ภาวะโควิท ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อธุรกิจเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัวและพัฒนาธุรกิจให้เข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ เพื่อรองรับการเผชิญปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตดังนั้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี จึงมีความสำคัญมากขึ้น อีกทั้งปัจจุบันมีหลากหลายธุรกิจแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูลที่มีอยู่ Facebook , Google มีข้อมูลลูกค้าในระบบจำนวนมากก็สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาต่อยอดทางธุรกิจ เช่น การขายโฆษณา การเสนอขายสินค้าและบริการใหม่ ๆ เป็นต้น
จากเดิมที่ธุรกิจต่าง ๆ ต้องการระบบขนาดเล็ก สามารถบันทึกข้อมูล เพื่อให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบ (ภาษี)และเพื่อสร้างเอกสารที่ต้องส่งมอบให้ลูกค้า ไม่เห็นประโยชน์ของการนำข้อมูลที่อยู่ในระบบมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างจริงจังในเชิงธุรกิจ ต่อมามีแนวคิดของการวางแผนธุรกิจสำหรับองค์กร (ERP) ขึ้นเป็นระบบที่รวบรวมการทำงานในทุกส่วนของธุรกิจไว้เป็นหนึ่งเดียวกัน และนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดขององค์กร ซึ่งจะมีบริษัทชั้นนำของโลกนำแนวคิดดังกล่าวมาพัฒนา Software เพื่อธุรกิจ
SAP บริษัทที่เป็นผู้นำในด้านพัฒนา Software องค์กรขนาดใหญ่ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่นำแนวคิดด้าน ERPมาทำ Software ซึ่งได้แก่ SAP All In One , SAP ByDesign , SAP Business One โดยมีการแบ่งตามขนาดและความซับซ้อนของธุรกิจ
โดย SAP Business One รวมการทำงานในด้านต่าง ๆ ที่แต่ละธุรกิจต้องการใช้งานอย่างครบถ้วน
CRM : Customer Relationship Management คือ ระบบที่ใช้บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า เก็บข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อมาวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจให้เหมาะสม สินค้าและบริการที่เหมาะสมกับลูกค้า เป้าหมายหลัก เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าให้กับบริษัท
Sales : ระบบขาย ที่รวบรวมข้อมูลการขายสินค้าทั้งหมด เช่น ข้อมูลสินค้า ข้อมูลพนักงานขาย ราคาขาย ข้อมูลการส่งสินค้า ใบกำกับภาษี ข้อมูลภาษีขาย เป็นต้น รายละเอียดส่วนนี้สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในมุมการขายได้หลากหลายให้เหมาะสมกับธุรกิจ เช่น สินค้าชนิดใดขายดีในภาค สินค้าชนิดใดขายดีช่วงเวลาใด รวมถึงข้อมูลยอดขายสินค้าตามพนักงานขาย เป็นต้น
Purchase : ระบบซื้อสินค้า ที่รวบรวมการซื้อสินค้า สามารถตรวจสอบราคาซื้อสินค้าย้อนหลัง เพื่อสะดวกในการตัดสินใจซื้อสินค้า หรือ เปรียบเทียบราคาสินค้าที่เคยซื้อมาแล้ว หรือ การสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ สามารถนำภาษีศุลกากร มาปันเข้ากับสินค้า เพื่อให้ต้นทุนสินค้า เป็นต้นทุนที่แท้จริงของสินค้า เป็นต้น
Inventory : ระบบคลังสินค้า สามารถตรวจสอบจำนวนสินค้าที่อยู่ในบริษัทได้แบบ Real Timeช่วยในการจัดการสินค้า ได้อย่างทันท่วงที เช่น สินค้าที่ต้องขายใกล้จะหมด ต้องรีบทำการสั่งซื้ออีกทั้งระบบการนับสต๊อกสินค้า ที่เป็นมาตรฐานทำให้สามารถช่วยให้เรานับสินค้าได้รวดเร็วและแม่นยำลดปัญหาสินค้าสูญหาย
Production : ระบบผลิต รองรับสูตรการผลิตที่หลากหลาย รวมถึงการคำนวณต้นทุนการผลิตที่ชัดเจนและสามารถจัดลำดับการผลิตสินค้าได้
Finance & Account : ระบบบัญชี รองรับระบบบัญชี และภาษีของไทย รวมถึง E-Taxที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
Service : ระบบบริการหลังการขาย สามารถสร้างประกันสินค้าที่เราขาย รวมถึงมีระยะเวลาในการรับประกันสินค้าที่ชัดเจน อีกทั้งยังสามารถบันทึกการแจ้งซ่อมต่าง ๆ ของสินค้า เพื่อใช้ในการวิเคราะห์การแก้ไขปัญหา ในอนาคต เป็นต้น
การเก็บรวบรวมข้อมูลการทำงานในส่วนต่าง ๆ ของธุรกิจ ให้เป็นระบบที่เป็นมาตรฐาน สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำงานได้ เช่น การนำข้อมูลในส่วนต่าง ๆ มาทำรายงานเฉพาะส่วนเพื่อวิเคราะห์หาข้อดี ข้อด้อย เพื่อปรับปรุงให้ธุรกิจ มีความเข้มแข็งในการแข่งขัน
โปรแกรมมาตรฐาน โดยปกติจะมีการประกาศ Road Map ที่ชัดเจนในการพัฒนาโปรแกรมเพื่อให้เป็นโปรแกรมที่ทันสมัย รองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเช่น ระบบ AI , BI , Dashboard การรองรับการทำงานทั้งระบบ Cloud และ On Premiseช่วยให้การทำงานมีความยืดหยุ่นในการทำงาน โดยที่สามารถทำงานได้ทั้งในออฟฟิศ และทำงานจากที่บ้าน ซึ่งเหมาะสมกับช่วงโควิท ที่ต้อง Work from Home รวมถึงสามารถทำงานผ่านระบบ Windows App และ Web Browser
SAP Business One มีจุดเด่นที่เป็น Software มาตรฐานตรงไปตรงมา ตรวจสอบได้ เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ทั้งสำนักงานบัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชี และตลาดหลักทรัพย์ มีการบันทึกข้อมูลอยู่บนฐานข้อมูลที่รองรับข้อมูลจำนวนมากและได้มาตรฐาน รองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต รวมถึงสามารถพัฒนาระบบเฉพาะที่แต่ละธุรกิจต้องการเพิ่มเติมได้ เช่น การเชื่อมต่อกับระบบ POS ที่มีหลายสาขาหรือการผลิตที่มีความซับซ้อน ด้วยการเขียนโปรแกรมเชื่อมต่อกับระบบ SAP Business One เป็นต้น
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.siscloudservices.com/th/our-services/erp-on-cloud/sap-business-one