid state drive: 512GB PCIe® Gen3 SSD M.2
- คีย์บอร์ด Chiclet keyboard
- ช่องอ่าน การ์ด Multi-format card reader (SDXC)
- WebCam HDWebcam
- เน็ตเวิร์คกิ้ง Integrated Wi-Fi 6 (802.11 ax (2×2)) Bluetooth Bluetooth® 5.0
- อินเตอร์เฟส
1 x COMBO audio jack
1 x Type-A USB 3.1 (Gen 1)
1 x Type-C USB 3.0 (USB 3.1 Gen 1)
2 x USB 2.0 port(s)
1 x HDMI
1 x micro SD card - ออดิโอ Supports Windows 10 Cortana with Voice // Harman Kardon
- แบตเตอรี่ 3 -Cell 42 Wh Battery
- พาวเวอร์ อะแดปเตอร์ Output : 19 V DC, 3.42 A, 65 W Input :100 -240 V AC, 50/60 Hz universal
- ขนาด 324.9 x 215 x 17.9 mm (WxDxH)
- น้ำหนัก NB: 1.40 kg ~ 1.45 kg with battery
PERFORMANCE i5
ทางด้านประสิทธิภาพรุ่นนี้อัพเกรดมาใช้งาน ตัว CPU Intel® Core™ i5 1135G7 Processor, ตัวล่าสุดครับ ความเร็ว 0.80 GHz ถึง 4.70 GHz แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ที่ TigerLake 10nm ส่วนทางด้านการ์ดจอ นั้นมาพร้อมกับการ์ดจอในตัวคือ Intel Iris Xe ที่ก็ใช้งานได้ระดับนึงเลยครับ และให้ RAM 8GB Bus 3200 mHz ไม่สามารถอัพเกรดได้ และในเรื่องของความจุนั้นมาพร้อมกับ SSD 512GB ครบๆเลยแหละ ครับสำหรับรุ่นนี้แน่นอนว่าในส่วนของคะแนนก็พอใช้งานได้พอสมควรครับ และเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อม Pre-installed Microsoft office Home & Student พร้อมใช้งานเลยครับไม่ได้ต้องซื้ออะไรต่างหากเลยนั้นเองถือว่าให้มาครบๆพร้อมใช้งานกัน
PCMARK คะแนนทำได้ 4285 ถือว่าตามระดับของ CPU i5 ระดับกลาง เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ทางด้านความร้อนนั้น CPU 75 และ GPU 76 ครับสำหรับการทดสอบนี้ให้สภาพ
3D MARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Sky driver / Wild Life /Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 10971 คะแนน การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆแม้จะไม่มีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วยด้วยแต่ทำคะแนนได้สูสีเท่ากับพวก MX เลยครับ และ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน Sky Driver นั้นแตะ 10272 ได้เลยครับ และ Wild Life นั้น 6726 ได้เลยครับ ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU 77 และ GPU 76 ครับสำหรับตัวนี้ สภาพอากาศปกติครับ ถือว่าเป็นการ์ดจอติด CPU ที่ทำได้ดี
CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 768 ทำได้ดีมากครับ อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้คือมาแรงมากและพัฒนาดีขึ้น ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 1992 ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU แอบดีกว่าตอนรุ่นที่แล้ว i5 แบบชัดเจนเลย ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 1586 ส่วนเขียนที่ 979 ครับจากทดลองหลายๆรอบ และอ่านเขียนนั้นถือว่าธรรมดากลางๆครับและครั้งนี้ให้มา 512GB ครับ ถือว่าเพียงพอและความเร็วความจุนั้นสบายๆในการใช้งานทั่วไป รวมถึงทำงาน
PERFORMANCE i7
ทางด้านประสิทธิภาพรุ่นนี้อัพเกรดมาใช้งาน ตัว CPU Intel® Core™ i5 1135G7 Processor, ตัวล่าสุดครับ ความเร็ว 1.20 GHz ถึง 4.70 GHz แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ที่ TigerLake 10nm ส่วนทางด้านการ์ดจอ นั้นมาพร้อมกับการ์ดจอในตัวคือ Intel Iris Xe ที่ก็ใช้งานได้ระดับนึงเลยครับ และให้ RAM 8GB Bus 3200 mHz ไม่สามารถอัพเกรดได้ และในเรื่องของความจุนั้นมาพร้อมกับ SSD 512GB ครบๆเลยแหละ ครับสำหรับรุ่นนี้แน่นอนว่าในส่วนของคะแนนก็พอใช้งานได้พอสมควรครับ และเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อม Pre-installed Microsoft office Home & Student พร้อมใช้งานเลยครับไม่ได้ต้องซื้ออะไรต่างหากเลยนั้นเองถือว่าให้มาครบๆพร้อมใช้งานกัน
PCMARK คะแนนทำได้ 4752 ถือว่าตามระดับของ CPU i7 และดีกว่า i5 ข้างบนพอสมควรครับใน การเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะครับ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ทางด้านความร้อนนั้น CPU 78 และ GPU 79 ครับ
3D MARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Sky driver / Wild Life /Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 12560 คะแนน การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆแม้จะไม่มีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วยด้วย แต่ทำคะแนนได้สูสีเท่ากับพวก MX เลยครับ และ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน Sky Driver นั้นแตะ 11737 ได้เลยครับ และ Wild Life นั้น 7886 ได้เลยครับ ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU 80 และ GPU 79 ครับสำหรับตัวนี้ สภาพอากาศปกติครับ ถือว่าเป็นการ์ดจอติด CPU ที่ทำได้ดี
CINEBENCH R20 -15 ตัวนี้คะแนนวัดที่ CPU ล้วนๆเลยแหละทำไปได้ 877 อย่างที่บอกว่ารุ่นนี้คือมาแรงมากและพัฒนาขึ้นเยอะ ในคะแนนของตัว R20 ที่โหดกว่าเดิมนั้นทำไปได้ 2116 cb ถือว่าคะแนนดีเลยแหละในแง่การประมวลผลของ CPU แอบดีกว่าตอนรุ่นi5 แบบชัดเจนเลย ส่วนตัวนี้มาพร้อมกับ SSD ทำคะแนนการอ่านไปได้ 1603 ส่วนเขียนที่ 966 ครับจากทดลองหลายๆรอบ และอ่านเขียนนั้นถือว่าธรรมดากลางๆครับ และครั้งนี้ให้มา 512GB ครับ ถือว่าเพียงพอและความเร็วความจุนั้นสบายๆในการใช้งานทั่วไป รวมถึงทำงานไม่ต่างกันมากนัก
SCREEN
รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 14 นิ้ว LED-backlit Full HD (1920 x 1080) อัตราส่วนหน้าจอที่ 16:9 การออกแบบขอบบางแบบ NanoEdge display รองรับมุมมองกว้าง 178° ทำให้มุมมองของภาพนั้นไม่แพ้กับพวกหน้าจอ IPS เลยและตัวคุณภาพหน้าจอตัวนี้ถือว่าทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆครับหน้าจอสามารถสู้แสงได้ดีกว่าเดิม คุณภาพหน้าจอที่ดีขึ้นรวมถึงพวกสีสันและมิติของตัวภาพครับ และใช้งานหน้าจอแบบด้านด้วยสะดวกพอสมควร หน้าจอเมื่อมองจากด้านข้างเนื่องจากมันเป็นจอที่รองรับมุมมองภาพได้กว้างมากๆจึงให้ความรู้สึกเหมือนจอ IPS เลยแหละเพราะไม่เจออาการดรอปของสีหน้าจอ แต่จะเป็นแค่เรื่องความสว่างนิดหน่อย เป็นหน้าจอของ Vivobook ที่เรียกได้ว่าดีอันดับต้นๆของตระกูลทั้งในแง่ของคุณภาพ ตัวมุมมอง สีสันต่างๆนั้นทำได้ค่อนข้างแม่นยำในการทำงานมากขึ้นด้วยครับ
เมื่อใช้งานกลางแจ้ง นั้นถือว่าทำได้ดีครับดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ในเรื่องของมุมมอง การสู้แสงที่รู้สึกว่าดีขึ้นการเป็นหน้าจอแบบด้านทำให้ไม่เจอแสงสะท้อนรบกวนเท่าไร หน้าจอทำขอบหน้าจอต่างได้ค่อนข้างบางเหมือนกับรุ่นอื่นๆก่อนหน้านี้และยังไม่ตัดกล้องหน้าทิ้งไปไหนด้วย หน้าจอในรุ่นนี้ทำได้ดีกว่าที่คิดในเรื่องของสีสันต่างๆซึ่งถือว่าเอามาทำงานได้สบายครับแม่นยำระดับนึงและดีกว่าพวกสายเกม และ รุ่นที่ต่ำกว่านี้แบบชัดเจน ซึ่งในงบประมาณนี้จอตัวนี้ถือว่าทำได้ดีครับทั่วไปโอเคเลยแหละ แม้ความแม่นยำอาจจะไม่ได้สูงมากแต่ก็ใช้งานได้และมุมมองดีกว่าเดิมด้วย
KEYBOARD
แป้นพิมพ์นั้นมาพร้อมกับขนาดที่เราคุ้นเคยแน่นอนว่าพวกหน้าจอ 14 นิ้วก็จะไม่มี Numpad ครับแต่รุ่นนี้ก็มีปุ่มลัดมาให้พวก PGUP DN ที่ให้มาด้านขวาสุดครับรวมถึง มีเอกลักษณ์งานออกแบบตรงปุ่ม Enter ที่มีการเล่นสีเหลืองเด่นๆล้อมรอบทำให้ดูมีอะไรมากขึ้น การวางปุ่มอะไรนั้นเป็นมาตรฐานของค่ายนี้ครับ เหมาะกับการใช้งานอย่างมากครับพร้อมกับไฟปรับได้ 3 ระดับปกติ และระยะปุ่มอะไรที่ดีขึ้นรวมถึงตัวอักษรและการเว้นของแต่ละโซนอะไรนั้นคุ้นเคยกันแน่นอน ระยะปุ่มกดนั้นมีระยะ 1.4 มม. เท่าเดิมกำลังดีกับการใช้งานการพิมพ์เขียนทั่วไปได้ด้วยครับ
ตัวปุ่มรวมๆนั้นกดได้ง่ายและความรู้สึกดีกว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย เพราะการออกแบบมีการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นแต่ระยะอะไรนั้นไม่ได้แตกต่างกับของเดิมเท่าไรครับแต่ทรงปุ่ม ระยะเว้นต่างๆนั้นทำได้ดีขึ้น ส่วนเรื่องการยกตัวเครื่องรุ่นนี้เหมือนจะไม่ได้มีระบบนี้มาให้แล้ว แต่ก็มีตัวยางรองที่ยกสูงขึ้นมาแทนครับทำให้มันเอียงขึ้นอยู่บ้างก็มาทดแทนกันไปครับ ส่วนเรื่องของสีนั้นยังคงต้องบ่นเหมือนเดิมเพราะเวลาใช้นอกสถานที่มันเป็นปัญหาเหมือนกันในรุ่นสีสว่าง แต่ถ้าในตัวที่เรารีวิวนั้นเป็นสีดำเลยทำให้มันค่อนข้างเห็นได้ชัดพอสมควรเลยครับและใช้งานได้ดีทั้งกลางวันกลางคืน
TOUCHPAD
ตัวทัชมีขนาดใหญ่ขึ้นและใช้งานได้ดีเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง 14 นิ้ว ขอบตัดสี่เหลี่ยมและเต็มอัตราส่วนกับตัวเครื่องได้ดีกว่าเดิมนิดหน่อย ตัวทัชเป็นวัสดุแบบเดียวกับตัวเครื่อง วัสดุมีการทำให้ลื่นและติดนิ้วมากกว่าในการสัมผัสต่างๆ ตัวทัชสามารถกดลงไปได้เลยขอบซ้ายขวาล่าง ซึ่งจากที่ใช้งานไม่ได้ติดปัญหาอะไรครับในส่วนนี้ ตัวระบบทัชนั้นใช้ Software ของ Precision นะรองรับการใช้งานหลายๆนิ้วได้สบายครับ โทนสีอะไรแบบเดียวกับตัวเครื่องเลยมีการตัดขอบคล้ายๆสีเงินล้อมรอยตัวทัชแพดนิดหน่อย และรองรับการใช้งาน 4 นิ้ววางได้กำลังดีไม่ได้เล็กเกินไปครับ
SPEAKER
Harman/Kardon เช่นกันจะเหมือนกับพวก Zenbook เลยนั้นเองเสียงที่ได้ต้องผ่านมาตรฐานของแบรนด์ว่าสมควรที่จะแปะชื่อลงไปด้วยนั้นเอง เสียงตัวนี้มาพร้อมกับลำโพงหลักๆ 2 ตัวซ้ายขวายิงลงพื้นที่มุมเครื่องทั้ง 2 เสียงที่ได้นั้นดังพอประมาณ อาจจะไม่ได้ดังสะใจมากครับ แต่เสียงที่รู้สึกแตกต่างกันเลยก็คือมิติเสียง เบสพวกนี้นุ่มและมาดีกว่าเดิมเนื่องจากรุ่นก่อนๆนั้นเสียงจะค่อนข้างแห้งๆแบนๆครับ แต่รุ่นนี้คุณภาพเสียงมาดีขึ้นเยอะ แต่ความดังไม่ได้หนีจากเดิมมากเท่าไร เสียงแยกซ้ายขวาได้ดี เสียงเพลงฟังสบายครับ รวมถึงการดูหนังต่างๆนั้นเสียง Effect ก็รู้สึกถึงความแน่นขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอื่นๆแบบรู้สึกได้เลยแหละก็ถือว่าเข้าถึงทุกระดับแล้วสำหรับแบรนด์เครื่องเสียงนี้
CONNECTOR
พอร์ตเชื่อมต่อในรุ่นนี้ก็ถือว่าให้มาค่อนข้างเพียงพอต่อการใช้งานครับมาดูในด้านขวากันก่อนจะเป็น ไฟสถานะ และช่อง TF Card หรือ Micro-SD นั้นเอง รวมถึงมี USB-A 2.0 มาให้ทั้ง 2 ช่องในด้านนี้ครับ จริงๆน่าจะเป็น 3.0 ทั้งหมดได้แล้วในจุดนี้แอบเสียดายครับ และจะเห็นว่าตัวเครื่องไม่ได้ยกสูงแบบรุ่นก่อนๆที่มี Ergo Lift แล้วด้วย
ในด้านนี้จะเป็นในตัว ช่องจ่ายไฟเข้า DC-IN พร้อมกับ HDMI และ USB-A 3.2 และ USB-C 3.2 และ รู 3.5มม. Combo ไมค์ และ หูฟังครับ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายนั้นจะเป็น WIFI 6 + Bluetooth 5.0 นั้นเองครับ
GAMING
intel i5 i7 Gen 11 10nm Tiger Lake นั้นถือว่าพัฒนาขึ้นพร้อมกับ IRIS Xe Graphic Onboard ครับใน การทดสอบเล่นเกม Overwatch ได้ค่อนข้างลื่นและ FPS 60+ สบายๆ ความร้อนนั้นประมาณ 70+องศา และ CPU แตะไป 80 องศา ครับถือว่าปกติของพวก Ultrabook เล่นในสภาพอากาศไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลมครับ และจากที่ทดสอบนั้นเลยของลองตัว PUBG นั้นได้ FPS 40+ ส่วนความร้อนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากครับในการเล่นเกม และ COD MW ก็พอไหวด้วยครับถือว่าน่าสนใจเลยในตัว การ์ดจอในตัวแบบนี้ ความร้อนระบายได้กลางๆเพราะมันเป็น Ultrabook ไม่ได้สายเกม รับได้ในการเล่นเกมทั่วไปพื้นฐานปรับลื่นได้สบายครับผม เมื่อเทียบกันทั้ง 2 รุ่นนี้
คุณภาพนั้นปรับภาพระดับต่ำนะครับทุกเกม และ ที่แอดมินทดสอบคือเล่นในสภาพอากาศปกติ ไม่ได้เปิดแอร์ และ ไม่ได้มีพัดลมช่วยครับ ก็ถือว่าเล่นเกมได้ลื่นและไม่ได้แย่ครับเล่นได้ปรับภาพกลางได้ไม่ติดขัด และทำได้ไม่แพ้พวก การ์ดจอแยกที่มี MX250 เลยครับ ประสิทธิภาพโดยรวมนั้นสูสีและสู้ได้สบายแต่ความีร้อนถ้าหากมองเทียบกับตัว AMD ก่อนหน้านั้นถือว่าแอบแรงกว่านิดหน่อย แต่ FPS ไม่ได้หนีกันมากครับทั้งเทียบกับ RYZEN 4000 รวมถึงเทียบกันทั้ง i5 i7 ในการเล่นเกมก็ไม่ได้หนีกันมากด้วยเช่นกัน
WORKING
INTEL ในการพัฒนาขึ้น นั้นแน่นอนว่ารองรับการทำงานทั่วไปเช่น Microsoft ทั้งหมด อันนี้รองรับได้สบาย Excel Word สบายครับพวกนี้ไม่มีปัญหา และ RAM 8 GB ก็เพียงพอ ส่วนของ ADOBE รองรับได้สบายอยู่ครับในส่วนของ Photoshop แบบเบาๆ ไม่ได้หลายเลเยอร์เยอะหรือไฟล์ไม่หนัก จริงๆ CPU มันไหวสบายๆ ทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันอาจะต้องไม่เยอะมากครับเพราะ RAM 8GB เท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มได้ แต่ถ้ามองในมุมทำงานได้ค่อนข้างดีเลยแหละเพราะ ทำงานรวมๆทำได้ดีกว่าตัวเดิมนะ รองรับการทำงาน 3 มิติระดับเริ่มต้น การตัดต่อไฟล์วิดีโอ หรือ เรนเดอร์ได้แบบไฟล์ไม่หนักมาก ส่วนการดูหนังฟังเพลงทั่วไปสบาย โปรแกรมดูหนัง อื่นๆที่รองรับได้สบายไม่มีปัญหา หลักๆจะเน้นทำงานเบาๆจะดีกว่าครับในรุ่นนี้ หรือต่อภาพออกพรีเซนต์งานอะไรก็ทำได้สบาย มีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ และ USB มาให้ค่อนข้างครบเลยแหละ แต่งานหนักๆแนะนำว่าเน้นทำงานแบบด่วน หรือ ฉุกเฉินจะเหมาะกว่า
จากที่ได้ทดสอบจริงๆครับในการทำงานพวก ADOBE ทั้งแต่งภาพ ตัดต่อ หรือ เรนเดอร์ เท่าที่ทดลองการทำงานถ้าใช้งานแค่โปรแกรมเดียวมันสามารถตัดต่อวิดีโอ 4K ได้ด้วยในความยาวไม่เยอะมากนักอันนี้ถือว่าดี เลยขอเรนเดอร์เทียบกันทั้งหมดในการเรนเดอร์ไฟล์เดียวกันทั้งหมด ตั้งค่าเหมือนกันทั้งหมดครับจะเห็นว่า i7 จะเรนเดอร์ได้ไวกว่าประมาณ 10+ นาทีครับ แตกต่างกันนิดหน่อยในแง่ของการทำงานจริงถ้าเน้นการเรนเดอร์วีดีโอจะเล่นตัว i7 จะทำเวลาได้ดีกว่า ส่วนตัว Photoshop – Illustrator พวกนี้รองรับได้สบายๆเท่าที่ลองไม่เจอหน่วงเลยครับถือว่าตัว CPU ประสิทธิภาพมันรองรับพวกนี้ได้ แต่ RAM แอบน้อยไปหน่อย แต่ก็อย่างว่ามันไม่ได้เน้นทำงานหนักมากครับ
ASUS VIVOBOOK 14 INTEL GEN 11
” VIVOBOOK ตระกูลใหม่ CPU INTEL GEN 11 ลงตัวขึ้น ไวขึ้น กินไฟน้อยลง “
ยังคงเป็นตระกูลที่เน้นความคุ้มค่าได้ดีสำหรับ VIVOBOOK ในรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่จากทาง INTEL รุ่นใหม่ล่าสุด TIGER LAKE 10nm พร้อมกับปรับสเปกใหม่ทั้ง I3 I5 I7 พร้อมใช้งานและกินไฟน้อยลง และงานออกแบบใหม่ สถาปัตยกรรมใหม่ ทำงานได้ดีขึ้น และ การ์ดจอ Onboard ที่ทำได้ดีกว่าเดิมไปอีกในตัว IRIS Xe รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์สำหรับสาวกค่ายฟ้าได้ดีมากๆ มาในบอดี้เดิมไม่ต่างกับค่ายแดงเท่าไรรวมถึงสเปกภาพรวมทั้งหมดครับ เรียกได้ว่าออกมาเป็นตัวเลือกนั้นเองสำหรับคนที่ชอบใช้งาน INTEL ให้เลือกกันไปเลยว่าจะทีมไหน แต่ทั้งเรื่องของหน้าจอ ลำโพง คีย์บอร์ด งานออกแบบ และทุกๆอย่างนั้นเหมือนกับรุ่นที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน
ข้อดี
- INTEL GEN11 พัฒนาทำได้ดี เร็ว และ แรง ทำงานได้ดี
- แม้ไม่มีการ์ดจอแยก แต่ Intel Iris Xe ก็รองรับการทำงานเล่นเกมได้ดีไม่แพ้กัน
- ลำโพงทำได้ดีในเรื่องของคุณภาพเสียง
- คีย์บอร์ด แป้นพิมพ์ ระยะกำลังดี
- หน้าจอสวย มุมมองรองรับได้หลากหลาย และ ขอบจอบาง
- วัสดุคุณภาพทำได้ดี โลหะตัดขอบ Diamond Cut
- ควบคุมความร้อนทำได้ค่อนข้างดี
- อายุแบตการใช้งานนั้นทั้งวันได้สบาย กินไฟน้อยมาก
- มาพร้อม Pre-installed Microsoft office Home & Student เป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกของ Asus ที่ลงโปรแกรม office home & student พร้อมใช้งาน
ข้อสังเกต
- ไม่สามารถเพิ่ม RAM ได้ *ถือว่าน้อยไปนิด
- ยังมี USB-A 2.0 มาให้อยุ่ถึง 2 ช่อง
- งานออกแบบเหมือนกับสเปก AMD ทั้งหมด
สำหรับรีวิวนี้ผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อนสำหรับรุ่นอื่นๆก็ติดตามกันได้เลย ถูกใจฝากกดไลค์กดแชร์ด้วยนะครับ มีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เพื่อนๆสนใจอยากให้พวกผมรีวิวรุ่นไหนสามารถ Inbox มาบอกเราได้เลยนะ
ฝากไลค์เพจ FACEBOOK เราด้วยนะครับ >>>>>>>>> TECHHANGOUT
เข้าร่วมกลุ่ม TECHHANGOUT พูดคุยแลกเปลี่ยน ข้อมูล คุยกันเองชิลๆได้เลยที่ — Facebook Techhangout พูดคุย Smartphone gadget
Review by Nineztr